Bloggang.com : Janza from the block : แอ่วเหนือวันที่ 2 : ปาย ปาย และปาย

แอ่วเหนือวันที่ 2 : ปาย ปาย และปาย

มอร์นิ่งเอเวอรี่บอดี้ เช้าแล้วจ้า ไม่อยากตื่นก็ต้องตื่น ไก่แถวนี้ขันกันตั้งแต่เที่ยงคืน T T

สืบเนื่องจาก บล็อคแอ่วเหนือวันที่ 1 เมื่อคืนเรานอนค้างที่กระท่อมริมปาย

ตื่นเช้ามาเลยมาหากิจกรรมทำ พอเดินออกมาจากบ้านปุ๊บ ก็เจอหมอกปั๊บเลย

ฮี่ฮี่ กิจกรรมของเรายามเช้าประกอบด้วย

เราจะก่อไฟปิ้งไก่กัน 555
.

.

.

.

.

.

V

V

V

ป่าวโหดร้ายขนาดน้านนนนนน

จริง ๆ มันหนาวมันเหน็บ เลยมาผิงไฟให้อุ่นหัวใจ พอเริ่มอุ่นก็ตามมาด้วยกิจกรรมจับไก่

555 ย้ำว่าต้องไก่สด ๆ เท่านั้นนะ เพื่อน ๆ เริ่มตื่นกันแล้ว เลยชวนมาถ่ายรูปเป็นที่ระทึก

แล้วก็ไปหม่ำ ๆ อาหารเช้า ราคาที่พักรวม ABF เรียบร้อยแล้วค่ะ

ขอบอกว่ากาแฟตั้งไว้แป๊บเดียว เย็นชืดเลย ไส้กรอกก็เหมือนเพิ่งออกจากตู้เย็น

กินเสร็จก็ถ่ายรูป ๆ ๆ แล้วเตรียมตัวเก็บของไปพักที่อื่นในปายต่อ (เพื่ออะไร ???)

บ๋ายบายกระท่อมริมปาย พวกเราก็เก็บของขึ้นรถ เพื่อไปตะลอน ๆ เที่ยวในปายต่อ

แต่ก่อนอื่น ขอแวะไปส่งโปสการ์ดที่ร้านมิตรไทยก่อน เดินจากที่พักไปนิดเดียวก็ถึง

ส่งโปสการ์ดให้คนในบล็อค 3 คนคือ

ไบร์ท DJ BrYaN, เบส Angel Pink และป้าจะอิ๊บ jipnaja

ทุกคนได้กันหมดแล้ว แต่ของที่ส่งถึงตัวเองยังไม่ถึงเลย ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วนะเฟ่ย

ส่งเสร็จแล้วก็เดินข้ามถนนไป 7 ก้าวเพื่อไปกินกาแฟเจ้าอร่อย All about Coffee

กาแฟเข้มข้นกลมกล่อม อร่อยแม้ว่าตัวเองจะเป็นคนไม่กินกาแฟก็เหอะ ก่อนขึ้นรถขอนิด

ชอบแบล็คกราวด์รูปนี้จัง ชื่อร้าน mom & me แต่ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วขายอะไร

มีโอกาสไปปาย อย่าลืมไปแอบถ่ายก่อนร้านเปิดนะคะ

นั่งรถออกจากตลาดปายไปประมาณ 10 นาที ก็ถึงจุดแรกที่เราแวะไปคือวัดน้ำฮู

วัดอยู่ห่างจากตัวอำเภอไปทางโรงพยาบาลปายประมาณ 3 กิโลเมตร

เป็นที่ประดิษฐานของพระอุ่นเมือง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสิงห์สาม (ศิลปะล้านนา)

ปางมารวิชัยทำด้วยโลหะทองสัมฤทธิ์ ประวัติการสร้างไม่แน่นอนแต่เชื่อกันว่า

สร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเพื่อเป็นพระราชกุศลถวายพระะสุพรรณกัลยา

จากซ้ายไปขวา รูปหล่อจำลองพระเอกาทศรถ พระนเรศวรมหาราชและพระสุพรรณกัลยา

พอไหว้พระเสร็จสรรพก็ขึ้นรถ เลยวัดไปประมาณ 3 กม. ก็ถึงบ้านสันติชล

เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานขนาดใหญ่ให้พวกเราไปชมวิถีชีวิตจีนกัน

คำเตือน กรุณามองข้ามนังหมวยที่อยู่หน้าป้ายไปซะ ทำไปได้นะกรู

พอเดินเข้าไปปุ๊บ ก็เจอเครื่องเล่นจากแดนเนรมิต เอ ว่าแต่มันเล่นยังไงน้อ

มันคือชิงช้า แต่หน้าตาเหมือนกังหัน เล่นได้ 4 คน หลักการคือให้คนขึ้นไปนั่งทีละคน

จะมีคนเฝ้าชิงช้าช่วยจับไว้ จนคนขึ้นครบ ก็ใช้แรงของ 4 คนที่เล่นนี่แหละ เหวี่ยงไปมา

ดูเหมือนสนุก แต่แจนและเพื่อน ๆ ขอบาย แค่เห็นก็หัวใจจะวาย ไม่กล้าพอ

อีกอย่าง ถ้าพี่ก้อง (สุดหล่อของน้องท็อป) เล่นด้วย ชิงช้าอาจพังได้ -จะโดนเตะมั้ยหว่า

เดินเล่นเข้าไปข้างในดีกว่า ชอบบ้านเค้าจังเลย สร้างจากดิน ทาสีส้ม ๆ ข้างในท่าจะอุ่น

กรี๊ดดดดด ดูท่าพี่ก้องซะสิ สาวซะ น่าสงสัยมาก ๆ นู๋แค่บอกให้ทำท่าร่าเริงนะ

ออกเดินทางต่อโลด ไปน้ำตกหมอแปง ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่

ช่วงนี้แล้ง น้ำน้อย แต่ก็ไม่เท่ากับขยะ ขวด ถุงพลาสติก ถุงขนม ทิ้งกันเกลื่อนกลาด

ไม่อายชาวต่างชาติบ้างเลยหรือไง โกรธ โกรธ โกรธ

อยู่ได้แป๊บเดียว พี่มิตร คนขับรถมาดนิ่มของเราก็บอกว่าเดี๋ยวจะผ่านที่ ๆ จะพักคืนนี้

น่าจะเอาของไปเก็บก่อน คืนนี้จะพักที่ บ้านกระทิงปายค่ะ

บรรยากาศในห้องพักและระเบียง ชอบที่นี่จัง มีไดร์เป่าผม มีเคเบิลให้ดู มีตู้เย็นอีก

ชอบจัง ยกเว้นอยู่ 2 อย่าง ห้องน้ำดันมีกลิ่นเหมือนส้วมระเบิด นอนดมอึมันทั้งคืนเลย

รู้สึกจะเป็นเฉพาะห้องเราห้องเดียว ทำไมแจ็คพ็อตได้ขนาดนี้

สองคือเป็นรีสอร์ทใหม่ ต้นไม้ยังไม่ค่อยโตเท่าไหร่ ผ่านไปหลาย ๆ ปีคงดีขึ้น

ขอแชะรูปนายแบบหน่อยนะคะ นาน ๆ จะถ่ายมาได้เหมือนหล่อขนาดนี้

คริคริ ออกจากบ้านกระทิงปายก็มุ่งตรงไปเพื่อสิ่งนี้

ร้านน้องเบียร์ ข้าวซอยเจ้าอร่อยแห่ง อ.ปายนี่เอง แต่เอ๊ะ ทุกคนคงลืมว่า

เพิ่งกินข้าวเช้ากันมา กินกันแบบเอาเป็นเอาตาย

พอเติมเสบียงเต็มพุงแล้วก็ไปยังร้านมหาชน ใครมาปายแล้วไม่แวะร้านนี้

ถือว่ามาไม่ถึง นั่นคือ Coffee in love ลงไปกินกาแฟพอเป็นพิธี เน้นถ่ายรูปมากกว่า

ต้องถ่ายกับป้ายนี้ด้วยสิ เดี๋ยวเค้าหาว่ามาไม่ถึง

สั่งโกโก้เย็นไป หวานเชี๊ยบเลย เชื่อแล้วที่เค้าบอกว่าไม่อร่อย เน้นวิวสวยเป็นพอ

ขับเลยจากร้าน coffee in love ไปนิดหน่อยก็ถึง "กองแลน" หรือปายแคนย่อน

"กองแลน" คือผืนดินที่ถูกกัดเซาะเป็นร่องลึกคล้ายหน้าผาติดต่อกัน หน้าตาคล้ายแพะเมืองผี

ของ จ.แพร่ พอจอดรถแล้วต้องเดินขึ้นเนินเขาไปอีกซัก 10 นาที ฝุ่นตลบเลยแหละ

เพราะเป็นพื้นดินทราย อากาศก็ร้อน ทำไมมันช่างแตกต่างกะตอนเช้าจัง

มองลงไปเหมือนหน้าผาเลย พอดีเพิ่งฟังข่าวคนตกลงไปจากภูชี้ฟ้า เลยแหยง ๆ เหมือนกัน

แล้วดันมีฝรั่งคู่นึง คุณสามีหาญกล้าปืนลงไป คุณภรรยานั่งรออยู่ พี่ไก่เดินเข้าไปถาม

ฝ่ายภรรยายังยิ้มได้ แต่คงแอบเป็นห่วงเหมือนกัน แกบอกว่าสามีแกชอบผจญภัย

พวกเรากลับก่อน เลยไม่ได้อยู่รอดูว่าเป็นยังไงบ้าง ขึ้นรถขับออกไปหน่อยก็แวะ

สะพานประวัติศาสตร์ ท่าปาย ซึ่งเปรียบเสมือนประตูสู่อำเภอปาย

สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นโดยทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้ข้ามแม่น้ำปาย

และลำเลียงเสบียงและอาวุธเข้าไปในพม่า ภายหลังสงครามโลกสิ้นสุดก็ยังใช้เป็นเส้นทาง

ของประชาชนใช้สัญจรไปมา จนภายหลังมีการสร้างสะพานคอนกรีตข้าง ๆ กัน

ปัจจุบันนี้ไม่ได้มีการใช้งานแล้ว พวกเราไปช่วงปิดซ่อมแซมด้วยเลยได้แต่ถ่ายรูปข้างหน้า

ดูจากสภาพก็เก่าเอาการ เดินเข้าไป ไม้อาจทะลุ ตกลงไปได้

มาปายอย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกับสะพานประวัติศาสตร์นี้นะคะ

ออกจากสะพานก็แวะโป่งน้ำร้อนท่าปาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

กว้างมาถึงที่นี่เชียว เสียดายใส่กุงเกงขายาวมา อดแช่เท้าเลย T T

พอเข้าเขตน้ำพุร้อน โจ้กะพี่ก้องเดินตรงดิ่งไปโดยไม่รอ พอเข้าไปใกล้ ๆ ก็เห็นสาว ๆ ฝรั่ง

ใส่ชุดบีกีนี่แช่น้ำ มิน่าหละ 555 แต่เสียใจด้วย ถ่ายรูปมาแต่สาวนี้

คำเตือน ไปแช่น้ำร้อน นอกจากจะได้กลิ่นกำมะถันแล้ว อาจได้กลิ่นเท้าเน่าโชยแตะจมูก

เดินไปจนถึงบ่อที่เค้าให้ต้มไข่ อุณหภูมิ 80 องศา เดินไปอีกนิดก็เจอป้าย

หนาว ๆ ร้อน ๆ กันเป็นแถวเลย ที่สุดท้ายที่เราตะลอนแวะกันสำหรับวันนี้คือวัดพระธาตุแม่เย็น

เป็นจุดชมวิว สามารถมองเห็นเมืองปายแบบพาโนรามา เป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองปายมาช้านาน

เหมาะจะมาดูวิวช่วงเช้ากะช่วงพระอาทิตย์ตก แต่พวกเราไปถึงตอนสี่โมงกว่า ๆ เห็นแต่วิว

กับเจ้าตัวนี้ เฟรนด์ลี่มาก ๆ เดินตามพวกเราแถมมานั่งเฝ้าอีกตะหาก

ส่วนวิว ไม่ได้ถ่ายเลยค่ะ เพราะแดดแรง มันย้อนแสงอีกตะหาก แถมแบตใกล้หมดเต็มที

หลังจากไหว้พระและนั่งเล่นกันแล้วก็กลับเข้าที่พัก ไปอาบน้ำอาบท่า พักผ่อน

ได้อาบน้ำอุ่น ๆ มีความสุขจังเลย แล้วไปหาอะไรกินที่ถนนคนเดิน

อ้อ ถ้าไปถนนคนเดิน เลยไปนิดนึงจะเห็นที่พักเมื่อวานคือกระท่อมริมปาย

เดินไปอีกหน่อย เลี้ยวซ้ายจะเห็นสะพานไม้ไผ่ เห็นใคร ๆ มาก็ต้องมาถ่ายรูปเลยขอบ้าง

วันนี้คึกคักจัง เพราะเป็นคืนวันศุกร์ ไปแวะซื้อหมวกอีกใบด้วย พี่คนขายน่ารัก

พี่เค้าตั้งแผงอยู่แถว ๆ เซเว่นใกล้ธนาคารกรุงเทพ ลองแวะไปดูจะเห็นสาวผมยาว

นั่งถักหมวก พูดเก่ง ๆ ละใช่เลย (พี่คะหนูโฆษณาให้แล้วนะ ก๊าก)

พวกเราปิดท้ายวันด้วยการสังสรรค์เฮฮา ไปแวะซื้อไวน์มา 2 ขวดกินแก้หนาว

แต่อยู่ได้ไม่เกิน 5 ทุ่ม เพราะรอบข้างมีแต่บ้านพัก พวกเราไปนั่งดริ๊งค์กันริมแม่น้ำปาย

กลางคืนหนาวได้ใจ แต่ก็รอดมาได้ด้วยไวน์และชีสแกล้ม แล้วก็เข้านอนกัน

พักที่บ้านกระทิงปายแล้วมันหลับสบายยังงี้นี่เอง โปรดติดตามต่อวันพรุ่งนี้ ^ ^

เวปไซด์ที่เกี่ยวข้อง

- บ้านกระทิงปาย //www.baankrating.com/pai

Create Date : 28 มกราคม 2551

Last Update : 28 มกราคม 2551 14:58:13 น.

10 comments

Counter : 2219 Pageviews.