Group Blog All Blog
|
Towada-go ทะเลสาบโทวาดะ : Aomori Aomori เราไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับ Aomori เลยนอกจาก มี แอปเปิ้ลอร่อย ^^ แต่พี่สาวกลับอยากไป Towada-go ทะเลสาบ ที่เขาว่า ติดหนึ่งในสถานที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ช่วงที่พวกเราไปกัน เป็นเดือนห้า แล้ว แต่ว่ายังคงหนาวอยู่มาก จนไม่สามารถเก็บภาพมาได้เยอะนัก อุณหภูมิแค่ 10 กว่าองศา สำหรับคนไทยขี้หนาวอย่างเราแล้ว ก็ทำให้ตัวแข็งได้เลย เรานั่งรถไฟจาก Tokyo ไปลงที่ Hachinohe หลังจากนั้น ต้องต่อรถบัสไปอีกเป็นชั่วโมง ยังเมืองติดทะเลสาบ  ระหว่างทาง ก็มีพักกินข้าว เข้าห้องน้ำ ให้เล็กน้อย .. วิวระหว่างทาง  ไปถึง ก็พบว่า ที่นี่เกือบจะเป็นเมืองร้าง ถ้าไม่ใช่ฤดูร้อน ก็ใครเขาจะมาเที่ยวทะเลสาบ(และเดินป่า) ตอนหน้าหนาวกันเล่า! มีที่พักไม่กี่แห่งที่ยังเปิดดำเนินการอยู่ บางแห่งปิดชั่วคราว แต่บางแห่งก็ดูเหมือนปิดตัวลงอย่างถาวร เพราะมีเถาวัลย์ป่ายปีนอาคารไปทั่วโดยไม่มีการตัดแต่ง ป้ายแกว่งไกวไร้คนดูแล พร้อมเสียงออดแอด.. หลังจากเข้าไปดูว่า ที่พัก ของเรายังคงเปิดทำการดีอยู่ และนั่งพัก หลบความเย็นชั่วครู่ (แน่นอนว่า ณ เวลานั้น ยังไม่เปิดห้องให้เข้าพัก) เราก็ออกมาเดินรอบทะเลสาบ ได้บรรยากาศ เหงา และ วังเวง ... มาก นึกถึงบรรยากาศในหนังเรื่อง spirited away ตอนที่เมื่อเดินกลับมาอีกที ก็กลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว (อย่างน้อย หม่ามี้เราก็ยังไม่กลายเป็นหมู ^^) บรรยากาศเย็นๆ ในหนัง กับบรรยากาศตอนที่เดินไปตามริมทะเลสาบ ที่แทบร้างผู้คน ก็เป็นแบบเดียวกัน ....... ร้านอาหาร ที่เปิดทำการช่วงกลางวัน ยังมีที่ สถานีรถบัสชั้นบน ขายอาหารท้องถิ่น เราเลือกกินไข่ปลาอะไรสักอย่าง ที่ดูแล้วน่าอร่อย แต่คงเป็นความไม่คุ้นเคย ทำให้รู้สึกว่ามันแปร่งๆ คาว และขม จนกินไม่หมด มื้อเย็น ร้านอาหารเปิดอยู่ร้านเดียว ถัดจากที่พักไปราวเดิน 15 นาที เมืองมืด เปิดไฟอยู่ไม่กี่แห่ง เมื่อไปถึง ก็เหมือนได้เข้าไปกินอาหารที่ร้านของ Yubaba ในหนังเรื่องเดิม เพียงแต่ไม่มีใครกลายร่างเป็นแม่มดมาเอาชื่อของเราไปเท่านั้นเอง ร้านเรียบๆ เราสั่งราเมงอุ่นๆมากินกัน รสชาติใช้ได้ คลายความหนาว แล้วเราก็พบ นักท่องเที่ยวคนอื่นๆด้วย ทำให้ไม่รู้สึกวังเวงเกินไป .. สอบถามได้ความว่า ตอนนี้ ช่วงเย็นจะเปิดอยู่ร้านเดียว และก็กำลังจะปิดเสียด้วย ดีที่พวกเราออกมาทันเวลา ที่พักของเรา ห้องกว้างขวางมากเมื่อเทียบกับราคา น่าจะเกือบ 20 เสื่อ มีบริการน้ำร้อน น้ำชาฟรี ซึ่งเราก็ชงกันแบบไม่หยุด เพื่อดับความหนาว  เช้าวันต่อมา ก็ตัดสินใจได้ว่า ต้องฝ่าความหนาวออกไปล่องเรือให้จงได้ ไม่งั้น ทริปนี้ก็ไม่มีอะไรทำอีกแล้ว พอถึงเวลา ก็มีรถบัส พานักท่องเที่ยวจากที่อื่น รวมทั้งเด็กนักเรียนที่มาทัศนศึกษามาจากที่ไหนก็ไม่รู้ มากมาย มาลงเรือลำเดียวกับเรา ว่าแล้วเชียว .. ถ้ามีกันแค่สามคน เขาก็คงไม่ออกเรือ  มีเรือหลายลำซึ่งผลัดกันออก ภายในเรือ มีหลายชั้น เราเลือกนั่งชั้นที่ไม่โดนลมหนาว  เมื่อเรือออก มองกลับไปทางท่าเรือ แทบไม่เห็นตัวเมืองแล้ว  วิวทะเลสาบช่วงสายๆ ยังคงมีหมอกทึบ .. แล้วค่อยๆคลายลงเรื่อยๆ .. ให้เราได้พอมองเห็นทิวทัศน์รอบๆ    บนเรือมีของแห้งที่ระลึกขายนิดหน่อย อย่างขนม cracker แบบนี้ เขียนไว้ว่า Towada  ลงจากเรือ หลังจากล่องไปประมาณชั่วโมง .. ฝนตกปรอยๆ เพิ่มความยะเยือกเข้าไปอีก  ดูป้ายทางเดินป่าที่เรากำลังจะไปกัน .. ทาง ลำธาร Oirase ระยะทางทั้งหมดยาวมาก เดินหลายชั่วโมง แต่เรา plan กันว่าจะไปไม่ถึงจุดสุดทางเพราะเวลาไม่พอ และก็ เดินป่าเปียกๆ ยามหนาวคงไม่เหมาะเท่าไหร่ ..  ปากน้ำ Oirase ที่กำลังไหลลงทะเลสาบ  ทางเดินต่างๆจะอยุ่ติดกับถนนใหญ่ ที่มีรถวิ่งผ่านไปมา ดังนั้น เดินไปถ้าแข็งตายอยู่ข้างทางก็มั่นใจได้ว่าจะมีคนมาพบอย่างรวดเร็วแน่นอน (!)  สะพานเล็กๆต่างๆ ข้ามลำธาร ได้เราได้ชมความงามของสายน้ำอย่างใกล้ชิด    ระหว่างทางจะมีน้ำตกเล็กๆหลายแห่ง .. สะอาด สวยงาม อันนี้รู้สึกจะใหญ่ที่สุด  รองลงมา ก็มีอีกมากมายหลายแห่ง  ทางแห่ง ถ้าเป็นที่บ้านเราคงไม่เรียกน้ำตก เพราะเป็็นทางน้ำสายเล็กๆเหมือนเปิดก๊อก ไหลลงมาตามแง่งหิน .. แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา น่าเสียดาย  ต้นไม้ มีปุ่มมากมาย ดูโบราณดี  เป็นระยะๆ ก็จะมีป้ายระวังหินถล่มแบบนี้  หลังจากเดินไปได้ประมาณชั่วโมงเราก็ไปรอรถกันที่ป้ายรถเมล์ ....  ซึ่ง .... ไม่รู้ว่าเราดูผิดหรือว่ายังไง .. รถไม่มาตามเวลาที่เรากะไว้ แล้วก็ต้องทนหนาวกันเป็นเวลาเป็นชั่วโมงๆ ..... เท้าแข็ง มือเย็น สงสารหม่ามี้เป็นที่สุด เพราะขนาดเราใส่ Boots ยังหนาวเท้าจนทนแทบไม่ไหว แต่หม้ามี้ใส่รองเท้าคัทชูธรรมดา และถุงเท้าหนึ่งคู่ กราบขอประทานอภัยหม่ามี้ ที่พามาลำบากจ้า (ปูรู. โดยไม่มีคำบ่นหลุดออกมาสักคำจากหม่ามี้) ปูรู สอง. ดีใจที่พาพี่สาวมาลำบากด้วย 55555
สวยจังค่ะ
โดย: mariabamboo
 วันที่: 20 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:46:32 น.ตอนแรกกะว่าจะไปเหมือนกันค่ะ เห็นตารางรถไปที่นี่แล้ว ไปง่ายมาก
แต่ว่าเวลาไม่พอ เลยไม่เสี่ยง.. ไปล่าหาสิ่งที่ต้องการก่อนดีกว่า.. แปะโป้งไว้รอบหน้า ใบไม้เปลี่ยนสีแทนก็แล้วกันค่ะ โดย: poongie
วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:10:27 น. |
blueschizont
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] รักญี่ปุ่น Friends Blog
|
||||||||||||
