เป็นเรื่องดีที่เราได้รู้จักกัน รับรู้ซึ่งความฝัน ความแปรผันของหัวใจ รับรู้ถึงความโศรกเศร้า แววตาหงอยเหงา หัวใจเหนื่อยอ่อน ห่วงใย อาทร ทุกข์ร้อนด้วยกัน...โชคดีที่เรามีความรัก...
|
|||
กลอนเก่าเก็บ วันนี้...ฉันมาลาเธอ เพราะ...วันพรุ่งนี้จะนำฉันไปจากที่นี้แล้ว เธอรู้ไหม...ฉันอยากจะพูดอะไรมากมาย อยากจะพูดถึงความรู้สึกเก่า ๆ เมื่อครั้งมาที่นี้ และความรู้สึกที่มีต่อเธอตลอดมา ฉันหวังว่า..จะได้พบดวงตาที่พึงจะเหนี่ยวฉันไว้ และความอาลัยที่มากกว่า...สิ่งที่ได้พบจริง บนรถไฟ....ที่ฉันนั่งมา ฉันมองผ่านความมืด...ไปยังทุ่งนาลิบ ๆ ในใจเกิดความรู้สึกแปลก ๆ มากมาย ความเสียใจก็เป็นความรู้สึกหนึ่ง ตอนนั้น....ฉันอยากจะถามถึงบางสิ่งบางอย่างกับเธอ แต่มารยาทก็บังคับฉันไว้ รู้สึกถึงความผิดหวัง เมื่อมาถึงวันสุดท้าย เริ่มเสียใจตั้งแต่ก้าวขึ้นรถไฟจากมา เธอรู้ไหม....เสียงหวูดไฟ ดังคล้ายเสียงโหยไห้ของฉัน ตลอดเส้นทางนี้...ที่ทอดกลับบ้าน... กลอนบทนี้ชอบมาก ( อีกแล้ว ) ซึ่งเพื่อนสนิทผู้ชายของเราคนหนึ่งอยู่ห้องเดียวกัน ชมรมวรรณศิลป์เหมือนกัน เป็นคนแต่งเมื่อตอนเรียน ม. 6 หลายสิบปีมาแล้ว แต่งแล้วมาให้เราอ่าน เราชอบ เลยเก็บต้นฉบับไว้อย่างดี คุยเฟสบุ๊คกันแล้วบอกเพื่อนว่ามีกลอนของแกอยู่ที่ฉัน เลยเขียนลงแล้วให้เค้าอ่าน เพิ่งรู้ว่าอยู่ที่เรา เค้าบอกว่า หาอยู่นานคิดว่าคงทำหาย แล้วก็จำไม่ได้ว่าเขียนว่าอย่างไรบ้าง อยู่ที่แกนี่เอง หึ คุยกันเพื่อนบอกว่าได้แรงบันดาลใจจากเพลง เพลงหนึ่งของวงชาตรี และให้เราทายว่า เพลงอะไร เราตอบไป ถูกเลยในเพลงแรก มันชมทันทีเราว่า แกมันอัจฉริยะ ไม่รู้ชมหรือด่า ทำหน้าไม่ถูกเลย สวัสดียามเช้าครับ
นึกถึงบรรยากาศตอนนั่งรถไฟไปเรียนลาดกระบังเลยครับ นี่ผมไมได้นั่งรถไฟมานานมากแล้วนะครับเนี่ย เกือบ 10 ปีเห็นจะได้ครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:5:47:48 น.
ใช่ๆๆบางครั้งเราก็อยากถามเค้าเหมือนกันค่ะ
แต่มันติดกับมรรยาท โดย: tanusi วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:9:09:15 น.
สวัสดีสายวันจันทร์ครับ
ชอบๆเสียงหวูดรถไฟครับ โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:10:44:27 น.
สวัสดีครับ
หายไปช่วงนึงเนื่องจากเนตบุคพัง คอมเก่าที่ขุดมาใช้ก็ช้ากว่าเต่าอีก เลยไม่ค่อยได้เข้ามาบล็อคคนอื่นเลย ตอนนี้ไปสอยโน้ตบุคตัวใหม่มาเรียบร้อยแล้วครับ จะกลับมารายงานตัวเป็นปกติแล้วครับ ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ โดย: ter_pt วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:11:03:50 น.
สายลมจับเข่าคุยกับความเหงา
แล้วมานั่งเศร้ากับตัวเรา อดีตผ่านไปมาเหมือนดังเงา ทิ้งความเหงาความเศร้ากับสายล ไม่เคยเป็นที่รักของใคร แต่มีคนที่รักมากมาย ไม่เศร้าไม่เสียใจ ที่ไม่ได้เป็นที่รักของใคร แต่ดีใจทีมีคนที่เรารักอยู่รายรอบตัวเรา โดย: pharotai วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:11:31:11 น.
อ่านแล้วจินตนาการตามเลยค่ะ ซึมซับถึงความรู้สึกตรงนั้น มันอินค่ะ
โดย: ตั้งต้น V&T วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:21:39:56 น.
มารยาทก็บังคับฉันไว้
ผมชอบวรรคนี้จังเลยครับคุณเจี๊ยบ มีแต่เพื่อนแต่งกลอนเก่งๆนะเนี่ยครับ อรุณสวัสดิ์นะครับคุณเจี๊ยบ ^^ โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:8:18:09 น.
ความหมายดีมาก ๆ เลยนะคะนั่น..อ่านแล้วสัมผัสได้ถึง ความรู้สึกขณะนั้นของคนที่เขียนเลย..
ไอ้ความรู้สึก ก่อนลาจากทั้ง ๆ ที่ยังมีเรื่องอยากพูดจุกอยู่ในอกนี่..มันทรมานจริง ๆ นา.. โดย: i'm not superman วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:9:30:08 น.
โดย: แม่อ้วนคนสวย วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:10:18:11 น.
อยู่ชมรมวรรณศิลป์นี่เอง
ถึงได้แต่งกลอนได้เยอะมากมายเลยยย ^o^ โดย: Life & Learn วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:12:39:18 น.
มาเยี่ยมชม มาทักทาย มาอ่านกลอนที่เป็นความทรงจำครั้งเก่าเก็บครับ อิอิ ปล. เห็นไปสมัครเป็นสมาชิกคลับโปสการ์ดแล้วด้วยใช่ไหม? ผมส่ง PC ไปทักทายแล้วนะครับ อิอิ โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:20:40:03 น.
เป็นบทกลอนกวีที่อ่านแล้วไพเราะมากครับ
อ่านไปนึกภาพไปได้ทันที โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:22:50:31 น.
|
magic-women
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ฮิ
ดีจ๊ะ เท่ห์มาก
ฝันดีนะฮ้า