เมื่อวานฝนตกทีวีดูได้แต่แม่เราขอร้องให้ปิดเพราะเค้ากลัวฟ้าผ่าลงทีวี ทั้้ง ๆ ที่เราบอกกับเค้าว่า ไม่ต้องกลัวหรอก ไอ้ทีวีเครื่องนี้ มันไม่เคยได้สาบานกับใครไว้แน่ ๆ แต่ แม่เราก็ไม่ยอม เราไม่อยากจะให้เกิดศึกสายเลือด เลยยอมปิดก็ได้ ปิดแล้วไม่มีอะไรทำ เลยขึ้้นมาค้นหนังสืออ่าน ไปเจอไดอารีี่ที่เราเขียนไว้ตั้งแต่เด็กจนโต ตอนนี้ไม่ค่อยได้เขียนแล้ว นอกจากมีเรื่องที่สำคัญจะเขียนเก็บไว้ เสียดายเล่มนึงถูกปลวกกินเรียบเลย
เปิดอ่านแล้วก็นึกถึงสมัยเด็ก ๆ มีเรื่องราวมากมากมายที่ไหลเข้ามาในความทรงจำ นั่งอ่านอยู่จนครบ บางหน้าอ่านแล้วนั่งซึมไปนาน บางหน้าอ่านแล้วก็ขำ นึกถึงความบ้าบิ่นของเราและเพื่อน ๆ บางคนยังมีนิสัยอย่างเดิมอยู่เลย
เราพบว่า เราเป็นขี้้ใจน้อยและรู้สึกว่าใคร ๆ ก็ไม่รัก รักแต่พี่สาว
มีพ่อคนเดียวที่รักเรา พออ่านมาเรื่อย ๆ ที่เราบันทกก็เปลี่ยนไป พอโตขึ้นความคิดก็เปลี่ยนจริง ๆ
ตอนเราอายุ 18 ปี กับตอนที่อายุ 28 ปี ความคิดเราต่างกันมากมาย จะเป็นเพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากประสบการณ์ต่าง ๆ จริง ๆ ที่เราคิดมันไม่ใช่เสมอไป พออายุ 38 เราก็คิดอีกอย่าง ใจเย็นลง รู้จักระงับอารมณ์ ค่อยพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่เรายังไม่ถึง 48 แต่คิดว่าเราก็คงจะแบบนี้แหล่ะ ไม่เปลี่ยนไปมากกว่านี้แล้ว
เรารักการอ่าน เราคุยเก่ง ขี้เกียจทำงานเป็นประจำ นอกจากไฟล้นจริง ๆ ถึงจะทำ ชอบทำงานนอกสถานที่มากกว่า ชอบพูดคุยกับผู้คน แล้วดูว่าเค้าเป็นยังไงในความคิดเรา ไม่ค่อยชอบโทรศัพท์ ชอบการเขียนมากกว่า แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีใครเขียนกันแล้ว เราก็เขียนถึงหลานอายุ 6 ขวบของเรา เพราะต้องดูแม่ ไปหาเค้าบ่อย ๆ ไม่ได้ ดีเหมือนกันได้หัดหลานเขียนไปด้วย
ตั้้งใจว่าจะพยายามเขียนไดอารี่ใหม่ ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า
แล้วมาดูตอนม.6 ผ่านไปแค่6 ปี
แต่ความคิดอะไร ไม่เหมือนเก่าแล้ว
ประสบการณ์ได้สอนคนและก็ได้เรียนรู้
เดี๋ยวนี้เลิกเขียนไปนานแล้วค่ะ ไม่มีวินัยมากพอ