วันนี้ผมแอบหนีงานเล็กน้อย เพื่อไปซื้อเจ้ากบให้พี่ของผม ซึ่งอยากได้เจ้ากบตัวนี้มาก เพราะเห็นใน ใบโฆษณาขายของของห้างดังที่อยู่แถวสุขุมวิท บอกว่าลดราคาเยอะมาก แล้วอยากได้มากๆ และมันอยู่ในช่วงวันเกิดของพี่ผมด้วยก็เลยไปจะไปซื้อให้ครับ
แผนการก็เริ่ม โดยออกไปจากที่ทำงานก่อนเวลาเริ่มขายเจ้ากบ เพราะในใบโฆษณาบอกว่าจะเริ่มตอน 12:30 นั่งมอเตอร์ไซค์ แล้วต่อรถไฟฟ้า ถึงที่เลยครับ ตอนเที่ยงก่อนเวลาเริ่มขาย เราจะต้องได้เจ้ากบไปฝากพี่แน่นอน ยิ้มอย่างเริงร่าครับ พอไปถึงชั้นที่ขายเจ้ากบ ก็เริ่มสอบถามว่าจะซื้อกบครับ พนักงานบอกว่า ไปลงชื่อก่อนค่ะ ผมงงเลยว่าทำไมพนักงานบอกว่าไปลงชื่อจับฉลากเพื่อซื้อกบ ไปก็ไป ขอใบลงชื่อครับ หยอดลงในกล่อง มีอยู่สัก 5 ใบ ตอนเวลา 12:10 และจะจับฉลากตอน 12:30 ก็คิดว่าตลกดีต้องมาแย่งเจ้ากบยังไม่ถึงเวลาผมก็ไปทานข้าวเที่ยงก่อนครับ ในใจคิดว่าได้แน่ เพราะ มีแค่ 5 ใบมี 4 ตัวต้องได้ พอใกล้ 12:30 ผมก็ไปรอเลย
ผมนึกว่ามีอะไรกันหรือเปล่า คนเป็นร้อย เข้าไปดูใกล้ๆพบว่ามาแย่งเจ้ากบกับอะไรซักอย่างสองอย่าง ไม่น่าเชื่อเลยครับว่าไอ้แค่เจ้ากบนี่นะ ผมก็ยืนแบบแอบๆครับเนื่องมากจาก ที่เป็นร้อยนะ มีผู้ชายไม่ถึง 10 คน แล้วก็เหมือนเดิมครับหยุดมองรอบๆ ฟังและคิดตาม คนส่วนใหญ่ทำงานบริษัทอยู่ในห้างนี้ก็ชวนเพื่อนมาลงชื่อให้ครับ ตายแน่ผมมาคนเดียวชื่อเดียวอะ และได้ยินแม่และลูกสาวคู่หนึ่ง ลูกอายุประมาณ 10-13 ปีมั้ง ลูกพยายามบอกกับแม่ว่าจะทำอะไรได้ไหมเพื่อที่ให้ได้ของมา ผมตั้งใจฟังเลยครับ และคำตอบของคุณแม่คนนั้น คือ ลูกนี่เป็นสิ่งที่เราได้ทำดีที่สุดแล้ว ที่เราทำได้ เราต้องเคารพกฎกติกานะ ฟังแล้วดีจัง ผมคิดในใจถ้าผมเกิดได้มา แล้วน้องเค้าร้องไห้อยู่ตรงหน้าจะทำอย่างไรดีนะ มั่นใจในโชคของเรา
พอถึงเวลาจับฉลาก ทุกสายตาจ้องไปที่คนจับฉลาก โดยเริ่มจับที่เจ้ากบก่อน 4 รางวัล คนแรกผู้หญิง ต่อด้วยผู้ชาย และหญิงอีก คนสุดท้ายต้องผมแน่ จับได้เป็นชายครับแต่ไม่ใช่ชื่อผม แล้วก็ไม่มีใครมาแสดงตัวครับ ทุกคนเรียกร้องว่าจับใหม่ เป็นผู้ชายอีกครับแต่ไม่ใช่ผมอีก เศร้าเลยก็ว่าจะกลับไปทำงานต่อแล้วสงสารตัวเองจัง
พอดีพนักงานจับของอย่างที่ 2 เลยครับ แต่ผมไม่ได้ลงชื่อครับเพราะไม่อยากได้มันเป็นนาฬิกาปลุก mickey และชื่อของคนที่ได้คือ น้องผู้หญิงที่มากับแม่ครับ น้องเค้าดีใจมากๆวิ่งเข้าไปกอดคุณแม่เป็นภาพที่น่ารัก คล้ายกับนางงามกอดคุณแม่อะครับ ผมไม่ถ่ายรูปมาให้ดูเพราะไม่กล้า กลัวโดนว่าครับ
ส่วนผมถึงแม้ไปแล้วไม่ได้อะไรกลับบ้านไปให้พี่ของผม และยังเสียเงินค่ารถ ค่าทานข้าวอีก ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนเด็กอาจเศร้าไปเลย แต่ตอนนี้ผมกลับยิ้มและคิดถึงคำพูดของคุณแม่น้องผู้หญิงคนนั้นว่า เราทำดีที่สุดแล้วที่ทำได้ ผมก็รู้ดีใจอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะดีใจครับน้องเค้าที่ได้ของชิ้นนั้นไป ส่วนผมได้ความรู้ดีๆกลับบ้าน แต่พี่ผมอดได้กบครับ
ชีวิตในเมืองกรุงแสนลำบากแค่เจ้ากบยังแย่งกันเป็นร้อยคน ถ้าอยู่ต่างจังหวัดหากบกันสบายเลย โธ่ชีวิตเมืองกรุง