ธารธรรมใสเย็นยิ่ง สุขได้
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
30 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
คาถาสุภาษิตของพระอธิมุตตเถระ

เถรคาถา วีสตินิบาต
๑. อธิมุตตเถรคาถา
คาถาสุภาษิตของพระอธิมุตตเถระ
[๓๘๕] พระอธิมุตตเถระถูกพวกโจรจับไว้ มิได้มีความกลัวหวาดเสียว มีหน้าผ่องใด
เมื่อหัวหน้าโจรเห็นดังนั้น เกิดความอัศจรรย์ใจ จึงได้กล่าวคาถาสรรเสริญ ๒ คาถาว่า
เมื่อก่อน เราจะฆ่าสัตว์เหล่าใดเพื่อบูชายัญ หรือเพื่อทรัพย์ ความกลัว
ก็ย่อมเกิดแก่สัตว์เหล่านั้นทั้งสิ้น สัตว์เหล่านั้นย่อมพากันหวาดหวั่น
และบ่นเพ้อ แต่ความกลัวมิได้มีแก่ท่านเลย สีหน้าของท่านผ่องใสยิ่ง
นัก เมื่อภัยใหญ่เห็นปานนี้ปรากฏแล้ว เหตุไรท่านจึงไม่คร่ำครวญเล่า.

พระเถระเมื่อจะแสดงธรรม โดยมุ่งการตอบคำถามของนายโจรนั้น จึงได้กล่าวคาถา
เหล่านี้ความว่า
ดูกรนายโจร ทุกข์ทางใจย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ห่วงใยในชีวิต ความกลัวทั้ง
ปวงอันเราผู้สิ้นสังโยชน์ล่วงพ้นได้แล้ว เมื่อตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพสิ้น
ไปแล้ว ความกลัวตายในปัจจุบันมิได้มีด้วยประการใดประการหนึ่งเลย
ดุจบุรุษไม่กลัวความหนัก เพราะวางภาระแล้วฉะนั้น พรหมจรรย์เรา
ประพฤติดีแล้ว แม้มรรคเราก็อบรมดีแล้ว เราไม่มีความกลัวตายเหมือน
บุคคลไม่กลัวโรคเพราะโรคสิ้นไปแล้วฉะนั้น พรหมจรรย์เราประพฤติดี
แล้ว แม้มรรคเราก็อบรมดีแล้ว ภพทั้งหลายอันไม่น่ายินดีเราได้เห็นแล้ว
เหมือนบุคคลดื่มยาพิษแล้วคายทิ้งฉะนั้น บุคคลผู้ถึงฝั่งแห่งภพ ไม่มี
ความถือมั่น เสร็จกิจแล้ว หมดอาสวะ ย่อมยินดีต่อความสิ้นอายุเหมือน
บุคคลพ้นแล้วจากการถูกประหารฉะนั้น

บุคคลผู้บรรลุธรรมอันสูงสุดแล้ว
ไม่มีความต้องการอะไรในโลกทั้งหมด ย่อมไม่เศร้าโศกในเวลาตาย
ดุจบุคคลออกจากเรือนที่ถูกไฟไหม้ฉะนั้น สิ่งใดสิ่งหนึ่งซึ่งมีอยู่
ในโลกนี้ก็ดี ภพที่สัตว์ย่อมได้ในโลกนี้ก็ดี พระพุทธเจ้าแสวงหาคุณ
อันใหญ่ยิ่งได้ตรัสไว้ว่า

“ สิ่งทั้งหมดนี้ไม่เป็นอิสระ ผู้ใดรู้แจ้งธรรมข้อนั้น
เหมือนดังที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ผู้นั้นย่อมไม่ยึดถือภพอะไร ดัง
บุคคลผู้ไม่จับก้อนเหล็กแดงอันร้อนโชน ฉะนั้น เราไม่มีความคิดว่า
ได้เป็นมาแล้ว จักเป็นต่อไป จะไม่เป็น หรือสังขารจักฉิบหายไป จะ
คร่ำครวญไปทำไมในเพราะสังขารนั้นเล่า”

ดูกรนายโจร ความกลัวย่อมไม่มีแก่ผู้พิจารณาเห็นตามความเป็นจริง
ซึ่งความเกิดขึ้นแห่งธรรม
อันบริสุทธิ์ และความสืบต่อแห่งสังขารอันบริสุทธิ์ เมื่อใดบุคคล
พิจารณาเห็นโลกเสมอด้วยหญ้าและไม้ด้วยปัญญา เมื่อนั้น บุคคลนั้น
ย่อมไม่ยึดถือว่าเป็นของเรา ย่อมไม่เศร้าโศกว่า ของเราไม่มี เรากลัด
กลุ้มด้วยสรีระ ไม่ต้องการด้วยภพ ร่างกายนี้จักแตกไป และจักไม่มี
ร่างกายอื่น ถ้าท่านทั้งหลายปรารถนาจะทำกิจใดด้วยร่างกายของเรา ก็จง
ทำกิจนั้นเถิด ความขัดเคืองและความรักใคร่ในสรีระนั้น จักไม่มีแก่เรา
เพราะเหตุที่ท่านทั้งหลาย ทำกิจตามปรารถนาด้วยร่างกายของเรานั้น.


โจรทั้งหลายได้ฟังคำของท่าน อันอัศจรรย์อันทำให้ขนลุกชูชันดังนั้น
แล้ว จึงพากันวางศาตราวุธ แล้วกล่าวดังนี้ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ความ
ไม่เศร้าโศกที่ท่านได้นี้ เพราะท่านได้ทำกรรมอะไรไว้ หรือใครเป็น
อาจารย์ของท่าน หรือเพราะอาศัยคำสั่งสอนของใคร?


พระเถระได้ฟังดังนั้นแล้ว จึงได้กล่าวตอบว่า
พระศาสดาผู้เป็นสัพพัญญู รู้เห็นธรรมทั้งปวง ชนะหมู่มารมีพระกรุณา
ใหญ่ผู้รักษาพยาบาลชาวโลกทั้งปวง เป็นอาจารย์ของเรา ธรรมเครื่องให้
ถึงความสิ้นอาสวะอันยอดเยี่ยมนี้ พระองค์ทรงแสดงไว้แล้ว ความไม่
เศร้าโศก เราได้เพราะอาศัยคำสั่งสอนของพระองค์ พวกโจรฟังถ้อยคำ
อันเป็นสุภาษิตของพระเถระผู้เป็นฤาษีแล้ว พากันวางศาตราและอาวุธ
บางพวกก็งดเว้นจากโจรกรรม บางพวกก็ขอบรรพชา โจรเหล่านั้นครั้นได้
บรรพาในศาสนาของพระสุคตแล้ว ได้เจริญโพชฌงค์และพลธรรมเป็น
บัณฑิต มีจิตเฟื่องฟูเบิกบาน มีอินทรีย์อันอบรมดีแล้ว ได้บรรลุสันตบท
คือ นิพพานอันหาปัจจัยปรุงแต่งมิได้.

ขอขอบพระคุณที่มา : //larndham.net/cgi-bin/tread.pl?start_book=26&start_byte=477422
ขออนุโมทนาสาธุ



Create Date : 30 กรกฎาคม 2552
Last Update : 30 กรกฎาคม 2552 22:38:06 น. 5 comments
Counter : 594 Pageviews.

 
ข้าพเจ้าขอวิสัชนาสุภาษิตของพระอธิมุตตเถระบทหนึ่งที่กล่าวว่า
"เมื่อใดบุคคลพิจารณาเห็นโลกเสมอด้วยหญ้าและไม้ด้วยปัญญา เมื่อนั้น บุคคลนั้น
ย่อมไม่ยึดถือว่าเป็นของเรา"

พิจารณาเห็นโลกเสมอด้วยหญ้า คือ หญ้านั้นต่ำเตี้ย ไร้แก่น ไม่มีสาระ ไม่ควรถือเอาโลกเป็นสาระเป็นที่ยึดมั่น ถือมั่น
เป็นปัญญาพิจรณาเห็นโทษของการติดอยู่กับโลก ติดอยู่กับสมมติ ทำให้หลงติดอยู่กับสังสารวัฏ

พิจารณาเห็นโลกเสมอด้วยไม้ คือ พิจารณาเห็นสังขารร่างกายนี้ มีแต่ความผุพังเสื่อมไป
เป็นปัญญาพิจรณาเห็นโทษของกายสังขาร ไม่ควรหลงชื่นชม ประมาทในวัย

เมื่อปัญญาเห็นภัยในสังสารวัฏ(ดุจกำลังโค) รวมกับปัญญาที่ปรากฎเห็นความเบื่อหน่ายในกายสังขารนี้(ดุจกำลังม้า)
ธรรมก็โลดแล่นฉุดลากถอนอกุศลได้อย่างง่ายดาย(ดุจกำลังช้างของพระราชา)
ใจพรานธรรม


โดย: ใจพรานธรรม วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:13:40 น.  

 
อนุโมทนาสาธุด้วยคนค่ะ


โดย: บุปผาลีลาวดี วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:15:24 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมวันเกิดนะคะ
ขอให้มีสุขภาพดีเช่นกันแล้วก็
พบกับความสุขเหมือนกันค่ะ


โดย: บุปผาลีลาวดี วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:31:39 น.  

 
สาธุ = ดีแล้ว


โดย: ~Or@nge~ IP: 119.42.101.57 วันที่: 2 สิงหาคม 2552 เวลา:2:12:12 น.  

 
สาธุ


โดย: new IP: 125.24.217.21 วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:16:22:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ใจพรานธรรม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




มีหลายเรื่องที่ควรสงสัย แต่เราไม่สงสัยในสิ่งต่างๆนั้นแล้ว
เราศรัทธาแต่ในพระรัตนตรัย

..แม้เทวดา มารหรือพรหม จะมีหรือไม่มีอยู่จริง
เราก็มีธรรม มีปัญญารู้ในสิ่งต่างๆนั้นด้วยตนเองแล้ว
ทั้งปัญญา ทั้งศรัทธา เป็นสิ่งที่ท่านต้องสร้างให้เกิดขึ้นเอง
ใครสร้างท่านไม่ได้

พระพุทธเจ้า พระองค์ดุจผู้บอกทางให้เท่านั้น
จะเดินหรือไม่ เรามิได้กล่าวโทษตำหนิท่านแต่อย่างใดเลย
ท่านเชื่อ ท่านก็เดิน ท่านไม่เชื่อก็ควรแล้ว ที่ท่านจะสงสัยควรแล้วที่ท่านจะปฏิบัติ เพื่อคลายความสงสัยนั้น
S! Radio
Express 4
เพลง ทานตะวัน ---ฟอร์ด
ศิลปิน รวมศิลปิน : Express
อัลบั้ม Express 4
ดูเนื้อเพลงคัดลอกโค้ดเพลงนี้
ขอบคุณ code และ ภาพ จากคุณ aggie_nan ตามลิงค์ที่อยู่ ด้านล่างครับ
Friends' blogs
[Add ใจพรานธรรม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.