|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
นี้แลคือพระพุทธองค์ โดยแท้จริง.
ปุจฉา : พระพุทธเจ้านั้นอยู่ที่ใหน ก็ท่านนิพพานไปนานแล้ว ไตรสรณคมน์ก็คงมีแค่สอง ไม่ใช่สาม จึงควรกราบควรไหว้ เพียงแค่พระธรรม และพระสงฆ์
วิสัชชนา : จะเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าเป็นรูปอย่างนั้น พระพุทธเจ้าเป็นพระองค์องค์นั้นหาได้ไม่ ความเป็นพระพุทธเจ้านั้นไม่ได้อยู่ที่นั่น ไม่ได้เป็นรูปอย่างนั้น ไม่ได้เป็นอย่างนั้น แต่ความเป็นพระพุทธเจ้านั้นอยู่ที่"ปัญญาที่ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง" นั่นล่ะคือพระพุทธเจ้า ก็แลพระปัญญานั้นก็ยังคงดำรงมีอยู่ ยังคงตั้งอยู่ อันมีชื่อว่า"พระธรรม" ผู้มีจิตศรัทธาเมื่อจะระลึกถึงจึงควรระลึกนึกถึงตามจริงอย่างนี้ จะมีจิตคิดว่าพระศาสดาของเราไม่มีแล้ว พระองค์ทรงเสด็จปรินิพพานไปนานแล้วหาได้ไม่
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา เมื่อเรายังเห็น(ด้วยปัญญา)ในธรรมแลวินัยนี้อยู่ พระพุทธองค์ก็ยังทรงอยู่ด้วย
เพราะ "ปัญญาที่ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง" นั้นล่ะคือ"พระพุทธเจ้า"
กราบไหว้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าครั้งใด ก็ขอให้ระลึกนึกถึงตามนี้เถิด.
_____________________________________ เนื้อหาบางส่วนถูกแต่งขึ้นและเรียบเรียงขึ้นเองโดยใจพรานธรรม ขออนุโมทนาข้อคิดธรรมนี้จาก อ.แนบ มหานีรานนท์ ขออนุโมทนาสาธุครับ
Create Date : 05 มกราคม 2554 |
Last Update : 5 มกราคม 2554 23:28:54 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1155 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]
|
มีหลายเรื่องที่ควรสงสัย แต่เราไม่สงสัยในสิ่งต่างๆนั้นแล้ว เราศรัทธาแต่ในพระรัตนตรัย
..แม้เทวดา มารหรือพรหม จะมีหรือไม่มีอยู่จริง เราก็มีธรรม มีปัญญารู้ในสิ่งต่างๆนั้นด้วยตนเองแล้ว ทั้งปัญญา ทั้งศรัทธา เป็นสิ่งที่ท่านต้องสร้างให้เกิดขึ้นเอง ใครสร้างท่านไม่ได้
พระพุทธเจ้า พระองค์ดุจผู้บอกทางให้เท่านั้น จะเดินหรือไม่ เรามิได้กล่าวโทษตำหนิท่านแต่อย่างใดเลย ท่านเชื่อ ท่านก็เดิน ท่านไม่เชื่อก็ควรแล้ว ที่ท่านจะสงสัยควรแล้วที่ท่านจะปฏิบัติ เพื่อคลายความสงสัยนั้น
|
|
ขอบคุณ code และ ภาพ จากคุณ aggie_nan ตามลิงค์ที่อยู่ ด้านล่างครับ
|
|
|
|
|
|
|