|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
"เฟซบุ๊ก"เล็งฟ้อง"มาร์ค ซัคเคอเบิร์ก"ตัวปลอม!?
หนุ่มอิสราเอลหัวใสเปลี่ยนชื่อเหมือน เปิดธุรกิจพิสดารขาย Like เพิ่มยอดแฟนเพจ
เฟซบุ๊ก ขู่ที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับ "มาร์ค ซัคเคอเบิร์ก" หนุ่มนักลงทุนทางการเงินชาวอิสราเอล ซึ่งไปเปลี่ยนชื่อของตัวเองจากนาย Rotem Guez มาเป็นนาย Mark Zuckerberg เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา
พาสปอร์ตของนายซัคเคอเบิร์ก 2 ที่ได้รับการรับรองถูกต้อง
กา่รฟ้องร้องนี้มาจากที่นาย มาร์ค ซัคเคอเบิร์ก 2 ได้ทำธุรกิจที่อาจเข้าข่าย ฝ่าฝืนเงื่อนไขการให้บริการของระบบเครือข่ายทางสังคม นั่นคือ หนุ่มนักลงทุนชาวอิสราเอลผู้นี้ได้เปิดธุรกิจที่ชื่อว่า Like Store ทำธุรกิจขาย Like หรือปุ่มกด "ชอบ" ให้กับเพจสินค้าที่มาสร้างแบรนด์บนเฟซบุค
ธุรกิจนี้ก็แสนจะพิสดาร เพราะเปิดขายจำนวนไลค์ (Like) ในแฟนเพจแบรนด์สินค้าต่างๆบนเฟซบุค รวมไปถึงเปิดขายจำนวนคลิกที่เข้าไปเยี่ยมชมคลิป และปุ่มกดชอบในยูทูปด้วยเช่นกัน กระทั่งถึงกูเกิ้ลพลัสก็มีให้ซื้อด้วย ซึ่งหากมีการกดไลค์ (Like) มากหรือคลิกมากก็เท่ากับเพิ่มความนิยมบนเสิรช์เอนจิ้นในกูเกิ้ล ทำให้มีโอกาสที่ผู้คนจะเห็นชื่อแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์นั้นๆในทางอ้อมมากขึ้น หรือกรณียูทูปคือการปรากฎคลิปนั้นบนตารางโชว์คลิปยอดนิยมในยูทูปได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นลักษณะการโฆษณาทางอ้อมในโลกการตลาดออนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยม
นาย มาร์ค ซัคเคอเบิร์ก 2 ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทการตลาดออนไลนท์ทางเครือข่ายสังคมที่ชื่อ Like Store โดยธุรกิจของเขามีคำโฆษณาที่ว่า "คุณเศร้าใช่มั้ยที่ไม่มีใครเข้ามาดูเฟซบุคเพจของคุณ?" หรือ "เราต้องการ 1,000 ไลค์ใช่ไหม? หรือข้อความโฆษณาที่ว่า "เราจัดให้คุณได้ ต้องการ 5,000 การกดไลค์หรือไม่?" ฯลฯ ที่เป็นการตลาดออนไลน์ในเรื่องการคลิก "ไลค์" (Like) บนเฟซบุคเพจ
ซัคเคอเบิร์ก 2 ยิ้มร่าโชว์บัตรประชาชนชื่อใหม่
ทั้งนี้นายมาร์คซัคเคอเบิร์ก2 ยังได้เปิดเว็บไซด์ที่ชื่อ MarkZuckerbergOfficial.com ในเว็บไซด์ดังกล่าวได้ระบุถึงการที่เขายื่นฟ้องทางเฟซบุ๊กตั้งแต่เมื่อเดือน มกราคมพ.ศ.2554หลังจากเครือข่ายสังคมออนไลน์แห่งนี้ปฏิเสธการเข้าถึงข้อมูล ส่วนตนของเขา(Profile)ซึ่งถูกปิดลงไป
อย่างไรก็ตามทางเฟซบุ๊กได้พยายามจะจัดการเรื่องดังกล่าง โดยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัทกฎหมายที่เป็นตัวแทนดำเนินการทางกฎหมายให้กับทาง เฟซบุ๊กได้ขู่จะฟ้องนายซัคเคอเบิร์ก 2 และระบุว่า ธุรกิจขายปุ่มไลค์ หรือ Like Store ของเขาเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขการให้บริการของระบบเครือข่ายทางสังคม โดยการมาเปิดกิจการซื้อขายแฟนคลับแบรนด์เพจ โดยคำขู่จากบริษัทกฎหมายนี้ต้องการให้ Like Store ปิดบริษัท และ ยื่นคำขาดให้นาย Rotem Guez ไม่หวนเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเครือข่ายทางสังคมด้วยเหตุผลใดอีก
ขณะที่เรื่องราวทางกฎหมายยังอยู่ระหว่างการยื่นคำขาดนั้นปรากฎว่าเมื่อเร็วๆนี้ หนุ่มนักลงทุนชาวอิสราเอลผู้นี้เพิ่งจะไปเปลี่ยนชื่อเป็น มาร์ค ซัคเคอเบิร์ก เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีหลักฐานตั้งแต่คลิปการติดต่อทำเรื่องขอเปลี่ยนชื่อกับกระทรวงมหาดไทย(อิสราเอล) รวมทั้งหลักฐานเอกสารที่เป็นบัตรประชาชน และพาสปอร์ตที่เปลี่ยนชื่อเป็น มาร์ค ซัคเคอเบิร์กเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางเฟซบุ๊กได้ส่งเอกสารเตือนอีกครั้งในการทำธุรกิจ LikeStore ซึ่งทางเฟซบุ๊กได้ทราบรายละเอียดที่นาย Rotem Guez เปลี่ยนชื่อเป็นชื่อ มาร์ค ซัคเคอเบิร์ก แล้วเช่นกัน
ทำให้เรื่องดูอลหม่านมากขึ้นเมื่อ เฟซบุคจะทำการฟ้องร้องชายคนหนึ่งที่ชื่อเดียวกับผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก... !?!
Create Date : 25 ธันวาคม 2554 |
Last Update : 25 ธันวาคม 2554 18:11:00 น. |
|
0 comments
|
Counter : 705 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|