|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
โชเน็น อนเมียวจิ จอมเวทปราบมาร - หลานชายของเซย์เมย์
เรื่อง โชเน็น อนเมียวจิ จอมเวทปราบมาร โดย มิตสึรุ ยูคิ (Miysuru Yuki) ภาพโดย ซากุระ อาซางิ (Sakura Asagi) แปลโดย กนกวรรณ อภินันธนาสกุล
ปกติ จขบ. ชอบเรื่องสมัยเฮอันและเรื่องปราบผีปีศาจอยู่แล้ว ทำให้ถูกโฉลกกับเรื่องของอนเมียวจิอยู่มาก เรื่อชุดนี้ก็เป็นไลท์โนเวลที่อ่านง่ายสบายๆ แต่ท่ีอ่านไปยังไม่ได้ประทับใจอะไรมากมายนะคะ และมีข้อสงสัยว่าเวลาอ่านเรื่องสมัยนี้ มักเห็นคำเชื่อม โนะ ระหว่างชื่อสกุลด้วย คือรู้สึกว่ามีแล้วดูไฮโซขึ้นเยอะเลยค่ะ ^-^
[27/12/16] ใช้เล่ม 3-6 ตอบ ภารกิจพิชิตกองดอง #21 นะคะ
--- MAJOR SPOILER ALERT ---
ล่าเงามรณะ อนเมียวจิมีหน้าปราบปีศาจ ดูดาว และสร้างปฏิทิน โดยมหาอนเมียวจิอันดับหนึ่งแห่งยุคคือ อาเบะ เซย์เมย์ ที่ประจำกองมหาดเล็กและอายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว เซย์เมย์กับภรรยา วากานะ ที่เสียไปแล้วมีลูกชายสองคนที่เป็นอนเมียวจิคือ โยชิฮิระ และ โยชิมาสะ ซึ่งคนน้องก็แต่งงานกับ ซึยุกิ และมีลูกชายสามคนคือ นาริจิกะ, มาซาจิกะ และ มาซาฮิโระ มาซาฮิโระที่ติดปู่มากตอนเด็กได้ถูกฝึกวิชาอนเมียวจิแต่เล็ก มีอสูรขนาดแมวที่น่ารักแต่ปากเสีย มกคุง (ย่อจากโมโนโนเคะที่หมายถึงวิญญาณร้าย) คอยตามดูแล ทั้งที่ตัวจริงคืออเทพบริวาร กุเรน หนึ่งในสิบสองเทพนักรบบริวาณของเซย์เมย์ผู้มีฉายาขุนพลแห่งเพลิงพระกาฬ โทดะ ที่มีปัญหากับเทพนักรบคนอื่นเพราะเคยทำร้ายเซย์เมย์ก่อนเข้าสังกัด มาซาฮิโระที่พอมีฝีมือปราบปีศาจอยู่บ้างมักไม่ค่อยพอใจที่ใครต่อใครชอบเรียกว่า 'หลานคนสุดท้องชองเซย์เมย์คนนั้น' โดยที่ไม่ได้สังเกตว่าแท้จริงเป็นความคาดหวังที่ญาติคนอื่นไม่ได้รับ
โดยเทพนักรบของเซย์เมย์อื่นคือ เซย์ริว ขุนพลไม้และเทพแห่งความโชคดี, ไทโจ, ไทอิน เทพวายุ, เทนโค ขุนพลวารี, เกมบุ ใช้ร่างเด็กชาย, สุซากุ ขุนพลแห่งเพลิงกาฬ, ริคุโก ขุนพลไม้ เทพแห่งความชื่นชมยินดี คอยปกป้องร่างเซย์เมย์, เทนอิทสึ ใช้ร่างสาวสวยบอบบางและสามารถรักษาด้วยการรับบาดแผลเข้าร่างตน ฯลฯ
ในปี 995 มาซาฮิโระมีอายุครบสิบสามปีก็ได้ทำพิธีนิติภาวะ โดยมี ฟุจิวาระ ยูกินาริ เจ้ากรมทหารและหัวหน้ามหาดเล็กหลวงเป็นผู้สวมหมวกให้มาซาฮิโระ และจะช่วยสนับสนุนให้ก้าวหน้าต่อไปในการทำงานที่กรมอนเมียวในพระบรมมหาราชวัง โยชิมาสะยังได้พามาซาฮิโระไปฝากตัวกับมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย ฟุจิวาระ มิจินางะ ที่คฤหาสน์ฮิงาชิซังโจ ทำให้มาซาฮิโระได้พบท่านหญิงที่หนึ่ง อากิโกะ ด้วย เมื่อตำหนักเซย์เรียวไฟไหม้ มาซาฮิโระก็สังเกตเห็นไอปีศาจและช่วยอากิโกะจากอสูร ทั้งยังตามไปที่คฤหาสน์ร้างจนเจอ คิวคิ อสูรโบราณจากจีน เมื่อรับมือไม่ไหวเซย์เมย์จึงต้องถอดวิญญาณมาช่วย
[27/12/16] สลายผนึกจองจำ คิวคิที่ได้รับบาดเจ็บซ้ำจากครั้งแรกที่โดนจอมอสูรเก้าหางไล่จากดินแดนของราชวงศ์ซ่งต้องการกัดกินร่างที่ดวงวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งอากิโกะที่มีชะตามเหสีแของโอรสวรรค์ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม พวกลูกน้องเลยสิงร่างลูกพี่ลูกน้อง หาทางหลอกออกจากคฤหาสน์ และจับตัวมาจะสังเวยที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์คิฟุเนะทางทิศเหนือของเมืองหลวงอันเป็นที่ประทับของเทพมังกรแห่งวารี ทากาโอกามิ มาซาฮิโระกับมกคุงตามไปช่วย ต้องใช้กำลังเทพนักรบอื่นและเซย์เมย์ช่วยด้วย กำจัดลูกน้องคิวคิ ช่วยอากิโกะและปลดปล่อยเทพวารีที่ถูกคิวคิจองจำออกมาได้ แต่ตัวคิวคิก็ยังรักษาตัวอยู่ในภูเขา เทพวารีจึงต้องจากภูเขาไปก่อน ส่วนมาซาฮิโระก็ได้รับการยอมรับจากเทพนักรบมากขึ้นในฐานะผู้สืบทอดของเซย์เมย์
[18/01/17] ทลายกระจกวารี เทพทากาโอกามิถูกใจมาซาฮิโระและสามารถประทับร่างได้สมบูรณ์ระหว่างบอกว่าพวกคิวคิได้จากคิฟุเนะไปแล้ว แต่ในเมืองหลวงก็เกิดเรื่องเทพลักซ่อน เขตอาคมที่ปกป้องอากิโกะก็เปราะบางลงมากและอากิโกะถูกคำสาปของคิวคิ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่เพราะมิจินางะเตรียมส่งอาคิโกะซึ่งจะเข้าพิธีบรรลุนิติภาวะเมื่ออายุสิบสองเข้าวังเป็นสนมเรือนฟุจิอย่างด่วนเพื่อชิงอำนาจในวังหลังกับหลานอาคือพระมเหสี ซาดาโกะ ที่ตั้งครรภ์ คิวคิซ่อนตัวในกระจกวารีและออกมาลากคนไปกิน ที่ต้องการคือผู้มีพลังอย่างมาซาฮิโระและอาคิโกะ มาซาฮิโระที่ก็โดนคำสาปที่กัดกินชีวิตจึงต้องหาทางจัดการคิวคิซ่อนตัวในกระจกวารีด้วยดาบปราบมารของเซย์เมย์อย่างอกหัก ทั้งคู่โดนคำสาปที่กัดกินชีวิตทำให้ชะตาของอาคิโกะเปลี่ยนแปลง มิจินางะแอบสลับตัวลูกสาวที่เข้าวังเป็นลูกภรรยาน้อย โชโกะ ที่อายุเท่ากันและหน้าเหมือนกัน และส่งอาคิโกะมาอาศัยกับเซย์เมย์ในฐานะญาติห่างๆ เพื่อรักษาตัว
[04/07/17] ปราบวิญญาณพยาบาท มาซาฮิโระที่ได้รับการยอมรับจากเทพนักรบมากขึ้นก็เสียพลังมากไปในตอนที่แล้วจนต้องหยุดงานพักฟื้น รุ่นที่ ฟุจิวาระ โทชิซึงะ ที่ไม่มีพรสวรรค์แต่ฝึกฝนจนเป็นที่หนึ่งในรุ่นเยาว์รู้สึกว่ามาซาฮิโระใช้เส้นครอบครัว แถมโทชิซึงะเคยเห็นมาซาฮิโระลาดตระเวนตอนกลางคืนทำให้นึกว่าไปหาสาวทั้งที่ควรพักอยู่บ้าน เลยยิ่งเขม่นใหญ่ พอดีวิญญาณแค้นที่เพิ่งถูกปลุกขึ้นมาไปทำร้ายยูกินาริ โทชิซึงะที่ไปร่ายเวทช่วยเบื้องต้นก็ถูกสิง ทำให้มาซาฮิโระปะทะกับนักเวทหญิง คาซาเนะ
[04/07/17] ปลดปล่อยวิญญาณหลงทาง ตอนที่คาซาเนะใช้เวทเลือดงูคืนวิญญาณปลุกวิญญาณแค้นได้เผลอปล่อยจิตของทหารที่ถูกส่งไปชายแดนเมื่อร้อยกว่าปีก่อนและตายก่อนได้กลับบ้าน วิญญาณมีความปรารถนาอันแรงกล้าจึงเดินทางกลับเมืองหลวงโดยมีขบวนปีศาจราตรีพิสดารที่เป็นเมือกเพราะเป็นอสุรกายจากไอพิษของยมโลกไล่ตามกัดกิน ตอนนี้เซย์เมย์ได้ช่วยชีวิตคาซาเนะมีความเกี่ยวข้องกับเพื่อนสนิท เอโนคิ ริวไซ ที่กลายเป็นศัตรูเมื่อห้าสิบปีก่อน
[04/07/17]
สยบไอพิษจากยมโลก คาซาเนะอาศัยการประสูติของพระโอรส อัตสึยาสึ ของพระมเหสีซาดาโกะมายุยงให้พระราชธิดา นางาโกะ เปิดหลุมพิษของยมโลกอย่างไม่รู้ตัว ทำให้พระจักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์ป่วยหนักเหมือนกับเมื่อห้าสิบปีที่แล้ว ตอนนั้นเทพเข้าฝันเซย์เมย์ให้เดินทางไปทิศตะวันตกโดยเพื่อนสนิทคือริวไซที่เก่งด้านเวทควบคุมจิตใจตามไปด้วย ทั้งสองได้เข้าสู่ดินแดนระหว่างสวรรค์และโลกมนุษย์ที่มีลมหายใจของเทพสถิตอยู่และได้พบกับมิโกะและภรรยาของเทพ จิงาเอชิ ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องผนึกยมโลกที่สถิตในศิลาจิบิกิ ริวไซหลงรักมิโกะและต้องการพาออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เจ้าอาวาสจิชิกิ ที่ตั้งตนเป็นเจ้าลัทธิก็หลอกว่าถ้าริวไซเป็นราชันครองสรวงสวรรค์และบงการผืนปฐพี มิโกะก็จะรักและติดตาม ริวไซรับพลังจากเจ้าลัทกุเรน ทำเรื่องเลวร้ายซึ่งรวมถึงการควบคุมกุเรนจนเกือบฆ่าเซย์เมย์ สุดท้ายกุเรนฆ่าริวไซอันเป็นการละเมิดข้อห้ามของเทพนักรบและเป็นตราบาปของกุเรนมาตลอด ในคราวนี้เจ้าลัทธิใช้คาซาเนะหลอกนางาโกะ ควบคุมกุเรนให้ทำร้ายมาซาฮิโระจนบาดเจ็บสาหัส และยังพาตัวกุเรนไป
[05/07/17] สังหารเดนอสูร มาซาฮิโระอาศัยงานที่ให้ติดตามพี่นาริจิกะเป็นการบังหน้าเดินทางไปไปอิซึโมะเพื่อปกป้องผนึกแห่งยมโลก นับเป็นจุดจบของเรื่องเจ้าอาวาสจิชิกิที่จะเอาเลือดกุเรนมาปลดผนึก ถึงตอนนี้วิญญาณของโทดะถูกไอพิษกลืนกินไปแล้ว กุเรนจะไม่กลับมาอีก และถ้าตายไปวิญญาณก็จะหายไปด้วย เทพทากาโอกามิได้ให้ทางเลือกมาซาฮิโระคือหนีไม่รับรู้หรือจะรับพลังสังหารเทพ ...
[05/07/17] ที่มา [1] Yuki Mitsuru (Asagi Sakura ภาพ, กนกวรรณ อภินันธนาสกุล แปล). โชเน็น อนเมียวจิ จอมเวทปราบมาร 1 ตอนล่าเงามรณะ (Shonen Onmyoji Iho no Kage wo Sagasidase). จี-พลัส บุ๊คส์, 248 หน้า, 2556. [2] Yuki Mitsuru (Asagi Sakura ภาพ, กนกวรรณ อภินันธนาสกุล แปล). โชเน็น อนเมียวจิ จอมเวทปราบมาร 2 ตอนสลายผนึกจองจำ (Shonen Onmyoji Yami no Jubaku wo Uchikudake). จี-พลัส บุ๊คส์, 294 หน้า, 2557 (ต้นฉบับ 2002). [3] Yuki Mitsuru (Asagi Sakura ภาพ, กนกวรรณ อภินันธนาสกุล แปล). โชเน็น อนเมียวจิ จอมเวทปราบมาร 3 ทลายกระจกวารี (Shonen Onmyoji Kagami no Ori wo Tsukiyabure). จี-พลัส บุ๊คส์, 294 หน้า, 2557 (ต้นฉบับ 2002). [4] Yuki Mitsuru (Asagi Sakura ภาพ, กนกวรรณ อภินันธนาสกุล แปล). โชเน็น อนเมียวจิ จอมเวทปราบมาร 4 ปราบวิญญาณพยาบาท (Shonen Onmyoji Magatsu Kusari wo Tokihanate). จี-พลัส บุ๊คส์, 294 หน้า, 2557 (ต้นฉบับ 2002). [5] Yuki Mitsuru (Asagi Sakura ภาพ, กนกวรรณ อภินันธนาสกุล แปล). โชเน็น อนเมียวจิ จอมเวทปราบมาร 5 ปลดปล่อยวิญญาณหลงทาง (Shonen Onmyoji Rikka ni Dakarete Nemure). จี-พลัส บุ๊คส์, 251 หน้า, 2558 (ต้นฉบับ 2003). [6] Yuki Mitsuru (Asagi Sakura ภาพ, กนกวรรณ อภินันธนาสกุล แปล). โชเน็น อนเมียวจิ จอมเวทปราบมาร 6 สยบไอพิษจากยมโลก (Shonen Onmyoji Yomi ni Izanau Kaze wo Oe). จี-พลัส บุ๊คส์, 250 หน้า, 2558 (ต้นฉบับ 2003). [7] Yuki Mitsuru (Asagi Sakura ภาพ, กนกวรรณ อภินันธนาสกุล แปล). โชเน็น อนเมียวจิ จอมเวทปราบมาร 7 สังหารเดนอสูร (Shonen Onmyoji Honoo no Yaiba wo Togisumase). จี-พลัส บุ๊คส์, 269 หน้า, 2559 (ต้นฉบับ 2003).
Create Date : 27 ธันวาคม 2559 |
Last Update : 2 มกราคม 2561 8:02:42 น. |
|
0 comments
|
Counter : 4878 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|