Best in Me...Be Myself
Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
9 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
BKK Flight: 80 ชั่วโมงก็ยังไม่พอ

กลับมาแล้ว หลังจากที่หนีออกจากเมืองแขกไปสี่วัน ไปทำไฟลท์กรุงเทพมา โชคดีมากมากที่ไปขอแลกไฟลท์นี้มาได้เพราะได้ไปอยู่ที่ กรุงเทพตั้ง 80 ชั่วโมงไม่ต้องบินต่อไปที่ไหนอีก คืนก่อนไปบินก็ดันตื่นเต้นเกินขนาด ตื่นขึ้นมาเกือบทุกชั่วโมงเพราะกลัวว่าจะนอนยาวไม่ยอมตื่น เดี๋ยวไปไม่ทันตกเครื่อง อดกลับบ้านร้องไห้ตายแน่แน่

วันนี้ได้มีประตูเป็นของตัวเองแต่เนื่องจากเป็นจูเนียร์สุด (เฉพาะอายุงานนะ เพราะถ้าอายุจริงและอายุหน้าก็เบียดไปอยู่ต้นๆแร้วววว ) เลยได้เลือกตำแหน่งเป็นคนสุดท้าย หรือเรียกอีกอย่างว่าไม่ได้เลือกเลยต่างหาก เพราะเค้าเลือกกันไปหมดแล้ว ก็เหลือ R2 เอาไว้ให้เราทำแต่โชคดีมากมากเพราะได้ทำคู่กับพี่พงศ์เป็นคนไทย ทำอยู่ business class มีไรก็ถามพี่เค้า เว้าไทยกันโล้ดดด แต่ก็ไม่มีเวลาได้คุยกันหรอกเพราะไฟลท์นี้ผู้โดยสารเต็มค่ะ ไม่มีที่ว่างเหลือให้ได้หายใจหายคอกันเลย แล้วตวามยุ่งยากก็บังเกิดตั้งแต่ boarding ผู้โดยสารกันเลยทีเดียว ก็พี่ฝรั่งท่านหนึ่งเกิดไม่พออกพอใจที่นั่งของตัวเอง พยายามดิ้นรนจะหาที่นั่งเปลี่ยนให้ได้ เดินมาถามเราว่าอยากได้ที่กว้างกว่านี้แบบว่าตรงแถวๆ exit area พอเราเหลียวไปคุยกะพี่ท่านก็ถึงบางอ้อ ก็อ่ะนะตัวตุ้มต๊ะตุ้มตุ้ยเชียว แต่เพราะว่าไฟลท์นี้มันเต็มจริงๆ ก็เลยบอกว่าให้นั่งไปก่อน แล้วถ้า take off เสร็จจะหาที่นั่งให้นะค้า ทีนี้พอ takeoff เสร็จปุ๊บ (มัน)ก็ลุกเดินหาที่สถิตย์ปั๊บ ลูกเรือสามสี่คนก็มาวุ่นวายกับการหาที่ ขอแลกที่ให้ (มัน) เนี่ยแหละ พอไม่มีที่ (มัน) ก็ประท้วงด้วยการไม่ยอมกลับไปนั่งที่ ยืนตัวอ้วนหัวโด่ขวางทางอยู่อย่างงั้นจน SFS ทนไม่ได้ต้องเข้ามาจัดการเองซะเลย

พอมาถึง service ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ด้วยดีจนมาถึง bar cart ผู้โดยสารขอ Gin ผสมโค้ก ยืนนิ่งคิดไป 3 วิ ว่าเอ๊ะ มันขวดไหนกันหว่า ว่าแล้วก็ก้มลงค้นค้นกุกกักอยู่ตรงนั้นแล้วก็หยิบออกมา 1 ขวด "This one, sir?" ผู้โดยสารบอกว่าไม่ใช่ เอาแล้วตู อันไหนล่ะเนี่ย หา หา หาเข้าไป เอาใหม่ "This one??" ยังไม่ใช่อีก เอ้า อีกรอบแล้วกันจนรอบที่สามถึงจะใช่ ตอนวางเครื่องดื่มให้ ผู้โดยสารก็อมยิ้มแล้วมองหน้าเรา แหม อยากจะขำออกมาล่ะสิรู้นะยะ ก็มือใหม่นี่หว่ายังไม่คล่องโว๊ยยย

หลังจาก service จบก็คิดว่าคงไม่มีอะไรแต่ก็ดั๊นมีผู้โดยสารเมาในโซนที่เรารับผิดชอบอีก เซ็ง..... แต่ Purser กะ SFS ก็มาจัดการให้ รอดไปตรู แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้นสิ ระหว่างที่กำลัง landing ทุกคนต้องคาด seat belt แต่แล้ว hatrack (ที่เก็บกระเป๋าด้านบน) มันเปิดออกมาแล้วของที่อยู่ในนั้นก็ทำท่าจะหล่นลงมา ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ก็มองหน้าเราแล้วก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แต่เรานี่สินั่งไม่ติดแล้ว รู้สึกว่ามันต้องเป็นสิ ถ้าเกิดของมันหล่นมาโดนผู้โดยสารยังไงตรูก็ต้องโดนด่าแน่เพราะมันเป็นพื้นที่ที่เราดูแล เอาไงดี พอดีเห็นว่าล้อแตะรันเวย์แล้วด้วยก็เลยลุกพรวดไปปิด hatrack เสร็จแล้วก็รีบวิ่งกลับมาที่ jumpseat ระหว่างทางที่วิ่งกลับก็ปะทะสายตากับ Purser อย่างจัง ในใจคิดว่าตายแน่เลยกู แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น


Purser: เธอทำอะไรลงไปน่ะ
เรา: ชั้นจะไปปิด hatrack น่ะ มันเปิดลงมา
Purser: ไม่รู้เหรอว่ามันอันตรายมาก โดยเฉพาะช่วงที่กำลัง landing บลา บลา บลา @%!!#&@!!!
เรา: ขอโทษ พอดีไฟลท์นี้เป็นไฟลท์แรกน่ะ เลยยังทำอะไรไม่ค่อยถูก (ไม่รู้จะแก้ตัวอะไร เอาเรื่องทำงานไฟลท์แรกมาอ้างดีกว่า อิอิ
Purser: (เงียบ) อ้าว ไฟลท์แรกเหรอ อือ อือ เดี๋ยวชั้นจะคุยกะเธอทีหลังแล้วกัน

รอดตัวไปหวุดหวิด เกือบไปแล้ว พอเครื่องจอดก็นั่งรถไปโรงแรม ไปถึงก็เซ็นต์ชื่อรับเงิน (แล้วก็ใช้หมดแล้วในเวลาสามวันต่อมา) เค้าก็นัดกันจะไปเที่ยวพัฒน์พงศ์ (มันไม่กลัวระเบิดกันเลยนะเนี่ย) อิชั้นก็ขอตัวค่ะ ไม่อยากเจอหน้า Purser เดี๋ยว he เกิดจำได้ขึ้นมา เลยรีบเอากระเป๋าไปเก็บห้อง เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็กลับบ้านโล้ดดด ไปถึงก็ออกไปกิน MK สุกี้ก่อนเลย ไม่หิวนะแต่อยากกิน เป็ดย่าง หมูนุ่ม เต้าหู้ปลา ลูกชิ้นสาหร่าย เกี๊ยวกุ้ง หมี่หยก หมูทรงเครื่อง สั่งแหลก แล้วกินหมดด้วยนะกินกันแค่ 2 คน

วันรุ่งขึ้นก็ไปตระเวณซื้อของเพื่อขนกลับดูไบทั้งของตัวเองและของ(เพื่อน)ฝาก ไปห้างคนก็น้อยเชียว กลัวระเบิดกันหมดแต่เราก็ไม่สนไปนั่งกินบาร์บีคิวอย่างเอร็ดอร่อย อิ่มแปร้ วันต่อมาก็ไปเยี่ยมเยียนพี่ๆเพื่อนๆที่ทำงานเก่า ตกเย็นก็ไปกินซีฟู้ดต่อกะเพื่อน โอ๊ยยย อยากกินมากน้ำจิ้มแซ่บแซ่บ นั่งพิมพ์ไปก็ยังอยากกินอีกเลยนะเนี่ย สั่งกันมาประหนึ่งอดยากกันทั้งกลุ่ม ระหว่างกินข้าว โทรศัพท์เพื่อนๆก็ดังกันเรื่อยๆเรื่องเกี่ยวกับปฏิวัติเนี่ยแหละ ข่าวลือนี่ว่อนไปหมด อารมณ์เสีย เสียอรรถรสในการกินจริงๆ

พอกินเสร็จแบบปลิ้นกันไปข้างแล้ว ก็ไปต่อกันที่บ้านฝ้ายและทำกิจกรรมที่พวกเราคุ้นเคยเป็นอย่างดี


ตั้งวงเล่นไพ่ ไม่มีคำว่าเพื่อนในวงไพ่ กินเงินได้เป็นกิน ฮาฮาฮา


นังเอ้ป๊อก 9 เด้งทำมาเป็นอวด



ถึงจะไม่ป๊อกเด้ง แต่คืนนั้นก็รวยกลับมาหลายร้อยอยู่ อิอิ กินเงินเพื่อนนี่มีความสุขจัง

เฮ้อ.... แล้วก็ถึงวันที่ต้องกลับ แอบงอแงไม่อยากกลับมาดูไบแล้วอ่ะ ยังมีอะไรอีกตั้งเยอะที่อยากทำ อยากไป อยากกิน อยากอยู่กะที่บ้านนานกว่านี้ อยากไปหมด เลยโดนอั๋นดุเลยว่าเราตัดสินใจเลือกที่จะมาทำงานนี้เอง ทำไมไม่อดทน ง่ะ ไอ้แฟนบ้า แต่มันก็จริงอย่างที่อั๋นพูดแหละ ก็เลือกเองแล้วนี่ อุตส่าห์ทิ้งงานดีดีที่สถานฑูต มาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองแทน เฮ้อออ อดทนหน่อยโว๊ยยยย

ต้องทำไฟล์ทกลับตีสาม เราตื่นมาตั้งแต่ 7 โมงเช้าแล้วก็ตะลอนไปเที่ยวไปกินทั้งวัน ไม่ได้นอนก่อนไปบินเลย พอทำงานบนเครื่องก็ยังดีอยู่ แต่พอผู้โดยสารหลับหมด เริ่มว่างไม่มีไรทำ ขนาดเดินออกไปเสริฟ์น้ำ เดินเข้าเดินออกเป็นสิบรอบ เก็บแกลลี่ เคลียร์ของทุกอย่างก็แล้ว จนไม่รู้จะทำอะไรแล้ว พอนั่งเท่านั้นตาเริ่มย้อยปิดกันซะงั้น หลับคา jumpseat เลยตรู
ก็ง่วงจริงๆนี่หว่า แล้วไฟลท์ขากลับผู้โดยสารก็ดีไม่เรื่องมากเหมือนตอนขาไป ให้ไรก็กิน อาหารมี omelette 80% กะ chicken แค่ 20% พอบอกว่ามีแต่ omelette ก็ยอมกินแต่โดยดีไม่มีขออย่างอื่นให้เราปวดหัว

พอเครื่องจอดแล้ว ตอนลากกระเป๋าไปขึ้นรถกับลากกลับมาที่ห้องนี่มือแทบพัง ยัดของมาจนกระเป๋าเดินทางแทบปริ ก็ขนกลับมาซะตั้ง 27 กิโล หนักโคตรรรร ตอนขาไปกระเป๋าไม่มีไรเลยโล่งมากกกก เตรียมพร้อมสำหรับขนของกลับมาอย่างเดียว นี่ก็ได้มาม่ากลับมาต่อชีวิตเวลาไป layover ที่อื่นตั้ง 4 แพค กินกันให้หัวล้านกันเลยทีเดียว

เดือนนี้ไม่มีไฟลท์ กทม. แล้ว รอไปลุ้นเดือนหน้าอย่างเดียว จริงๆมีคนเอา กทม.-ฮ่องกงมาแลกสองไฟลท์ติดกันตอนสิ้นเดือน แต่ว่ามาขอแลกช้าไปแค่แป๊บเดียว เพราะเราดันแลกกะกิ๊ฟท์เพื่อนคนไทยไปก่อนแล้ว แฟนเค้าจะมาหา เลยอยากได้วันหยุดไว้อยู่กะแฟน อิจฉาจัง
แต่แลกให้เพื่อนดีกว่าไปแลกกะใครที่เราไม่รู้จักเน๊อะ แล้วไฟลท์ที่แลกมาก็จะได้ไปบินกะเพื่อนที่เทรนมาด้วยกันด้วย ดีดี จะได้ออกไปเที่ยวด้วยกัน

P.S. 1 เพิ่งเช็ควันที่จะมีแข่ง Dubai Tennis Championships ดั๊นมาเริ่มแข่งวันที่เราลาพักร้อนกลับบ้านพอดีเป๊ะๆ ทั้งวันไปและกลับ 19 กุมภา - 3 มีนา สงสัยต้องกลับไปดูทีวีที่บ้านแทน อุตส่าห์ตั้งใจไว้ตั้งแต่มาว่ายังไงก็จะไปดูแข่งเทนนิส เลยต้องไปดุปีหน้าแทนเลย เซ็ง อารมณ์เสีย


ส่งท้ายด้วยรูปสองแม่-ลูก ไปนอนอืดพักผ่อนกันอยู่ที่โรงแรมหลังจากกระหน่ำช้อปปิ้ง
ทั่วกรุง อิอิ


P.S. 2 พรุ่งนี้มีบินไป Trivandrum, India ดีจังเป็นไฟลท์สั้น แล้วจะได้กลับมาอยู่บ้านอีกสองวัน


Create Date : 09 มกราคม 2550
Last Update : 9 มกราคม 2550 23:37:20 น. 8 comments
Counter : 2680 Pageviews.

 
ชอบจังเลยค่ะภาพสุดท้าย
สองสวย ต่างวัย


โดย: YGHarding (YGHarding ) วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:5:11:09 น.  

 
เด้งทั้งไพ่ เด้งทั้งคนนะเนี่ย


โดย: Suri.S วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:19:40:19 น.  

 
โหย เพิ่งรู้ว่าโอ๋เคยทำงานสถานทูตเชียวรึ หรูหราจริง ขอให้ได้กลับเมืองไทยมาหาแฟนหาเพื่อนและหาเงินจากวงไพ่อีกบ่อย ๆ นะจ๊ะ อิอิ


โดย: white fox IP: 61.90.151.247 วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:14:13:39 น.  

 
มาตอบอีกอัน เพิ่มเติม ๆ ผ่านแล้วนะรอบสอง รอบสอง เย้


โดย: white fox (ลยา ) วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:10:41:35 น.  

 
รีบกลับมาทำ Thesis ได้แย้ว


โดย: Year Year IP: 58.64.108.152 วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:22:04:27 น.  

 
มาแวะทักทายค่ะ


โดย: เสลาสีม่วง IP: 58.8.167.205 วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:23:16:18 น.  

 
ต้องเรียกตำรวจมาจับ หลักฐานมีพร้อม ไพ่เต็มมือ เงินเต็มวงไพ่ อยากรอดจากตาราง เอาค่าปิดปากมาด่วน


โดย: YuiEK IP: 213.42.21.82 วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:23:29:31 น.  

 
อันตรายมากเลยหล่ะครับ

ยืนบนรถเมล์ เวลาเบรคแทบจะกระเด็นไปข้างหน้า คิดดูเครื่องบินถ้าเบรค นู่นลอยข้ามบิซิเนสคลาสไปถึงห้องกัปตันเลย

ระวังครับ

ขยันทำงานนะ เก็บตังค์เยอะๆ ฮิฮิ


โดย: kimpu (Kimpu ) วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:19:25:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

JA_AO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Just Follow my dream, catch up my inspire and now please keep discovering with me...
myspace codes
Click here for Myspace glitter graphics and Myspace layouts
Friends' blogs
[Add JA_AO's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.