Episode เด็กบ้านนอก ตอน การเลือกที่พัก และ การเตรียมตัวเบื้องต้นในเมกา

สวัสดีครับ สมาชิกชาวไกลบ้านทุกท่าน
หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างดี กับ กระทู้ คำศัพท์เด็กแนว
ที่นำมา Update ให้ พี่ป้า น้า อา และหนูๆ ได้ In trend

วันนี้ ผมก็นึกได้ว่า เด็กบ้านนอกยังไม่ได้เขียนเรื่องที่สำคัญเรื่องนึง
คือเรื่องการหาที่พักนั่นเอง
ยิ่งมาเดี่ยวๆ แบบผม ลองผิดลองถูกมาแล้ว
เรียกว่า อาบน้ำร้อนมาก่อน
(ไม่ได้อาบในอ่างหรอกนะครับ
ถ้าอยากทราบเรื่องอาบในอ่างคงต้องปรีกษาท่าน Thai joe ครับ อิอิ)
บอกก่อนนะครับ ว่า Episode นี้
แต่ก็เป็นเพียงแค่ประสบการณ์ที่ผมพบเจอเท่านั้นนะครับ
ไม่ใช่ บทสรุปตายตัว ว่าต้องเป็นอย่างที่ผมบอก

การมาเรียนที่เมกานี่ไม่เหมือนเมืองไทยนะครับ
ถ้ามาถึงที่นี่ โดยยังไม่มีที่พักนี่ เรื่องใหญ่ทีเดียว
เราต้องไปพักโรงแรมก่อน ซึ่งราคา ไม่ย่อมเยาว์เอาเสียเลย
ถ้าเป็นบ้านเรา ไปขอนอนวัดก็ได้ หรือไม่ก็ ไปนอนโรงแรมจิ้งหรีดได้
หรือ โรงแรมที่มีผ้าม่าน ยาวๆ เอารถเข้าไปจอดอ่ะ ไม่รู้เหมือนกันเขาเรียกว่าอะไรน๊าาา

ผมมาที่นี่ โดยเสื่อผืนหมอนใบ
ตอนแรกก็แจ้ง Advisor แล้วว่า จะมา และคาดว่า ท่านจะหาที่พักให้แล้ว
ปรากฏว่าไม่ครับ ท่านรอให้ผมมาเลือกเอง
รู้สึกว่า ฝรั่งเขาไม่ชอบไปกะเกณฑ์ หรือเป็นคนเลือกให้เรา
เขาจะรอให้เรามาดูและเลือกด้วยตัวเองครับ
เขา เคารพการตัดสินใจของเรา อือม์ จะว่าดีก็ดี
แต่ผมติดนิสัยทำไรมักจะปรึกษาผู้ใหญ่อ่ะ แต่ไม่เป็นไร งานนี้ต้องลองดู

สรุป ท่าน Advisor ผมก็เลยให้ผมนอนโรงแรมไปก่อนสามคืน
ซึ่งถ้าใครเป็นกรณีแบบผม ให้ Check ว่าโรงแรมใกล้ Universityมีอะไรบ้าง
จริงแล้วใน Web ของUniversity ที่เราจะไปนั่นล่ะ เขามักจะมีบอกไว้ครับ
และปกติการ จองที่พักทาง Internet ล่วงหน้า มักจะได้ราคาย่อมเยาว์กว่าการ Walk-In เข้าไปนะครับ
โรงแรมในดวงใจผมคือ Howard Johnson ครับ (//www.hojo.com)
ราคาไม่แพง และมี Promotion ดีๆ เช่นนอน สี่คืน แถมคืนนึง ต้อง Check ให้ดีครับ

เข้าเรื่องที่พักกันต่อ
แต่ผมเชื่อว่า หลายๆคนที่มา น่าจะหาที่พักล่วงหน้ากันได้แล้ว
แต่ไม่เป็น ไร ขอเขียนเป็น ประสบการณ์ครั้งแรก ของหนุ่มน้อยก็แล้วกัน
จริงแล้ว ที่พัก จะพอแบ่งได้ดังนี้ครับ
On Campus คือ พักในหอของ University
Off Campus คือการพักนอก University ซึ่งผมเองเป็น กรณีนี้ครับ

ความแตกต่างของสองอย่างนี้ก็คือ
On campus จะสะดวก และปลอดภัยกว่า Off Campus มาก
เหมาะกับคนเรียนหนัก ต้องเข้าออกห้องสมุดดึกดื่น(ปกติเปิด 24 ชั่วโมง)
จะสามารถ ไปมาระหว่าง ห้องสมุดกับที่พักได้สะดวก
และ มีความปลอดภัยสูง และมักจะมี สิ่งอำนวยความสะดวก และ Facilityต่างๆให้ใช้
ทั้ง Internet, โทรศัพท์, โทรทัศน์ Cableและอีกหลายอย่าง ซึ่งแน่นอนว่า
ถ้าไปพักข้างนอก(Off Campus) ต้องไปหาเพิ่มเติมเอาเอง นั่นคือค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาต่อเดือน
แต่ข้อเสียคือ ราคาค่าเช่าของ On Campus มักจะไม่ย่อมเยาว์เสียเลย
และการเช่าห้องพักที่ เมกา จะต้องมีเงินค่าประกันความเสียหายด้วย
แต่พวก On campus จะเก็บไม่แพง มหาลัยผม เก็บ 99 USDเท่านั้น
พอเราจะย้ายออกเขาก็คืนให้ครับ
และข้อเสียที่หลายคนอาจจะไม่ชอบ คือมักจะต้อง Share ห้องกับคนอื่น
หรืออาจจะห้องนอนแยกกันแต่ใช้ ห้องครัวและห้องรับแขกร่วมกัน
แต่ เขามักจะมีระบบจับคู่ Matching ให้นะครับ
คือให้เรากรอกแบบสอบถาม ประมาณว่า นอนดึกไหม
สูบบุหรี่ไหม เสียงดังไหม ทำอาหารบ่อยไหม หน้าตาดีไหม (อันนี้เติมเอง)

แหม ผมเองก็มารู้ทีหลัง ไม่งั้นจะยอมจ่ายแพงแล้ว
จะขอ Match กับสาว Japan ซะหน่อย
เห็นได้ข่าว หนุ่มไทย นี่ Spec สาว Japan อิอิ
ก็ อย่าให้เจอ ชาติที่ เราไม่ถนัดก็แล้วกันครับ ไม่เอ่ยนะครับว่าชาติไหนมั่ง
แต่ที่น่าจับคู่ด้วย ก็ Japan ครับ เพราะส่วนใหญ่มีนิสัยขี้เกรงใจ
เราจะได้ ระราน เอ๊ย! ถ้อยทีถ้อยอาศัย ปรับตัว อยู่กับเขาได้

เอาล่ะ เรามาดู คนที่อยู่นอกมหาลัย (Off Campus) ดีกว่า
Off Campus นี่ จะมีตัวเลือกหลากหลายมากๆ
ต้องพิจารณาข้อมูลดีๆ ปกติถ้าเป็นไปได้นะครับ
อยู่ On Campus ปีแรกก่อนก็ดี พอปีกกล้า ขามีแรง ก็ค่อย ร่อนไปหาที่พักข้างนอก
เอาที่มันใกล้ Super market ก็ดีนะครับ เพราะ ส่วนใหญ่มาเรียนมักจะไม่มีรถ
หรือ ที่พักที่ติด ริมแม่น้ำ วิวดีๆ แล้วแต่คนชอบ

คราวนี้ แหล่งข้อมูลของการหา ที่พักก็หาได้จาก Website ของมหาลัย
, หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ซึ่ง โดยส่วนใหญ่ เป็นนายหน้าเป็นคนจัดการ
เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังแล้วกันว่า เจออะไรมามั่ง

ที่พัก แบ่งออกเป็น สองกลุ่มใหญ่ๆ คือ
1. บ้าน แบ่งให้เช่า
อันนี้ ต้องดูเพื่อนบ้านดีๆนะครับ เป็นไปได้ให้อยู่ชั้นบนสุดดีที่สุด
เพราะ เสียงรบกวนจะน้อยกว่าอยู่ใต้ห้องคนอื่น
ดูระบบ Heater ด้วยนะครับ ถ้าเป็น Heater รวมล่ะ ห้องบนได้เปรียบ
เพราะ อากาศข้างบนจะอุ่นกว่า ข้างล่างเวลาหน้าหนาว

อีกเรื่องครับ บ้านฝรั่งชอบปูพรม เพราะหน้าหนาวมันจะอุ่น
แต่ ให้สังเกตดีๆว่า พรมเน่าแค่ไหน ถ้าไม่พอใจ บอกเขาซักหรือทำความสะอาดก่อนนะครับ
อย่าคิดว่าเข้าไปแล้วเขาจะทำให้ทีหลัง เสี่ยงเกินไป
และจะให้ดี ถามเขาเลยว่า No pet ไหม เพราะผมเจอมาแล้ว
คนเช่าเดิมเลี้ยงแมว แล้ว หมัดดูดเลือด(Flea) มันอยู่ที่พรม
อยู่มาสองสามวันถึงจะรู้เรื่องว่า เจอปัญหาซะแล้ว
หมัดดูดเลือด สามารถอยู่ที่พรม ได้นาน หกเดือนหรือเป็นปีได้โดยไม่กินอะไรนะครับ
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ จะให้ดี No pet ดีที่สุด
(ยังไงไปอ่านย้อนหลังใน Blog ผมนะครับ ซึ่ง ผมสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยคำแนะนำของ
ท่านพี่เลิศพิสิฐ ท่านคุณนายคลิค และอีกหลายท่าน ขอขอบพระคุณอีกครั้งครับ)

ปกติ Landlord จะให้เราทำสัญญาเช่า อย่างน้อยหนึ่งปี
โดยให้เราจ่ายเงินประกันความเสียหาย เป็นค่าเช่าหนึ่งเดือน
ถ้าที่ไหนเรียกเป็น สองสามเท่าของค่าเช่า อย่าไปจ่ายนะครับ
ผมเคยโดนมาแล้ว ย้ายออก แล้วไม่ยอมคืน ผมต้องไปทวงหลายรอบ กว่าจะได้
และเงินทุกเหรียญที่จ่ายไป ต้องมี ใบเสร็จนะคัรบ
Landlord บางราย มักง่าย ไม่ยอมมีใบเสร็จ
เราอาจจะทำขึ้นมาเป็นสมุดบันทึก
ให้เขาเซนต์รับ ทุกครั้งก็ยังดีครับ
และเวลา ดูว่าค่าเช่าแพงไม่แพง ก็ดูว่ารวม ค่าเช่า รวม น้ำร้อน ไฟ แกสรึยัง
และ โทรศัพท์, Cable TV, Internet มีไหม ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีนะครับ
เราต้องไปขอเอาเอง ก็ ต้อง ช่วยตัวเองหน่อยล่ะงานนี้
และอุปกรณ์พื้นฐานที่ กฏหมาย กำหนดไว้คือ ต้องมี ตู้เย็น แตาอบ และเตาแกสนะครับ

แบบว่าตอนมาแรกๆ มาจากบ้านนอก ไม่เคยเจอเตาอบ
เตาแกส โอ๊ย ตื่นเต้นดีใจ บอก Advisor ว่า บ้านนี้ดีจังมีของให้ครบหมดเลย
เห็นตู้เย็นก็ กระโดด โลดเต้น จน Advisor รำคาญมากระซิบบอก
เขามีกันทุกบ้านแหละกฏหมาย เขาบังคับไว้ แป่ววว ซะงั้น

2. Apartment อันนี้ จะคล้ายๆกับบ้านแบ่งเช่าล่ะครับ แต่ จะเป็นระบบมากกว่า
ซึ่งแนะนำว่า อยู่ชั้นบนได้เปรียบกว่าเช่นกัน ยิ่งหน้าหนาว ตอนนี้ผมอยู่ชั้นบนสุดคือชั้นสาม
อากาศชั้นหนึ่ง -1C แล้วชั้นสามยัง 2-3 องศาสบายๆ อยู่เลยครับ
ทำให้เราประหยัดค่า Heater ไปในตัว แต่อยู่บนสุดก็ มีข้อเสียบ้าง
เช่น เวลาชั้นล่างๆ ใช้น้ำ ห้องเราน้ำก็จะไม่แรงเท่าที่ควร
เคยมีอยู่ครั้ง กรณีอาบฝักบัว เคยอาบอยู่ดีๆ
น้ำร้อนหายไปซะเฉยๆ สงสัยข้างล่างก็อาบหลายห้อง
โหยเล่นเอา เกือบจับไข่สั่น เอ๊ย ไข้จับสั่น
แต่อยู่ Apartment จะจุกจิกเรื่องเพื่อนบ้านหน่อยครับ
คนร้อยพ่อพันแม่มารวมกัน ดังนั้น ดูเพื่อนบ้านหน่อยก็ดีครับ
พยายามเลือกที่เป็น Student Apartment ก็จะดีขึ้นมาหน่อย

และที่พักทั้งหลาย ดูกลางวันเสร็จ เป็นไปได้มาดูตอนกลางคืนอีกรอบก็ดีครับ
(แต่ไม่ Serious นะครับ) จะได้เห็นบรรยากาศว่าเป็นอย่างไร
พอดีมี Case ตัวอย่าง แต่เกิดที่เมืองไทย
เพื่อนผมเป็นหมอ จะซื้อบ้านที่พัทยา
มันบอก บ้านสวยมาก มีโน่นมีนี่เต็มไปหมด
ผมก็ไปดู โอเค สวย ดี หรู พอดีไปตอนกลางวันก็ สงบดี
อยู่ท้ายซอยที่เป็นซอยตัน ทำเลกลางเมือง นับว่าใช้ได้

ก็ตกลงกันว่าเออ เพื่อนซื้อเลย โอเค น่าอยู่
แล้วแวะกินข้าวกันจนค่ำ นึกไงไม่รู้ลองวนไปดูอีกรอบ
โอ้วแม่เจ้า เป็น บาร์ Off ตลอดตั้งแต่ ต้นซอยยันท้ายซอย
ให้บริการ เอาเสาลงหลุมกัน ทั้งน๊านนน
เลยต้องรีบเปลี่ยนแผนโดยด่วน เฮ้อ เกือบไป

เอ๊ะ แล้วมันเกี่ยวไรกับเมกาล่ะเนี่ย
นั่นดิ นึกได้เลยเล่าอ่ะครับ ไม่มีไร อิอิ

เอาล่ะ ผมเคยไปดู Apartment หลายๆที่มา
ขอเล่าเป็นเรื่องๆเลยนะ
ที่หนึ่งอยู่กลาง Downtown โทรมมากกก
เขามีป้าย พร้อมเบอร์โทร พอดีตอนนั้นผมต้องย้ายที่พัก
เพราะมีปัญหาเรื่องแมลงดูดเลือด เลยลองโทรไป
ก็มีลุงคนนึง มาพาชมห้อง แกเป็น Agency
แบบว่า ห้องบางห้อง สกปรกมาก เปิดตู้เย็นมา เกือบสลบ
มี Pizza พันปี เละอยู่ในช่อง Freeze
ห้องน้ำก็เน่าสุดๆ แต่ลุดบอกว่า นี่สะอาดมากๆเลยนะ
ราคาก็ดี ปลอดภัยที่สุดแล้ว ซะงั้น งานนี้ขอบาย

เออ และอีกอย่าง ถ้าเราตกลงปลงใจจะเข้าพักแล้ว
ของที่ควรซื้อคร่าวๆมีดังนี้ครับ

1 โคมไฟ เพราะปกติที่ห้อง โถง หรือห้องรับแขก ฝรั่งจะไม่มีไฟนะครับ
ต้องหาโคมมาเอง
2 ราว และม่านอาบน้ำ นี่ก็เช่นกัน ไม่มีให้นะครับ ยังไง ดูให้ดีก่อนก็แล้วกันครับ อาจจะแตกต่างกันในแต่ละเมือง
3 ถังขยะ และถุงขยะ (กรณีอยู่บ้านแบ่งเช่า) ที่ต้องมีถุงขยะ เพราะ Binghamton มีกฏว่า ต้องใช้ถุงขยะที่ทาง County ทำขายเท่านั้น ไม่งั้น เขาไม่เก็บขยะให้ ซะงั้น แต่ถ้า Apartment ก็ ทิ้งที่ทิ้งขยะรวมได้ สบายกว่า
4 ที่นอน เพราะหลายๆที่ไม่มีเตียง และที่นอนให้นะครับ ถ้ามาแรกๆ ก็ ถุงนอนไปก่อนก็ได้
5 หนังสือพิมพ์ เอามาแปะ หน้าต่างครับ หลายๆที่ไม่มีม่านมาให้เราต้อง ซื้อมาติดเอง
ผมเลยใช้หนังสือพิมพ์ แปะๆเอาไปก่อน มีเวลาค่อย ไปซื้อม่านมาติดอีกที

แล้วที่ประหลาดใจคือ บ้านฝรั่งนี่เขาไม่มีเหล็กดัด ลูกกรงนะครับ
ตอนมาแรกๆ ผมอยู่บ้านเช่า พักที่ชั้นหนึ่ง
ผมก็ ระแวงกลัวขโมยปีนเข้าห้อง (กลัวโดนปล้ำ อิอิ)
แต่อยู่มา ก็ไม่ยักกกะเจออะไร และบ้านอื่นๆเขาก็ไม่เป็นเป็นไร

เขียนมาคร่าวๆนะครับ เผื่อจะเป็น ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
ตอนนี้เอาสาระเนื้อๆเลยนะครับ นานๆมาที

เด็กบ้านนอก Version สาระก็มีนะเพ่

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2549		7 comments
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2549 11:05:20 น.
Counter : 988 Pageviews.
Share Tweet