Episode เด็กบ้านนอก กับความคัน
ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้วนะครับ หลังจากที่ New York เจอ Heat Wave เข้าไป เล่นเอาชาวไกลบ้านแถวนี้ลิ้นห้อยกันเป็นแถว (ตัวผมเองคราง หงิงๆด้วยอ่ะ)
ตอนช่วงที่ Heat Wave เข้าที่ New Yorkนั้น ทรมานหลายเด้อ ตอนจะนอน ก็นอนหัวค่ำไม่ไหว ต้องรอให้อากาศเย็นลงหน่อย ล่อเข้าไปตีสอง เวลาตื่น ก็ ไม่เกิน แปดโมงเช้า เพราะ แดดแรงมาก ขนาดแชมพูในห้องน้ำ บีบออกมายังอุ่นมือเลยครับ อาหารเองก็ เสียเร็วมาก มันเหมือนอยู่ในเตาไมโครเวฟ ว่าเราลูกอีสานแล้วนะ เจอแบบนี้ กลายเป็น เขียดแดดเดียวได้เหมือนกัน
สังเกตตามเนื้อตัวก็เกรียม ด้วยผลจากการเดินตากแดด แบบ ดำๆ ลอกๆ โหย อยู่ กรุงเทพเมืองฟ้าอมร ยังไม่ขนาดนี้เลย ทางท่าน Advisor สุดหล่อ พอทราบเรื่องว่า ศิษย์รัก ต้องทนทุกข์ทรมานจากความร้อน ท่านรีบบอกผมเลยว่า จะเอาแอร์มาให้ แบบติดที่หน้าต่าง เพราะท่านเพิ่งย้ายบ้านมันเลยเหลือ โหย ใจดี จัง เยยยย ยกให้เป็นพ่อตัวอย่างได้ไหมเนี่ย แต่แล้ว Advisor คนเก่งของผมก็ลืม จนเพิ่งเอามาให้ เมื่อสองวันก่อน ฮ่วย Heat Wave เปิดตูดแน่บ ไปตั้งนานแล้ว เริ่มหนาวอีกต่างหาก ตกลงไม่ได้ใช้ครับ แต่ก็เอามาติดไว้ประดับให้ชาวบ้าน รู้กันว่า ห้องนี้มีอันจะกิน อิอิ
ราคาแอร์ที่นี่ถูกดีนะครับ ไม่กี่พันบาท แถมติดตั้งเองก็ได้ ง่ายด้วย ดีด้วย ทำงานก็เบา เสียงไม่ดังอะไร สงสัยจริงๆว่า แอร์บ้านเราทำไมไม่ทำแบบนี้ขาย ต้องเจาะกำแพง เคลื่อนย้ายก็ยาก และราคามหาโหด ไม่มีแอร์รุ่นไหนต่ำกว่าหมื่นบาทเลย มิน่า บริษัทแอร์บ้านเรารวยเละไปเลย
การที่ได้มา เมกาคราวนี้ ช่างเป็นการเปิด กะลาใบน้อยๆของผมเลยนะครับ ได้เห็นอะไรมากมาย ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เปิดบริสุทธิ์ ก็หลายงาน แล้ว อิอิ (ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำไง)
พูดถึงอากาศเริ่มเย็น ผมล่ะเบื่อมาก เวลาฟัง Weather Report เขาบอกมาเป็น Fahrenheit (องศา F) นึกไม่ออกว่ามันหนาวหรือร้อน ต้องคอยเอา มือถือมากด โปรแกรมเปลี่ยน องศา F เป็น องศา C จนป่านนี้เองยังไม่คุ้นเลยครับ เมื่อวาน เดินไปร้าน Grocery ป้าเวียตนามมา ตอนเดินรู้สึก คันๆๆ คันทั้งตัวเลย ยิ่งเกายิ่งมันส์ โอ้ย เดินเกาเป็นลิงเลยอ่ะ สังเกตได้ว่าอากาศแห้งมาก ตามตัวนี่ เหี่ยว เลยครับ ปากแตก ยิ้มไม่ออก เอ๊ะ แต่แดดก็ออก เปรี้ยงๆ เอาไงวะเนี่ย จะหนาวหรือจะร้อน เกิดมาไม่เคยเจอนี่หว่า เลยรู้ว่าที่คันเพราะ ผิวมันแห้ง พอเราเดินเหงื่อมันออก ก็เลยทำให้มันแสบ หรือระคายเคืองก็เลยเป็นลิง ตลอด Trip
กลับมา เอา ครีมบ้านเราทา ก็ไม่ดีขึ้นนะครับ วันนี้เลย ไปที่ CVS (ใกล้บ้านสุด ไปที่อื่นไม่เป็น) ซื้อ วาสลีน ครีมทาตัวมา ขวดนึง ทาแล้วมันซึมช้ากว่าบ้านเรานะครับ แต่สักพักพอซึม สบายผิวมากเลย เออ ผิวหายเหี่ยวแล้ว เย้! เหลือที่เดียวมันเหี่ยว ทาครีมไงก็ไม่หาย แบบว่า มันจะหายเหี่ยว เวลาตื่นเต้น อ่ะ (ไม่บอกนะที่ไหน)
เออ พอดีผมเป็นคนใส่แว่นครับ พอมาเมกา อยากหล่อ เลยพก Contact Lens มาเพียบเลย เพราะทราบมาว่า ที่นี่จะซื้อแว่น ซื้อ Contact ต้อง ใน Prescription (ใบสั่งแพทย์) เสียก่อน
นอกจากนั้นผมยังขนแว่นสายตาเมืองจีนมาด้วย อันละ 150 บาทไทย มาด้วยหลายอัน เผื่อหาย เผื่อแตก แต่จริงๆไปตัดกับร้านดีๆ จะดีกว่า เพราะ พวกแว่นสำเร็จของจีน Focus มันไม่ค่อยดีเท่าไร
และที่ขน มาเยอะเป็นพิเศษคือ น้ำยาล้าง Contact Lens ครับ เอามาเพียบ โดยซื้อจากร้านที่ขายดีๆ แถวมาบุญครอง จะได้ของใหม่ เพราะต้องการให้มัน Expire ช้าที่สุด จะได้ใช้นานๆ แต่พอมาอยู่ที่นี่ ได้ใช้แต่แว่นครับ เวลาจะใช้ Contact Lens ต้องดูฤกษ์ ดูยามครับ ต้องดูสภาพอากาศ ถ้าอากาศร้อนใส่ไปเหอะ ไม่เป็นไร เหมือนอยู่บ้านเราเลยครับ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอากาศเริ่มเย็น หรือแห้ง วันนั้นล่ะไม่ควรใส่ เพราะตาจะแห้งตลอด แล้วเจ้า Lens พวกนี้ มันอุ้มน้ำไงครับ ถ้าตัวมันแห้งมันก็จะแนบติดที่ตาดำ โหย ระคายเคืองพิลึก ยิ่งเวลาไปห้าง พวก Super Market แบบ Walmart, Gaint ก็ พยายามเลี่ยงๆ พวกตู้แช่แข็งทั้งหลายด้วยครับ เพราะ มันจะเย็นกว่าบริเวณอื่นๆในห้าง มันจะทำให้เราระคายตามากเป็นพิเศษ นี่ลองมากับตัว แต่ถ้าใครไม่เป็นเหมือนผม อย่าว่ากันน๊า
พูดถึง Super Market ก็อดไม่ได้ที่จะพูดเรื่องของกิน ฮ่าๆๆ อีกแล้ว หลายคนบ่น พูดที่ไรก็หิวใช่ม๊า คราวนี้มาแบบ Soft ๆ ครับ ผมอยากแนะนำ ผลไม้ที่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ยังไม่เคยกินแล้วอร่อยขนาดนี้เลย จริงๆผลไม้ที่เมกานี่อร่อย กรอบหวาน เกือบทุกอย่างเลย และเก็บในตู้เย็นได้นานมากกว่า ที่เมืองไทย แต่ที่ผมชอบมากๆ กินแล้วติดใจสุด คืออะไรลองทายดิครับ
คำตอบคือ แตงโมครับ ลูกเท่าบ้านเลย 4.99 USD เนื้อแดง ไม่มีเมล็ด โหย ซื้อลูกเดียว ผมกินไปเกือบอาทิตย์ ลูกนึงหนักมากครับ หลายโลเลยอ่ะ จริงๆ แคนตาลูป ก็อร่อยมาก บ้านเราจะจืดๆ เนื้อด้านๆ ที่นี่ เนื้อฉ่ำ หวานจนบาดคอ เออ แต่ล่าสุด ไปลองซื้อ Blue Berry สดมาลองชิม ไม่อร่อยอย่างที่คิด เปรี้ยวๆ ไม่หวานเท่าไร สู้องุ่นไม่ได้ แต่ถ้าเพื่อนๆมีผลไม้อะไรที่คิดว่าต้องลองชิม บอกมาด้วยนะครับ ผมจะได้ลองบ้างไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว
ฮ่าพูดถึง Giant แล้วมีเรื่องหน้าแหกมาเล่าให้ฟัง ตอนมาใหม่ๆ พักที่ Apartment เดิม แล้วเขาจะมี รถขยะมาเก็บขยะทุกวันจันทร์ ซึ่งที่เมืองBinghamton เนี่ย มีกฏว่า ถ้าจะทิ้งขยะต้องซื้อ ถุงขยะของเมือง เท่านั้น(สีเขียว มี Logo ของเมือง) ไม่งั้นมันจะไม่ยอมมาเก็บไปทิ้ง เป็นไงล่ะ สนน ราคา ห้าถุง 3 เหรียญ แพงดีไหมครับ แล้ว ถุงขยะนี้ ไม่ได้หาซื้อง่ายๆนะครับ ต้องไป ซื้อที่ Giant super marketเท่านั้น ผมก็เลยไปเดินหา ถุงขยะ ที่ว่านี้สักหน่อย เอาล่ะ ก่อนไป ทำการบ้านก่อนเร้วววว เด็กๆ บอก เฮียดิ๊ ว่า ถุงขยะ ภาษาอังกฤษ ออกเสียงว่าอะไร Garbage กา-บิจ ฮ่าๆ เปิด Dictionary เลยนะเนี่ย
ผมก็มั่นใจมาก ตูวันนี้ต้องไม่พลาด เดินหาถุงขยะของเมือง ตามหิ้งที่ขายถุงขยะ ไม่เจอเลย เอ๊ะ ทำไมมันหายากนักวะ มองหาเหยื่อ เจอป้าคนนึงเป็นพนักงานของ Gaint กำลังง่วนในการเรียง Hotdog เข้าตู้แช่เย็นอยู่ เอาเลยครับ วันนี้เตรียมตัวมาดี ผมบอกป้าไปว่า I am looking for Garbage ป้าแกก็ ถามย้ำว่าอะไรนะ ผมก็ตอบคำเดิม กาบิจๆๆๆๆ เอ๊ะป้า ไม่เข้าใจรึไงภาษาอังกฤษง่ายๆ เดี๋ยวปั๊ด
.โบก
ป้าแกก็ โอเค Follow me แล้วก็ เดินนำผมลิ่วๆๆเลยครับ แกมั่นใจมาก เดินไปตรงตู้แช่ผัก แล้วชี้ไปที่กระหล่ำปลี แล้วหันมายิ้มแป้นแล้น บอกว่า This is your cabbage (แคบบิจ) อือม์ เวรแล้วสิ ตกลงวันนั้น ไม่ได้ถุงขยะนะครับ ได้ กระหล่ำปลีมาผัดกิน แก้ลิ้นแข็งครับ เฮ้อ ตู กลุ้มใจกับสำเนียงตัวเองแท้น้อ
เด็กบ้านนอก Version เสียงอีสาน
Create Date : 15 สิงหาคม 2549 |
|
12 comments |
Last Update : 15 สิงหาคม 2549 11:51:06 น. |
Counter : 2487 Pageviews. |
|
|
|