ใครอยากสอนภาษาไทย ให้แก่ชาวเยอรมัน บ้างคะ
บันทึก
เมื่อชาวต่างชาติอยากเรียนภาษาไทย เมื่อก่อนเราเคยคิดว่าวันและคืนช่างยาวนานเหลือเกิน แต่เมื่ออายุมากขึ้น ภาระความรับผิดชอบมากขึ้น รู้สึกว่า วันและคืนช่างสั้นเหลือเกิน เราอยากให้วันหนึ่งมีมากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงเสียด้วยซ้ำ
และเมื่อก่อนตอนเรียนหนังสือ เราจะเรียนไป และคิดไปว่า เมื่อไร.....ออด จะดังนะ จะได้หมดชั่วโมง หมดเวลาเรียนและได้กลับบ้านเสียที
ตอนนี้ ทำงาน บางวันรับใหม่คนไข้ยังไม่เสร็จเรียบร้อย ใกล้ลงเวร เราอยากยืดเวลาให้นานขึ้นเพื่อจะได้มีเวลาทำงานได้เต็มที่ การกลับบ้าน ทั้งๆที่ งานตนเองไม่เสร็จ บางครั้งมันทำให้รู้สึกแย่ สงสารเพื่อที่ต้องมารับเคสต่อ เวลาเคสนั้นหนักมากด้วย โดนเพื่อนไล่ “ ไอ้ตัวน้อย กลับบ้านเถอะ ลูกตัวเอง..คอยนะ เดี๋ยวเราลุยเอง...” ประจำ ซึ้งกับเพื่อนทีมงานนี้
ปีนี้ว่าจะไม่สอนภาษาไทยให้ชาวเยอรมันอีก เพราะเวลาเราน้อยลง ลูกการบ้านมากขึ้น แต่ดีที่ลูกคนโตเก่งติวน้องได้ ช่วยดูแลการบ้านน้องได้ จนน้องสอบได้เกรดเยี่ยมในภาควิชาภาษาเยอรมัน อังกฤษ และเลข ปัญหาในการสอนภาษาไทยนอกบ้านของเรา ที่สำคัญก็คือ คนสมัครเรียนน้อย แค่ห้าคนเอง คุณด็อคเต้อร์...หัวหน้าหน่วย การศึกษานอกโรงเรียนของที่นี่เขาบอก ต้องมีหกคนขึ้นไป เราโล่งใจปนเสียใจนิดๆ กศน.บอกให้เราลง นสพ. หาคนมาเรียนอีก เคยลงแล้วเมื่อสองปีที่แล้วคนมาสมัครเยอะ แต่ปีนี้ไม่มีเวลาให้นักข่าวสัมภาษณ์ จริงแล้วไม่ชอบด้วย เพราะนกข่าวสาวเขาเคยถามเรานอกเรื่อง และซอกแซก เช่น คุณรู้จักกับสามีได้อย่างไร ทำไมผู้ชายเยอรมันชอบแต่งงานกับผู้หญิงไทย ซึ่งมันไม่เกียวกับการสอนภาษาของเราเลย เราต้องดึงเขาให้เข้าเรื่อง บางครั้ง ตีความเองด้วย ซึ่งตอนหลังต้องขอให้เขาส่งสคริปต์ให้เราดูก่อนลง นสพ. สรุปเรื่องมาก เหลือเกินสำหรับพยาบาลกิจกรรมเยอะ เวลาน้อยแบบเรา เลยให้ กศน.โฆษณาดีกว่า แต่ไม่ได้ผลเท่าไรนัก เพราะหลายคนที่อยู่บ้านนอกไม่มีโอกาสมารับหนังสือโปรแกรมเรียน และบางคนไม่ได้ออนไลน์เข้า Internet บ่อย
การศึกษานอกโรงเรียน (VHS)เรียกย่อๆว่า กศน. ที่นี่เขาจะจัดสอนตั้งแต่ภาควิชาการ หากใครเรียนจบประถม ต้องการเรียนจนถึงมัธยม ก็มาสมัครได้ โดยเรียนนอกเวลางานหลัก จบต้องสอบเทียบให้ผ่าน บางคนจะเรียนเสริม ทำอาหาร ภาษาต่างๆ หรือ เรียนคอมพิวเต้อร์เพิ่มเติมก็ได้ การสมัครเข้าเป็นครูสอน ของที่นี่ตอนนี้ยากขึ้น ของเราตอนแรกเขาก็ไม่ได้มีทีท่าว่าสนใจ จนพวกเรา ไปคุยด้วยเป็นการส่วนตัว แสดงโปรแกรมการสอนให้เขาดู ยื่นใบผ่านการอบรมเป็นครูสอนภาษาไทยให้เขาดู เขาถึงยอมรับให้สอนได้ เล่าให้พี่ที่สอนที่เมืองใหญ่ เมืองหนึ่งฟัง เขาสอนมาหลายปีแล้ว เขาบอกว่า เมื่อก่อนไม่เห็นยุ่งยากเลย เดินไปสมัครเขาก็รับแล้ว คงเป็นเพราะพี่จบอักษรศาสตร์ จุฬาฯ มา กระมัง
เมื่อคนมาน้อย เราเลยโทรศัพท์ ไปขอปิดโปรแกรมสอนหลังสองชั่วโมงแรก แต่พวกที่ลงเรียนกับเราขอร้องให้เราสอนต่อ เราบอกเราไม่สามารถตั้งกฏเกณฑ์ได้ เพราะหน่วย กศน.ต้องยินยอมก่อนที่จะให้สอนต่อกับคนเพียงห้าคน เมื่อาทิตย์ที่แล้วโทรไปยุติการสอน เขาก็ดีนะ ไม่ยอมให้เราเลิกง่ายๆ บอกให้คอยก่อน
และวันนี้ก็มีคนมาสมัคนอีกสองคน รวมเป็น สรุปเปิดสอนได้ ทุกคนบอกอยากให้เราสอนต่อ ส่งอีเมลมาขอให้สอน เราสอนที่นี่มาสามปี จริงๆแล้วเงินที่ได้ไม่คุ้มค่ะ กับการสอน เพียงสามร้อยแปดสิบยูโรเอง ต่อเทอม เที่ยวนี้พ่อบ้าน บอกหากสอนแล้ว เดี๋ยวพวกเราก็อดเที่ยวอีก เงินก็น้อยทำไมต้องสอน เขาอยากให้เราอยู่บ้าน เราเลชักจะไขว้เขว
อยากเลิกสอนเพราะ ๑. เที่ยวบ่อยๆกับครอบครัวไม่ค่อยได้ เพราะติดสอน ๒. ขี้เกียจโฆษณา ๓. เงินน้อย ค่าน้ามันแพง ๔. พ่อบ้านกลัวว่าจะประสบอุบัติเหตุ ช่วงหน้าหนาว เวลาหิมะตกหนัก ยิ่งเราเคยประสบมาแล้วด้วย ๕. อยากเข้าคอร์สเรียนกีต้าร์ต่อ หากไม่ต้องสอนก็เรียนได้
วันนี้คนเยอรมันที่อยากเรียนภาษาไทยมาก ไม่เคยรู้จักเรามาก่อน โทรมาคุยกับเรานานมาก เขาบอกว่า อยากจะไปอยู่เมืองไทยกับภรรยาชาวเยอรมัน ช่วงหน้าหนาวปีละสักสามสี่เดือน เพราะหน้าหนาวเขาปวดกระดูกมาก อากาศอุ่นๆจะทำให้เขาสบาย เขาเคยไปเมืองไทย ชอบคนไทย และรักเมืองไทยมาก ซึ่งต่างจากทุกคนในกลุ่มเพราะคนอื่นมีแฟน หรือภรรยาคนไทยกัน แต่เขาอึดอัด เพราะพูดไม่ได้ สื่อสารไม่ได้ผลเท่าที่ควร คนไทยที่มีน้ำใจกับเขาก็พูดภาษาอังกฤษ ได้งูๆปลาๆ
จาการที่ได้สนทนากับเขาเกือบชั่วโมงครึ่ง นั้นเป็นการจุดประกายแห่งความสำนึก ให้เราให้เรา เพราะ ๑. เราจะได้สอนภาษาไทยอันเป็นที่รักต่อ และได้หลุดจากวงจรงานพยาบาลมาสอนอะไรที่ไม่เกียวกับงานพยาบาลบ้าง เราเคยสอน นศ.พยาบาลในลักษณะครูคลีนิค มาเกือบแปดปี สนุกและได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆจากเด็กๆเยอะ แต่ ก็เครียดมากเหมือนกัน หงอกขึ้น มากช่วงนั้น เวลาเด็กสอบ ตอนนี้ได้งานหน่วยอื่น ที่ถูกใจและตื่นเต้น พูดน้อยลงแต่งานมากขึ้น เขียนและถ่ายรูปมากขึ้น ( หน่วยทำแผล) ๒. สอนภาษาไทย สนุก ไม่ยากเพราะมีอะไรให้หัวเราะบ่อยๆ เปลี่ยนเรื่องได้ง่าย เวลาพวกเขาเรียนเครียด ๓. อุปกรณ์ในการสอนเราก็ทำไว้เยอะ และ สนุกกับการสร้างไอเดียไม่ซ้ำซาก ๔. ภูมิใจ ที่ชาวต่างชาติในคอร์สรู้จักเคารพ วัฒนธรรมไทยของเรา หลายคนที่เรารู้จักเขาสุภาพมาก บางคนเป็นถึงครู อาจารย์ บางคนเป็นคนงานบริษัท แต่การมองโลก มองคนของพวกเขานั้นน่าสนใจมากจริงๆ ๕. ได้ลบความเข้าใจผิดต่อภาพพจน์ของเมืองไทย ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนเยอรมัน ๖. ได้พ่วงลูกเราวัยสิบสาม ติดไปเรียนด้วย แต่วันไหนหิมะลงมาให้ลูกอยู่บ้านดีกว่า กลัวพาลูกลงเขาอีก
คุณย่าเด็กๆ บอกไปสอนเถอะ หากอยากสอนต่อ ท่านจะดูหลานชายให้ ในขณะที่คุณปู่บอก สงสารหลานชาย ไม่เห็นแม่ทั้งวัน( โธ่ บ่ายเดียว ของแต่ละอาทิตย์เอง รร.ปิดเทอม กศน.ปิดด้วย....ไม่ต้องสอน) ส่วนพ่อบ้านบอก.... แล้วแต่เธอเถอะ
สรุป... อย่าคิดถึงแต่เงิน ให้วิทยาทานไปดีกว่า.....สอนต่ออีกปี...... ปีหน้าฟ้าใหม่ ค่อยคิดใหม่แล้วกัน ปล. หากใครอยากสอนภาษาไทยให้แก่ชาวเยอรมัน อยากออกมาสู่โลกภายนอก(นอก.. รั้วครอบครัว) รักการที่จะให้ข้อมูลด้านภาษาแก่ชาวเยอรมันให้ถูกต้อง มาสมัครอบรมเื่พื่อเป็นครูสอนภาษาดีกว่าค่ะ เรียนได้กับพี่หมู เมื่อคุณได้ใบผ่านการอบรม นำมาแสดงที่ กศน. ผ่านสัมภาษณ์ โอกาสที่จะได้สอนก็มีมาก เท่าที่ทราบพี่หมูเขียนคู่มือการสอนเกือบเสร็จแล้ว หนังสือที่เราใช้ในการสอนก็เป็นหนังสือของพี่หมู สมัยนั้นเราเป็นศิษย์รุ่นแรกในโครงการสอนของพี่ เลยยังไม่มีคูมือในการสอน ใช้แต่หนังสือที่พี่ขายเอามาเป็นคู่มือสอน เลือกบทแต่ละบทเอง ตอนจบใหม่ๆ ก็ไม่ได้สอนเพราะลูกยังเล็ก ตอนนี้ลูกโตเลยมาสอนได้โดยไม่มีความรู้สึกว่าทอดทิ้งลูก ตอนนี้พี่หมูอำนวยความสะดวกโดยเขียนคู่มือการสอนภาคภาษาไทยให้แก่ครูๆขึ้นมา ลองไปอ่านที่เว็บของพี่ดูนะคะ //www.thai-sprache.de/index.php?option=com_contact&view=contact&id=1&Itemid=63 ไม่ได้ค่าคอมมิชชั่นค่ะ แต่อยากให้คนไทยได้เผยแพร่วัฒนธรรม ภาษา ดนตรี อาหารการกินให้มากขึ้น ให้ฝรั่งเข้าใจว่า เมืองไทยไม่ใช่พัทยาหรือป่าตอง อย่างเดียว แบบที่ฝรั่งหลายคนมองภาพรวมของเรา เมื่อเขาเข้าใจภาษา เขาก็จะเข้าใจว่าเราจะสื่ออะไรค่ะ
Free TextEditor
Create Date : 14 ตุลาคม 2552 |
|
11 comments |
Last Update : 14 ตุลาคม 2552 15:29:33 น. |
Counter : 3125 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณคุณ It-ta-tee มากนะคะสำหรับคอมเมนท์ที่บล็อก อ่านแล้วดีใจจังที่มีเพื่อนเข้าใจธรรมชาติของการเรียนแบบนี้ ... โชคดีที่เราฝึกลูกไว้ตั้งแต่เขายังเล็กค่ะ การเรียนแบบนี้เลยเป็นเรื่องง่าย เขาเลยคุ้นเคยมีความสุข อีกอย่างพ่อเขาก็เสียสละมาก ๆ ... ถ้าอาศัยเราลำพัง คงไปไม่รอดแน่ ๆ ค่ะ
เชื่อว่าลูก ๆ ของคุณ It-ta-tee ก็คงมีความสุขในการเรียนของระบบปกติด้วยค่ะ เพราะคุณพ่อคุณแม่เข้าใจ น้อง ๆ เขาเก่งกันจังนะคะ ได้ที่ 1 ทั้งคู่เลย ...