ฤดูหวานรัก...Sweet Ogi - Megi วางแผงแล้ว /สนพ. ที่รัก
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2554
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
24 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
บทที่ 6 ณ เบื้องหลังกำแพง


ภายในห้องทำงานของประธานซินเซียร์ เอเชีย

“ขอบคุณนะ คุณมีส่วนช่วยให้มิสเตอร์หยาง ตัดสินใจร่วมลงทุนกับโครงการวิจัยของเรา” นายเอกภพพูดกับรองศาสตราจารย์ดอกเตอร์สาวสวย
“คงไม่ใช่ดิฉันหรอกค่ะ มิสเตอร์หยางมีแนวโน้มอยากร่วมลงทุนกับเราอยู่แล้ว” ณิชารีย์รีบแก้ กระอักกระอ่วนใจกับข้อสรุปของอีกฝ่าย ไม่คิดว่าแดเนียลตัดสินใจเซ็นสัญญาร่วมลงทุนครั้งนี้ เพราะมีสาเหตุมาจากหล่อน เขาอาจมีลักษณะของหนุ่มเพลย์บอย ดูกรุ้มกริ่ม แต่นัยน์ตาคมกริบของเขา ฟ้องชัดว่าเขาฉลาดเฉลียวจนออกจะเจ้าเล่ห์ด้วยซ้ำไป สมกับเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงในยุคนี้

“แต่ถึงยังไงผมก็ต้องขอบคุณคุณอยู่ดี ขอบคุณที่อย่างน้อยคุณก็ตัดสินใจถูกที่ออกไปกินข้าวกับเขา ผมเชื่อว่าเขาจะเป็นพันธมิตรที่ดีของเรา เชื่อมความสัมพันธ์กับเขาเอาไว้ไม่เสียหลายแน่”

“ท่านคิดว่าเขาจะไม่มาก้าวก่ายวุ่นวายในโครงการวิจัยของเราหรือคะ” ณิชารีย์ถามอย่างลังเล

“ผมคิดว่าอย่างนั้น เขาเป็นนักธุรกิจหัวหมอ สนใจเรื่องผลประโยชน์เป็นหลัก และตอนนี้ผมต้องการผู้ร่วมทุนที่สนใจเรื่องผลประโยชน์จากโครงการวิจัยนี้เป็นหลัก แองเจิล ฮาร์ท โปรเจกต์ ต้องเป็นความลับสุดยอดตลอดไป”

“ค่ะ ดิฉันทราบ”
“ผมกับคุณร่วมลงเรือลำเดียวกันแล้ว เราคงต้องร่วมมือกันเหมือนน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้คุณช่วยเทกแคร์มิสเตอร์หยางบ้าง ถ้าคุณพอจะมีเวลา เราคงต้องเอาใจนายทุนของเรากันสักหน่อย”

“เออ แต่. . .”
ณิชารีย์อึกอัก เพราะไม่สะดวกใจกับหน้าที่นี้ ไม่ใช่ว่าไม่พึงใจในตัวผู้ชายคนนั้น ตรงกันข้าม หัวใจหล่อนสั่นระรัวอย่างมีชีวิตชีวา ทุกคราที่ได้พบกัน นั่นแหละที่ทำให้ต้องอยู่ห่างจากเขาให้มากที่สุด หลายวันมานี้ เขาโทร. หาหลายครั้ง หล่อนอ้างว่าติดงานในห้องปฏิบัติการทุกครั้งที่เขาเอ่ยปากชวนไปออกเดต

“ผมรู้ว่าคุณลำบากใจ และคงไม่มีสิทธิ์ไปบังคับคุณ เพราะคุณถือเป็นบุคลากรสำคัญของหน่วยงานเรา ถ้าขาดคุณ งานวิจัยของเราคงไม่คืบหน้ามาถึงขั้นนี้แน่ เอาเป็นว่าผมไม่ได้พูดแล้วกัน”
“ฉันขอโทษนะคะ ที่อาจทำหน้าที่ของตัวเองได้ไม่ดีเท่าที่ควร” ณิชารีย์เอ่ยด้วยสุ้มเสียงเกรงใจ ทั้งสองจับมือกันมาตั้งแต่ต้นเพื่อร่วมกันทำให้โครงการวิจัยนี้ให้เป็นจริง และรู้ว่าเขาทุ่มเททั้งชีวิตกับโครงการวิจัยนี้ไม่ต่างกับหล่อน

“ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมาก” ชายสูงวัยยกมือโบก
“ขอบคุณค่ะท่าน”

“แต่อย่าว่าผมจุ้นจ้านเลยนะ ถือว่าผมแนะนำถามไถ่ตามประสาคนแก่แล้วกัน ยังไงซะเราก็คุ้นเคยกันมานาน ผมแทบไม่เคยเห็นคุณเปิดใจคบหาใครเลย อายุเราก็ไม่ใช่น้อยแล้วนะ ไม่คิดจะคบหาใครบ้างหรือไง”
ณิชารีย์ยิ้มให้อีกฝ่าย เข้าใจดีว่าชายสูงวัยถามไถ่ตามประสาผู้ใหญ่ที่เคยเห็นหล่อนมาตั้งแต่เยาว์วัย เขาเป็นเพื่อนกับบิดาหล่อน ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์เคมีที่สร้างผลงานไว้มากมายคนหนึ่ง และจบชีวิตลงด้วยโรคร้ายเมื่อหลายปีก่อน

“ก็คงมัวแต่ยุ่งกับการทำงานน่ะค่ะ เลยไม่มีเวลาคิดเรื่องพวกนี้ ตอนนี้ฉันอยากทำงานวิจัยครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงก่อน”

“ใส่ใจเรื่องงานมันก็ดี แต่ก็อย่าลืมใส่ใจตัวเองด้วยล่ะ เรื่องน้องสาวก็เหมือนกัน มันก็ถูกที่คุณต้องดูแลเธอ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทิ้งชีวิตส่วนตัวของคุณไปทั้งหมดนี่ คุณยังสาว สวย มีความสามารถ คุณไม่ควรละทิ้งโอกาสดีๆ ของลูกผู้หญิงที่ผ่านเข้ามา ลองเปิดใจเรียนรู้ใครสักคน ผมก็ว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ อย่างน้อยมันก็เป็นพลังผลักดันให้เรามีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น”
ประธานบริษัทซินเซียร์ เอเชีย แนะนำตามประสาคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเลยครึ่งชีวิต

“ท่านก็รู้ว่าน้องสาวดิฉันต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ดิฉันคงไม่มีเวลาเหลือพอให้ใครอีก”
ณิชารีย์ซึ้งใจในความหวังดีของอีกฝ่าย ถ้าเลือกได้หล่อนคงไม่อยากเหี่ยวเฉาตาย เหมือนดอกไม้ที่ค่อยๆ โรยรา โดยไม่เคยมีหมู่ภมรมาดอมดมสักครั้ง ทว่าสิ่งสำคัญสุดในชีวิตตอนนี้คือน้องสาวเพียงคนเดียวที่หล่อนรักมาก
“ผมรู้ น้องสาวของคุณเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในชีวิตของคุณ แต่อย่าลืมสิว่า ถึงคุณจะเป็นดอกเตอร์ด้านไวรัสวิทยาผู้มากความสามารถ แต่สุดท้ายคุณก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่สมควรได้รับการดูแลเอาใจใส่จากใครสักคนบ้างในบางเวลา”

**********

‘แต่สุดท้ายคุณก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่สมควรได้รับการดูแลเอาใจใส่จากใครสักคนบ้างในบางเวลา’
ประโยคนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงความคิด ขณะขับรถตรงกลับบ้าน เช่นเดียวกับภาพใครบางคนผุดขึ้นในหัวอีกครั้ง ณิชารีย์ถอนหายใจเบาๆ ตลกนัก ที่หล่อนเก่งกาจ เชี่ยวชาญด้านการถอดรหัสเชื้อไวรัส แต่ต้องมาตกม้าตายเพราะผู้ชายคนหนึ่ง

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เฝ้าครุ่นคิดถึงใครคนหนึ่งถี่ขนาดนี้ ไม่อยากเชื่อว่าแดเนียลจะมีอิทธิพลต่อกันถึงเพียงนี้ แม้เพียรหลีกหนีแล้วก็ตาม

ยังคิดไม่ตกว่าควรสานต่อความสัมพันธ์กับเขาดีหรือไม่ เพราะเกรงประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย เมื่อหลายปีก่อน หล่อนเคยคบหากับแพทย์หนุ่มคนหนึ่งเป็นระยะเวลาสั้นๆ แรกเริ่มความสัมพันธ์ของทั้งสองเหมือนจะเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น ความสัมพันธ์ที่เคยแนบแน่นกลมเกลียวเริ่มสั่นคลอน สุดท้ายทั้งคู่ต้องเลิกรา เพียงเพราะเขายื่นคำขาดให้หล่อนเลือกระหว่าง เขากับณัชชา น้องสาวคนเดียว ซึ่งหล่อนก็ตัดสินใจเลือกน้องสาว

ไม่มีทางที่ใครจะมาสำคัญไปกว่าณัชชา และคงยากที่จะมีผู้ชายคนไหนยอมรับความคิดนี้ได้ เหตุนี้หล่อนจึงเบื่อหน่าย ถอดใจกับการเปิดรับใครสักคนเข้ามาในชีวิต ความผิดหวังไม่ใช่เรื่องสนุกที่จะเผชิญ

แดเนียล หยาง คงไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่น ถ้าหล่อนเอาหัวใจเข้าไปพัวพันกับเขา ช้าเร็วก็ต้องเจ็บปวด เมื่อเขาคงประกาศกร้าวให้หล่อนต้องเลือกระหว่างเขากับณัชชา

ณิชารีย์สะบัดศีรษะ ไม่อยากคิดเรื่องแดเนียลอีกต่อไป ชีวิตหล่อนควรจดจ่ออยู่กับณัชชาและโครงการวิจัยเท่านั้น

เมื่อขับรถมาจอดหน้าบ้านหลังเดี่ยว ณิชารีย์ก็ขนถุงข้าวของที่แวะซื้อระหว่างทางลงจากเบาะหลังรถ วันนี้ตั้งใจจะทำมื้อเย็นสุดพิเศษให้ณัชชา เกือบเดือนมาแล้วที่หล่อนไม่มีเวลาทำอาหารให้น้องสาว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่ครัว

ทันทีที่เปิดประตูบ้าน ก็ได้ยินเสียงร้องโวยวายของสาวใช้กับแม่ครัวดังลั่นบ้าน
“คุณณัชชา อย่าทำแบบนั้นนะคะ มันอันตราย อย่านะคะ ป้าขอร้อง! ”

ณิชารีย์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อหันไปเห็นณัชชาปีนขึ้นไปนั่งบนขอบกำแพงที่ยื่นออกมาราวครึ่งฟุต ที่สำคัญสูงจากพื้นมากทีเดียว
“ณัชชา อันตรายนะ ลงมาเถอะจ๊ะ! ” ณิชารีย์ตรงปรี่เข้าไปพลางร้องห้ามด้วยเสียงนุ่มนวลอย่างที่สุด

“คุณณิชกลับมาพอดี ป้าล่ะกำลังหนักใจ เรียกเท่าไหร่ คุณณัชชาก็ไม่ยอมลงมา ป้าก็กลัวคุณณัชชาจะพลาดพลั้งตกลงมาหัวร้างข้างแตก” สาวสูงวัยรายงานทันควัน สีหน้ายังตื่นกังวล

“ค่ะหนูก็กลัวคุณณัชชาจะตกลงมาจะแย่ ไม่รู้ปีนขึ้นตอนไหน” สาวใช้อีกคนสำทับ สีหน้ากังวลไม่ต่างกัน

ณิชารีย์รับฟังพลางพยักหน้าอย่างเข้าใจ ทุกคนในบ้านคุ้นเคยกับพฤติกรรมของณัชชาดี น้องสาววัยสิบหกปีของหล่อน มีปัญหาทางจิตใจจนส่งผลต่อพฤติกรรม ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรงเมื่อหลายปีก่อน ณัชชาเป็นเด็กเรียนเก่ง สดใสร่าเริง ทว่าทุกอย่างก็แปรเปลี่ยนไป เมื่อมัจจุราชร้ายได้พรากน้องสาวคนเดิมไปตลอดกาล

ณัชชากลายเป็นเด็กอารมณ์แปรปรวน เจ้าอารมณ์ อารมณ์รุนแรง ขวางโลก ชอบทำร้ายข้าวของ ทำอะไรหลุดโลกอยู่บ่อยครั้ง แต่หล่อนไม่เคยโกรธน้องสาว ณัชชาเป็นน้องสาวที่หล่อนพร้อมรับผิดชอบและดูแลไปตลอดชีวิต

“ณัชชา พี่กลับมาแล้ว ลงมาเถอะ อันตรายนะ ตกลงมาหัวร้างข้างแตก มันจะเจ็บนะ” ณิชารีย์พยายามเกลี้ยกล่อม
“ณัชชาไม่ลง ณัชชาชอบนั่งบนนี้” ณัชชาตอบเสียงยียวน พลางแบะปากใส่พี่สาว

“แต่บนนั้นอันตรายนะ ถ้าณัชชาตกลงมาจะทำยังไง ลงมาเถอะ วันนี้พี่จะทำอาหารญี่ปุ่นให้กิน ณัชชาชอบไม่ใช่เหรอจ๊ะ” ณิชารีย์ไม่ละความพยายามในการหว่านล้อม
“นั่นสิคะ คุณณัชชาลงมาเถอะ วันนี้คุณณิชอุตส่าห์ทำอาหารให้ ลงมาเถอะนะคะ เด็กดีของป้า”

“โอ๊ย! เบื่อ! น่ารำคาญ! หุบปากซะทีได้มั้ย พูดมากกันอยู่ได้” ณัชชาโวยวายเสียงดัง พลางเหวี่ยงรองเท้าใส่ในบ้านทั้งสองข้างใส่คนทั้งสาม ทุกคนหลบกันอย่างรู้หน้าที่ เพราะเป็นเหตุการณ์ปกติของคนในบ้านนี้

“ณัชชา ลงมาก่อนเถอะ บนนั้นมีแมลงสาบหรือเปล่าก็ไม่รู้ ณัชชาไม่กลัวหรือจ๊ะ”

“ปัญญาอ่อนหรือไง ใช้แผนโง่ๆ แบบนั้น เป็นถึงดอกเตอร์แต่กลับไม่มีสมอง” ณัชชาก่นด่าพี่สาว “แล้วทำไม ไม่ทำงานให้มันโต้รุ่งไปเลย อยากทำนักไม่ใช่หรือไง ก็ทำให้มันบ้าไปเลย ไม่ต้องกลับบ้านเลยยิ่งดี ณัชชาไม่อยากเห็นหน้าพี่ เกลียดยิ่งกว่าเกลียด”

ณิชารีย์เม้มปาก ถึงจะโดนน้องสาวด่าว่าแรงๆ แบบนี้บ่อยๆ แต่ก็ไม่ชินสักที คำพูดยอกแสยงใจเหล่านั้นทิ่มแทงหัวใจได้ทุกครั้งไป แต่ก็สมควรแล้ว ทุกวันนี้ที่ณัชชาต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ก็เพราะเป็นความผิดของหล่อนแต่เพียงผู้เดียว

“ณัชชาก็รู้ดีที่พี่ทำไปทุกวันนี้ก็เพื่อณัชชา รู้มั้ยพี่ใกล้จะทำมันสำเร็จแล้ว” ณิชารีย์สื่อสารกับน้องสาวอย่างใจเย็น

“โว้ย! ไม่ต้องมาโกหก คำก็ทำเพื่อณัชชา สองคำก็ทำเพื่อณัชชา กี่ปีมาแล้วที่พูดแต่คำนี้ ณัชชาเบื่อ ไม่อยากได้ยิน เซ็ง รู้มั้ยว่าเซ็ง! ”

“ณัชชาใจเย็นๆ สิ อย่าเครียด ไม่ดีต่อสุขภาพรู้มั้ย” ณิชารีย์เตือนอย่างนุ่มนวล แต่ณัชชาหันขวับมองตาขวางทันที

“ไม่ดีต่อสุขภาพ แล้วไง อย่างมากก็แค่ตาย ทีนี้พี่ณิชจะได้มีความสุข ไม่มีณัชชาเป็นมารชีวิต จะได้มีแฟน แต่งงาน มีครอบครัว มีลูกสักทีไง ไม่ดีใจหรือไง” คราวนี้นัยน์ตาคนพูดเริ่มแดงระเรื่อ คล้ายคนจะร้องไห้
“ใครบอกล่ะ พี่ไม่มีทางแต่งงานมีครอบครัวหรอก ชีวิตแบบนั้นน่าเบื่อจะตาย อยู่กับณัชชาแบบนี้มีความสุขกว่าตั้งเยอะ” ณิชารีย์ยืนกรานกับน้องสาว

ณัชชาจดจ้องพี่สาวอย่างหวาดระแวง แต่ขณะเดียวกันความหวาดหวั่นว้าเหว่เด่นชัดในดวงตาเช่นกัน ณิชารีย์แลเห็นความรู้สึกเหล่านั้นชัดเจน สงสารณัชชาจับจิต น้องสาวกลัวหล่อนจะทอดทิ้งไปมีครอบครัวของตัวเอง แต่หล่อนไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน ไม่มีทางที่จะตัดช่องน้อยแต่พอตัวเพื่อไปมีความสุขคนเดียวเด็ดขาด

“พี่ณิช ทั้งสวย ทั้งเก่ง จะเป็นไปได้ยังไง มีแต่ผู้ชายมาจีบพี่ สักวันพี่ก็ต้องทิ้งณัชชาไป”
คราวนี้น้ำเสียงแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมอง

“ไม่มีทาง พี่สัญญา พี่จะอยู่กับณัชชาอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เราจะมีกันสองคนพี่น้องแบบนี้ตลอดไป เชื่อพี่นะ” ณิชารีย์กล่อมพลางเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย ยื่นมือให้น้องสาวช้าๆ พร้อมส่งรอยยิ้มอบอุ่น
น้องสาวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็ยื่นมือให้พี่สาว และค่อยๆ ยื่นขาลงเหยียบเก้าอี้บนพื้น ก่อนจะก้าวลงสู่พื้นเบื้องล่างอย่างปลอดภัย โดยมีณิชารีย์ กับสองสาวใช้คอยระมัดระวังไม่ห่าง

“พี่ณิช ณัชชารักพี่ณิช” ณัชชากอดพี่สาวแน่นเมื่อลงมายืนที่พื้น
“พี่ก็รักณัชชา คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ รู้มั้ยพี่เป็นห่วงแค่ไหน” ณิชารีย์ลูบผมน้องสาวอย่างรักใคร่และเอ็นดู ส่วนสองสาวใช้ก็เฝ้ามองอย่างโล่งอก เมื่อเหตุการณ์กลับคืนสู่ความสงบ

“ณัชชา นั่งรอที่โต๊ะอาหารก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปทำมื้อเย็นให้ รับรองอร่อยเด็ดแน่” ณิชารีย์เอ่ยกับน้องสาว ณัชชาพยักหน้าให้ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ผิดกับณัชชาคนที่ทำตาขวางอาละวาดเมื่อสักครู่เป็นคนละคน
ณิชารีย์หันไปสั่งให้สาวใช้อยู่เป็นเพื่อนน้องสาว โดยให้แม่บ้านตามเข้าไปเป็นผู้ช่วยในครัว

“คุณณิช ไหวมั้ยคะ ป้าทำให้ดีกว่า คุณณิชนั่งพักเถอะค่ะ กลับมาจากที่ทำงานเหนื่อยๆ ”
ป้าแม่ครัวเสนอ อย่างเห็นอกเห็นใจนายสาว

“ไหวค่ะป้า ไม่ต้องห่วงณิชหรอก” ณิชารีย์ตอบพลางยิ้มกลบเกลื่อนความเหนื่อยล้าทางกายและใจ
“คุณณัชชา นั่งรออยู่ด้านนอก ไม่รู้หรอกค่ะ แค่คุณณิชบอกป้าว่าต้องทำยังไงก็พอ ป้าทำได้” หญิงสูงวัยยังรบเร้า

“ณิชไหวจริงๆ ค่ะป้าช่วยจัดการหั่นปลานี่ให้หน่อยนะคะ เอาชิ้นพอดีคำ จะทำซูชิให้ณัชชาเขาหน่อย เขาชอบกิน”
หญิงสูงวัยถอนหายใจเบาๆ รับเนื้อปลามาจัดการ “คุณณัชชาก็เหลือเกิน ไม่เห็นใจคุณณิชบ้างเลย ป้าว่าเธอเอาแต่ใจหนักข้อขึ้นทุกวันนะคะ”

“ป้าคะ ป้าก็รู้ว่า. . .ณัชชาต้องทนรับกับปัญหาอะไรอยู่ ณัชชาไม่ได้มีชีวิตเหมือนวัยรุ่นคนอื่น ต้องทนอุดอู้อยู่ในบ้าน ไม่ได้ไปโรงเรียน ไม่มีเพื่อน ไม่มีใคร ทั้งชีวิตเขามีแต่ณิชคนเดียว” ณิชารีย์อธิบาย น้ำเสียงแผ่วเบากังวานเศร้าสร้อยเหมือนทุกครั้ง

“ป้ารู้ค่ะ แต่บางทีป้าก็อยากให้คุณณิชได้มีชีวิตส่วนตัวบ้าง คบเพื่อนหรือใครสักคน อย่างน้อยจะได้เป็นกำลังใจให้กัน”

นางแนะนำอย่างจริงจังในแบบที่ณิชารีย์รู้ว่ามาจากความห่วงใยอย่างแท้จริง หญิงสูงวัยทำงานรับใช้ในบ้านหลังนี้มานาน ตั้งแต่ก่อนบิดาหล่อนจะเสียด้วยซ้ำ จึงรู้สึกเหมือนนางเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง
“ป้าอย่าพูดแบบนี้อีกนะคะ ณิชไม่อยากให้ณัชชาได้ยิน” ณิชารีย์สั่งเสียงเรียบก็จริง แต่กังวานเด็ดขาด

“ค่ะ ป้าขอโทษ” หญิงสูงวัยก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป

“ป้าค่ะ วันนี้ณัชชากินยาแล้วใช่มั้ยคะ” ณิชารีย์ถามขณะซาวข้าว
“ค่ะ เรียบร้อยแล้วค่ะ”

หลังจากผ่านไปเกือบสี่สิบนาที ชูซิหลากหลายแบบจานใหญ่ก็เสร็จเรียบร้อย แม่บ้านยกออกไปเสิร์ฟบนโต๊ะด้านนอก “ชูซิอร่อยๆ ฝีมือ คุณณิชมาแล้วค่ะ”

“แล้วพี่ณิชละคะ” ณัชชาถาม
“ยังอยู่ในครัวค่ะ เดี๋ยวสักพักคงออกมา” หญิงสูงวัยจัดแจงเตรียมจานและตะเกียบให้อีกฝ่าย “คุณณิชบอกว่าให้คุณณัชชากินก่อนได้เลยค่ะ เธอจะทำสลัดญี่ปุ่นอีกสักอย่างให้คุณณัชชา”

ณัชชาทำหน้างอ “ไม่ดีกว่า ณัชชาจะไปตามพี่ณิชมากินด้วยกัน ณัชชาไม่อยากกินคนเดียว”
จากนั้นเจ้าตัวก็ลุกพรวดเดินตัวปลิวตรงไปยังห้องครัว สองสาวใช้มองตามอย่างขำๆ ระคนเห็นอกเห็นใจ ประหนึ่งหาได้ถือสาพฤติกรรมก้าวร้าวก่อนหน้านี้ของเด็กสาว

ภายในห้องครัว ณิชารีย์กำลังปรุงสลัด ที่หูข้างหนึ่งมีอุปกรณ์เสียบหูขนาดเล็ก ขณะสนทนากับใครบางคนจากปลายสาย ซึ่งเป็นนักเมืองหนุ่มนายหนึ่งที่เคยพบกันเมื่อครั้งเข้าร่วมประชุมคราวก่อนเรื่องแคปซูลนาโนบอต ณิชารีย์พอจำได้รางๆ ว่านักการเมืองหนุ่มคนนี้มากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล และงุนงงว่าเขาโทร. มาหาทำไมกัน นอกเวลางานเช่นนี้

ทว่าก็ไม่ต้องฉงนสงสัยกันนานนัก เมื่อสนทนากันไม่กี่ประโยค ก็พอจับได้ว่าปลายสายมีเจตนาโทร. มาสานสัมพันธ์ฉันหนุ่มสาว และต้องการนัดออกไปพบปะกินข้าวด้วยกัน

“ขอโทษจริงๆ ค่ะ ดิฉันคงไม่ว่าง เอาไว้คราวหลังแล้วกันค่ะ” ณิชารีย์ปฏิเสธเสียงสุภาพเหมือนเฉกเช่นทุกครั้งที่มีเพศตรงข้ามแสดงความสนใจในตัวหล่อน

ปลายสายรบเร้าอีกสักครู่ใหญ่ ก็ยินยอมวางสาย ณิชารีย์ถอนหายใจเบาๆ ขณะกดวางสาย และหน้าเสีย เมื่อเห็นณัชชายืนจ้องมองมาอยู่หน้าห้องครัว นัยน์ตาคู่ที่เคยสดใส ยามนี้เต็มไปด้วยความหวาดระแวงอีกครั้ง

“พี่ณิชคุยกับใคร! ” ณัชชาถามเสียงกระด้าง เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอารมณ์ที่กำลังจะระเบิดของเจ้าตัว
“ไม่มีอะไรจ้ะ แค่เพื่อนที่ทำงานเท่านั้นเอง” ณิชารีย์รีบแก้ตัว ไม่อยากให้น้องสาวอาละวาดอีก

“โกหก! เพื่อนที่ทำงานหรือกิ๊กพี่กันแน่ ดอกเตอร์ณิชารีย์ คนสวย คงจะมีผู้ชายมาจีบเป็นกระบุง พี่คงภูมิใจกับความสวยของพี่มากสินะ จึงได้อ่อย ได้ยั่วผู้ชายไปทั่วแบบนี้” ณัชชาก่นด่าพี่สาวเสียงดังลั่น สองมือกำแน่น หายใจหอบหนักหน่วง สื่อชัดว่ากำลังจะสูญเสียความควบคุมตัวเองอีกครั้ง

“ไม่ใช่นะ ณัชชา คนที่โทร. มาเป็นเพื่อนพี่จริงๆ พี่ไม่ได้มีกิ๊กอะไรอย่างที่ณัชชาว่าเลยนะ”
ณิชารีย์พยายามอธิบายด้วยเหตุผล ยิ้มปลอบประโลมน้องสาว คนที่พร้อมจะสติแตกอาละวาดได้ตลอดเวลา เมื่อหลายปีก่อน ณัชชายังไม่มีพฤติกรรมรุนแรงเช่นนี้ แต่นับตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัยรุ่น เธอก็เอาแต่ใจ อาละวาดหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ

“เลิกโกหกซะทีได้มั้ย! พี่สวยจะตาย ทำไมจะไม่มีผู้ชายมาจีบ พี่มันคนเห็นแก่ตัว วันๆ เอาแต่ยั่วผู้ชาย แล้วก็มาโกหกว่าทำทุกอย่างก็เพื่อณัชชา! ”
ณัชชากล่าวหาอีกฝ่าย หน้าตาแดงก่ำ ราวกับคนเดือดจัด ก่อนจะวิ่งพรวดเดียวออกไปด้านนอก

“ณัชชา เดี๋ยวก่อน ฟังพี่ก่อน! ” ณิชารีย์ร้องเรียกน้องสาว และวิ่งตามทันที
“ว้าย! คุณณัชชาจะทำอะไรคะ ขอร้อง อย่าทำแบบนี้เลยนะ! ” หญิงสูงวัยกับสาวใช้อีกคน พยายามร้องห้ามณัชชา แต่ไม่เป็นผล ชูซิในจานถูกเหวี่ยงร่อนไปทั่วห้องด้วยฝีมือของสาวน้อย จนห้องอาหารเละเทะดูไม่ได้

สองสาวใช้คอยหลบหลีกซูชิที่ลอยเฉียดศีรษะไปมาเป็นระยะ หน้าตาตื่นเหมือนทุกครั้งยามณัชชาอาละวาดบ้านแตก

“ณัชชา ทำอะไร หยุดนะ! ” ณิชารีย์วิ่งออกมาจากในครัว ตกใจกับภาพที่เห็น พยายามร้องห้าม แต่ไม่เป็นผลอีกเช่นกัน ณัชชาคว้าจานซูชิทั้งจานเหวี่ยงใส่พี่สาว

“คุณณิชระวังค่ะ! ” สองสาวใช้ตะโกนเตือนพร้อมกัน ณิชารีย์หลบจานซูชิได้เฉียดฉิว แต่วินาทีถัดมา แจกันขวดเล็กบนโต๊ะ ก็ถูกเหวี่ยงตามมาติดๆ และครั้งนี้มันปะทะเข้ากับขมับณิชารีย์ดังกึก

“กรี๊ด! ” สองสาวใช้กรีดร้องพร้อมกันด้วยความตกใจ ปรี่เข้าไปหาณิชารีย์อย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมาย

“ตายแล้ว คุณณิชมีเลือดออกด้วย” หญิงสูงวัยเอ่ยเสียงสั่น เมื่อเห็นเลือดไหลเป็นทางจากขมับของนายสาว

“ณิชไม่เป็นไรหรอกค่ะ” ณิชารีย์ตอบพลางแตะขมับด้วยปลายนิ้ว สัมผัสถึงน้ำข้นๆ เหนียวๆ ในบัดดล

“คุณณัชชา ทำแบบนี้ได้ยังไง ถ้าคุณณิชเป็นอะไรไปจะทำยังไง! ” หญิงสูงวัยสุดจะทานทน ต่อว่าณัชชาอย่างอดรนทนไม่ไหว

“อย่างมากก็แค่ตาย อีกหน่อยณัชชาก็ต้องตาย ยังไม่เห็นตีโพยตีพายแบบนี้เลย ทำไม พี่ณิชเจ็บมากนักหรือไง โดนแค่นี้ ลองมาเป็นณัชชาดูมั้ย จะได้รู้ว่ามันเจ็บยิ่งกว่าแค่ไหน ณัชชาเกลียดพี่ณิช เกลียดคนในบ้านนี้ เกลียดโลกนี้ด้วย! ”

ณัชชาโวยวายราวกับคนคลุ้มคลั่ง และสะบัดพรืดวิ่งขึ้นบันได

ณิชารีย์มองตามหลังน้องสาวที่หายขึ้นไปชั้นบน พยายามกล้ำกลืนความรู้สึกหลายอย่างที่พร้อมจะทะลักทลายออกมาอย่างสุดกลั้น แต่สั่งตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ หล่อนไม่มีสิทธิ์อ่อนแอ ไม่ว่าจะเจ็บปวดทั้งทางกายและใจเพียงไหน ก็ไม่มีสิทธิ์จะประท้วง นี่คือความรับผิดชอบที่หล่อนต้องน้อมรับ

“คุณณิช ไปทำแผลก่อนเถอะค่ะ เลือดไหลใหญ่แล้ว” ป้าแม่บ้านเตือนอย่างห่วงใย
ณิชารีย์ส่ายหน้า “ณิชไม่เป็นไรหรอกค่ะ วานป้ากับจี๊ดทำความสะอาดห้องหน่อยนะคะ” สั่งเสร็จ ณิชารีย์ก็เดินตรงขึ้นบันได

“คุณณิชจะไปไหนคะ จะไม่ให้ป้าทำแผลให้ก่อนหรือคะ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ณิชทำแผลเองได้” ณิชารีย์พูดโดยไม่หันมอง เดินตรงขึ้นบันได เป้าหมายเพื่องอนง้อน้องสาว สองสาวใช้มองตามนายสาว ก่อนหันมองกัน สีหน้ากลัดกลุ้มกังวลไม่ต่างกัน

ก๊อก. . .ก๊อก. . .ก๊อก. . .

ณิชารีย์เพียรเคาะประตู พลางร้องเรียกน้องสาวเสียงนุ่มนวล “ณัชชา พี่เอง เปิดประตูให้พี่ได้มั้ยจ๊ะ”

เงียบกริบ ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เพียงแต่ไม่บ่อยครั้งนักที่หล่อนจะเลือดตกยางออกแบบนี้ อาการปวดที่ขมับข้างขวาแปลบขึ้นมาเป็นระยะ แต่ณิชารีย์ไม่คิดใส่ใจ แผลแค่นี้ คงไม่หนักหนาสาหัสเท่าไร แต่ที่หนักใจคือ ณัชชายังไม่ได้กินมื้อเย็น

“ณัชชา พี่จะทำอะไรให้กิน เอามั้ย”

เงียบกริบเช่นเดิม และไม่ว่าจะร้องเรียกอย่างไร ณัชชาก็ไม่ร้องตอบ หลังจากผ่านไปเกือบสิบห้านาที ณิชารีย์ ถอดใจ ถึงอย่างไรน้องสาวก็คงไม่เปิดประตูง่ายๆ เอาไว้พรุ่งนี้เช้า คงจะหายโกรธหล่อน
“ณัชชา พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ พี่จะสั่งให้ป้าทำมื้อเย็นขึ้นมาไว้หน้าห้อง ถ้าณัชชาหิว ก็ออกมากินนะ”

ณิชารีย์มองบานประตูห้องน้องสาวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดใจผละออกมา เพื่อเดินกลับเข้าห้องนอนตัวเอง เหนื่อยล้าและเจ็บปวดไม่ต่างจากทุกครั้ง หญิงสาวเดินไปนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างอยู่ครู่ใหญ่ๆ หลับตานิ่งอีกสักพัก หมายจะพักหัวใจเงียบๆ แต่เหมือนไม่มีอะไรดีขึ้น ความหดหู่ ท้อแท้ สิ้นหวัง ยังคงอยู่

เมื่อลืมตาขึ้น หันมองกระจกช้าๆ แลเห็นร่องรอยคราบเลือดข้างขมับขวาชัดเจน จึงยกมือขึ้นแตะช้าๆ สัมผัสได้ถึงความเหนียวข้นของเลือด

ริมฝีปากคู่สวยสั่นระริกเบาๆ น้ำตารื้นขอบตาช้าๆ แม้ฝืนกล้ำกลืน แต่ยามนี้หัวใจเหนื่อยล้าเกินไป หล่อนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้มานาน จนบางทีพลังชีวิตก็แทบไม่เหลือหลอ ยังเคยคิดเล่นๆ ว่าถ้านอนแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาก็คงจะดี จะได้ไม่ต้องรับรู้ถึงปัญหาต่างๆ ที่ประดังประเดเข้ามา แต่หล่อนจะทำเรื่องเห็นแก่ตัวแบบนั้นได้อย่างไร

พลันเสียงสัญญาณมือถือดังขึ้น ณิชารีย์ ถอนหายใจเหนื่อยล้า ขณะก้มมองเบอร์โทร. หวังว่าคงไม่ใช่นักการเมืองผู้นั้นโทร. มาหาอีก
ณิชารีย์นิ่งไปครู่ใหญ่ๆ เมื่อเห็นว่าใครโทร. มาหา. . .แดเนียล หยาง

น่าแปลกที่อย่างน้อยก็ดีใจที่เป็นเขาที่โทร. มา ในวินาทีที่หัวใจเหนื่อยล้าอย่างที่สุด การได้คุยกับใครสักคนที่ซ่อนตัวอยู่ในความคิดเราตลอดหลายวันที่ผ่านมา คงดีว่าการนั่งมองเหม่ออยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเพียงลำพัง
“สวัสดีค่ะ” ณิชารีย์ตัดสินใจกดรับสาย พยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ ไม่อยากให้เขาจับได้ถึงอาการสั่นเครือหรือความหมองเศร้าในน้ำเสียง

แดเนียลเงียบไปหลายอึดใจ ก่อนถามอย่างนุ่มนวล “คุณณิช เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

“เปล่านี่คะ คุณ เอ่อ แดนนี่มีธุระอะไรหรือคะ โทร. มาดึกเชียว” ณิชารีย์อดทึ่งไม่ได้กับประสาทหูอันยอดเยี่ยมของเขา

“ดึกหรือครับ สองทุ่มเอง คุณณิชจะเข้านอนแล้วหรือครับ” แดเนียลใช้น้ำเสียงอบอุ่นและอ่อนโยน จนไม่เหลือร่องรอยความกรุ้มกริ่มเหมือนทุกครั้ง

“ยังไม่เข้านอนหรอกค่ะ คงอีกสักพัก มีธุระอะไรสำคัญหรือเปล่าคะ”

“ก็ไม่เชิงมีธุระ เพียงแต่ผมอยากคุยกับคุณณิชเรื่องความคืบหน้าของแคปซูลนาโนบอตสักหน่อยน่ะครับ ไม่ทราบพรุ่งนี้เย็นๆ คุณณิชพอมีเวลาหรือเปล่า ผมจะไปรับที่ทำงานได้มั้ย”

ณิชารีย์อ้ำอึ้งอยู่ชั่วขณะ ไม่แน่ใจว่าเขาจงใจยกเรื่องงานมาอ้างหรือไม่ แต่จริงๆ แล้ว เขาก็มีสิทธิ์ที่จะสอบถามความคืบหน้าในโครงการที่เขาลงทุนไปมหาศาล และหล่อนก็มีหน้าที่ให้ข้อมูลที่เขาต้องการ
“ยังไงดิฉันทำเป็นรายงานส่งไปให้ดีมั้ยค่ะ”

หล่อนหาทางเลี่ยงความใกล้ชิดใดๆ ที่อาจนำพามาซึ่งความหวั่นไหว

“อืม ผมว่าคุยกันตัวต่อตัวน่าจะดีกว่านะครับ” เขายืนกราน

หลังจากนิ่งเงียบไปหลายอึดใจ ดอกเตอร์สาวสวยก็จำต้องตกปากรับคำ

“โอเคค่ะ งั้นพรุ่งนี้เลิกงาน เจอกันค่ะ” ณิชารีย์คงน้ำเสียงเอางานเอาการ ก่อนวางสาย ความสับสนเจืออยู่ในดวงตาคู่สวย ยามนึกถึงภาพของแดเนียล ถ้าเป็นปกติแล้ว คงไม่ลังเลที่จะสานความสัมพันธ์กับเขา แต่ชีวิต ณ เวลานี้ของหล่อน คงหมดสิทธิ์จะทำเช่นนั้น (จบบทที่ 6)



Create Date : 24 สิงหาคม 2554
Last Update : 24 สิงหาคม 2554 11:39:48 น. 0 comments
Counter : 288 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

isaiahland
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add isaiahland's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.