ฤดูหวานรัก...Sweet Ogi - Megi วางแผงแล้ว /สนพ. ที่รัก
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2554
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
บทที่ 3 ปฏิบัติการทลายกำแพง




“สวัสดีค่ะ อืม นั่นคุณ. . .” ณิชารีย์ถามปลายสายอย่างลังเล แต่จริงๆ แล้วค่อนข้างแน่ใจว่าเจ้าของเสียงห้าวทุ้มทรงอำนาจนั่นคือใคร

ภาพของหนุ่มหล่อสามเชื้อชาติที่มีนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคมกริบแต่ก็หวานซึ้งในคราวเดียวกันผุดขึ้นในห้วงความคิด วันนั้นภายใต้ท่าทีสำรวมอย่างดีเยี่ยมของหล่อน คงไม่มีใครู้ว่าหัวใจหล่อนเต้นรัวเร็วกว่าปกติ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเพราะผู้ชายคนนั้น แต่ ไม่ว่าหนุ่มหล่อคางบากคนนี้ จะดูดี มีเสน่ห์ มีแรงดึงดูดมากมายมหาศาลแค่ไหน ก็ฝันไปเถอะว่าหล่อนจะติดกับ เพราะแค่เห็นกันแวบเดียว ก็รู้ด้วยสัญชาตญาณว่า การเข้าใกล้ผู้ชายคนนี้ คือ การเล่นกับไฟ เพราะฉะนั้นอย่าอยู่ใกล้เขาถ้าไม่จำเป็น

แต่เชื่อหรือไม่ว่าน้อยครั้งนักที่ผู้ชายท่าทางเจ้าชู้ ก้อร่อก้อติก จะดูดีมีเสน่ห์ในสายตาหล่อน แต่ผู้ชายคนนี้ทำได้ และนั่นยิ่งต้องเตือนตัวเองให้มีสติตลอดเวลา หล่อนไม่มีเวลาจะมาหวั่นไหวเพราะใคร งานและภารกิจใหญ่หลวงกำลังรออยู่

“ผมแดนนี่ครับ” แดเนียลตอบเป็นภาษาไทย

ณิชารีย์อึ้งไปพอสมควรที่สำเนียงภาษาไทยของเขาไม่แปร่งเลยแม้แต่น้อย แต่นั่นก็ไม่น่าประหลาดใจเท่ากับที่ชายหนุ่มโทร. หา เดาไม่ออกว่าหนุ่มท่าทางเจ้าชู้ไม่หยอกคนนี้จะมาไม้ไหน

“ค่ะ ไม่ทราบว่า คุณแดนนี่มีธุระอะไรหรือคะ” หล่อนถามกลับอย่างเป็นงานเป็นการเต็มที่ อย่างน้อยเขาจะได้รู้ว่าระหว่างทั้งสองควรมีแค่เรื่องงานเท่านั้น

“อืม ผมอยากจะชวนคุณ อืม ไม่ทราบว่าคุณมีชื่อเล่นหรือเปล่าครับ”

“ณิชค่ะ”

“งั้นคุณคงไม่ว่าอะไรถ้าผมจะขออนุญาตเรียกชื่อเล่นคุณแทน”

หญิงสาวเงียบไปชั่วขณะ ก่อนตอบรับสั้นๆ “ค่ะ”

“โอเค คือผมอยากจะชวนคุณณิชไปทานมื้อค่ำน่ะครับ อยากจะคุยเรื่องงานนิดหน่อย”

“อืม ค่ำนี้ ฉันไม่ว่างน่ะค่ะ ติดงานในห้องแลป ขอโทษจริงๆ นะคะ” หล่อนปฏิเสธอย่างนิ่มนวล ไม่ได้โกหก แต่ติดงานจริงๆ

“งั้นวันอื่นล่ะครับ คือ ผมอยากถามรายละเอียดบางอย่างของงานวิจัย เพื่อใช้ในการตัดสินใจเรื่องการร่วมลงทุนน่ะครับ แต่ถ้า คุณณิชไม่ว่างก็ไม่เป็นไรครับ น่าเสียดายนะครับ เราน่าจะมีโอกาสได้ทานข้าวกันสักมื้อ”

ณิชารีย์นิ่งเงียบไปชั่วครู่ หล่อนควรอยู่ห่างผู้ชายคนนี้ก็จริง แต่คงไม่เป็นไร ถ้าจะออกไปกินข้าวกับเขาสักมื้อ เพื่อโน้มน้าวให้เขายอมร่วมลงทุนในโครงการวิจัย

เมื่อวันก่อน ได้พูดคุยกับประธานแห่งซินเซียร์ เชีย ชายสูงวัยมีทีท่าหนักใจทีเดียว หวั่นวิตกว่าแดเนียล หยางจะปฏิเสธการร่วมลงทุน และนั่นหมายถึงเขาอาจต้องหันไปขอความร่วมมือจากรัฐบาลหรือหน่วยงานในประเทศอื่นที่เขาไม่ไว้วางใจเลยสักนิดเดียว

หล่อนมีความเห็นไม่ต่างจากนายเอกภพ แม้เป้าหมายรองของทั้งสองจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่เป้าหมายหลักนั้นเหมือนกัน งานวิจัยครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อ ไม่มีหน่วยงานหรือรัฐบาลใดเข้ามาแทรกแซงโครงการวิจัย และหล่อนไม่มีวันยอมให้งานวิจัยครั้งนี้ล้มเหลวเด็ดขาด

“อืม วันพรุ่งนี้ ช่วงเย็นฉันพอมีเวลาน่ะค่ะ ไม่รู้คุณจะสะดวกมั้ยคะ” ณิชารีย์ถามออกไปในที่สุด

“ได้ครับ แล้วแต่คุณสะดวก งั้นผมไปรับคุณตอนทุ่มหนึ่งนะครับ”

“ฉันไปเองดีกว่า เลิกงานแล้วคงตรงไปเลยน่ะค่ะ”

ณิชารีย์ ไม่มีทางทราบว่าใบหน้าคมสันของคนปลายสายเปื้อนยิ้มอีกครั้ง

“ได้ครับ งั้นพรุ่งนี้เจอกันที่. . .คุณณิชสะดวกมั้ยครับ” เขาเอ่ยชื่อร้านอาหารฝรั่งเศสที่มีชื่อแห่งหนึ่ง

“ค่ะ” ณิชารีย์ตอบรับสั้นๆ กดวางสาย กอดอกขณะทอดมองออกไปนอกหน้าต่างในห้องทำงาน ณ เวลานี้ หล่อนคงไม่มีเวลาเปิดรับใครหรือสิ่งใดเข้ามาในชีวิต หรือพูดให้ถูกคือ เกือบห้าปีแล้วที่ชีวิตหล่อนไม่เหลือพื้นที่ให้กับสิ่งอื่นใด นอกจากการอุทิศทุกวินาทีของชีวิตให้กับการวิจัยค้นคว้าแคปซูลนาโนบอต รักษาเชื้อไวรัสเอชไอวี

แดเนียล หยาง อาจจะต้องผิดหวัง ถ้าเขาคิดจะหว่านเสน่ห์กัน และหล่อนจะย้ำกับตัวเสมอว่าระหว่างทั้งสองจะไม่มีทางเกินเลยไปกว่าคำว่างาน

**********

“นักธุรกิจนั่นไม่สนใจข้อเรียกร้องของเราเลยสักนิดเดียว พวกพ่อค้าหน้าเลือด เห็นแก่ผลประโยชน์มากกว่ามนุษยธรรม”

โรสลินเอ่ยกับเพื่อนนักสิทธิมนุษยชนอีกสี่คน ในห้องประชุมเล็กๆ ของทาวน์เฮาส์หลังย่อม ที่ดัดแปลงเป็นที่ทำงานของนักเคลื่อนไหวด้านมนุษยชนอิสระกลุ่มหนึ่ง

“เขาอาจคิดว่าเขาไม่ใช่คนไทยก็ได้” เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งแสดงความคิดเห็น

“แต่เขามีเลือดคนไทยอยู่ในตัวเขาถึงหนึ่งในสาม ข่าววงในแจ้งมาว่า เขาพูดภาษาไทยได้ชัดไม่แพ้คนไทยคนหนึ่ง ซึ่งแค่นี้ก็ฟ้องถึงความเป็นคนไทยของเขามากพอแล้ว” โรสลินตอบ

“แล้วเราจะทำยังไงต่อไป” หญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มถามขึ้น

“เราจะเรียกร้องให้ถึงที่สุด จะไม่ยอมถอยง่ายๆ เดอะ วัน เทเลคอม กับกระทรวงเอ็มไอซีของเวียดนาม ละเมิดสิทธิมนุษยชนกันเห็นๆ แต่นักธุรกิจไทยกลับไปร่วมลงทุนกับเดอะ วัน เทเลคอม แล้วหมอนี่ก็เส้นใหญ่อีกต่างหาก รัฐบาลไทยทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเรื่องนี้ ฉันยื่นเรื่องไปทางเลขาฯ นายกรัฐมนตรี เรื่องก็เงียบหายเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง”

โรสลินมีสีหน้าไม่พอใจ หล่อนเกลียดการละเมิดสิทธิมนุษยชนยิ่งกว่าอะไร และจะต่อสู้เพื่อเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

“แดเนียล หยาง เป็นนักธุรกิจ นักลงทุน ที่มีพาวเวอร์มากๆ นะ โรส มีทรัพย์สินมากมายมหาศาล รัฐบาลไทยต้องการให้เขานำเงินมาลงทุนในไทย เลยเอาอกเอาใจกันน่าดู ฉันได้ข่าวว่า ซินเซียร์ เอเชีย บริษัทยายักษ์ใหญ่ที่มีรัฐบาลหนุนหลัง หวังดึงให้เขามาเป็นผู้ร่วมลงทุนอีกราย” นักสิทธิมนุษยชนอีกคนเสริมขึ้น

“ฉันรู้ เรื่องผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร แต่ฉันไม่ยอมง่ายๆ หรอก เราต้องทำเรื่องนี้ให้เป็นบรรทัดฐานของสังคม เพื่อประกาศจุดยืนต่อสังคมว่า นักสิทธิมนุษยชนไม่เห็นด้วยต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือการสนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกรูปแบบ นี่คือหน้าที่ของพวกเรา” โรสลินพูดเป็นงานเป็นการ

“งั้นเธอจะทำยังไงต่อไปกับเรื่องนี้ล่ะ โรส ยื่นจดหมายร้องเรียนก็แล้ว ให้ข่าวทางนสพ. ก็แล้ว หมอนั่นก็เหมือนไม่แคร์”

“ฉันจะทำเรื่องขอเข้าพบแดเนียล หยาง จะไปอธิบายด้วยตัวเองว่าสิ่งที่เขาทำไม่ถูกต้อง ถือเป็นการสนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชนทางอ้อม และถ้าเขาเป็นนักธุรกิจที่ยังเหลือมนุษยธรรมก็ควรทบทวนการร่วมลงทุนนั่นซะ”

โรสลินมีสีหน้าเอาจริง ไม่ว่าแดเนียล หยาง จะเป็นใครมาจากไหน จะมีเส้นสายใหญ่โต หล่อนก็ไม่สน หล่อนยึดหลักการทำงานบนพื้นฐานความถูกต้องมาตลอด และจะไม่มีสิ่งใดมาสั่นคลอนปณิธานดังกล่าวได้

“ยื่นจดหมายขอเข้าพบ จะได้ผลเหรอ เราทำตั้งหลายวิธี เขายังไม่สนใจเลย”

“ฉันก็จะยื่นจดหมายไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะยอมให้พบ หรือถ้าถึงที่สุดจริงๆ ฉันก็จะบุกไปหาเขาด้วยตัวเอง” น้ำเสียงของหญิงสาวฟ้องชัดว่าไม่ได้พูดเล่น

“บุกไปพบเขาด้วยตัวเอง ล้อเล่นน่ะ โรส แบบนั้นไม่แรงไปหน่อยเหรอ” เพื่อนอีกคนในกลุ่ม ท้วงขึ้นอย่างวิตกกังวล ถึงชินกับวิธีการทำงานแบบถึงลูกถึงคนของโรสลินก็จริง แต่บางกรณีก็คิดว่าแรงไปสักหน่อย

“ถ้าไม่จำเป็นฉันก็คงไม่ทำวิธีนั้นหรอก แล้วมันก็ขึ้นอยู่กับนายแดเนียล ว่าจะยอมรับฟังข้อเรียกร้องของเรามากน้อยแค่ไหน” ความแน่วแน่ฉายเด่นในดวงตากลมโต

โรสลินอุทิศและทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิตเพื่องานสิทธิมนุษยชน ทุกวินาทีมีแต่เรื่องงาน และการไม่มีภาระหรือใครให้ห่วง เอื้อต่อการทำงานเป็นอย่างยิ่ง การเติบโตจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง ไม่มีพ่อแม่ หรือญาติพี่น้องสักคน ไม่ได้ทำให้หล่อนน้อยใจในโชคชะตาหรือนอกลู่นอกทางตอนอยู่ในช่วงวัยรุ่น

หล่อนตั้งอกตั้งใจเรียนหนังสือ มุ่งมั่นจะเรียนจบให้สูงสุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อหวังนำความรู้ที่ได้มาช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะ ผู้คนในประเทศที่มีขัดแย้ง คนจน ผู้ด้อยการศึกษา หรือ เด็กกำพร้า กลุ่มคนเหล่านี้มักเป็นเหยื่อของการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน

การเติบโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ทำให้รู้ดีว่า ชีวิตแบบนั้นชวนให้สิ้นหวังง่ายมากเพียงไหน การไม่มีพ่อแม่มาคอยภาคภูมิใจในตัวคุณ ถือเป็นโศกนาฏกรรมอย่างหนึ่งในชีวิต แล้วถ้าคุณไม่เข้มแข็งพอ คุณก็จะใช้ชีวิตจมปลักอยู่กับความสิ้นหวัง จนลืมไปว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะไขว่คว้าตามหาความฝันเหมือนใครๆ ลืมไปว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะมีคุณค่า ที่สำคัญมีสิทธิ์ที่จะเป็นหนึ่งพลังในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

สิ่งนี้ทำให้หล่อนตั้งปณิธานว่าจะทำงานด้านสิทธิมนุษยชนให้ได้ และทำสิ่งนี้สำเร็จอย่างงดงามในที่สุด หลังจากได้ทุนไปเรียนต่อระดับปริญญาโทด้านวารสารศาสตร์ในสหรัฐอเมริกา ได้มีโอกาสทำงานกับองค์การสหประชาชาติอยู่ช่วงหนึ่ง และกลับมาทำงานเป็นนักข่าวในเมืองไทยอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะผันตัวมาเป็นนักเคลื่อนไหวอิสระด้านสิทธิมนุษยชน รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ร่วมสายงานที่มีอุดมการณ์คล้ายกัน ทำงานช่วยเหลือสังคมอย่างจริงจังและจริงใจตลอดห้าปีที่ผ่านมา

**********

ณิชารีย์ เหลียวมองโต๊ะรอบข้างภายในร้านอาหารหรูมากๆ แห่งหนึ่ง ด้วยความประหลาดใจ ทุกโต๊ะว่างเปล่า ไม่มีแขกสักคน ทั้งร้านมีลูกค้าแค่หล่อนกับแดเนียล หยาง ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แววตาคมเปื้อนรอยยิ้มขำๆ เมื่อเห็นหล่อนขมวดคิ้วกับบรรยากาศรอบข้าง

หล่อนอยู่ในชุดทำงานเคร่งขรึมคล้ายๆ วันนั้น เพียงแต่วันนี้ไม่ได้สวมแว่นตาเหมือนเมื่อคราวก่อน

“ร้านนี้มีแค่เราเท่านั้นหรือคะ” ดอกเตอร์สาวสวยถามออกไปอย่างสงสัย

“ครับ คุณคงไม่ว่าอะไรนะ ถ้าวันนี้ผมเหมาโต๊ะอาหารทุกโต๊ะในร้านนี้ไว้” ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก หรี่ตาข้างหนึ่งเล็กน้อย จนคล้ายหนุ่มน้อยอารมณ์ดีคนหนึ่งมากกว่าเป็นนักธุรกิจวัยสามสิบสามปี ที่มีพรสวรรค์ด้านการเงินและการลงทุน

เมื่อคืนนี้หล่อนมีโอกาสอ่านประวัติของเขาย่อๆ จากในอินเทอร์เน็ต บอกกับตัวเองว่าที่สนใจค้นหาประวัติของเขาก็เพราะอยากรู้จักว่าที่ผู้ร่วมลงทุนอีกรายของซินเซียร์ เอเชีย ไม่ใช่เพราะความสนใจส่วนตัว แล้วก็ทึ่งที่เขาประสบความสำเร็จอย่างสูงกับลงทุนในตลาดหุ้น

เขากลายเป็นมหาเศรษฐีคนหนึ่งที่มีทรัพย์สินมากมายมหาศาลภายในเวลาชั่วพริบตา และไม่นานมานี้ เขาเริ่มเปิดตัวในฐานะผู้ร่วมลงทุนในธุรกิจข้ามประเทศ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นโครงการระดับยักษ์ใหญ่ทั้งสิ้น เขากำลังกลายเป็นหนึ่งในนักธุรกิจหนุ่มผู้ทรงอิทธิพลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก

สื่อต่างชาติตั้งสมญานามให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงคนนี้ว่า ฮอว์ก อายด์ (Hawk-Eyed) เหตุเพราะเขามีนัยน์ตาคมกริบไม่ต่างจากเหยี่ยว สามารถมองเห็นทุกสิ่งอย่างในแง่ของธุรกิจการลงทุนอย่างทะลุปรุโปร่ง

ประวัติครอบครัวของเขามีให้สืบค้นไม่มาก ไม่มีใครรู้รายละเอียดแน่ชัดนัก รู้แค่พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกเมื่อหลายปีก่อน พ่อของเขาเป็นลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง ส่วนแม่เป็นชาวอเมริกัน เขาได้รับเงินมรดกก้อนโตจากบิดามารดาหลายสิบล้านเหรียญฮ่องกง

ด้วยจุดเริ่มต้นจากเงินมรดกก้อนนั้นบวกกับพรสวรรค์ส่วนตัว เขากลายเป็นอภิมหาเศรษฐีภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เป็นหุ้นส่วนในธุรกิจใหญ่ๆ ในหลายประเทศ ต้องเดินทางบ่อยไม่ต่างกับการต้องกินข้าวสามมื้อ หลายเดือนมานี้เขาเป็นที่สนใจของสื่อ เหตุเพราะการร่วมลงทุนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการสื่อสารคมนาคมของเวียดนาม ต่อด้วยการที่ซินเซียร์ เอเชีย พยายามเจรจาติดต่อให้เขามาร่วมลงทุนกับโครงการวิจัย แคปซูลนาโนบอต และนี่คือข้อมูลทั้งหมดที่หล่อนพอจะสืบค้นได้

“คุณไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลยนี่คะ” ณิชารีย์เอ่ยเสียงขรึม สีหน้าเรียบเฉย ถ้าเขาคิดว่าจะหลอกล่อหล่อนด้วยวิธีที่อาจเคยใช้กับผู้หญิงคนอื่นๆ ละก็ เขาคงคิดผิด หล่อนไม่ได้ใจอ่อนง่ายๆ กับผู้ชายเจ้าบุญทุ่ม

“ผมทำอะไรครับ” เขาถามหน้าตาเฉย

“ก็ที่คุณ. . .เหมาโต๊ะอาหารทุกโต๊ะในร้าน. . .ฉันว่ามันเป็น. . .วิธีเชยไปแล้วละค่ะ”

ณิชารีย์ตัดสินใจไม่อ้อมค้อม ถ้าเขาคิดจะก้อร่อก้อติกกับหล่อน จะได้เลิกคิดซะ แล้วที่หล่อนมาวันนี้ก็เพื่อโน้มน้าวให้เขาสนใจการร่วมสนับสนุนโครงการวิจัย นี่ไม่ใช่เวลาอ้อยอิ่งตามเกี้ยวกันของหนุ่มสาว และหล่อนไม่มีเวลาสำหรับเรื่องไร้สาระพวกนี้

แดเนียลตีหน้าซื่อ “วิธีเชยไปแล้ว ทำไมละครับ หรือคุณไม่ชอบความเป็นส่วนตัว”

“ฉันชอบความเป็นส่วนตัว แต่ไม่ใช่ในกรณีนี้ค่ะ”

“กรณีนี้ นี่กรณีไหนครับ”

รอยยิ้มในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนชวนให้น่าโมโหนัก แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อาจปฏิเสธว่านัยน์ตาแสนมีชีวิตชีวาคล้ายพูดได้ของเขาช่างมีเสน่ห์กว่านัยน์ตาทุกคู่ที่หล่อนเคยพบมา จนต้องย้ำกับตัวเองอีกครั้งเพราะเกรงจะลืม ว่าเขาคือผู้ชายที่ควรอยู่ห่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

“คุณก็น่าจะเข้าใจว่าฉันหมายถึงอะไรนี่คะ” ฝืนสบตากับเขาราวกับไม่สะทกสะท้านกับใบหน้าหล่อเหลาคมสันเปื้อนรอยยิ้มละไมนั่นสักนิดเดียว และห้ามให้เขารู้เด็ดขาดว่าชีพจรหล่อนเต้นระรัวสักเพียงไหน

แดเนียลหรี่ตาเล็กน้อย รอยยิ้มในแววตาวาววับราวกับพึงพอใจนักหนา

“โอเค ผมเข้าใจ แต่คุณณิชไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องนั้นหรอกครับ ที่วันนี้ผมเหมาโต๊ะอาหารทุกโต๊ะในร้านนี้ เพราะผมอยากได้ความเป็นส่วนตัวจริงๆ แต่สำหรับคุยเรื่องงานนะครับ แคปซูลนาโนบอต เป็นอภิมหาโปรเจกต์ที่ผมต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ มากจนคุณณิชคงไม่โกรธ ถ้าผมจะบอกว่า ผมมาคุยเรื่องงานกับพาร์ตเนอร์คนสำคัญอยู่หลายครั้งที่ร้านอาหารนี้ เหมาโต๊ะทุกโต๊ะในร้านเหมือนตอนนี้ เพราะต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง ที่สำคัญ พาร์ตเนอร์เหล่านั้นเป็นผู้ชายซะส่วนใหญ่ และนั่นคงไม่ได้หมายความว่าผมมีจิตพิศวาสกับผู้ชายพวกนั้นทั้งหมดนะครับ”

ณิชารีย์อึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนใบหน้าจะร้อนผะผ่าว หน้าแตกดังเพล้ง แต่เมื่อสบตากันอยู่ชั่วขณะ แลเห็นประกายล้อเลียนในดวงตาอีกฝ่าย จึงเก้อเขิน และอดยิ้มขำไม่ได้ หลุดมาดขรึมไม่รู้ตัว

“คุณน่าจะยิ้มบ่อยๆ นะครับ เวลาคุณยิ้ม ดูน่ารักมากๆ ทำผมเกือบลืมไปเลยว่าคุณคือ รองศาสตราจารย์ดอกเตอร์ ณิชารีย์” แดเนียลพูดขึ้นเสียงห้าวทุ้ม ไม่ละสายตาจากดวงหน้าอีกฝ่าย

แก้มเนียนแดงระเรื่ออีกครั้ง นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้สัมผัสความรู้สึกเขินอายเช่นนี้ อาจจะนานจนจำไม่ได้เลยกระมัง ผู้ชายคนนี้ปลุกความมีชีวิตชีวาของหล่อนฟื้นคืนมาอีกครั้ง

“คุณพูดยังกับฉันทำหน้าบึ้งตลอดเวลางั้นแหละค่ะ”

อดเย้าหยอกกลับไม่ได้ ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์มากเกินไป และหล่อนก็ไม่อยากตกหลุมเสน่ห์เขา แต่. . .ชั่วขณะนี้ บางสิ่งที่ถูกกักขังไว้ภายในร่ำร้องการปลดปล่อย และคงไม่เป็นไร ถ้า. . .หล่อนจะปลดปล่อยมันสักครั้ง

“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น เพียงแต่คุณดูเคร่งขรึมและเย็นชาเท่านั้นเอง จนผมคิดว่านั่นคือบุคลิกคุณ แต่จริงๆ นั่นอาจเป็นแค่บุคลิกภายนอกของคุณเท่านั้น”

“คุณพูดยังกับรู้จักฉันดีอย่างนั้นแหละ” แม้รู้ว่าอาการสั่นไหวในหัวใจที่ทบทวีคูณมากขึ้นทุกที คือ สัญญาณอันตราย แต่ยามนี้มันเกินต้านทาน หัวใจหล่อนแห้งแล้งเกินไป จนอยากได้ความชุ่มชื่นแม้เพียงสักน้อยนิดจากใครสักคน

แดเนียล หรี่ตาอีกครั้ง ใบหน้าคมสันยังเปื้อนรอยยิ้มละมุน “อาจจะหรือไม่ก็ได้ แต่ผมแค่รู้สึกถึงกำแพงล้อมรอบตัวคุณเท่านั้นเอง และคุณคงไม่ว่าถ้าผมอยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างหลังกำแพงนั่น”

ผู้ชายคนนี้มีรอยยิ้มและแววตาเป็นอาวุธพิฆาตหัวใจผู้หญิงได้ไม่ยาก ขนาดหล่อนยังเพลิดเพลินกับการจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้า

“บางทีอาจไม่ได้มีอะไรน่าสนใจสำหรับคุณก็ได้”

“เราจะไม่มีวันรู้ว่าสิ่งอยู่ที่อยู่เบื้องหลังกำแพงนั่นน่าสนใจหรือไม่ จนกว่าผมจะได้เข้าไปสำรวจดู” แดเนียลพูดเป็นนัย

ณิชารีย์ต้องควบคุมอาการสั่นคลอนภายในอย่างหนักแน่น หล่อนกำลังหลงเสน่ห์ผู้ชายคนนี้มากขึ้นทุกที แม้เพิ่งพบกันเป็นครั้งที่สอง

“เรามัวแต่คุยนอกเรื่อง มิสเตอร์หยา. . .”

“แดนนี่ครับ” เขาพูดแทรกขึ้นยิ้มๆ

“ค่ะ คุณแดนนี่คงลืมไปมั้งคะว่าทำไมเราถึงมาพบกันในคืนนี้” ตัดสินใจเบนหัวข้อสนทนา ก่อนที่หล่อนจะพลาดพลั้งติดกับดักเกินถอนตัว

แลเห็นรอยยิ้มขำในแววตาชายหนุ่ม เขาทำเหมือนรู้ว่าหล่อนกำลังกลัว. . .กลัวความต้องการจากส่วนลึกของตัวเอง ใช่ หล่อนพึงใจในตัวเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น และเพียรพยายามซ่อนเร้นไว้ลึกสุดใจ

“โอเคครับ งั้นเรามาเข้าเรื่องกัน อืม ผมสนใจงานวิจัยชิ้นนี้มากเลยนะครับ แคปซูลนาโนบอตรักษาเชื้อไวรัสเอชไอวี นี่มันเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของมนุษยชาติกันทีเดียว ถ้าประสบความสำเร็จ คุณณิชคงกลายเป็นบุคคลสำคัญระดับโลก จนไม่มีเวลามานั่งพูดคุยกับผมเหมือนตอนนี้ก็ได้” แดเนียลกระเซ้าในตอนท้าย

ณิชารีย์ยิ้มตอบ ผ่อนคลายมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกถึงความเป็นกันเองระหว่างทั้งสองที่แทรกซึมเข้ามา
ทีละนิด “ฉันไม่สนใจเรื่องชื่อเสียงพวกนั้นหรอกค่ะ”

“แล้วคุณณิชสนใจอะไรละครับ” แดเนียลถามอย่างสนใจ

“ฉันขอแค่ให้ แคปซูลนาโนบอต สำเร็จสมบูรณ์ก็เพียงพอแล้วค่ะ ถ้าเราสามารถนำแคปซูลนาโนบอตที่เราค้นคว้าวิจัยไปรักษาผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัสเอชไอวีได้ ความฝันของฉันก็จะเป็นจริงซะที มันช่างเป็นการรอคอยที่ยาวนานเหลือเกิน”

“คุณคงมุ่งมั่นกับงานวิจัยชิ้นนี้มาก”

ณิชารีย์ พยักหน้า น่าแปลกที่ได้นั่งคุยกับเขาเพียงไม่นาน ก็เหมือนได้นั่งคุยกับเพื่อนสักคน ที่เราไม่ต้องกังวลใจที่จะเล่าเรื่องราวใดๆ

“หลายปีมานี้ฉันทุ่มเททั้งชีวิตให้กับงานวิจัยชิ้นนี้เพียงอย่างเดียว และในที่สุดก็ใกล้จะเป็นจริงสักที”

“ผมก็เชื่ออย่างนั้น มันจะสำเร็จในอนาคตอันใกล้นี้”

“หมายความว่าคุณจะร่วมลงทุนกับซินเซียร์ เอเชีย แน่นอนแล้วใช่มั้ยคะ” ไม่อาจเก็บความดีใจในสีหน้า

“ครับ ผมสนใจและติดตามโครงการวิจัยนี้มาสักระยะแล้ว และยิ่งได้อ่านรายละเอียดของโครงการที่คุณส่งให้ผมก่อนหน้านี้ ผมคิดว่านี่ไม่น่าใช่โครงการแห่งความเพ้อฝัน และเชื่อว่าคุณจะหาวิธีลดค่าความเป็นพิษของเดอะ เพอร์เฟ็กต์ บัคกี้บอลล์ ได้สำเร็จในไม่ช้า ผมดีใจนะครับที่จะได้จับมือกับซินเซียร์ เอเชีย”

“ขอบคุณนะคะ ฉันก็ดีใจเช่นกันที่ทางซินเซียร์ เอเชียจะได้ผู้ร่วมสนับสนุนรายใหม่ที่มีวิสัยทัศน์คล้ายๆ กัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาพันธมิตรที่เข้าใจและยอมรับกระบวนการทำงานในโครงการวิจัยของเรา”

“หมายความว่าที่ผ่านมามีปัญหาในเรื่องนี้มากพอสมควรเลยใช่มั้ยครับ” แดเนียลถามอย่างสนใจ

“ค่ะ หลายหน่วยงานในต่างประเทศสนใจจะเข้าร่วมลงทุนกับซินเซียร์ เอเชีย แต่เราดูออกว่าพวกเขาต้องการเข้ามาควบคุมโครงการวิจัยที่ใกล้จะแล้วเสร็จมากกว่า”

“เป็นธรรมดาครับ นี่ไม่ใช่แค่โครงการวิจัยทั่วไป แคปซูลนาโนบอต สามารถเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบได้เลย ขนาดผมเองยังอดใจรอไม่ไหว คงเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกแน่”

ณิชารีย์ยิ้มอวดฟันขาวเรียงรายเป็นระเบียบ ความหวังทั้งชีวิตของหล่อนอยู่ที่ งานวิจัยแคปซูลนาโนบอตชิ้นนี้ และมีความสุขทุกครั้งที่มีเพื่อนร่วมฝันเพิ่มขึ้นอีกคน โดยเฉพาะผู้ชายคนนี้ จู่ๆ ก็สำคัญขึ้นมาดื้อๆ ที่เขาจะเป็นหนึ่งในผู้ร่วมผลักดันให้ความฝันครั้งนี้ของหล่อนเป็นจริง

“อืม แล้วคุณคิดว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนในการถอดรหัสชุดสุดท้าย” แดเนียลถามขึ้น

“อาจจะสักครึ่งปีหรือหนึ่งปี หรือถ้านานกว่านั้น ก็ไม่น่าจะเกินสองปี เราเข้าใกล้มันเต็มทน แต่ฉันยอมรับว่าด่านสุดท้ายหินมากทีเดียว เดอะ เพอร์เฟ็กต์ บัคกี้ บอลล์ ถือเป็นสารอัจฉริยะ มันซ่อนความลับอันน่าทึ่งในตัวของมันเองอย่างมากมาย มีโครงสร้างสลับซับซ้อน คล้ายกับว่ามันถูกสร้างมาเพื่อท้าทายมนุษยชาติ แต่ฉันเชื่อว่าทุกความพยายามย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จ และแคปซูลนาโนบอตตัวนี้จะเป็นจริงในไม่ช้า” ณิชารีย์อธิบายอย่างมั่นใจ

“ไม่อยากเชื่อเลยนะครับ ว่าในที่สุดมนุษย์เราจะพัฒนาและเดินทางไปถึงเทคโนโลยีสุดท้ายของยุคหน้าได้สำเร็จ เครื่องจักรกลจิ๋วขนาดเท่าโมเลกุล ถูกติดตั้งโปรแกรมให้ทำลายเชื้อไวรัสเอชไอวี คุณเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งมาก” แดเนียลชื่นชมจากใจจริง

“ถ้างานวิจัยชิ้นนี้เสร็จสิ้น คงต้องขอบคุณทีมวิจัยทุกคนค่ะ ฉันเพียงคนเดียวคงไม่สามารถทำงานชิ้นนี้สำเร็จได้แน่นอน เราต้องดึงตัวนักวิทยาศาสตร์และทีมแพทย์หลายแขนงมาช่วยในงานวิจัยครั้งนี้”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คุณก็ยังน่าทึ่งอยู่ดี บอกตามตรงผมประทับใจในความสามารถของคุณ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้พบผู้หญิงที่ทั้งสวยและเก่งระดับนี้” ประกายแพรวพราวในดวงตาคมสอดรับกับรอยยิ้ม

ณิชารีย์ยิ้มน้อยๆ ณ ตอนนี้ กำแพงล้อมรอบตัวทลายลงทีละนิด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าหล่อนจะให้เขารุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตส่วนตัวง่ายๆ ภารกิจของหล่อนสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด หล่อนอาจเปิดใจรับเขาในฐานะเพื่อน แต่คงไม่มีทางมากกว่านั้น ถึงเขาจะมีเสน่ห์เกินห้ามใจก็เถอะ

“ฉันไม่ใช่คนบ้ายอนะคะ ถ้าคุณคิดว่าฉันอาจหลอกง่ายเหมือนเด็กสาวเอ๊าะๆ ละก็ คุณคงต้องเปลี่ยนความคิดแล้วแหละค่ะ”

แดเนียลยิ้มขำ “พูดแบบนี้ผมเสียหายนะครับเนี่ย แล้วผมก็กลับเนื้อกลับตัวตั้งนานแล้วครับ เด็กสาวเอ๊าะๆ ไม่ได้แอ้มผมแน่นอน แต่ถ้าเป็นผู้หญิงที่มีความพร้อมทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิก็ไม่แน่”

ณิชารีย์หลุดหัวเราะเบาๆ “เพิ่งรู้นะคะว่าคุณก็มุกเยอะเหมือนกัน”

“ผมก็เพิ่งรู้ว่านอกจากคุณจะยิ้มน่ารักแล้ว หัวเราะก็ดูดีไม่ต่างกัน บอกตามตรง ตอนแรกผมสงสัยว่า ดอกเตอร์ณิชารีย์ จะหัวเราะเป็นหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมรู้คำตอบแล้ว แล้วก็เสียงหัวเราะคุณน่าฟังมากๆ ”

อย่าถลำลึกไปกับคำหวานของผู้ชายเจ้าชู้คนนี้ ณิชารีย์สั่งตัวเองในใจ แต่ไฉนหนอ ใจเจ้ากรรมถึงพองโตอิ่มเอิบนักก็ไม่รู้

พลันเสียงคล้ายโต้เถียงของใครก็ไม่ทราบด้านนอกประตูร้านดังแว่วเข้ามา แดเนียลและณิชารีย์หันมองตามเสียงพร้อมเพรียงกัน

“เกิดอะไรขึ้นคะนั่น” ณิชารีย์หันมาถาม

“ผมไม่แน่ใจเหมือนกันครับ” แดเนียลหน้านิ่ว ทั้งเสียอารมณ์ที่ถูกขัดจังหวะและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะนั้นเอง พนักงานคนหนึ่งในร้านก็เดินเข้ามาหาด้วยท่าทางนอบน้อมอย่างรู้หน้าที่

“เกิดอะไรขึ้น เสียงโต้เถียงกันของใครกัน” แดเนียลถามพนักงานเสียงขรึม

“ทางร้านต้องขอประทานโทษด้วยครับ ท่าน มีความผิดพลาดเล็กน้อยครับ คือ เรากำลังเคลียร์อยู่น่ะครับ คาดว่าจะเรียบร้อยในไม่ช้า”

พนักงานต้องเพิ่มระดับเสียงเพื่อแข่งกับเสียงโต้เถียงที่เพิ่มดีกรีรุนแรงขึ้นทุกขณะ ตามด้วยปาดเหงื่อและหน้าเสีย เมื่อเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังก้องชัดทั่วทั้งห้อง จนทุกคนในที่นั้นได้ยินเต็มสองหู

“หมายความยังไงไม่ทราบ ฉันจองโต๊ะไว้ล่วงหน้า แต่คุณกลับมาบอกว่า ไม่มีโต๊ะว่าง เพราะลูกค้าคนหนึ่งของคุณเหมาโต๊ะทุกโต๊ะในร้านไปแล้ว คุณไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยหรือไง ฉันไม่รู้ว่าลูกค้าคนสำคัญของคุณเป็นใคร ใหญ่โตแค่ไหน แต่ที่ฉันรู้ก็คือ มนุษย์ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน แต่สิ่งที่คุณทำคือการเลือกปฏิบัติ ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณเติบโตขึ้นมาในประเทศประชาธิปไตยได้ยังไง” โรสลินต่อว่าพนักงานเป็นชุด น้ำเสียงฟ้องชัดว่าหงุดหงิดอย่างมาก

พับผ่าสิ! แม่คุณเป็นนักสิทธิมนุษยชนหรือไงกันเนี่ย แดเนียลแอบคิดในใจ อยากจะขำแต่ก็ขำไม่ออก อุตส่าห์ตั้งใจจะพัฒนาความสัมพันธ์กับดอกเตอร์สาวสวยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ก็มีมารมาผจญเสียนี่

เสียงเปิดประตูประสานกับเสียงร้องห้ามของพนักงานด้านนอก

“ขอโทษนะครับ คุณผู้หญิงเข้าไปไม่ได้ครับ”

ทุกคนในที่นั้นหันขวับไปตามเสียง รวมทั้งแดเนียล แม้ระยะทางจากโต๊ะที่เขานั่งกับประตูจะไม่ใกล้นัก แต่เขาก็เห็นหน้าหญิงสาวได้ชัดเจน หนุ่มหล่อขมวดคิ้ว. . .เขาคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้เป็นบ้าเลย (จบบทที่ 3)





Create Date : 19 สิงหาคม 2554
Last Update : 19 สิงหาคม 2554 12:25:33 น. 1 comments
Counter : 236 Pageviews.

 
ว่าจะรออ่านเป็นเล่ม และแล้วก็อดใจไม่ไหวขออ่านบทที่ 4 ต่อเลยได้มั้ยค่ะคุณเชอรรี่


โดย: yaowarat IP: 110.168.84.222 วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:19:09:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

isaiahland
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add isaiahland's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.