Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
2 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
สุนทรกถา บ่อนอก ประจวบคีรีขันธ์

สุนทรกถา บ่อนอก ประจวบคีรีขันธ์
๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๐

(๑)
งานวันนี้สำคัญ ไม่เพียงเป็นวันสิ้นเจริญ วัดอักษร ซึ่งตายแต่ตัว แต่ชื่อยังลือนาม ปรากฏอยู่อย่างเป็นอมตะ และต่อแต่นี้ไปอีกสามวัน จะเป็นโอกาสครบค่อนศตวรรษประชาธิปไตย ซึ่งถูกปู้ยี้ปู้ยำมาเกือบจะโดยตลอด จากชนชั้นปกครอง เฉกเช่นที่เจริญและราษฎรตาดำๆ ถูกกระทำมาเป็นระลอกๆ นั้นแล และแล้ววันที่ ๓๐ มิถุนายน (จัดโดยมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน) ก็จะเป็นงานปาฐกถาเจริญ วัดอักษร ที่อนุสรณ์สถาน ๑๔ ตุลาคม ในพระนคร เหตุการณ์ทั้ง ๓ วาระนี้ เป็นการแสดงจุดยืนของคนธรรมดาสามัญ ซึ่งจักไม่ยอมให้ชนชั้นบนใช้เล่ห์เพทุบายเอาเปรียบได้อีกต่อไปเท่าไรนักแล้ว ชัยชนะต้องเป็นของประชาชน

อนุสาวรีย์เจริญ วัดอักษร: ทรนง ณ ธรณี
รูปนี้ แม้จะมีใบหน้าคล้ายเจริญ วัดอักษร แต่ประติมากรรมชิ้นนี้ เป็นตัวแทนของคนชั้นล่าง ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบมาโดยตลอด จากราชาที่ดิน จากนักการเมือง นักธุรกิจการค้า และคนอื่นๆ ที่หากินกับบรรษัทข้ามชาติ อย่างเห็นแก่ตัว อย่างไม่เห็นหัวคนส่วนใหญ่ ทั้งยังเอาเปรียบธรรมชาติอย่างสุดๆ อีกด้วย

ความทรนงของประติมากรรมชิ้นนี้ ไม่ใช่เป็นการอวดดี แต่เป็นการตื่นตัวขึ้นของผู้คนที่ถูกสะกดให้สยบยอมมานาน โดยมีคนอย่างเจริญและมิตรสหายทั้งที่จังหวัดนี้และจังหวัดอื่นๆ ที่กาญจนบุรี สงขลา อุดร ฯลฯ ที่พากันรวมตัวต่อต้านการทำลายล้างทรัพยากรทางธรรมชาติ การเอารัดเอาเปรียบของนายทุนและบรรษัทข้ามชาติ ความทรนงของคนเหล่านี้ แนบสนิทอยู่กับแม่พระธรณี ย่อมจักต้องมีชัยชนะ ดังเมื่อพระมหาสัตว์ จะตรัสรู้ จนชนะมาร ก็โดยที่แม่พระธรณีออกมาบิดมวยผมสนับสนุนพระบารมีของพระบรมโพธิสัตว์ นั้นแล

การต่อสู้ของมวลชน ที่เป็นไปอย่างสันติวิธี ด้วยทรนง คือไม่ก้มหัวให้กับมาร หากทรนงอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน อย่างรวมพลังของทวยราษฎร์ ด้วยสามัคคีธรรม นั้นแลคือชัยชนะที่แท้ แม้จะไม่ใช่บัดนี้ เดี๋ยวนี้ แต่ถ้าเราทำใจไว้ให้เป็นกุศล ใช้ขันติธรรม และพรหมวิหารธรรมเป็นแกนกลาง มารย่อมพ่ายแพ้ไปในที่สุด

จิตรกรรมฝาผนังเปรียบเทียบ
ใช่แต่เท่านั้น เจ้าอาวาสวัดสี่แยก บ่อนอก ยังมอบให้ศิลปินเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังในโรงอุโบสถ เพื่อให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาของประชาชนชาวบ่อนอก ที่ต่อสู้กับอธรรมอย่างน่าสนใจนัก ถ้าศาสนาหันมาอยู่ฝ่ายคนยากไร้ วัดใช้ความงาม แสดงออกซึ่งความจริง นั่นย่อมเป็นความดี ที่จักเป็นพลังในทางที่ถูกที่ควร สำหรับการเอาชนะมาร ในระดับท้องถิ่น ซึ่งต่อไปอาจขยายเป็นระดับชาติและระดับนานาชาติก็ได้

โดยที่ก่อนหน้านี้ วัดรับใช้ศักดินาขัตติยาธิปไตยมาอย่างจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ดังภาพจิตรกรรมฝาผนังโบสถ์วัดสุวรรณดาราราม ที่อยุธยา ซึ่งถือว่าเป็นวัดดั้งเดิมของต้นราชวงศ์จักรีนั้น เขียนเรื่องพระนเรศวรและการทำยุทธหัตถี ทั้งๆ ที่นั่นคือวิหิงสธรรม ซึ่งขัดกับคำสอนของพระพุทธศาสนาในทางอหิงสวิธี ทั้งนี้ก็เพื่ออ้างว่าพระนเรศวร เป็นต้นราชตระกูลของจักรีวงศ์

ภาพที่ว่านี้เขียนตอนปลายสมัยราชาธิปไตย ส่วนภาพที่เขียนตอนปลายสมัยของรัชกาลปัจจุบันนั้น คือจิตรกรรมฝาผนังรอบพระอุโบสถวัดอัมพวันเจติยาราม สมุทรสงคราม ซึ่งกำหนดไว้ว่า พ่อฉิม ลูกหลวงยกกระบัตร (ทองด้วง) กับแม่นาค เกิดที่นั่น ก่อนปราบดาภิเษกเป็นเจ้าขึ้น แล้วในรัชกาลปัจจุบัน จึงโปรดให้เขียนจิตรกรรมฝาผนังเฉลิมพระเกียรติพ่อฉิม ซึ่งกลายมาเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทั้งๆ ที่ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ไร้สมรรถภาพเกือบที่สุดพระองค์หนึ่ง ทั้งยังโหดเหี้ยมในการสั่งฆ่าญาติพี่น้องเสียมากมายก่ายกอง ในข้อกล่าวหาว่า อีกาคาบเท็จมาทูลฟ้อง จนเกิดกรณีกบฏเจ้าฟ้าเหม็นขึ้น ทั้งที่เจ้าฟ้าเหม็นก็ลูกของพี่สาวแท้ๆ เลยทีเดียว โดยที่คนอื่นๆ ก็พลอยตายไปด้วยอีกมิใช่น้อย แต่ความข้อนี้ไม่ปรากฏในภาพจิตรกรรมรอบพระอุโบสถดังกล่าวเอาเลย

การบิดเบือนประวัติศาสตร์โดยชนชั้นบน เพื่อมอมเมาชนชั้นล่างนั้น เป็นมาเกือบจะโดยตลอด แต่การเขียนภาพฝาผนังในพระอุโบสถเพื่อจะยกย่องผู้คน ซึ่งเป็นชนชั้นบนนั้น เพิ่งเริ่มในรัชกาลที่ ๗ และรัชกาลที่ ๙ นี่เอง ฉะนั้น การที่วัดสี่แยก บ่อนอก แหวกแนวออกมา ให้มีภาพจิตรกรรมฝาผนังในโรงอุโบสถ เพื่อเชิดชูวีรกรรมของคนธรรมดาสามัญที่ต่อสู้กับอธรรมนั้น จึงนับว่าน่าอนุโมทนา ในขณะที่พระสังฆาธิการส่วนใหญ่สยบยอมกับศักดินาขัตติยาธิปไตยอย่างสุดๆ หรืออย่างเซื่องๆ พร้อมกับที่พระคุณเจ้านั้นๆ ก็พากันหันไปในทางไสยเวทวิทยา ทั้งอย่างเก่าอันได้แก่วัตถุมงคลต่างๆ และอย่างใหม่อันได้แก่เทคโนโลยีและความทันสมัยทั้งหลาย ที่เรียกว่าโลกาภิวัตน์ ทั้งหมดนี้รวมสรุปลงได้ในลัทธิทุนนิยมและบริโภคนิยมนั่นเอง กล่าวคือ พระคุณเจ้าส่วนใหญ่นิยมความโลภ คือทุนนิยม บริโภคนิยม ความโกรธ คืออำนาจนิยม และความหลง คือความงมงายต่างๆ โดยทีทั้งสามอย่างนี้ รวมเรียกว่าอกุศลมูล คือต้นตอที่มาแห่งความชั่วร้ายนั้นแล

จิตรกรรมฝาผนังในโรงอุโบสถของวัดสี่แยก บ่อนอก ปลุกมโนธรรมสำนึกของผู้คนในทางจิตรกรรมฉันใด รูปปั้นทรนง ณ ธรณี ก็ปลุกมโนธรรมสำนึกของผู้คนในทางประติมากรรมฉันนั้น ทั้งคู่นี้ชี้ให้เห็นว่าคนธรรมดาสามัญอย่างเราๆ นั้นแล คือความหมายอันควรแก่การทรนง หากให้สยบยอมกับแม่พระธรณี ในขณะที่อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นไว้ในจังหวัดต่างๆ ล้วนแสดงออกถึงการที่เผด็จการและสมบูรณาญาสิทธิราชย์กดขี่ ข่มเหงราษฎรแทบทั้งนั้น

อนุสาวรีย์เปรียบเทียบ
อนุสาวรีย์ ป. พิบูลสงคราม ที่ลพบุรี ส. ธนะรัชต์ ที่ขอนแก่น และ ผ. ศรียานนท์ ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน นครปฐม เป็นตัวแทนของเผด็จการที่เลวร้าย โกงกิน ทั้งยังเป็นฆาตกรที่สังหารคนดีมาเสียนักต่อนัก รวมถึงการทำลายประชาธิปไตยที่เนื้อหาสาระ และห้ำหั่นขบวนการของราษฎรทั้งหลายอีกด้วย แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังแลไม่เห็นถึงสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้ายดังกล่าว

อนุสาวรีย์ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ที่อุดรธานี กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ที่อุบลราชธานี คือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการขยายอิทธิพลของราชธานี ออกไปปู้ยี้ปู้ยำวัฒนธรรมท้องถิ่นและการปกครองตนเองของชนชาติไทลาวทางภาคอีสาน แต่ผู้คนก็ถูกมอมเมาให้กราบไหว้รูปเจ้าต่างๆ เหล่านี้ แม้เจ้าบางคนจะเลวร้ายเพียงใดก็ตาม อย่างเช่น กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ที่อ้างว่าเป็นบิดาของกฎหมายไทยนั้น ก็มีความเลวร้ายในทางเผด็จการมิใช่น้อยเอาเลย แต่ก็ไม่มีการเอ่ยถึงกัน ดังนั้นผู้คนในวงการศาล จึงมีความเป็นเผด็จการ ตามแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อยู่มิใช่น้อย แม้จนบัดนี้แล้วก็ตาม

อนุสาวรีย์ของเจ้าองค์อื่นๆ นอกไปจากนี้นั้น กลายเป็นเทพเจ้าไปแล้วก็มี เช่นเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรฯ หรือเสด็จพ่อ ร. ๕ ทั้งนี้คือการโยงเอาไสยเวทวิทยามารับใช้ศักดินาขัตติยาธิปไตย หรือมิใช่? สามัญชน ที่ได้รับยศถาบันดาศักดิ์ขึ้นมาแล้ว ก็เนรมิตให้ศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ในแนวทางนี้ได้ เช่น ท้าวสุรนารี ที่นครราชสีมา แม้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง ซึ่งเป็นเสียงแห่งมโนธรรมสำนึก ที่คอยเตือนสติอาณาจักร ไม่ให้เลวร้ายมากเกินไป หากให้อยู่ในกรอบของธรรมจักร ที่มีความพอดีเป็นกรอบ ซึ่งควรเป็นไปในทางเสมอภาคยิ่งๆ ขึ้น โดยมีภราดรภาพเป็นแกน เพื่อจักเข้าได้ถึงเสรีภาพจากความโลภ โกรธ หลง และแล้วรูปเคารพที่อ้างว่าสร้างถวายพระคุณเจ้า ก็กลายไปเป็นไสยเวทวิทยาที่มอมเมาผู้คนอย่างน่ารังเกียจ และอย่างน่าสงสารยิ่งนัก

อนุสาวรีย์อย่างที่เราทำพิธีเปิดกันในวันนี้ ต่อไปจะมีที่จังหวัดอื่นๆ ด้วย โดยเอาอนุสาวรีย์ทรราชออกไป ให้มีรูปอาสภมหาเถระขึ้นมาแทนที่ ส. ธนะรัชต์ ที่ขอนแก่น มีอนุสาวรีย์เตียง ศิริขัณฑ์ ที่สกลนคร อนุสาวรีย์จำลอง ดาวเรือง ที่มหาสารคาม ถวิล อุดล ที่ร้อยเอ็ด ฯลฯ และไม่แต่เพียงรูปปั้น ต่อไปเราจะมีมหาวิทยาลัยเตียง ศิริขัณฑ์ ที่สกลนคร แทนมหาวิทยาลัยราชภัฏ ดังที่มหาวิทยาลัยในอนาคตจะไม่ผูกขาดอยู่กับชื่อของคนในสกุลเดียวอีกต่อไป

(๒)
อนึ่ง พึงตราเอาไว้ว่า เมืองไทยในบัดนี้มีความเป็นไปในสองกระแสหรือสองหนทาง ซึ่งสวนกัน

กระแสหลัก
กระแสหนึ่งหรือหนทางหนึ่ง รวมเรียกได้ว่าแนวทางหลัก หรือกระแสหลัก ผู้ซึ่งสมาทานแนวทางนี้คือคนที่ตั้งตนเป็นชนชั้นบน ที่เป็นฝ่ายอำนาจนิยม ทุนนิยม และอัตตนิยม ในแนวทางของโลกาภิวัตน์ ซึ่งถือว่าคำตอบต้องมาจากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างฝรั่ง วิชาการต่างๆ ก็ล้วนได้รับมาจากฝรั่ง ไม่ว่าจะสังคมศาสตร์ หรือมนุษยศาสตร์ แม้จนแพทยศาสตร์ ยิ่งพวกที่เรียนจบมาจากทิศาปาโมกข์ฝรั่งด้วยแล้ว ยิ่งอ้าขาผวาปีก เห็นว่าสยามจำต้องเดินตามก้นฝรั่งอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เทคโนโลยีล่าสุดคือคำตอบ ทุนนิยมคือคำตอบ แม้บรรษัทข้ามชาติจะน่ากลัว แต่เราก็น่าจะฉลาดพอที่จะปรับตัวเข้ากับมันได้ หาไม่เราก็เป็นพวกมันไปเลย อย่างบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัทชินวัตร เป็นตัวอย่าง รวมถึงสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตรย์ด้วย

ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ ก็ต้องเป็นไปในทางที่จะพยุงชนชั้นบนไว้ให้เหนือชนชั้นล่าง เมื่อชนชั้นบนดี (แปลว่าอะไร) และมีความสามารถ ย่อมอาจตัดสินชะตากรรมให้บ้านเมืองได้ ถ้าจำเป็น ชนชั้นล่างก็ต้องยอมเสียสละ เพื่อมหาชนคนส่วนใหญ่ และเพื่อความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รัฐธรรมนูญก็ต้องรับใช้ไตรสรณาคมอย่างใหม่ที่ว่านี้ ทั้งๆ ที่จริงแล้ว ชาติก็คือตัวแทนของคนที่มีอำนาจ อันได้แก่ทหารชั้นสูง ที่ถือดีว่ามีความรู้ความสามารถทุกทาง โดยเฉพาะหลังจากรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เป็นต้นมา พวกนี้อ้าขาผวาปีกยิ่งๆ ขึ้น โดยไม่สำนึกเลยว่าพวกตนเป็นดังกบที่อยู่ในกลาครอบ พวกนี้อ้างความจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ ที่อยากถามก็คือจริงแท้แน่ละหรือ พวกตนเข้าใจในเรื่องสถาบันกษัตริย์เพียงใด ที่ไม่ใช่ความศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ พร้อมๆ กันนี้ คนพวกนี้ต้องการเอาศาสนามารับใช้ตนและพวกตน อันได้แก่ศาสนาประจำชาติ ศาสนาของคนอื่นด้อยกว่าเรา เราต้องเอาชนะมัน ถ้ามันไม่สยบยอมกับเรา ชาวบ้านที่ยากไร้ โง่เขลาเบาปัญญาและบัดซบ

ไม่แต่ทหารตัวเขื่องๆ เท่านั้นที่เป็นตัวแทนกระแสหลัก นักการเมืองกระแสหลัก นักการค้ากระแสหลัก และนักวิชาการกระแสหลัก รวมถึงผู้ที่กุมสื่อมวลชนกระแสหลักด้วย ก็เป็นเช่นนี้แทบทั้งนั้น พวกนี้ปราศจากความอ่อนน้อมถ่อมตน ดูถูกคนจน และรับฟังไม่ได้ถึงคำวิพากษ์วิจารณ์ ที่ท้าทายเขาและพวกเขา โดยเขาอ้างความศักดิ์สิทธิ์ของศักดินาและพระมหากษัตริย์อย่างไม่เปิดโอกาสให้ตรวจสอบ ไม่ให้โปร่งใส

พวกนี้เป็นทาสปัญญาของฝรั่งกระแสหลัก อย่างไม่เคยตักนำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเลย ว่าตนเห็นแก่ตัวและมัวเมาไปในทิศทางใดบ้าง สิ่งที่ตนถือว่าศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์นั้น จริงละหรือ การยึดมั่นถือมั่นต่างๆ นั้น เป็นทุกขสัจหรือเปล่า และอะไรๆ ย่อมเปลี่ยนแปลงไปในทางอนิจลักษณะ จนเข้าถึงอนัตตลักษณะ หรือมิใช่ แม้นี่จะเป็นหัวใจของพุทธศาสนา แต่พวกนี้ ถือเอาพุทธศาสนาเป็นลัทธิความเชื่ออย่างงมงาย เฉกเช่นความงมงายในเรื่องชาติ และเรื่องสถาบันกษัตริย์นั่นเอง

กระแสรอง
สำหรับผู้ที่อยู่ในกระแสรองนั้น ได้แก่คนยากไร้ ปลายอ้อปลายแขม ซึ่งเผชิญความทุกข์มาจากโครงสร้างอันอยุติธรรม และถูกชนชั้นบนเอารัดเอาเปรียบมานานาประการ ยิ่งในรอบสองสามทศวรรษนี้ ยิ่งเลวร้ายลงไปมากยิ่งขึ้น แต่คนพวกนี้ก็ยังใกล้ชิดกับธรรมชาติ ยังใกล้ชิดกันและกันในทางชุมชน มีภูมิปัญญาชาวบ้าน มีวัฒนธรรมพื้นบ้านที่ได้รับมาจากธรรมจักรของพุทธศาสนา หรือศาสนธรรมจากศาสนาอื่น เช่น คริสต์ อิสลาม และการนับถือผีของชนเผ่าต่างๆ อย่างกล้าท้าทายกระแสหลัก ซึ่งจะถลำไปให้บรรษัทข้ามชาติ และจักรวรรดิอเมริกันอย่างใหม่ยิ่งขึ้นทุกที

แต่แล้วชนชั้นบนในกระแสหลักกลับแลไม่เห็นคุณธรรมของคนพวกนี้เอาเลย แม้เขาจะตั้งเป็นสมัชชาคนจน และมีพลังมวลชนไปในทางสันติวิธีอย่างควรเรียนรู้จากเขา แต่คณะ คมช. ก็ดูถูกเขา เอารัดเอาเปรียบเขา ดูจะยิ่งกว่าสมัยทักษิณ ชินวัตรเสียอีกด้วย ทั้งๆ รัฐบาลทักษิณก็ฉ้อฉลและเอาเปรียบคนจนมามาก หากเขามีอุบายวิธีที่ล่อหลอกคนยากไร้ได้อย่างชาญฉลาดมิใช่น้อย

ชนชั้นกลางที่กล้าลุกขึ้นมาท้าทายเทคโนโลยีอย่างใหม่ ที่ให้ประโยชน์กับบรรษัทข้ามชาติและคนรวยกับชนชั้นปกครองจำนวนน้อย ก็ตื่นตัวออกมาจากกระแสหลักยิ่งๆ ขึ้น เพราะเห็นว่าความทันสมัยเป็นตัวทำลายธรรมชาติและปู้ยี้ปู้ยำทรัพยากรทางธรรมชาติอย่างเห็นแก่ตัว ไม่ว่าจะชาวบ่อนอก บ้านกรูด กลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ กลุ่มต่อต้านท่อแก๊ซไทย-มาเลเซีย สงขลา หรือกลุ่มต่อต้านเหมืองแร่โปตาส ที่อุดรธานี

คนพวกนี้เรียนรู้ชีวิตจริง จากทุกขสัจทางสังคม และชนชั้นกลางเหล่านี้เรียนรู้จากผู้ยากไร้ โดยรวมตัวกันอย่างอหิงสา ยิ่งได้กวีและศิลปินมาร่วมด้วย การต่อสู้ย่อมเป็นไปทั้งทางความงามและความดี ยิ่งมีเวลาภาวนาในทางสันติวิธี ความงามและความดีย่อมเป็นไปทางความจริง ที่ไปพ้นความกึ่งจริงกึ่งเท็จ และกึ่งดิบกึ่งดี ที่ชนชั้นบนมอมเมามา

นิมิตดีก็ตรงที่คนรุ่นใหม่ แม้ในแวดวงของชนชั้นบน ก็ได้แลเห็นคุณค่าของแนวทางนอกกระแสหลักยิ่งๆ ขึ้นทุกที แม้นี่จะยังเป็นเสียงส่วนน้อย แต่ก็เป็นเสียงแห่งความจริง ซึ่งเดินทางไปสู่ความดีกับความงาม จึงเชื่อแน่ว่าชัยชนะของกระแสทางเลือกจะเป็นไปได้ภายในเวลาอันไม่ช้านัก ดังชุมชนทางเลือกเช่นนี้มีมากขึ้นด้วยแล้วแม้ในเมืองฝรั่ง ดูเหมือนคนอเมริกันจะมีเวลาภาวนากันมากกว่าคนไทยเสียอีก

ภาวนามัย ทานมัย ศีลมัย
ภาวนามัยปัญญา คือ การประสานหัวใจให้เข้ากับหัวสมอง ให้มองเห็นธรรมอย่างเป็นองค์รวม ไม่เป็นเสี่ยงๆ ย่อมลดความเห็นแก่ตัวลง เพื่อเลิกหรือละการอ้าขาผวาปีก หากเห็นว่าทุกๆ คนสำคัญเท่ากับตัวเรา ยิ่งผู้ยากไร้ด้วยแล้ว เขาสำคัญยิ่งกว่าเราเสียอีก และเราควรอุทิศตนไม่เพียงเพื่อมนุษยชาติ หากรวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหมดทั้งสิ้น

ดังได้กล่าวมาแล้วแต่ต้นว่าวันที่ ๒๔ มิถุนายน เมื่อ ๗๕ ปีมาแล้ว เป็นวันเริ่มต้นของประชาธิปไตยไทย เพื่อให้ราษฎรได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินเป็นครั้งแรก นับว่ากระแสทางเลือกเอาชนะกระแสหลักได้ในเวลานั้น แต่แล้วกระแสหลักซึ่งใช้วิธีกดขี่ข่มเหงด้วยจริงปนเท็จก็กลับมาเป็นใหญ่ได้อีกแต่ พ.ศ. ๒๔๙๐ และ ๒๕๐๐ เป็นต้นมา ที่พึงตราไว้ก็คือ เล่ห์เพทุบายดังกล่าวจะคงทนต่อการพิสูจน์ในทางสัจจะได้ไปอีกนานเท่าไร

งานวันนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นประการหนึ่ง ซึ่งพวกเราต้องทรนง อย่างสยบยอมอยู่กับแม่พระธรณี โดยถือว่าทุกๆ คนเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ ในอันที่จะเอาชนะทุกขสัจทางสังคม เพื่อสัจธรรมจะได้กลับมาควบคู่ไปกับสังคมไทย โดยมีความงามเป็นน้ำกระสาย และมีความดีรองรับให้ทุกๆ คนอยู่กินด้วยกันอย่างมีศักดิ์ศรีเสมอๆ กัน

ตราบใดที่มนุษย์เน้นที่การอยู่ยิ่งกว่าการมี มนุษย์ก็จะเป็นผู้ให้ ยิ่งกว่าผู้รับ ทานมัยจะเป็นปัจจัยหลักของชีวิต ตามมาด้วยศีลมัย คือการอยู่ร่วมกันอย่างลดการเอารัดเอาเปรียบ เพื่อเจริญเติบโตอย่างพึ่งพิงกันและกัน และอยู่กินกันอย่างบรรสานสอดคล้องกับธรรมชาติ โดยที่ทั้งหมดนี้ต้องมีภาวนามัยเป็นแก่น คือรู้จักมีเวลาให้กับตัวเอง อย่างติดยึดกับตัวตนน้อยลง หากมีเวลาให้กับคนอื่นและสัตว์อื่น อย่างเต็มใจในการรับใช้เพื่อนมนุษย์ และสรรพสัตว์ยิ่งๆ ขึ้น

ความสำคัญของวันที่ ๒๔ มิถุนายน
ขอย้ำว่าวันที่ ๒๔ มิถุนายน เป็นวันสำคัญของผู้คนในระดับล่าง และเป็นจุดเปลี่ยนหรือทางออกจากชนชั้นบนในกระแสหลัก ที่กดขี่ข่มเหงชนชั้นล่างมาโดยตลอด จนตราบเท่าทุกวันนี้ จนคนส่วนใหญ่มองไม่เห็นความสำคัญของวันอภิวัฒน์ของไทยอีกต่อไปแล้ว โดยที่ชนชั้นบนจะไปเน้นถึงความสำคัญของวันที่ ๕ ธันวาคม ซึ่งกลายมาเป็นวันชาติแทนที่วันที่ ๒๔ มิถุนายน จนคนที่เกิดวันนั้นกลายเป็นบิดาของคนทั้งชาติไป ยิ่งปีนี้เป็นปีที่คนๆ นั้น เฉพาะก็คนที่ถูกประหารชีวิตไปอย่างเจริญ วัดอักษร และนักการเมืองในอดีตอีกเป็นจำนวนไม่น้อย รวมถึงคนที่ชื่อเสียงถูกทำลายไปอย่างนายปรีดี พนมยงค์ เป็นต้น แม้คนอย่างท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ ก็เคยถูกจองจำมาแล้ว และเมื่อท่านตายจากไป ชนชั้นบนก็ไม่ใยไพด้วยประการใดๆ เราต้องทำให้พวกนั้นหันมาหาความจริงให้ได้ ให้เขามาเคารพ พวกที่ดัดจริตดีดดิ้นทั้งหลายเสียที และเลิกการเป็นทาสปัญญาฝรั่งกระแสหลักได้แล้ว พูดให้เป็นรูปธรรมก็คือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ต้องเลิกไล่ผู้คนดังกับหมูกับหมา โดยเอาที่ไปสร้างอาคารอันมโหฬารให้บริษัทใหญ่ๆ ทั้งไทยและเทศเช่า บนความยากไร้ของราษฎรตาดำๆ

พระอารามหลวงต่างๆ ก็ทำเช่นนี้ เช่นวัดยานนาวา วัดกัลยาณมิตร แม้จนวัดบวรนิเวศ แล้วยังจะเอาพุทธศาสนามาเป็นศาสนาประจำชาติอีหรือ ทั้งๆ ที่พระส่วนใหญ่เป็นลูกคนจน แต่พอได้สมณศักดิ์สูงขึ้นกลายเป็นวัวลืมตีนไป แน่ละชนชั้นบนย่อมเปลี่ยนแปลงสำนึกของพวกเขาไม่ได้ เราทั้งหลายที่เป็นคนนอกกระแสหลัก ต้องเปลี่ยนจุดยืนของเรา เราต้องกล้าท้าทายความคิดกระแสหลัก เลิกสยบยอม เลิกนับถือในเรื่องชนชั้น หันมาเคารพตัวเราเอง และบรรพชนของเรา หันมาเคารพคนดีที่เป็นสามัญชน โดยมีอายุครบ ๘๐ ปีด้วยแล้ว คนข้างบนคงทุ่มเทเงินภาษีอากรที่ขูดรีดจากราษฎรทั้งทางตรงและทางอ้อมไปแสดงกฤษฎาภินิหารของคนๆ นั้นอย่างสุดๆ แม้คุณพิเศษนั้นๆ จะจริงหรือไม่ก็ตามที ดุดดังงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี เมื่อปีกลายนี้นั้นแล

ถ้าพระราชาจะเป็นสัญลักษณ์ของประชาชาติที่แท้ งานเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ ปี ควรเสริมในทางที่จะทำนุบำรุง คือให้ไพร่ฟ้าหน้าใส ให้สมัชชาคนจนได้มีศักดิ์ศรี ให้มีการเปิดเขื่อนปากมูลให้ชาวประมงได้มีอาชีพอันสุจริต ให้ชาวบ่อนอกปลอดไปจากการข่มเหงคะเนงร้าย สมดังที่อ้างๆ กันให้มีการลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน ให้ชนชั้นบนหันหน้ามาฟังคนข้างล่าง เลิกการหยิ่งยะโสคนดีในระดับรากหญ้าให้ได้ หาไม่เมืองไทยจะยังไปไม่พ้นจากมือมาร เราต้องทำกงจักรให้เป็นดอกบัวให้ได้

ส. ศิวรักษ์ แสดงสุนทรกถา เนื่องในงานรำลึกใหญ่ ๓ ปี สิ้นเจริญ วัดอักษร
ณ ศูนย์การเรียนรู้ภาคประชาชน บ้านบ่อนอก
วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๐

ที่มา //www.midnightuniv.org



Create Date : 02 กรกฎาคม 2550
Last Update : 2 กรกฎาคม 2550 13:15:40 น. 0 comments
Counter : 719 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Darksingha
Location :
สมุทรสงคราม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]





Click for use Graphics comment


Darksingha ที่แสดงถึงอำนาจและความมืดมัว ผมให้แทนคำว่า Age of Doubt หรือยุคแห่งความสงสัยก็แล้วกัน ดังนั้นBlogนี้จึงเป็นแดนสนธยาที่เต็มไปด้วยหมอกควันแห่งคำถาม และการละเล่น เพื่อแสวงหา ?


TV3 Live CH5 Live CH7 Live Modernine TV Live NBT LIVE - CH11 TPBS - Public Channel ASTV1 New11 - Online News 24 hours Nation Channel DMC.TV - Buddhistic Television ASTV5 - Suvarnbhumi ASTV7 - Buddhistic Television  True New 24 Channel  skynew  cnnibn Channel  cnn Channel  bbcnews_island Channel  cctv  Channel  bfmtv  Channel  ntv  Channel  fox8 Channel  foxnews5 Channel  cspan  Channel  france24 Channel  world_explorer Channel  discovery_channel Channel  nasa  Channel kimeng-channel dmc-channel ebr-channel research-channel utv-channel michigan-channel at-florida-channel islam-channel peace-usa-channel bbc-panorama-channel CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live

music is life

ชุมทางเพลงเพื่อชีวิต

Friends' blogs
[Add Darksingha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.