ขอเชิญเข้าร่วมการประชุมเสวนาเนื่องในโอกาสชาตกาล 101 ปี พุทธทาสภิกขุวัฒนธรรม ความตาย กับวาระสุดท้ายข
ขอเชิญเข้าร่วมการประชุมเสวนาเนื่องในโอกาสชาตกาล 101 ปี พุทธทาสภิกขุวัฒนธรรม ความตาย กับวาระสุดท้ายของชีวิต
วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม 2550 เวลา 8.30 16.00 น. ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 4 ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (ถนนบรมราชชนนีตลิ่งชัน)
จัดโดย สำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ ร่วมกับ เครือข่ายพุทธิกา
กำหนดการ 08.30 08.45 น. ลงทะเบียน
08.45 09.00 น. ชี้แจงวัตถุประสงค์การจัดประชุม
09.00 09.40 น. ปาฐกถานำ เรื่อง มองสังคมไทยผ่านความตายของท่านพุทธทาส : 14 ปีให้หลัง โดย ศ.นพ. ประเวศ วะสี
09.40 10.40 น. สารคดีชีวิตจาก มรณานุสรณ์ของคุณสุภาพร พงศ์พฤกษ์
10.40 12.30 น. เสวนา เรื่อง มองชีวิตและสังคมผ่านวัฒนธรรมความตาย โดย พระไพศาล วิสาโล อ. ประมวล เพ็งจันทร์ คุณกานดาวศรี ตุลาธรรมกิจ นพ. โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ดำเนินรายการโดย อ. อรศรี งามวิทยาพงศ์
12.30 13.30 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.30 15.00 น. แบ่งปันความคิดเห็นและประสบการณ์ ห้องย่อยที่ 1 สื่อสารอย่างไรให้เด็กเข้าใจเรื่องความตาย
ห้องย่อยที่ 2 สมาธิภาวนา ตายก่อนตาย
ห้องย่อยที่ 3 เผชิญหน้ากับความตาย
ห้องย่อยที่ 4 ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในโรงพยาบาล
ห้องย่อยที่ 5 ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในชุมชน
15.30 16.00 น. เวทีอภิปรายกลุ่มใหญ่ สรุปประสบการณ์และแง่คิดจากความตาย
----------------------------------------- *************ไม่เสียค่าลงทะเบียน***********
ปาฐกถา มองสังคมไทยผ่านความตายของท่านพุทธทาส : 14 ปีให้หลัง การมรณภาพของท่านพุทธทาสภิกขุ เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในสังคมไทยสำหรับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย กรณีดังกล่าวทำให้ปัญหาเรื่องการดูแลผู้ป่วยในระยะสุดท้าย และการกำหนดความตาย ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงกันในพื้นที่สาธารณะ และสร้างกระแสให้เกิดความสนใจในประเด็นนี้ตามมา ในปัจจุบันหลังจากผ่านเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้ 14 ปี และบรรจบกับโอกาสชาตกาลครบ 101 ปีของท่านพุทธทาสภิกขุ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้มาทบทวนย้อนหลัง รวมทั้งมองไปข้างหน้าในประเด็นปัญหาดังกล่าว โดยองค์ปาฐกที่มีความเข้าใจในปัญหาและอยู่ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้น ปาฐก : ศ.นพ. ประเวศ วะสี
สารคดีชีวิตจาก มรณานุสรณ์จากคุณสุภาพร พงศ์พฤกษ์
คุณสุภาพร พงศ์พฤกษ์ เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตนอกกระแสหลัก และมุ่งมั่นทำงานเพื่อประโยชน์ของสังคม และคนที่ทุกข์ยาก เธอเองยังมุ่งที่พัฒนาตนเองควบคู่กับงาน โดยยึดหลักธรรมะในพระพุทธศาสนาเป็นแนวทาง จนวันหนึ่งเมื่อเธอพบว่าตนเองเป็นมะเร็งที่เต้านม ในปี พ.ศ. 2535 เธอตัดสินใจที่จะรักษาตนด้วยวิธีการแบบธรรมชาติบำบัดและอาศัยธรรมโอสถควบคู่ไปด้วย ตลอดระยะเวลา 11 ปี จนที่สุดเธอได้เข้าใจว่า การเยียวยาไม่ได้สำคัญที่ร่างกายภายนอก แต่อยู่ที่การรักษาโรคทางใจ การใช้ชีวิตของเธอในระหว่างเผชิญความป่วยไข้ช่วงสุดท้ายจนกระทั่งชีวิตสิ้นสุดลง ได้กลายมาเป็นพลังและแรงบันดาลใจเผื่อแผ่ให้กับผู้คนที่แวดล้อมได้สัมผัสกับความดีงาม ความสุข ที่มนุษย์พึงมอบแก่กันได้ในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บป่วยและความตาย ที่สำคัญเธอยังได้แสดงให้เราเห็นว่า การเลือกที่จะตายอย่างสงบนั้นเป็นไปได้ วิทยากร : คุณสุรภี ชูตระกูล , นพ. เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี
มองชีวิตและสังคมผ่านวัฒนธรรมความตาย
ในปัจจุบันการจัดการเรื่องความเจ็บป่วยและความตายเป็นปัญหาสำคัญในสังคมสมัยใหม่ กล่าวกันว่าในสหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายทางด้านการแพทย์กว่าร้อยละ 75 ถูกใช้ไปในช่วง 6 เดือนสุดท้ายของชีวิต และภายใต้แนวคิดของการแพทย์สมัยใหม่กระแสหลัก การต่อสู้เพื่อยื้อชีวิตไว้ให้ได้เป็นเป้าหมายสูงสุดของการบริการทางการแพทย์ ในหลายครั้งการยืดชีวิตออกไปกลับเป็นการสร้างความทุกข์ให้กับผู้ป่วยและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด สาเหตุหนึ่งมาจากการที่มนุษย์ชาติใช้ชีวิต ภายใต้วัฒนธรรมที่มองโลกและชีวิตนี้เป็นของยั่งยืนและให้ความสุขอย่างไม่จำกัด จนแทบจะลืมไปแล้วว่า ยังมีวัฒนธรรมแบบอื่น ๆ ที่มองชีวิต โลก และความตายด้วยสายตาที่ต่างออกไป การเสวนาในประเด็นนี้จึงอาจกระตุ้นเตือนให้เราได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ผ่านโลกทัศน์ และประสบการณ์ของผู้ร่วมเสวนา ที่ได้สัมผัสกับวัฒนธรรม ความตายที่แตกต่างจากความคิดในกระแสหลักที่เราคุ้นเคย วิทยากร : พระไพศาล วิสาโล , อ.ประมวล เพ็งจันทร์ , คุณกานดาวศรี ตุลาธรรมกิจ , นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ และ อ.อรศรี งามวิทยาพงศ์ ดำเนินรายการ
สื่อสารอย่างไร ให้เด็กเข้าใจความตาย
เมื่อกล่าวถึงความตายเรามักจะนึกถึงคนแก่ เหมือนที่มีคำพังเพยว่า เป็นวัยไม้ใกล้ฝั่ง แต่ในความจริงมีเด็กจำนวนไม่น้อยเจ็บป่วย และต้องเผชิญหน้ากับความตายอย่างใกล้ชิด หรือแม้กระทั่งการต้องเผชิญกับความตายของคนในบ้านหรือคนที่รู้จัก บ่อยครั้งเมื่อเด็กตั้งคำถามว่า ตายเป็นอย่างไร ทำไมต้องตาย ผู้ใหญ่ก็มักหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามโดยอ้างว่า ไม่ใช่เรื่องของเด็กหรือพูดไปก็ไม่เข้าใจ เด็กไม่เข้าใจจริงหรือ ? และเราจะมีวิธีสื่อสารกับเด็กให้เข้าใจความตายอย่างไร? วิทยากรที่มาจากต่างสาขาอาชีพ แต่สนใจเรื่องกระบวนการเรียนรู้ของเด็กและมีประสบการณ์ดูแลเด็กป่วยโดยใช้ศิลปะบำบัด จะมาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในประเด็นปัญหาดังกล่าว วิทยากร : พญ.พัชรินทร์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง , คุณกรรณจริยา สุขรุ่ง , รอ.ทพญ.อพภิวันท์ นิตยารัมภ์พงศ์ และคุณวีรมลล์ จันทรดี
สมาธิภาวนา ตายก่อนตาย
มนุษย์เราน้อยคนนักที่จะมีโอกาสในการพิจารณาความตายอย่างใกล้ชิดและจริงจัง ในบรรยากาศที่สงบและผ่อนคลาย วิทยากรจากทีมฝึกอบรม เผชิญความตายอย่างสงบ ของทางเครือข่ายพุทธิกา และเสมสิกขาลัย จะมาเชื้อเชิญให้ท่านได้ทดลองสัมผัสกับประสบการณ์ใกล้ตายและสร้างกระบวนการให้ผู้เข้าร่วมได้มีโอกาสในการพิจารณาความตายอย่างสงบ ตระหนักรู้ถึงการดำรงชีวิตโดยไม่ประมาท และเข้าใจตามที่เป็นจริง วิทยากร : ทีมกระบวนกรจากเสมสิกขาลัย และเครือข่ายพุทธิกา หมายเหตุ รับจำนวนจำกัด และสุภาพสตรีควรสวมกางเกง
เผชิญหน้ากับความตาย
ความตายใครๆ ก็ไม่อยากเจอ แค่คิดถึงความตายของคนใกล้ชิด หลายคนคงจิตใจย่ำแย่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นความตายของตนเองหรือหากต้องเจ็บป่วยอย่างร้ายแรงไม่มีทางรักษาหาย จะรู้สึกทุกข์ทรมานสักเพียงใด หลายคนคงแทบทนไม่ได้ แต่หากลองมาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับวิทยากรในการเสวนาทั้ง 3 คน มุมมองในการใช้ชีวิตของท่านอาจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อแต่ละคนต้องเผชิญหน้ากับความตาย และโรคร้ายเขาและเธอผ่านเหตุการณ์นั้นมาอย่างไร และอะไรที่กลับทำให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างที่หาโอกาสไม่ได้ในชีวิตสามัญ วิทยากร : นพ.คมสรรค์ พงษ์ภักดี , กานดาวศรี ตุลาธรรมกิจ , เพ็ญลักขณา ขำเลิศ และอโณทัย เจียรสถาวงศ์
ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในโรงพยาบาล
แม้ว่าการยืดชีวิตของผู้ป่วยให้นานที่สุดจะเป็นเป้าหมายของการรักษาตามแนวคิดการแพทย์สมัยใหม่แต่ก็มีบุคลากรทางการแพทย์จำนวนไม่น้อย เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับจิตใจและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยระยะสุดท้าย เพื่อช่วยให้เขาบรรลุวาระสุดท้ายของชีวิตอย่างเจ็บปวดน้อยที่สุด และสามารถเผชิญกับความตายของตนได้อย่างสงบ เป็นมนุษย์ และมีคุณค่ามากกว่าการเห็นผู้ป่วยเป็นเพียงวัตถุที่ตั้งของอาการเจ็บป่วย ซึ่งทำให้การตายดีเป็นทางเลือกที่เกิดขึ้นได้ในโรงพยาบาล วิทยากร : นพ.พรเลิศ ฉัตรแก้ว , อ.ทัศนีย์ ทองประทีป , นพ.โรจนศักดิ์ ทองคำเจริญ และนพ.เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี
ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในชุมชน
แม้ในโรงพยาบาลจะเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์ช่วยชีวิตครบครัน แต่บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยต้องการกลับไปตายที่บ้านท่ามกลางความรักของญาติมิตร ในบรรยากาศที่คุ้นเคย การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย และการจัดการความตายภายนอกโรงพยาบาล ถือได้ว่าเป็นความท้าทายของบุคคลากรที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากข้อจำกัดในการดูแลที่แตกต่างจากภายในโรงพยาบาล และยังมีบริบทของชุมชนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย บุคลากรทางการแพทย์จะสามารถเข้าไปมีส่วนร่วม และสนับสนุนให้ผู้ป่วยและญาติได้บรรลุความหวังสุดท้ายของเขาอย่างไร วิทยากรที่มีประสบการณ์ตรงจะมาร่วมแลกเปลี่ยนประเด็นปัญหา และสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้จากความตายนอกโรงพยาบาล วิทยากร : คุณสุรีย์ ลี้มงคล , คุณประยูรศรี เลือดสงคราม , คุณกัลนิถา สังข์แก้ว และ อ.วิชิต เปานิล
สำรองที่นั่งได้ที่
1.เครือข่ายพุทธิกา โทร. 02-886-9881, 02-883-0592, 086-300-5458 โทรสาร 02-883-0592
2. สำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ โทร. 02-590-1352, 02-590-1498, 02-590-2361 โทรสาร 02-590-1498
( เอกสารประกอบการประชุมและอาหารกลางวัน เฉพาะผู้สำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น )
Create Date : 29 มิถุนายน 2550 |
Last Update : 29 มิถุนายน 2550 10:04:53 น. |
|
0 comments
|
Counter : 867 Pageviews. |
|
|
|
|
|