ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาดูแลเสี้ยวหัวใจของผมที่เหลืออยู่ ขอบคุณครับ

มนตร์นิทรา ตอนที่6

มนตร์นิทรา ตอนที่6


.....ด้วยหัวที่รู้สึกวิงเวียน หมุนติ้ว มึนงง ผ่านไปไม่นาน ศักดิ์ชายเริ่มรวบรวมสติได้ และมองดูเพื่อนทั้งสองของตนเอง เหตุการณ์ต่างๆที่ผุดขึ้นมาในมโนนิมิตต่างๆซึมลงสมองของศักดิ์ชายอย่างรวดเร็ว


“ว่าแต่วันนี้เรามาเที่ยวกันนี่นา...” ศักดิ์ชายพูดกับเพื่อนทั้งสอง
“ก็ใช่หนะสิ เรานัดกันแล้วหลังจากลาพักร้อน..” อนัตตาพูดขึ้น อมิตตาพยักหน้ารับพี่ชาย
“เรามาเที่ยว เรามา....เที่ยวกัน....หลังจาก ทำงานหนักมา.....” ศักดิ์ชายค่อยๆทวนคำ ทวนความคิด



......ในห้วงความคิดของศักดิ์ชาย เริ่มปรากฏภาพต่างๆขึ้นมาทีนะน้อยๆ และแล้ว....ศักดิ์ชายก็มีอาการตกใจ จนต้องลุกขึ้นโดยทันที ทำเอาเพื่อนทั้งสองตกใจตาม


“พ่อ....แม่......พี่.....” เสียงแผ่วเบาของศักดิ์ชายค่อยๆหลุดออกจากปาก
“ชายๆ.....” อมิตตา จับมือศักดิ์ชายเขย่าๆทั้งที่ตนเองนั่งอยู่



.....ในห้วงมโนสำนึกของศักดิ์ชาย บอกว่า ครอบครัวตนเองนั้น เสียชีวิตทั้งหมด โดยอุบัติเหตุรถคว่ำ ในระหว่างทางที่เดินทางมาเยี่ยมศักดิ์ชาย ตอนที่ตนเองเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยต่างจังหวัด ภาพต่างๆผุดขึ้นมาเหมือนเมื่อเพิ่งเกิดขึ้น...น้ำตาศักดิ์ชายเริ่มไหล


“ชาย.....เรื่องมันผ่านมาหลายปีแล้วนะ” อมิตตาพูดขึ้นพร้อมหน้าที่เศร้าๆ
“อืมม์....ฉันรู้ๆ...” ศักดิ์ชายตอบสะอื้น
“อะนะ ชาย ช้านรู้ว่านายคิดอย่างไร....น่าไม่ต้องเสียใจนะ...” อนัตตาลุกขึ้นโอบไหลชายปลอบใจ
“เราไปบ้านกันเถอะ..” อมิตตาตัดบท ก่อนที่เธอจะร่วมวงร้องไห้ตามไปด้วย
“บ้านเหรอ.....” ศักดิ์ชายทวนคำ
“อื้อ! บ้านสิ นายมาอยู่กับเรานานแล้วนะ” อนัตตาพูดขึ้น พร้อมโอบไหล่ศักดิ์ชายแล้วก้าวออกเดินไป
“อ้าว..บ้านฉันหละ ฉันก็มีบ้านนี่” ศักดิ์ชายพูดขึ้น
“เออ.....เรื่องมันนานมาแล้วนะ คือ แบงค์ยึดบ้านนายหมดแล้วหละ” อนัตตาพูดขึ้น พร้อมตบไหล่เชิงปลอบใจศักดิ์ชาย
“อะไรนะ....” ศักดิ์ชายตกใจ
“เออ......คือ พ่อของนาย เออ..ท่านไม่ใช่ไม่เก่งนะ แต่เกิดความผิดพลาดทางธุรกิจน่ะ ก็เลยเป็นหนี้แบงค์ แล้วท่านก็มาเสียชีวิตเสียก่อนหนะ” อนัตตาพูดต่อ ศักดิ์ชายรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอหอย
“มันผ่านมานานแล้วนะ ลืมซะเถอะ ไม่มีประโยชน์ที่จะคิด” อมิตตาพูดขึ้นพร้อมก้าวเดินนำหน้าไป
“อืมม์...แล้วฉันก็เลยมาอาศัยครอบครัวนายอยู่ จนกว่าฉันจะตั้งตัวได้” ศักดิ์ชายพูดขึ้น เพื่อนทั้งสอง พยักหน้าพร้อมกัน ศักดิ์ชายไม่พูดอะไรต่อ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วพ่นออกมา แล้วก้าวเดินตามเพื่อนไป



.....ทั้งสามเดินจากทุ่งหญ้าโลงๆที่มีลมเย็นสบายโชยอยู่ตลอดเวลา ผ่านเข้าแนวป่าละเมาะร่มรื่นที่พื้นโล่งเตียน มีเพียงหญ้าอ่อนๆขึ้นอยู่ทั่วไป เหมือนกับมีคนบรรจงมาปูหญ้าเหล่านี้ไว้ ทั้งสามเดินทางตามช่องทางเล็กๆ ที่มีดอกหญ้าหลากหลายสีมากมายแปลกตาซ้ำยังส่งกลิ่นหอมแปลกไปจากดอกหญ้าทั่วไป หมู่มวลผีเสื้อหลากสีทั้งใหญ่น้อยโชว์สีแปลกตาบินไปมาทั่วไป สภาพแวดล้อมแบบนี้ ทำให้ศักดิ์ชายนึกถึงคืนที่พบเพื่อนและครอบครัววันแรกไม่ได้


“ที่นี่แปลกตาจังเลย...” ศักดิ์ชายเอ่ยขึ้น
“โธ่ชาย นายน่ะ เดินเข้าออกที่นี่หลายครั้งแล้วนะ” อนัตตาพูดขึ้น ศักดิ์ชายทำท่าคิด
“อืมม์ ...โทษที สมองฉันอาจไม่ดีจริงๆ” ศักดิ์ชายตัดพ้อ
“ไม่หรอกชาย เธอเพียงแต่เครียดนะ.....มันเป็นความเครียดของเธอเอง” อมิตตาเสริม
“อืมม์...อา....เออ....อะจริงๆหละเป็นความเครียดนะ” ศักดิ์ชายนึกไปมาแล้วตัดบทเพราะขี้เกียจนึก




.....ตลอดเส้นทางที่เดินไป สร้างความเพลิดเพลินให้กับทั้งสามเป็นอันมา มีสิ่งแปลกๆมากมาย แมลงส่วนใหญ่จะสีสันสวยงามฉูดฉาด ดอกเห็ดที่แปลกตาขึ้นกันเป็นหย่อมๆเหมือนในนิทานที่เคยอ่านมา อมิตตา วิ่งไปมาอย่างเริงร่ามือเอื้อมเด็ดดอกหญ้ามีสวยขึ้นมาทัดหูและเก็บไว้ในกำมือจนเต็ม อนัตตา หัมเพลง “Eternal Flame” ซึ่งเป็นเพลงโปรด และบัดนี้ ศักดิ์ชายรู้สึกว่า ตนเองจะหัมเพลงนี้ได้ด้วย ทั้งๆที่ไม่เคยมาก่อน ครั้งนี้ ศักดิ์ชาย จึงหัมตามอนัตตาออกมา และไม่เพียงแต่นั้น ศักดิ์ชายยังร้องเป็นเพลงออกมาด้วย ทำให้ทั้งสามรู้สึกสนุกและรวมกันร้องเพลงออกมา...สายลมโบกพัดผ่านกิ่งไม้เสียซู่ซ่า แมลงต่างๆร่วมกันขับขานรับบทเพลงของทั้งสาม สายลมพัดเอาใบไม้สีสันสดใส ปลิวว่อนรอบกายดั่งเริงร่าพร้อมกับบทเพลง

.....ไม่นานทั้งสามก็มาถึง บ้านหลังเล็กๆที่สร้างจากดินผสมฟางข้าว แต่ทว่ามีหลายห้องด้วยกัน หน้าต่างทรงกลม หลังคามุงด้วยหญ้าค่อนข้างหนา ประตูทางเข้าบานใหญ่ทรงกลมเช่นเดียวกัน บ้านปลูกอยู่ในดงไม้ใหญ่ รมเย็นเป็นอันมาก ข้างๆบ้านมีสระน้ำใหญ่ มีศาลาไม้ทรงกลมปลูกไว้ ข้างในมีเก้าอี้นอน 2-3 ตัว มีโต๊ะทรงกลมอยู่ตรงกลาง ข้างมีเตาไฟปรุงอาหารอยู่ด้วย สรุปแล้วเป็นบ้านและศาลาริมสระที่น่ารักมากๆเท่าที่ศักดิ์ชายเคยเห็นมาก่อน ก่อนที่ศักดิ์ชายจะถามอะไร ในห้วงความคิดก็ปรากฏนิมิตเรื่องราวต่างๆของบ้านหลังนี้ออกมาทั้งหมด รู้ทุกอย่างทุกซอกทุกมุมของบ้านหลังนี้ รู้ว่าใครอยู่ข้างในบ้าง


“กลับมาแล้วค้าบ!!” อนัตตาตะโกนบอกคนที่อยู่ในบ้านด้วยอารมณ์ดี สิ้นเสียก็มีเสียงคนข้างในตอบรับออกมา
“อ้าวมาแล้วเหร๊อ!!” เสียงทุ้มๆใหญ่ๆ พูดออกมา อึดใจก็ปรากฏร่างใหญ่พุงใหญ่เดินอาดๆออกมา ร่างนั้นยืนอยู่หน้าประตู รูปร่างเข้ากับประตูทรงกลม
“สวัสดีครับ คุณลุง” ศักดิ์ชายพูดพร้อมยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“ฮ่าๆ สนุกไหมออกไปเที่ยวกันมา” พ่อของอนัตตาพูดออกมาพร้อมยิ้มกว้าง
“เออ...ครับ ถึงแม้จะงงๆ” ศักดิ์ชายเอ่ยขึ้นเบาๆ พ่อของอนัตตาจ้องหน้า แล้วหัวเราะขึ้นอย่างอารมณ์ดี
“เอาหละๆ อย่าคิดมากเล๊ย มาๆได้เวลาอาหารกลางวันพอดี” พ่อของศักดิ์ชายกวักมือเรียกพร้อมยิ้มกว้าง




.....ไม่นานทั้ง 3 ก็เข้ามาช่วยกันในครัว พร้อมด้วยแม่ของอนัตตา ที่ยิ้มอารมณ์ดีตลอดเวลา รูปร่างที่ผอม สมส่วน ศักดิ์ชายสังเกตทั้งสองนั้น ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย รูปร่างหน้าตาแบบใดตอนที่พบครั้งแรก ก็เป็นแบบนี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่กาลเวลาก็ตาม



“ว่าไง ชาย ป้าว่าวันนี้ เราไปทานอาหารข้างนอกดีกว่านะ..” หล่อนพูดกับศักดิ์ชายพร้อมยิ้ม ก่อนที่ศักดิ์ชายจะออกความเห็นอะไร พ่อของอนัตตาก็โพลงออกมาก่อน
“ช่ายๆ เราว่า ที่ศาลาริมน้ำดีที่สุดนะ ว่าไหม..” ดังรู้ใจศักดิ์ชาย ทุกคนก็เห็นด้วยไม่มีใครขัด




.....ต่างคนต่างช่วยกันยกโน้นยกนี่ออกไป อมิตตาออกไปจัดโต๊ะ ทำความสะอาด คุณแม่ปรุงอาหารเพิ่มอีก 2-3 อย่าง คุณพ่อหัมเพลงอย่างอารมณ์ดี คอยเป็นลูกมือหยิบโน้นจับนี่หั่นนั่นช่วยภรรยาของตนเอง ศักดิ์ชายรู้สึกมีความสุข ช่วยอนัตตายกถ้วยโถโอชามออกไปจัดเรียงที่ศาลา จากนั้น ก็ช่วยกันยกอาหาร ซึ่งทำออกมาเป็นจำนวนมากมองดูแล้วเกินกว่าที่ 5 คน จะทานหมด จนศักดิ์ชายต้องถามคุณแม่ของอนัตตา แต่คำตอบที่ได้ “เอาน่า เดี๋ยวก็หมด เชื่อป้าสิจ๊ะ” ศักดิ์ชายก็ไม่ถามอะไรต่ออีก แต่คงมีความสุขเมื่อได้อยู่กลางกลุ่มคนเหล่านี้...ในช่วงเวลาอาหารดำเนินไปท่ามกลางบรรยากาศที่ดี เสียสรวนเสเฮฮาของทุกคนสร้างบรรยากาศที่ดี ทำให้ศักดิ์ชายลืมเรื่องราวต่างๆมากมายไปได้ ที่สำคัญทุกคนรู้ใจรู้ความรู้สึกของศักดิ์ชายทั้งหมด ไม่ว่าศักดิ์ชายจะพูดอะไร พวกเขาก็เข้าใจดีทั้งหมด ทำให้ศักดิ์ชายรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก ความคิดข้องใจเป็นอันเก็บไว้ในส่วนลึกของจิตใจของศักดิ์ชายเอง เพราะไม่มีอะไรจะถามอีกแล้ว หลังอาหาร อนัตตาได้ให้อมิตตาช่วยกันยกเก้าอี้นอนออกมา 3 ตัว เป็นเก้าอี้นอนตัวใหญ่ บุด้วยนวมหนาน่านอน เอามาตั้งตรงศาลาริมน้ำ ทั้งสามต่างลงไปนอนบนเก้าอี้นอน สายลมเย็นโชยอ่อนล้อเล่นกับผิวน้ำกระเพื่อมเป็นระลอก สะท้อนแสงแดดอ่อนทอประกายวิ้บวับอยู่ทั่วไป ปลาน้อยใหญ่ที่มีเกล็ดดังสีเงินและทอง เล่นผิวน้ำกระโดดขึ้นพ้นน้ำแล้วมุดหายไป เกล็ดปลาต้องแสงอาทิตย์เป็นประกายดูชวนตื่นตาตื่นใจเป็นอันมาก ศักดิ์ชายลุกขึ้นถามอนัตตาและอมิตตา ว่าปลาอะไร แต่ได้คำตอบว่า “มันเป็นเพียงปลาไนตัวโตๆเท่านั้นเอง” อมิตตาเสริมว่า “มันเป็นปลาที่นำเข้าจากต่างประเทศ” และอนัตตาก็เสริมเข้าไปอีกที่ทำให้ศักดิ์ชายไม่อยากจะถามต่อ “ช้านก็บอกแล้วไง โลกนี้มีอะไรมากมายที่นายยังไม่รู้” คำพูดนี้ทำให้ศักดิ์ชายหุบปากแล้วเงียบไป ศักดิ์ชายปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับสายลมอ่อนและพลิ้วคลื่น



“ชาย....ศักดิ์ชาย...” เสียงเรียกที่มากับสายลมไกลๆ
“ชาย.........” เสียงนั้นเรียกมาอีก ลมเย็นปะทะหน้า ทำให้ศักดิ์ชายตกใจตื่นขึ้นมา มองซ้ายมองขวาแต่กลับไม่พบใครเลย บริเวณศาลาริมน้ำนั้นกลับว่างเปล่า บรรยากาศรอบๆที่เคยแจ่มใส กลับมืดมัวลมที่เย็นสบาย กลับกลายเป็นลมหนาวที่บาดลึกเข้าถึงกระดูก ความรู้สึกเหมือนกับหดหู่ มีความกลัวแฝงอยู่ในทุกที่
“ชาย....” เสียงนั้นดังมาอีก ดั่งมากับสายลมที่ห่างไกล ศักดิ์ชายนั่งอยู่บนเก้าอี้นอนหันไปหันมาเพราะความกลัว
“ใครหนะ ....ใคร....” ศักดิ์ชายตะโกนออกไปหวังหาคำตอบ
“ชาย.........ศักดิ์ชาย......” เสียงนั้นดังมา ยังไม่ทันขาดคำเสียง “โครม!!!” พลันพื้นศาลาที่เป็นไม้พลันมีอันพังเป็นรูใหญ่ มือสีขาวซีดๆ โผล่จากน้ำทะลุพื้นศาลาขึ้นมา รวบจับเอาขาของศักดิ์ชายเข้าเต็มเหนี่ยว แล้วออกแรงลากศักดิ์ชายอย่างแรงดึงลงทะลุพื้นศาลาลงไปจนถึงน้ำและจม



.....ศักดิ์ชายจมลงสู่ก้นบึ้งของสระน้ำนั้นอย่างรวดเร็ว ทั้งมืด หนาวเย็น ศักดิ์ชายพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด กระเสือกกระสนเต็มแรง ทันทีที่ดิ้นรนขึ้นมาบนผิวน้ำได้ ศักดิ์ชายพยายามหาที่ยึดไม่ใช้ตัวเองจมลงไปอีก และก่อนที่จะหาที่ยึดได้ ศักดิ์ชายรู้สึกมีอะไรบางอย่างฉุดอย่างแรงใต้น้ำให้ตนเองจมลงไปศักดิ์ชายจมลงไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ศักดิ์ชายดิ้นรนอย่างเต็มแรงด้วยความกลัว หัวใจเต้นแรงดั่งจะวายให้ได้ เมื่อสายตาของศักดิ์ชายที่มองลงไปใต้น้ำผ่านความมัวของม่านน้ำ เห็นสิ่งที่ดึงศักดิ์ชายลงมา สิ่งนั้น....มันเป็นหน้าผู้หญิงคนหนึ่ง ผมที่ยาวสะยายพลิ้วปลิวไปกับกระแสน้ำดูยุ่งเหยิง ใบหน้าซีดเซียว ดวงตาสีดำทั้งดวงไม่มีตาขาวราวกับเต็มไปด้วยความลึกลับน่ากลัว หญิงน่ากลัวนั้น อยู่ในชุดสีขาวยาวเหมือนชุดนอน จับขาศักดิ์ชายไว้แน่น และค่อยๆลากศักดิ์ชายลึกลงไปเรื่อยๆ ศักดิ์ชายดิ้นเต็มแรง อากาศกำลังจะหมดเพราะไม่มีสติเอาแต่ดิ้นรนเพราะความกลัว และก่อนที่อากาศจะหมดจนขาดใจ


“ชายๆ ตื่นๆสิ ชาย” อมิตตาเขย่าตัวศักดิ์ชายอย่างรุนแรง



.....ศักดิ์ชายตื่นลืมตาโพลงอย่างรวดเร็ว ลุกขึ้นนั่งหายใจหอบ เหงื่อกาฬแตกทั่วทั้งตัวจนเปียกชุ่มไปหมด ทั้งๆที่อากาศเย็นสบาย ดวงตาเหลือกลานด้วยความกลัวและตกใจ สับสนระหว่างความฝันและปัจจุบันที่ตนเองเผชิญอยู่ อมิตตารีบกอดศักดิ์ชายไว้แน่นโดยทันที ปากก็พล่ำปลอบโยน นานเท่าไรไม่ทราบได้ ศักดิ์ชายจึงรู้สึกตัวปรับสภาพได้ แต่ยังหอบหายในถี่เร็วอยู่ อนัตตารีบวิ่งไปเอาน้ำเย็นๆมาให้ คงปล่อยให้อมิตตาปลอบโยนศักดิ์ชายอยู่แบบนั้น



“ชายนายดื่มน้ำเสียหน่อยนะ แล้วจะดีขึ้น นายแค่ฝันร้ายหนะ” อนัตตาพูดพร้อมส่งน้ำให้ ศักดิ์ชายรับน้ำดื่ม ดื่มจนหมดแก้ว รู้สึกอาการดีขึ้น
“ชายไม่เป็นอะไรแล้วนะ เธอฝันร้ายหนะชาย ไม่มีอะไรหรอก” อมิตตาปลอบด้วยแววตาที่เป็นห่วง
“ขอบใจนะ ฝันน่ากลัวจริงๆเลยหละ” ศักดิ์ชายพูดพร้อมเบ่าลมออกจากปากโลงใจ ที่มันเป็นเพียงความฝัน สองพี่น้องมีอาการโล่งใจที่ได้ยินศักดิ์ชายพูด ต่างมองสบตากันสื่อความหมายอะไรบางอย่าง
“อมิตตา อนัตตา ลูกพาศักดิ์ชายเข้ามาในบ้านดีกว่า แม่ว่านะ ข้างในบ้านเราดีกว่านะ” แม่ของทั้งสองออกมายืนหน้าประตูทรงกลมตะโกนบอกมา สองพี่น้องมองตากันพยักหน้าเบาๆให้กันและกัน
“ชาย ช้านว่า เราเชื่อแม่ดีกว่านะ เข้าไปนั่งเล่นในบ้านกันเถอะนะ อากาศเย็นแล้ว” อนัตตาพูดขึ้น อมิตตาออกแรงพยุงศักดิ์ชายให้ลุกเหมือนบังคับให้ไป
“เออ...ฉันไม่เป็นอะไรแล้วหละ” ศักดิ์ชายกล่าวกับเพื่อนทั้งสอง
“ฉันรู้ว่าเธอไม่เป็นอะไร อากาศเย็นแล้วเธอไม่ค่อยสบาย เข้าไปนั่งอ่านหนังสือในบ้านเถอะ” อมิตตาพูดพร้อมพยุงศักดิ์ชายเดินไป ศักดิ์ชายขัดไม่ได้เพราะเกรงใจ จึงเดินตามไปโดยง่ายดาย มุ่งหน้าเข้าบ้าน



.....อนัตตาเพียงคนเดียวที่ออกจากศาลาเป็นคนสุดท้าย อนัตตายืนอยู่ตรงศาลาริมน้ำ สายตาที่แข็งกร้าวจ้องมองผืนน้ำที่พลิ้วไสวเล่นลม ใบหน้าบึงตึง ไม่มีแววยิ้มแย้มแต่ประการใด ในตาหน้ากลัวจองพื้นน้ำอยู่อย่างนั้น มวลหมู่ปลาสีเงินและทองที่ศักดิ์ชายเห็นครั้งแรก เริ่มรวมตัวกันมากมายเป็นฝูงลานตาไปหมด พวกมันเบียดเสียดเยียดยัดกันเข้ามาเหมือนมีชุมนุมอะไรกันสักอย่างหนึ่ง ในตาขาวของอนัตตาเริ่มเป็นสีแดงคล้ายเลือดคลั่งในตา หมู่มวลฝูงปลาเริ่มมีอาการเคลื่อนไหวเหมือนกับกลัวอะไรสักอย่าง เหมือนพวกมันกำลังทรมาน และก่อนที่อะไรจะเกิดขึ้น


“อนัตตา ทำอะไรอยู่เหรอ” เสียงเรียกของศักดิ์ชายดังขึ้นหน้าประตู อมิตตาวิ่งออกมา บอกศักดิ์ชายว่า “ไม่มีอะไรหรอกๆ” จังหวะนี้ทำให้ฝูงปลาแตกกระจายหนีกันออกไปทุกทิศทุกทาง
“อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอก ช้าน ให้อาหารปลาอยู่หนะ” พูดพร้อมควักถุงเศษขนมปังออกจากระเป๋าชูให้ศักดิ์ชายดู
“อ้าวเหรอ...อืมม์ ฉันให้ด้วยคนสิ” ศักดิ์ชายพูดพร้อมจะเดินออกไป
“ไม่ต้อง หมดแล้ว มันอิ่มแล้ว ไปกันหมดแล้วหละ ช้านกำลังจะเข้าไปหานายพอดี ไม่ต้องออกมาหรอก เออ...ช้านมีอะไรให้นายดูนะ” อนัตตาตัดบทพร้อมเดินออกไป อมิตตดึงแขนศักดิ์ชายเข้าบ้านไป ตอนเดินออกศาลา อนัตตา หันไปดูทางสระน้ำ เหมือนมาดร้ายอะไรบางอย่างไว้



จบตอนที่6




 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2550
17 comments
Last Update : 3 กรกฎาคม 2550 15:01:51 น.
Counter : 464 Pageviews.

 

แหม....คุณธาราคะ คิดว่าจะสนใจ "น้องแพท" ของเรา ตอนนี้ที่โรงแรม มีน้อง...(เอ่อ ลืมชื่อน่ะ ที่โรงแรมมีพนักงานหลายคนจำไม่ค่อยได้) เพิ่งจบไฮสคูน ชินเห็นหน้าทุกวัน...เริ่มรู้สึกว่าเธอสวยนะ หุ่นดีหยั่งกะนางแบบ(คิดว่าอายุไม่น่าจะเกิน 20 ปี) ฮ่าๆๆๆ......

แบบว่านิยายที่คุณธาราเขียน ชินอ่านตาม แล้ว...มันมีเสียงในใจงัย....อิอิอิ

งานเป็นอย่างไรบ้างคะ ไม่เห็นอัพหลายวัน สงสัยมันแต่เฉ่งลูกศิษย์อยู่ล่ะสิ

 

โดย: shin chan (alei ) 3 กรกฎาคม 2550 15:32:31 น.  

 

อุ้ยยังไม่จบ... หรือว่าสนใจ "น้องโย่ง" ที่หน้าห้องคะ เจ้าของโรงแรมยกให้ แต่คงไม่มีปัญญาพาเธอนั่งเครื่องกลับบ้านค่ะ สาวใช้สูง โย่ง ยิ้มทุกวัน ไม่มีวันบ่น ซื่อสัตย์ ไม่รับกิ๊ก

 

โดย: shin chan (alei ) 3 กรกฎาคม 2550 15:35:29 น.  

 

อยาก อ่านมนต์นิทราของ ศักดิ์ชาย ตอน7ไวไว..

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมบล็อกค่ะ..

ไปฟัง นู๋ญ่า ร้องเพลงที่บล็อก พี่โจร500 กดที่นี่

มาชวนไปฟังเพลงค่ะ..เสียงไม่ดีนัก ขออภัยล่วงหน้า

 

โดย: นู๋ญ่า (kayook ) 3 กรกฎาคม 2550 18:06:09 น.  

 


*** สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมค่ะ
และขอบคุณที่แวะไปเยี่ยม หน่อยอิงที่ Blog นะคะทุก comment คือกำลังใจให้แก่กัน
จะแวะมาทักทายอีกนะคะ ***

 

โดย: หน่อยอิง 4 กรกฎาคม 2550 20:27:16 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ
มีความสุขกับการทำงานน่ะค่ะ

ตอนที่ 6 แล้วหรือค่ะเนี่ย ติดไว้ก่อนน่ะค่ะ
แล้วจะมาตามอ่านจริงๆ จังๆ นี่อ่านคร่าวๆ
ยังสนุกเลยค่ะ แล้วจะมาอีกน่ะค่ะ

 

โดย: Jeab (rayasuree2526 ) 5 กรกฎาคม 2550 6:54:00 น.  

 

แวะมาอ่านค่ะ

 

โดย: Aui_haui 5 กรกฎาคม 2550 13:14:40 น.  

 

สวัสดีคะคุณธาราภิรมย์
เข้ามาอ่านคะ

 

โดย: goodpeople 5 กรกฎาคม 2550 14:17:08 น.  

 

งานเราเสร็จเรียบร้อยแล้ว

อิ อิ พรุ่งนี้ได้หยุดเพิ่มอีก 1 วัน

ได้เวลาพาน้องๆออกเยี่ยมเพื่อนแล้ว

คิดถึงเพื่อนๆนะคะ

 

โดย: เพียงแค่เหงา 5 กรกฎาคม 2550 21:45:17 น.  

 

Goodnight หลับฝันดีน่ะค่ะ

 

โดย: Jeab (rayasuree2526 ) 6 กรกฎาคม 2550 1:56:27 น.  

 

เด๋วพุ่งนี้มาอ่านนะคะ
วันนี้ขอตัวไปนอนก่อนค่า

 

โดย: :: ปลาทองน้อยๆตัวสีส้ม :: (mix_9001 ) 6 กรกฎาคม 2550 2:00:46 น.  

 

มาอ่านแระค่า

 

โดย: :: ปลาทองน้อยๆตัวสีส้ม :: (mix_9001 ) 6 กรกฎาคม 2550 23:06:15 น.  

 


แวะมาเยี่ยมค่ะ

bolg สวยจังเลยค่ะ

 

โดย: ทิวาจรดราตรี IP: 125.25.129.13 7 กรกฎาคม 2550 20:58:32 น.  

 

ขออนุญาตนำบทกลองของคุณไปไว้ที่ Bloc ของผมนะครับ

 

โดย: มหาสำลี (มหาสำลี ) 12 กรกฎาคม 2550 9:58:36 น.  

 



ไปดูโดราเอม่อนกันไหมคะ?

 

โดย: นู๋ญ่า (kayook ) 12 กรกฎาคม 2550 17:07:03 น.  

 

แบล็กกราวน์สวยมากๆๆๆ เยย
เรื่องอะไร? ถึงไหนแล้ว จำม่ะได้เพราไม่ได้เข้าบล็อกนานแย้ว
อยากอ่านแต่เจียดเวลาไม่ได้อ่ะ เศร้าๆๆๆ
ทำงานตลอด ฮื่อๆๆๆๆ
เมื่อไหร่ มีเรื่องไหนรวมเล่ม แวะไปบอกที่บล็อกกองพันฯด้วยเน้อ จะคอยติดตาม

รักษาสุขภาพด้วย

 

โดย: พลทหารหน้าตาย (กองพันทหารราบ ) 13 กรกฎาคม 2550 15:50:14 น.  

 



ความรัก......?

ความรักเหมือนอยู่ในกองไฟ ที่เหน็บหนาว
ความรักเหมือนชัยชนะ ที่พ่ายแพ้
ความรักเหมือนความเจ็บไข้ ที่ไม่รู้จักตาย
ความรักเหมือนความจริง ที่เป็นเท็จ
ความรักเหมือนความสุภาพ ที่บ้าคลั่ง
ความรักเป็นทุกสิ่ง ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรเลย.

♣♣♣♣♣♣♣♣

สวัสดีค่ะ เจี๊ยบเข้ามาทักทายค่ะ
ขอบคุณมากน่ะค่ะที่เข้ามาทักทายกัน
คืนนี้หลับฝันดีน่ะค่ะ แล้วพรุ่งนี้พบกันใหม่

รายาสุรีย์ โทณะวณิก (เจี๊ยบ)
วันที่ ๑๔ กรกฏาคม ๒๕๕๐

♣♣♣♣♣♣♣♣

 

โดย: Jeab (rayasuree2526 ) 13 กรกฎาคม 2550 22:02:44 น.  

 

ช่วงนี้งานยุ่งแน่เลย ....ยังงัยก็รักษาสุขภาพนะคะ

 

โดย: shin chan (alei ) 14 กรกฎาคม 2550 17:44:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธาราภิรมย์
Location :
น่าน Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ด้านในของชีวิต มีทั้งความคิด ความฝัน
ความจริงและหลอกลวงปะปนกัน
จึงมาร่วมแบ่งปันความคิด ความฝันนั้น
เพราะเรามันก็แค่ "มนุษย์"



Click here to get your own clock for your site/profile!


++++ ชายราศีตุล ++++

visit www.mp3-codes.com now!
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
3 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ธาราภิรมย์'s blog to your web]
Links