อาลัย นีล อาร์มสตรอง กับประวัติสุดแปลก

นีล อาร์มสตรอง เป็นผู้ชายคนแรกที่เดินบนดวงจันทร์ 
นี่คือเรื่องราวพิศดาร 39 ปี ก่อนที่จะกลับมาถึงโลก

#6 เป็นชาวโอไฮโอ (Ohio)

อ้าว... แล้วเป็นชาวโอไฮโอ มันแปลกยังไง

เรามาลองศึกษาประวัติศาสตร์ด้านการบินและอวกาศ ของอเมริกาดูซิ

สองนักบินคนแรกของโลก  Orville และ Wilbur Wright  ได้ทำการสาธิตขึ้นบินแป็นครั้งแรกของโลก ในปี 1903 บินอยู่ในท้องฟ้า 12 วินาที แล้วร่อนลงจอดบนชายหาดที่ North Carolina เป็นชาว โอไฮโอ

John glenn เป็นนักบินอวกาศชาวอเมริกันคนแรก ที่โคจรรอบโลก ปี 1962 (Yuri Gagarin โซเวียต เป็นคนแรกของโลก 1961) ก็ เป็นชาวโอไฮโอ

นีล อาร์มสตรอง คงไม่ต้องทายนะว่าเป็นคนที่ไหน

ยัง...ยังไม่จบ Jim Lovell ก็ยังเป็นชาว โอไฮโอ  Jim Lovell เป็นใคร? ก็เป็นนักบินอวกาศในยาน อะพอลโล 13 ไง ที่แสดงโดยทอม แฮ้งส์ 

การบินครั้งแรก  โคจรรอบโลก ดวงจันทร์ ถูกพิชิตโดยชาวโอไฮโอ รัฐแห่งยอดคน

#5 น่าจะตายในเกาหลี

อาร์มสตรองทำหน้าที่เป็นนักบินในช่วงสงครามเกาหลี ในขณะทำภารกิจในการลาดตระเวนในปี 1951 เขาถูกยิงด้วยปืนต่อต้านอากาศยานและปีกของเครื่องบินหายไปข้างหนึ่ง แต่จะบินกลับไปยังสนามบินแล้วดีดตัวออกมา  เขาเกือบจะตายในสงครามและจะไม่มีใครจำได้ อาร์มสตรองบิน 78 รวมภารกิจ ในสงครามที่ฆ่า 37,000 เจ้าหน้าที่ทั้งหมดของสหรัฐอเมริกา

#4 น่าจะตายเป็นขณะเป็นนักบินทดสอบ

หลังจากสงครามเกาหลี อาร์มสตรองได้ลงนามเพื่อเป็นนักบินทดสอบกับองค์กรที่ต่อมากลายเป็นนาซ่า เขาใช้เวลาทดสอบในการทดลองเครื่องบินความเร็วสูง ที่เร็วกว่าความเร็วของเสียง ที่บรรจุเชื้อเพลิงจรวด
สำหรับชีวิตนักบินทดสอบก็มีความเสี่ยงที่จะตายได้ตลอด  ในปี 1952 ที่กองทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดส์ ฐานบินที่อาร์มสตรองเป็นนักบินทดสอบ
สรุปสถิติการตายของนักบิน คือ 62  คนใน 32 สัปดาห์ เฉลี่ยตายกันสัปดาห์ละ 1.7 คน
เหตุการณ์สำคัญช่วงนึงคือ จรวดทดสอบ X-15 ติดไว้กับเครื่อง B52 บินสูงหมื่นฟุต แล้วปล่อย  X-15 ออกมา
แต่เจ้ากรรมนายเวร เครื่องยนต์จรวดดันไม่ติด ทำให้ นีล ลอยเคว้งในอากาศ ก่อนที่จะตัดสินใจดีดตัวออกมา มนุษย์เหล็กของเรารอดมาได้อีกครั้ง

#3 น่าจะตายในอวกาศ

ในปี 1966 นีล กับ David Scott ถูกปล่อยเข้าสู่วงโคจรของโลก ด้วยยานเจมินี่ 8 ภารกิจเชื่อมต่อเข้ากับยานลำอื่นในอวกาศ ในความเป็นจริงแล้ว ภารกิจนี้มันอันตรายมาก ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยทำสำเร็จมาก่อน

หลังจากเชื่อมต่อแล้ว เกิดความผิดพลาด ยานเจมินาย เกิดการหมุน เสียการควบคุม นักบินอวกาสต้องปลดการเชื่อมต่ออกจากยานอีกลำ ยานเจมินาย หมุนติ้วๆ สถานการณ์เริ่มเลยร้ายหนักขึ้น เมื่อนักบินอวกาศเริ่มเข้าใกล้สู่ภาวะหมดสติ วินาทีสุดท้ายอาร์มสตรอง คว้าคันบังคับ แล้วควบคุมยาน กลับสู่โลกอย่างปลอดภัย พร้อมกับภารกิจการเชื่อมต่อที่ล้มเหลว แต่ใครล่ะจะไปสนใจ

#5 น่าจะตายในการฝึกไปดวงจันทร์

ยัง ยังไม่เข็ด ในปี 1968  นีลได้เข้าสู่โครงการ วิจัยยานลงจอดบนดวงจันทร์ ซึ่งนักบินแซวกันในชื่อ “โครงเตียงบิน” ซึ่งมันดูเหมือนเตียงติดจรวด

ซึ่งดูจากรูปแล้ว มันแน่นอนว่ามันจะยากในการควบคุมจริง แล้วมันก็เกิดขึ้น เมื่อขณะยานบินอยู่สูง 100 ฟุต นีล เสียการควบคุมยาน เขาดีดตัวออกจากยาน ลงสู่พื้นด้วยร่มชูชีพ  และจากการวิเคราะห์ด้วยภาพช้าพบว่า ช่วงเวลานั้น นีล มีเวลารอดแค่ 5 วิเท่านั้น แต่เขาก็รอดมาได้

#6 น่าจะตายบนดวงจันทร์

ก่อนโครงการ อพอลโล่ 11 ทีมงานนาซ่า คำนวนออกมาว่า โครงการจะสำเร็จกลับมาโลกแค่ 50% และน่าจะตายถึง 30% แต่พระเอกของเราเลือกจะอยู่ที่ 50%

ในขณะที่ ยานลูน่าโมดูลกำลังร่องลงพื้นผิวดวงจันท์ คอมพิวเตอร์ ส่งเสียงร้อง แสดงรหัส  “1202” งานเข้า อาร์สตรอง ก็ไม่รู้มันหมายถึงอะไร จึงถามศูนย์ควบคุม “ฮุสตัน รหัส 1202 คืออะไร” ฮุสตันก็มึน ไม่รู้มันหมายถึงอะไร

ซึ่งจริงๆ แล้วมันคือ รหัสแสดงว่า มีเชื้อเพลิงเหลือน้อย ซึ่งตอนลงจริงมันน้อยกว่าตอนทดสอบในเครื่องซิมมูเลเตอร์ แต่ในช่วงวินาที นีล สามารถนำเครื่องลงได้อย่างปลอดภัย

ขณะอยู่บนดวงจันทร์ นีล กับ บัส พบว่า ยานยานลูน่าโมดูลของจริงมันเปราะมาก และตัวจุดสันดาปเชื้อเพลิงมีรอยรั่วหนึ่งแห่ง จึงต้องรีบเผ่นออกจากดวงจันทร์  (ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะแอบเขียนด่าผู้ผลิตยานอะไรไว้บน moondust บ้าง)
ภารกิจลงบนดวงจันทร์สำเร็จ ทั้งคู่ได้ชื่นชมบรรยากาศ บนดวงจันทร์ได้ระดับนึกก็ถึงเวลากลับ ขณะกำลังจะติดเครื่องกลับ แม่เจ้า.. เครื่องไม่ติด ทั้งคู่จะได้เป็นผีเฝ้าดวงจันทร์ซะแล้ว  บัส พบว่ามีรอยใหม้ที่เครื่องยนต์ ทำให้เสียงของเครื่องเปลี่ยน เดชะบุญ บัส ได้เอาปากกาจิ้มลงไปในช่อง แล้วคว้านไปรอบๆ ทำให้เครื่องติดขึ้นมาอีกครั้ง  ทั้งคู่ได้กลับโลก แล้วแน่นอน ชื่อเสียงของ นีล อาร์มสตรอง ได้ดังเป็นพลุแตก ชายผู้ที่ได้ชื่อว่า โชดดีที่สุดในโลก

Create Date : 26 สิงหาคม 2555 Last Update : 26 สิงหาคม 2555 15:39:33 น. Counter : 4809 Pageviews.		2 comments
Share Tweet