สวัสดีค่ะเพื่อนๆ บล็อคนี้ปล่อยของดองจากทริปกลับไทยเมื่อเดือนกรกฏาที่ผ่านมาค่ะ
ปกติเวลาที่อินดี้กลับไทยก็จะจัดหนักแต่อาหารไทยนะคะ
แต่มื้อนี้มีคนอยากจะเลี้ยง... ของฟรีมีรึจะพลาด
เลยถือโอกาสพาคุณแม่ไปร่วมลั้นลาทานของอร่อยด้วยกันซะเลย
Le Normandie| Bangkok เลอ นอร์มังดี ห้องอาหารฝรั่งเศสแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (Mandarin Oriental)
คุ้นหูคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี ...หนึ่งในร้านอาหารฝรั่งเศสอันดับต้นๆของเมืองไทย
เก่าแก่มีมาตรฐานเป็นที่ประทับใจทั้งชาวไทย-เทศ
ด้วยบรรยากาศห้องอาหารและวิวสวยๆของแม่น้ำเจ้าพระยา
คุณภาพวัตถุดิบ รสชาติอาหารและการตกแต่งจานประณีตสร้างสรร
และที่อินดี้เทใจให้อีกอย่างคือบริการอันยอดเยี่ยมสม่ำเสมอ
เมนูมื้อกลางวัน 3 คอร์ส ราคาไม่แพง(มาก)และเปลี่ยนทุกๆเดือนด้วยนะคะ
ไปทานมื้อกลางวัน
Menu déjeuner ช่วงวันเสาร์ค่ะ
คุณเพื่อนโทรจองล่วงหน้าหลายวัน... ได้โต๊ะติดกระจกชมวิวแม่น้ำเต็มๆ
แถมมาถึงก่อนเที่ยงนิดนึงเลยได้เก็บภาพแบบโล่งๆ
มี
ขนมปังให้เลือกหลากหลายและอร่อยๆทั้งนั้นเลยค่ะ
โดยเฉพาะอันขวาล่างที่มีมะกอกเทศอบแห้งเป็นเกล็ดๆโรย
อบใหม่ๆมาร้อนๆกลิ่นหอมสุดๆ ^^
กรอบนอกนุ่มใน แบบธัญพืชก็เริ่ดอยู่
เนยกับ Signature
N Normandie แน่ๆเลย
และ
Amuse Bouche เป็นเนื้อปูนุ่มๆ
มี crouton โปะมาด้านบน ทานสบายๆเรียกน้ำย่อย
อาหารทั้งหมดวันนี้
3 คอร์ส 3 เซตลันช์
สั่งมาไม่ซ้ำ ไม่ให้เหมือนกันเลยซักจานค่ะ
ค่อนข้างหลากหลาย... แบบนี้ต้องจัดทั้งไวน์ขาวและไวน์แดง อิอิ
เริ่มด้วย
Entrée จานแรก
..
Saumon fumé et asperges vertes, blinis de pomme de terre ..
Smoked salmon and green asparagus, potatoes blinis จานนี้ของคุณแม่ ไม่ได้ชิมเองนะคะ
แต่งจานได้น่ารักเชียว เพิ่งเคยเห็นบลินี่จิ๋วไซส์นี้
แท่งนึงเป็นแซลมอนรมควันตัวไส้คล้ายๆครีมชีสแต่งด้วยคาเวียร์... นุ่มๆ
อีกแท่งก็หน่อไม้ฝรั่งกับครูตองสารพัดอย่าง... กรอบๆ
เขียวๆก้นจานไม่ใช่ซอสนะคะ texture ประมาณเจลลี่ เข้าท่าทีเดียว
จานของอินดี้บ้าง
..
Maquereau confit, petits pois et framboises, parfum de gingembre ..
Mackerel confit, garden peas and raspberries, ginger flavours เลือกเมนูนี้ก็เพราะงงว่าปลากับเบอร์รี่ ถั่วกะขิงอีก อะไรกัน ?!?!...
สงสัยก็เลยต้องจัดมาลอง 555+
พอเห็นถือมาเสิร์ฟเท่านั้นหละ
หลงรักเลยกับรูปร่างหน้าตา
รสชาติก็ไปในทางเดียวกัน คือสดใสๆหอมๆทานแล้วสดชื่น
ไม่น่าเชื่อว่าเชฟจะเอาปลาแม
กเคอเรลมาปรุงแบบนี้
แถมมา Match กับราสพ์เบอร์รี่อีก (ทั้งแบบซอสและแบบสด)
เข้ากับถั่ว ขิง และผักสลัดสดๆได้ดีอีกด้วยนะคะ
ลงตัวมาก & อร่อยจริงๆ อยากให้ลอง
จาน
Starter สุดท้าย
..
Thon rouge mariné, betteraves et baies rouges, citron confit ..
Marinated red tuna, beetroot and red berries, lemon zest จานนี้ของคุณเพื่อนค่ะ เป็นปลาทูน่า
ร่วมด้วยบีทรูทส่วนที่เป็นตัวฐาน หยดสีแดงเข้มและที่ฝานสไลด์บางๆ
ส่วนหยดสีออกชมพูและซอร์เบทข้างๆทำจากเรดเบอร์รี่ค่ะ
ด้านบนมี
คอนฟิท & เปลือกเลม่อนขูดเพิ่มกลิ่นหอมแบบพิเศษๆอีกด้วย
จบคอร์สแรกที่พวกเราจับคู่ดื่มกับไวน์ขาว(จากฝรั่งเศส)
ตอนนี้พร้อมเข้าอาหารจานหลัก ...เปลี่ยนมาดื่มไวน์แดง(จากอิตาลี)เคล้าวิวแม่น้ำเจ้าพระยาต่อเนื่องกันยาวๆ
เริ่มที่
Main ของอินดี้นะคะ
..
Cappuccino de cuisses de canard confit aux parfums de truffes ..
Duck leg confit and truffle cappuccino กำลังคิดถึง ดั๊กกงฟี่/
ขาเป็ดคอนฟิท พอเห็นในเมนูเลยสั่งแบบไม่ต้องคิด
บริกรอธิบายเสริมว่าเชฟเอาเมนูนี้มาทำใหม่อีกรูปแบบหนึ่ง
คือจะไม่ได้ทำแบบ Tradition ที่เป็ดจะมาเป็นขาๆ
* นี่ก็เป็นอีกรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ทางร้านใส่ใจ อธิบายเพิ่มเติม
จะได้ไม่เข้าใจผิดและป้องกันลูกค้าคาดหวังจากการอ่านตามเมนูอีกด้วย
ภาชนะที่ใช้เสริฟเก๋ไก๋ไฉไล ถูกใจๆ
นอกจากจะได้โชว์เลเยอร์อาหารในถ้วยแล้ว เวลาจับตอนทานก็ไม่ร้อนอีกด้วย
เป็นเป็ดตุ๋นในไขมันแบบ slow cook นานๆๆๆๆๆ
เคยเล่าวิธีทำคร่าวๆ ย้อนอ่านได้ที่ CLICKท๊อปด้วยโฟมครีมมันฝรั่งนุ่มๆ ราดด้วยน้ำมันทรัฟเฟิลหอมหวล
หน้าตาประหนึ่ง
ฟองนมบนกาแฟคาปูชิโน่เลยเชียว
เนื้อเป็ดนุ่มๆกลมกล่อมกับครีมรส
ละมุน อร่อยมากมายจริงๆ
จานหลักของนายแม่
..
Pavé de cabillaud en Viennoise, champignons et
pommes de terre aux huîtres..
Poached cod fish under herbal crust, mushrooms, potatoes and oyster เป็นปลาคอดขาวอวบเนื้อแน่นโปะด้วยเฮิร์ปสีเขียวเข้ม
ซอสครีมข้นนิดๆอุ่นกำลังพอดี... มาเทเสิร์ฟที่โต๊ะ
เครื่องเคียงมีเห็ดฝานบางๆและกระเทียม
ส่วนมันฝรั่งถูกแทรกตรงกลางด้วยหอยนางรมและสาหร่าย
แปลกได้อีก !
ได้ชิมนิดนึง ปลาสดเนื้อหวานมาก แต่โดยรวมออกจืดๆ
จานหลักของคุณเพื่อนบ้าง
..
Poitrine de volaille et crevettes, légumes en variation, confiture de tomate ..
Chicken breast and prawns, variation of vegetable, tomato jam จานนี้พระเอกคืออกไก่ นางเอกคือกุ้ง
ร่วมด้วยเทมปุระและผักอีกหลายชนิด
(มะกอกเทศ มะเขือเทศ หัวหอม ซุกคินี่ ฯลฯ)
ราดซอสแยมมะเขือเทศ รสออกเปรี้ยวๆหวานๆ
รสชาติดีแต่ธรรมดาไปนิดนึงนะคะ
รวมๆทั้ง 3 จานลงดีเทล
D - E - L - I - C - I - O - U -
S จบของคาว มาต่อของหวานกันนะคะ
มี
CAKE ให้เลือกเกือบ 10 อย่าง
ขอชื่นชมคุณสมคิด พนักงานรุ่นเก๋าของโรงแรมเป็นพิเศษ
พูดคุยอธิบายอาหารอย่างสุภาพ เข้าใจง่ายและเป็นกันเองมาก
มาถึงขนมที่เข้าตาพวกเรา
ของอินดี้เป็น Chocolate Mousse Cake กับ Mille-Feuille
ของคุณเพื่อนเป็น St.Honoré กับ Gâteau Citron-Almond
และของคุณแม่เป็นคล้ายๆ Banoffee กับ Coffee Chocolake Cake
ประมาณนี้นะคะ ผ่านมาหลายเดือนแล้วชักเลือนๆ
แต่จำได้ว่าอร่อยๆ หมดเกลี้ยงเลย ^^
จบมื้ออิ่มเปรม & อิ่มแปร้ด้วย Tea & Coffee
จิบชาดื่มกาแฟเพลินๆกับมาการงสีหวานๆ
ชอบมาการงรสตะไคร้ (Lemongrass Macaron) เป็นพิเศษ
ดึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย หอมอร่อยมาก
มื้อนี้ฟินแค่ไหน... ดูจากหน้าหม่อมแม่ก็ได้นะฮ้าาๆ
เช็คบิลมื้อนี้ประมาณหกพันค่ะ มีไวน์ด้วยแต่ไม่ใช่ตัวดังๆ
(ราคาเฉพาะอาหาร
Set Lunch Menu 1250++B/person)
โดยรวมถือว่าอร่อย บรรยากาศดี บริการเยี่ยม คุ้มราคา
กลับไทยคราวหน้า ถ้ารายการอาหารถูกใจก็จะกลับไปทานอีกแน่นอนจ้า
วันนั้นฟ้าใส ไม่ร้อนจัด ลมพัดโชย สบายๆ
เลยไปนั่งเรือของโรงแรม(ฟรีด้วย อิอิ) ชมวิวแม่น้ำกันต่อ
~ บางกอกที่รัก
กรุงเทพที่คิดถึง
~ปิดท้ายบล็อคนี้ด้วยบรรยากาศริมน้ำเจ้าพระยาหละกันจ้า
ขอบคุณที่แวะมาอร่อยด้วยกันนะคะ
แล้วพบกันใหม่บล็อคหน้า
บายๆ
~ Dine Out with Indy ~All stories and photos byIL & SL & RJ | indyland.bloggang.com