สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วีคที่แล้วอินดี้มัววุ่นๆกับการเดินสายลานสกี
เพิ่งจะมีเวลาเขียนบล็อคใหม่ อัพเอาซะเกือบสิ้นเดือน
ชวนย้อนวันหวานหม่ำมื้อค่ำฉลอง
Saint Valentine’s Day ปี 2 0 1 3
บันทึกลงบล็อค... เก็บไว้อ่านซะหน่อยจ้า เช่นเคยเปลี่ยนร้านทุกปีแต่ไม่ได้เปลี่ยนคู่นะ ไปกับคนเดิม อิอิ
*ปูลู แสงน้อยแถมจัดหนักแอลกอฮอลล์หลายขนาน*
ภาพอาจจะ Noise เยอะเบลอไปบ้างนะคะ
เลือก
Restaurant La Poste โดยเชฟ
Jean-Marc-Kieny ระดับ
หนึ่งดาวมิชลิน (One Michelin Star) ค่ะ
พิกัดร้านตั้งอยู่ที่เมือง Riedisheim ในแคว้น Alsace ของฝรั่งเศส
ประมาณ 10 นาทีด้วยรถยนต์จากเมืองมูลูส (Mulhouse)
มื้อค่ำวันพิเศษ แขกเพียบตามคาด ค่อยๆทะยอยกันมา
คู่เราอายุน้อยที่สุดในร้านอีกแล้ว แถมคำนวนเวลาขับรถมาถึงเร็วเกินคาด
มาเร็ว เคลมเร็ว พร้อมลุย !... เก็บบรรยากาศในร้านมาฝากเล็กน้อยค่ะ
โทนสีอบอุ่น สวยนั่งสบาย
มุมนี้เก๋ๆ... สารพัดเครื่องครัวประดับที่ฝาฝนัง
บนโต๊ะไร้ดอกกุหลาบแต่เป็นดอกหน้าวัวซะงั้น
ขนมปัง กับเนยโฮมเมด ก็มารอเรียบร้อย
เคี้ยวเพลินๆ
ร า ต รี นี้ ยัง อี ก ย า ว ไ ก ล ... ก่อนเปิดตัวคอร์สแรก
จัด
แชมเปญ มาวอร์มอัพนิดนึง (ที่นี่ออกเสียง
ช็องปาญ นะคะ)
Champagne Taittinger, cuvée prestige
เสิร์ฟมาพร้อมๆกับ
.. A m u s e B o u c h e ..
Crème brûlée au foie gras,
tartare de saumon mariné, espuma de fromage blanc
&
Croustillant de jarret de veau
เรียกน้ำย่อยเบาๆกันด้วย อามูสบุช สามอย่าง
อย่างแรก เคร่มบลูเล่ฟัวกราส์ ของหวานสุดโปรดที่มาในคราบของคาว
จะกี่ครั้ง จะร้านไหน ก็ได้ใจไปเต็มๆ
หอมหวาน รสเค็มๆมันๆ เนื้อเนียนนุ่ม หน้าน้ำตาลไหม้ก็เบิร์นมากรอบพอดีๆ
อย่างที่สองในถ้วยแก้ว เป็น
แซลมอนหมัก ท๊อปด้วยโฟรมาชบลังค์ (ประมาณครีมชีส)
เพิ่มความเก๋ด้วยคาเวียร์สีดำด้านบน
รสชาติเข้ากันดี หอมกลิ่นผักชีลาวนิดๆอร่อยจัง
อย่างที่สาม คล้ายๆ
ซาโมซ่าสอดไส้เนื้อลูกวัว (ส่วนคอ)
ทอดมากรอบมาก ตัวไส้หอมกลิ่นเครื่องเทศด้วย
ตามมาติดๆด้วย อองเทร่ จานแรกแบบเย็น
.. E n t r é e .. Terrine de foie gras sur carpaccio de pommes
เป็น
เทอรีนตับห่านหรือฟัวกราส์แบบเย็น
วางบนคาร์ปาชโช่แอปเปิ้ล ท๊อปด้วยแยมหัวหอมประมาณนั้น
จานนี้เสิร์ฟพร้อมขนมปังปิ้งแบบบริยอช (Pain brioché)
สั้นๆว่า... เบาเนียน และอร่อยมากมาย
คอร์สนี้จับคู่กับไวน์ขาว
Pinot gris Wolfberger ซึ่งออกหวานดื่มง่าย
อร่อยเข้ากันมากๆ และก็เข้ากับจานต่อไปด้วยจ้า
คอร์ส ..
S t a r t e r .. จานที่สองแบบร้อน
Foie gras poêlé sur un lit de pommes caramélisées
ฟัวกราส์ย่างกะทะ (Pan fried)
วางบนแอปเปิ้ลตุ๋นคาราเมลรสสัมผัสละเอียดดีค่ะ
ตับห่านมาเป็นรูปหัวใจซะด้วย เกรียมด้านบนกำลังพอดี
ส่วนด้านในฉ่ำ นุ่มละมุนละไม
ชิ้นไม่ใหญ่มาก ไม่เลี่ยนแม้แต่น้อย
ส่วนซอสรสออกหวานนะคะ ตัดกับราสเบอร์รี่ที่ออกเปรี้ยวนำ
ต่อกันที่จานปลา
.. P o i s s o n ..
Noix de saint jacques en piperade,
coulis de crabe, tempura d'asperge
สำหรับจานปลา เชฟนำเสนอ
สแกลล็อป (Scallop) ปรุงสไตล์ Basque
คร่าวๆส่วนผสมหลักมีพริกหยวก หัวหอม มะเขือเทศ
หอยเชลล์ตัวโต หนึบหนับ ไม่สุกมาก
กัดไปแต่ละคำรับรู้ว่า... สดและหวานมากมาย
ตัวซอสเป็นซอส
ครีมปู เข้มข้นรสชาติเยี่ยม
เส้นฝอยๆที่โรยด้านบนเป็น
แฮมดิบ (Prosciutto)
แต่งเก๋ๆอีกนิดด้วยเทมปุระ
หน่อไม้ฝรั่ง เคี้ยวกรุบกรอบ
Wine pairing ก็เข้าท่า
Chablis blanc 1er cru
เป็นไวน์ขาวที่ Dry ขึ้นมาถ้าเทียบกับที่เสิร์ฟคอร์สก่อน
จานนี้คือคำจำกัดความของ
Simple but delicious ! จริงๆ
เชฟสร้างสรร ส่วนประกอบคาดไม่ถึง และออกมาอร่อยอย่างประหลาด
ต่อจานMainกันบ้าง
.. V i a n d e ..
Noisette d'agneau en croute d'olives,
écrasé d’artichauts, raviolis au citron
เป็นน้อง
แกะ (Lamb fillet) แบบ Medium-rare ค่ะ
โปะด้วยครัส (Crust) ที่ทำมาจาก
มะกอกเทศเนื้อแกะไม่มีกลิ่นคาว และกลิ่นสาบแม้แต่น้อย
เนื้อ Tender ละมุนลิ้น ตัดด้านในเนื้อฉ่ำสียังจมปูๆ YUM !
ส่วนชั้นบางๆด้านล่างลักษณะคล้ายมูสทำจาก
อาร์ติโช๊คบด (Artichokes)
แล้วก็มี
ราวิโอลี่ครีมชีสไส้เลม่อนวางอยู่รอบๆ
จานหลักจับคู่กับ
Saint Emilion grand cru ไวน์แดงจากบอร์โดซ์ (Bordeaux)
มื้อพิเศษทั้งแชมเปญ ไวน์ขาวไวน์แดงมากันครบ
อินดี้หน้าเริ่มแดง
แต่ยืนยันว่าไม่เมาวววว...
Before and After
ไม่บอกก็รู้ ...เราสองคนจ้วงกันซะเกลี้ยง
อร่อยขูดจาน
ก่อนเข้าของหวาน ล้างปากเล็กน้อยด้วยจานนี้
.. P r é - d e s s e r t .. Gelée au rhum brun, tiramisu vanille, crumble chocolat
ล่างสุดก้นแก้วสีออกเหลืองขุ่นเป็น
เจลลี่รัม รสร้อนแรง
ขอเม้าส์... ใกล้คอร์สสุดท้ายคุณเชฟแกยังจะจัดเต็ม Lกฮ อีกนิ
เลเยอร์ถัดขึ้นมาเป็น
วานิลลาครีมทีรามิสุ บนสุดเป็น
ครัมเบิ้ลช๊อคโกแลตจ้า
มาถึงคอร์สของหวานหละนะคะ
.. D e s s e r t .. Vacherin revisité, coulis d'églantines
เป็นการนำขนม
Vacherin มาทำใหม่ตามแบบฉบับของร้านนี้
หลักๆจะต้องมี
เมอแรงค์ (Meringue) เป็นส่วนประกอบ
ดูภายนอกเวอร์ชั่นนี้โล้นๆ แลดูเรียบง่าย
แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่
ตามต่อๆ... กระเทาะเปลือกแตกโผล๊ะ !
ข้างในซ่อนไอศครีม
Red Berries เปรี้ยวจี๊ดไว้จ้า
ส่วนด้านบนโปะวิปครีม ตีแบบเบาๆเนียนๆหอมนมสด
เก๋ไก๋สุดๆคือซอสที่ทำมาจาก Cynorrhodon
ชื่อภาษาอังกฤษคือ
โรสฮิป (Rose hips/Rose haws)
ชื่อไทยจริงๆก็ผลกุหลาบ ชื่อไม่คุ้นหูแต่ประโยชน์ของมันเริ่ดไม่น้อย
ลองหาอ่านกันดูนะคะ โดยเฉพาะสรรพคุณทางยา และเรื่องผิวพรรณ
จานนี้ต้องทานไปพร้อมกันทุกส่วน หอมหวานมากมาย
=สัมผัสสองสิ่งที่ต่างกัน คู่ต่างที่ลงตัว=
มีไอศครีมเย็นๆ ก็ต้องมีซอสอุ่นๆ
มีเมอแรงค์กรอบๆ ก็ต้องมีวิปครีมนุ่มๆ
มีหวานสุดๆ ก็ต้องมีเปรี้ยวสุดๆ มีชั้นก็ต้องมีเธอ ... อั๊ยย่ะ
ก่อนจะพาน้ำเน่าเหมือนละครหลังข่าวไปซะก่อน อิอิ
จบมื้อกันด้วย
.. M i g n a r d i s e s .. ประกอบไปด้วยกระเบื้องฝรั่ง รสมะพร้าว
Tuiles coco กรอบกรุบกริบ,
ขนม
Financier au cassis เนื้อคล้าย Sponge cake สอดไส้กาซิส (Cassis/Blackcurrant),
และมากาฮงรสช็อคโกแลต
Macaron au chocolat อร่อยเข้มถูกใจ
โฆษณาให้ร้านที่ตั้งอยู่ข้างๆ... เป็นเบเกอร์รี่คุณภาพ
ฝีมือน้องชายของเชฟ หนึ่งในตระกูล Kieny เหมือนกัน
เสียดายแอบไกล ไม่งั้นคงจะได้ตามไปอุดหนุนบ่อยๆ มีเค้กหน้าตาดีท่าทางน่าอร่อยเพียบ
.. Café et Thé .. บริกรเอาชาในกล่องไม้มาให้เลือก
ในแต่ละกล่องมีอีก 12 ชนิด
จิ้มโลดที่
Infusion Verveine (Verbena) ของ Cézanne โปรดๆ
... และกาแฟ
จานรองเป็นหลุมลึก พอยกถ้วยถึงได้เห็นว่าจริงๆแล้วจุเยอะกว่าที่ตาเห็น
จบจริงๆด้วยของขวัญจากทางร้าน
Cocktail Miss ALL IN เป็น Giftset เล็กๆสำหรับทำค็อกเทลเอง
ฮ่าๆ ให้มันได้อย่างงี้...
แม้แต่ของส่งท้ายยังเป็น Alcohol อีกนิ
จบบันทึกวันวาเลนไทน์ประจำปี 2556 แต่เพียงเท่านี้จ้า
คำวิจารณ์ตาม
ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ
รสชาติอาหารค่อนข้างดีตามมาตรฐาน Michelin Star
เชฟเน้นวัตถุดิบคุณภาพ เลือกวิธีปรุงแบบไม่ซับซ้อนจนเกินไป
แต่การตกแต่งจานยังไม่สวยเป๊ะ อันนี้ยังไม่ปลื้ม
คือไม่หวือหวาให้ได้ว้าวเหมือนบางร้านที่เคยชิมในระดับเดียวกัน
ปริมาณอาหารคิดเห็นเหมือนหลายคอมเม้นในเวปรีวิวต่างประเทศ
ทาน 2 คอร์สไม่อิ่มแน่นอน
แต่มื้อนี้เราจัดหนักหลายคอร์ส Portion เท่านี้อิ่มมากค่ะ
ถ้าชอบดื่มไวน์ด้วยก็ถือเป็นร้านที่น่าสนใจในบัดเจทใกล้ๆ 200 ยูโร/สองคนจ้า
มื้อพิเศษไม่สำคัญว่ากินที่ไหน
กินอะไรราคาเท่าไหร่ แต่สำคัญว่ากินกับ
' ใ ค ร ' ต่างหากเนอะ
~ Dine Out with Indy ~All stories and photos byIL & PEL | indyland.bloggang.comขอบคุณที่แวะมาอร่อยด้วยกันนะคะ
แล้วพบกันใหม่บล็อคหน้า
บายๆ
สงสัยปีนี้ได้เสียค่าเครื่องไปกินตามรอยแน่ๆ เลย