Group Blog
 
 
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
21 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
Yokoso Japan #4 ไปหาแบมบี๊ที่นารา

วันนี้วันที่สี่ของทริปไปเมืองหลวงเก่า นารา ครับ กลับมาใช้ Kansai pass อีกครั้ง ว่าแล้วก็รีบตื่นแต่เช้านั่งรถไฟสาย Kintetsu ไปลงนารากัน

08:50 น. ถึงที่หมาย



หนังสถานีมีรูปปั้นหลวงพ่ออะไร...อ่านไม่ออก



เดินตามทางไปก็เจอน้องกวาง ตัวนี้เก๋ามากเล่นแทะหญ้าอยู่เกาะกลางถนน



ถ้าไม่รู้ทางก็ถามกวางท้องที่ได้



เดินมาไม่ไกลก็ถึงวัด Kofukuji ซึ่งตอนนี้กำลังปรับปรุงวัดอยู่ เราเลยเดินผ่านๆ



แผนที่น่ารักดีครับ



ผ่านร้านน่ากินก็เลยแวะเข้าไปหามื้อเช้าใส่ท้องกันซักหน่อย ตั้งชื่อว่าร้านครัวคุณแม่ละกัน ในร้านมีคุณแม่ทำหน้าที่ทุกอย่างเลย ของผมเป็นข้าวหน้าหมูทอดอร่อยครับ เป็นอะไรที่ดูเบสิกแต่ผมยังไม่เคยกินร้านไหนอร่อยเลยในเมืองไทย ส่วนของเพื่อนเป็นราเมนแกงกะหรี่ ถึงแม้ว่าจะหงุดหงิดกับควันบุหรี่ที่ลูกค้าอีกโต๊ะปล่อยมาแต่มื้อนี้ก็อร่อยทีเดียวเชียว



สบายท้องเรียบร้อยก็ใช้พลังงานที่ได้ผ่านขาทั้งสองข้างกันต่อ เดินมาในบริเวณ Nara park เจอเจ้านี่อยากกินโค้ก





ใน Nara park มี Nara national museum แหล่งรวมของเก่าทั้งรูปปั้นต่างๆ หม้อ ไห ถ้วย ชาม อุปกรณ์ในสมัยโบราณ คนไทยทั่วๆไปอย่างพวกเราซึ่งไม่ถูกชะโลกกับพิพิธภัณฑ์จึงได้แต่เดินหาวหวอดๆ



เดินมาไกลพอสมควรก็เข้าเขตศาลเจ้า Kasuga Taisha ซึ่งก็จะมีโคมไฟเรียงรายตามทาง ในป้ายบอกว่ามีเป็นล้านโคมเลยทีเดียวไม่รู้โม้รึเปล่า



ภายในศาลเจ้ามีเด็กๆมาทัศนศึกษา ดูน้องๆเค้าสนุกสนานดีกับการเที่ยววัด



ใบขอพรที่นี่มีแบบแปลกๆด้วย



จากนั้นก็เดินๆๆไปวัด Todaiji กันต่อ ถึงหน้าทางเข้าวัดก็มีเจ้าถิ่นมาต้อนรับเช่นเคย





พอเดินผ่านทางเข้าไปก็พบกับความยิ่งใหญ่ของตัววัด



ภายในมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่ อีกครั้งนึงที่ผมได้รับรู้ถึงพลังบางอย่างระหว่างชักภาพถ่ายอย่างบรรจงเพื่อเก็บความสวยงามและใหญ่ยิ่งนี้เอาไว้





เสาต้นนี้ใครลอดผ่านโชคดีมีชัย



เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงเวลาที่เราต้องไปเมืองอื่นกันแล้ว ปิดท้ายด้วยหมู่กวางตอนเดินกลับสถานีรถไฟ



เดิมเราวางแผนไว้ว่าจะเที่ยวเกียวโตสองวัดคือพรุ่งนี้กับมะรืน แต่ด้วยกลัวว่าจะเที่ยวไม่ครบในสองวัน เราเลยใช้เวลาบ่ายไปจนถึงเย็นของวันนี้ไปเกียวโตกันเลย และอีกครั้งเรานั่งรถแบบ limited express อีกแล้ว แต่คราวนี้เมื่อพนักงานตรวจตั๋วมาถึง แม้เราจะทำแอ๊บแบ๊วนึกว่าใช้ Kansai pass ได้ แต่พี่เก็บตั๋วแกก็อธิบายได้แจ่มแจ้งว่าเราต้องเสีย 500 เยนเพิ่ม

บรรยากาศชนบทสองข้างทางที่ผมชื่นชอบนักหนา



ผ่านไปประมาณสามสถานีก็ถึงสถานีเกียวโต



นี่ก็บ่ายแก่ๆแล้วเราซึ่งยังไม่ได้กินข้าวกลางวันก็ต้องเดินหาร้านกัน ในที่สุดก็ตัดสินใจลองกินร้านเฟรนไชนด์ของที่นี่ดู จำชื่อไม่ได้
เราผมชุดนี้ราคาถูกดีคิดเป็น 135 บาท ปลาตัวเท่ามด แต่มิโซะถ้วยใหญ่สะใจ อร่อยดี



ของเพื่อนอะไรไม่รู้ รสชาติไม่คุ้นลิ้นแต่อร่อยทีเดียวเชียว



เป้าหมายหลักเราของคือ การหาย่าน Gion เดินไปตามถนน Shijo เรื่อยๆก็เจอแม่น้ำ Kamo



ข้ามสะพานมาก็เจอกับป้ายนี้ ป้ายที่ทำเราเข้าใจว่าแถวนี้คือ Gion corner



บรรยากาศโดยรอบที่มีบ้านเรือนเก่าๆสวยงาม แต่ไร้ซึ่งบุคคลที่เราอยากพบ "เหล่าสตรีหน้าขาว"



ศาลเจ้าชื่อ Heian คือที่ที่เพื่อนผมกำลังเปิดคู่มือค้นหาอยู่ แต่เดินไปเรื่อยๆเราเจอศาลเจ้า Yasaka แทน ซึ่งอีกครั้งที่บริเวณทางเข้ากำลังปรับปรุง หรือเวลานี้เป็นเทศกาลปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวประจำชาติ



ภายในศาลมีสาวน้อยชุดนักเรียนมาเดินเล่นราวกับที่นี่เป็นสยามสแควร์



ส่วนนี่เป็นแก๊งสาวใหญ่



ออกมาจากศาลเจ้าก็มากินขนมฝั่งตรงข้าม ของผมอันซ้ายมองรูปในเมนูนึกว่าเป็นโมจิแต่เป็นกล้วยไร้ซึ่งรสชาติต่างหาก แต่ตัว Soft cream โอเค



แสงแดดหายไป เราวางแผนไว้ว่าจะกลับโอซาก้าไปเดินย่าน Umeda พอไปถึงก็ผิดหวังเนื่องจากมันเป็นแหล่งของคนทำงานจะมาผ่อนคลายมากกว่า เราจึงกลับไปถนนคนเดินแห่งเดียวที่รู้จัก คือย่าน Numba, Dotonburi นั่นเอง
ที่ Dotonburi เรากินขนมครกไปสองเจ้า เจ้าแรกไม่ผ่านอย่างแรง ส่วนเจ้าในรูปพอได้ รู้สึกจะเป็นร้านดังเหมือนกัน มีรูปคนมีชื่อเสียงไปกินด้วย



เดินไปอีกก็มีร้านที่ดูน่ากินกว่าเดิมอีก แต่ถ้ากินไปเรื่อยคงไม่มีผลดีต่อกระเป๋า วันนี้เพื่อนผมต้องการน้ำตาลในร่างกายเป็นพิเศษจึงชวนผมเข้าร้านขนมอีกครั้ง!!!! ผมซึ่งถือคติให้เกียรติผู้ร่วมเดินทางจึงไม่อาจปฏิเสธ เมื่อเริ่มเอียนไอศกรีม Soft cream ทั้งหลายจึงสั่งเป็นประมาณผลไม้แช่น้ำเชื่อม บอกได้คำเดียวว่า "พะอืดพะอม" จัดเป็นเมนูยอดแย่ประจำทริปครับ



ของเพื่อนเป็นไอศกรีมอีกแล้ว ชายผู้นี้กินไอติมได้เป็นมื้อ!!!!!



กินเสร็จก็เดิน Dotonburi ต่อ โดยคราวนี้ผมถ่าย Dotonburi ในแบบขาวดำบ้างคิดว่าจะได้เห็น Dotonburi ในอีกอารมณ์นึง

เรากลับถึงที่พักและไม่ลืมที่จะแวะร้าน 100 เยน ร้านโปรด ซื้อบะหมี่คนละกล่องเพื่อรับประทานมื้อเย็น(จริงๆซะที)กัน บะหมี่แค่ 30 บาทไทยแต่รสชาตอร่อยจนผมต้องยกซด (อาจจะเพราะหิว?) ที่แน่ๆอร่อยกว่าบะหมี่เลขแปดบ้านเราแน่ๆ



นี่จะเป็นคืนสุดท้ายของโอซาก้าซะแล้ว เมืองที่มีบรรยากาศค่ำคืนที่น่าประทับใจ


Create Date : 21 ตุลาคม 2550
Last Update : 22 ตุลาคม 2550 1:04:42 น. 4 comments
Counter : 1712 Pageviews.

 
เออ..ดีจังนะครับ กวางเต็มไปหมดเลย...น่ารักดีครับ..

ชอบชุดนักเรียนญี่ปุ่นจังเลยครับ เห็นอยู่ไวๆ


โดย: pompier วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:5:09:04 น.  

 
อยากไปเที่ยวที่ Nara, Osaka, Kyoto, Hiroshima แล้วก็ Nagoya มาก ๆ เลยค่ะ


โดย: ฟา (fahtsuki ) วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:11:40:53 น.  

 
กวางตัวนั้น ที่โดนสัมผัสน่าสงสารจัง ป่านนี้คงระเบิดตายไปแล้ว


โดย: ss IP: 221.186.221.204 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:20:45:54 น.  

 
ตกลงเพื่อนผมเป็น Bomber man อ๊ะป่าวเนี่ย
ตอนนี้ยังไม่มีอะไรระเบิดครับ ต้องติดตามต่อไป 555


โดย: Favorite Nightmare วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:23:37:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Favorite Nightmare
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Favorite Nightmare's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.