Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
17 สิงหาคม 2555
 
All Blogs
 
บุญเต็ม ชัยลา หมดหนี้จากการทำการเกษตร



จากเกษตรกรมีหนี้สินล้นพ้นตัวจนปัจจุบันเป็นเกษตรใส่สูทไม่มีหนี้แต่มีเงินฝากในธนาคารแทน

บุญเต็ม ชัยลา
บ้านดงบัง ต.ดอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น




จากดงบังเป็นดงหมด
นับตั้งแต่ปี 2394 ที่พ่อบูน หนูเพีย ได้อพยพจากร้อยเอ็ดมาสร้างบ้านที่บ้านดงบัง ขณะนี้เพราะเห็นว่ามีความอุดมสมบูรณ์พื้นที่ป่าดงดิบมีห้วยหนองเอียแลหนองโนไหลผ่านจึงตัดสินใจสร้างบ้านที่นี่ และตั้งชื่อว่า"ดงบัง" เพราะเป็นหมู่บ้านที่เหมือนมีป่ามาบัง
หลังปี 2500 เป็นต้นมา ความอยากรวยอยากมีเงินได้ครอบงำความคิดคนทั่งประเทศทั้งรัฐบาลนายทุน และตัวชาวบ้านเอง การให้สัมปทานตัดไม้ในรูปแบบต่าง ๆร่วมกับการตัดไม้ของชาวบ้านเองเพื่อบุกรุกถางพงเพื่อแลกเป็นโฉนดที่ดิน ทำให้ป่าไม้ลดลงจนดงบังกลายเป็นดงหมด อาหารการกินและปัจจัย 4 เริ่มหายากขึ้นทุกที่สภาพดินเริ่มเปลี่ยนไป
พอตกมาถึงปี 2527 ฝนเริ่มไม่ตกต้องตามฤดูกาลเกิดสภาพฝนแล้งทำนาไม่ค่อยได้ผลจึงก่อให้เกิดอาชีพใหม่ในหมู่บ้านคืออาชีพรับจ้างคนพากันอพยพออกไปขายแรงงานนอกหมู่บ้าน พ่อบุญเต็มก็หนีไม่พ้น ต้องรับเหมาสร้างบ้านไปทั่วทั้งหลังเล็กหลังใหญ่หลังเล็กก็ 8,000 บาทหลังใหญ่หน่อยก็ 12,000 บาท ในที่สุดงานก่อสร้างหมดก็ต้องอพยพไปทำงานกรุงเทพฯ
ได้ค่าจ้างวันละ 120 บาท ยิ่งทำยิ่งจน ยิ่งทำยิ่งเป็นหนี้ ขยันก็ยังเป็นหนี้ ลูกหลานแตกกระจายไปคนละทิศคนละทางทิ้งไว้
ตั้งแต่เด็ก ๆ และคนแก่ในหมู่บ้าน คนในชุมชนรวมตัวกันไม่ติดเพราะต่างคนต่างมีภาระสารพัดเหตุผลที่จะไม่ทำ





1 ไร่ ไม่ยาก ไม่จน


เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ โดยการปลูกพืชหลาย ๆ อย่าง และอย่างหลากหลายทางชีวภาพด้วย ทั้งพืชทั้งสัตว์รวมกัน และเรากินอะไร ในสมาชิก 15 คน ให้เขียนรายจ่ายของตนเองไม่อย่างนั้นเราจะไม่รู้ว่าจะปลูกอะไร เดือนหนึ่ง 15 คนว่าเรา จ่ายอะไรไปบ้าง เมื่อถึงเวลาสิ้นเดือนก็มาสรุปให้กันฟัง และรู้จักว่าสิ่งที่เราซื้อมีอะไร เราก็มาคุยกัน สิ่งไหนที่เราทำได้บ้างเราก็คุยกันนี่ คือ สิ่งที่เราจะอุดรอยรั่วของครอบครัวเราได้และครอบครัว ของเราก็เปรียบเทียบเหมือนกับโอ่งน้ำรั่วใส่เท่าไหร่ก็ไม่เต็ม เราเลยมาปลูกพืชผักสวน ครัวที่เรากินแต่ละวันเพื่อที่จะแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ อัดรอยรั่วของครอบครัวก็รู้สึกว่าเรา อุดรอยรั่วได้ และปัจจุบันนี้นับว่าไม่มีรอยรั่วเลย เช่น ยาสระผมเราก็ทำเอง น้ำปลาก็ทำเอง น้ำยาล้างจานเราก็ทำเองหมด แต่เราไม่ทำขาย เราทำใช้ในครัวเรือนของเรา เมื่อเหลือใช้ แล้วเราค่อยขาย และปัญหาใหญ่ ๆ เราก็แก้ได้หมด บัญชีรายจ่ายของครอบครัว เมื่อเรามาปลูกสิ่งของกินเอง ปัญหารายจ่ายเราก็ไม่มี จากนั้นปัญหาหนี้สินก็เลยแก้ได้


เขียนแผนและทำแผน
จะทำสำเร็จต้องอาศัยแม่สี่แม่
หนึ่ง แม่ธรณีคือมีที่ดิน
สอง แม่คงคาคือมีน้ำ
สาม แม่โภสพคือข้าว
สี่ แม่บ้าน(อันนนี้มุขขำ ๆมีแค่สามแม่ก็ไปรอด)

การไม่มีหนี้คือลาภอันประเสริฐ

ไม่หาเงินหลายแต่หาเงินเหลือ เหลือวันละบาทเดือนนึงเหลือสามสิบบาท ยังดีกว่าได้ปีละแสนสองแสนแต่มีหนี้ติดลบหมื่นสองหมื่น





การแก้ปัญหาครั้งแรก คือ การแก้ปัญหาแหล่งน้ำขาดแคลนโดยการขุดสระออมน้ำ สมาชิก 15 คน ที่ไป ดูงานกลับมาก็เริ่มขุดสระกันเอง แม้ว่าไม่มีงบประมาณ พวกเขาใช้แรงคนของใครของมัน ต่างคนต่างขุดในพื้นที่เป้าหมายของตัวเอง รวมกลุ่มกันแต่เวลาทำต่างคนต่างทำ ซึ่งเป็นการแข่งขันทำไปในตัว ขุดจากเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนก็ได้สระเก็บน้ำ

ได้มาดูที่บ้านสระคูณ ภายใต้การนำของพ่อผาย สร้อยสระกลางซึ่งบ้านนี้ไม่มีห้วย ขุดสระด้วยมือสานบุ้งกี๋เอง กลับจากดูงานทุกคนหันหลังใส่กันมุ่งหน้าสู่นา
ตัดไม้ไผ่สานบุ้งกี๋ ขุดสระด้วยมือเดินตามแนวทางที่พ่อผายชี้แนะไว้ เสียงพ่อผาย ดังก้องในหัวใจทุกคนว่า"พึ่งตนเอง พึ่งตน
เอง และพึ่งตนเอง ทุนแม่ของเราให้มาแล้ว10 นิ้ว ๆ ละล้านก็ 10 ล้าน ไม่ต้องไปหาพึ่งใครอีก

ใช้เวลา 4 เดือน
ได้สระขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 24 เมตร ลึกประมาณ 1 เมตร

ทำให้มีอาหารการกินทุกชนิด มีสมุนไพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บ มีไม้ใช้สอยไว้สร้างบ้าน และเป็นเชื้อเพลิง ในเวลาต่อมาในช่วงแรก ๆ
พ่อบุญเต็มได้ใช้พืชระยะสั้นเพื่อช่วยลดรายจ่าย และเพิ่มรายรับ เพียง 3 วัน ก็มีถั่วงอกไว้กิน มีเหลือขายด้วย


เดือน 6(พฤษภาคม)มาถึง ฝนตกมาเราก็ได้น้ำแล้ว
พอพูดคุยกันแล้วก็ได้ข้อตกลงว่าควรจะปลูกพืชพวกอาหารการกินก่อน และต้องรู้จักการทำระบบบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อต้องการทราบว่าเงินรายจ่ายของแต่ละวันได้ถูกจ่ายไปเกี่ยวกับอะไรบ้างทั้ง 15 คน ควรจะมีการทำระบบการควบคุมบัญชีรายรับ รายจ่ายว่าเดือนหนึ่งเราจ่ายอะไรไปบ้างและสิ้นเดือนก็มีการประชุมและสรุปกันอีกที ซึ่งจะจดรายจ่ายของใครของมัน เมื่อเราจดบันทึกเรื่องรายรับรายจ่ายก็จะทำให้เราได้ทราบทั้งหมด และจะทำให้เราเหลือเก็บได้ จนสามารถใช้หนี้ได้หมด เรื่องปัญหาไม่มีงานทำในท้องถิ่นก็หมดไป เพราะมีงานที่ได้จากการคิดแก้ไขนั้น ทำให้เกิดงานใหม่เพิ่มเข้ามาด้วยประเทศไทยไม่ใช่มีคนตกงานแต่กลับมีคนเลือกงานมากกว่า การแก้ปัญหาเด็กขาดสารอาหารเราก็ทำได้เพราะเราทำทุกอย่างที่ผสมผสานอยู่ในพื้นที่ซึ่งจะมีอาหารหลัก
5 หมู่อยู่ในที่นา


อย่าให้มีรายจ่ายเงินก็จะเหลือ ทำอย่างไรถึงจะไม่ต้องมีต้นทุน ทำอย่างไรถึงจะมีกำไรหมดทุกอย่าง ต้องใช้ทุนคือแรงเราเองทุนทางสังคมทางปัญญา ไม่ได้เอาเงินเป็นทุน มันเลยไม่มีต้นทุน




เมื่อก่อนที่ผ่านมาเราจะมีป่า แต่ทุกวันนี้ที่นาก็มีป่าเพราะได้จากการปลูกต้นไม้ต่างๆ ในพื้นที่ดินที่เคยจืดเคยเสื่อมก็ไม่ต้องไปใช้สารเคมีะไรเลย โดยปล่อยให้สิ่งแวดล้อมจัดการกันเอง ก็เปลี่ยนแนวความคิดของการทำเกษตร คือหันมาใช้พวกปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักที่มีอยู่ในท้องถิ่น

แก้ไขปัญหาหนี้สิน พอพวกเราทราบถึงสาเหตุของตัวเงินที่ถูกจ่ายไปทั้งหมดต่อวันแล้วเราก็สามารถที่จะหาแก้ได้ คิดดูดีๆ แล้วสามารถที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้เกือบทั้งหมดก็เลยมีการตั้งเป้าปัญหาระยะยาว เช่น 5 ปี 10 ปี 20 ปี และเป้าที่ทำมาก็สามารถแก้ปัญหาได้พอสมควร เช่น ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำประกอบกับมีเงินเหลือก็จะกลายเป็นเงินเก็บ เช่น วันหนึ่งมีรายได้ 100 บาท แล้วเอา 100 บาท คูณ 365 วัน ก็จะเป็นรายได้ทั้งหมดต่อปีเท่ากับ 36,500 บาท ก็เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำของชุมชนได้ พร้อมกับมีเงินเหลือจากการใช้หนี้สินได้ด้วย


จนปี 2533 เหลือกิน เหลือใช้ เหลือแจก มีเหลือขายเป็นทุนอีก 5,000 บาทจึงลงทุนจ้างแมคโครมาขุดสระน้ำได้อีก 1 สระ รวมเป็น 2 สระ
ปลายปี 2534 มีเงินเหลือ อีก 10,000 บาท จึงขุดสระเพิ่มอีก 1 สระรวมเป็น 3 สระ ทำให้ปลูกต้นไม้ได้เพิ่มขึ้นมากมาย มีเหลือขายเพิ่มและทำการตลาดได้
ปี 2536 มีเงินเหลือ 30,000 บาท จึงไปดาวน์โรงสีขนาดเล็ก ทำให้มีรำข้าวมาเลี้ยงไก่ และเลี้ยงหมู่
ปลายปี 2538 ก็จ่ายเงินงวดโรงสีได้หมด แต่ลูกก็ขอซื้อควายเหล็ก โชคดีที่มีคนมาขุดสระฟรีให้ เพื่อเอาดินไปใช้
ปี 2539 ราคาหมูดีมาก ความคิดอยากรวยเข้าครอบงำอีกครั้ง มีเงินเหลือ 30,000 บาทเศษ ก็ทุ่มทุนซื้อลูกหมูมาเลี้ยงเมื่อหมูราคาตกจึงขาดทุน จึงได้ข้อสรุปว่า"อยากรวยกลับจน" ปัจจุบันจึงเลี้ยงหมูแค่ที่มีโดยไม่มีต้นทุน
ปี 2539 เริ่มดูงานเพาะเห็ด และทำเห็ดฟางอบไอน้ำ ผลดีคือรายได้เพิ่มและมีปุ๋ยคอกถึงเดือนละ 1 ตันแต่ข้อด้อยคือต้องตื่นนอนตั้งแต่เที่ยงคืนมาเก็บเห็ดส่งตลาดตอนตี 3 ให้แม่ค้าที่ตลาด








บุญเต็ม ชัยลา : เกษตรเพื่อการพึ่งพาตนเอง

บุญเต็ม ชัยลา คือเกษตรกรผู้เคยล้มเหลวจากการทำเกษตรเชิงเดี่ยวเพียงอย่างเดียว ชีวิตต้องตกอยู่ในความทุกข์ของวังวนหนี้สิน เพียงเพราะหวังที่จะรวย และมองเงินเป็นต้นทุนเพียงอย่างเดียว จนลืมคิดไปว่าแท้ที่จริงแล้วตนนั้นมีที่ดินและเรี่ยวแรงของตัวเองเป็นทุน

หลังจากที่เริ่มทบทวนบทเรียนในชีวิตได้ เขาและเพื่อนบ้านอีก 15 ชีวิตที่ประสบปัญหาเดียวกันจึงไปศึกษาดูการทำเกษตรผสมผสานตามแหล่งต่างๆ และเริ่มต้นลงมือทำด้วยตนเอง โดยเริ่มจากการจัดทำบัญชีครัวเรือนดูรายรับรายจ่ายของครอบครัว ขุดสระน้ำด้วยสองมือของเขาและภรรยา จากนั้นเริ่มปลูกผักไว้กินเอง เพื่ออุดรูรั่วของครอบครัว ด้วยแนวทางการพึ่งตนเอง บุญเต็ม ชัยลา ก็สามารถปลดหนี้สินทั้งหมดได้ในเวลาไม่ถึง 10 ปี

ปัจจุบัน บุญเต็ม ชัยลา คือ ปราชญ์ชาวบ้านคนสำคัญ ของกลุ่ม “การเกษตรเพื่อการพึ่งตนเอง บ้านดงบัง” ซึ่งมีคนไปศึกษาดูงานไม่เว้นแต่ละวัน เป็นหนึ่งใน 12 ปราชญ์ชาวบ้านภาคอีสาน ที่มุ่งมั่นจะขยายเครือข่ายแนวคิดการเกษตรแบบพึ่งตนเอง ให้ครบ 1 ล้านครอบครัว เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้ดีขึ้น

รายการปราชญ์เดินดิน ตอน เกษตรเพื่อการพึ่งพาตนเอง โมเดิร์นไนน์ ทีวี

ลิ้งค์คลิปรายการ



//www.panoramaworldwide.com/thai/tvprogramme/guru/72.html

//www.panoramaworldwide.com/thai/tvprogramme/guru/71.html






เมื่อก่อนคิดว่ามีเงินมากจะมีความสุขมาก มีเงินน้อยจะมีความสุขน้อย ปรากฏว่าไม่ใช่
หนี้สิ้นหลายอย่างมากมาย เช่น ถูกหลอกไปนอก ลูกขับรถชน ธกส. สมัครลงเลือกตั้งกำนัน รวมแล้วมีหนี้ 890,000 บาท
ทำไมปู่ย่าตายายเมื่อก่อนอยู่ได้ ทั้งมีเวลา มีความสุข ทั้งที่ลูกหลานก็เยอะ พระเจ้าอยู่หัวให้ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ท่านบอกว่าต้องมีแหล่งน้ำ 30% ต้องมีแหล่งข้าว 30% ต้องมีไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผักสวนครัว 30% ที่อยู่อาศัย 10% เป็น 100 % พอดี ท่านบอกว่าทำการเกษตรต้องมีน้ำ ถ้าไม่มีไฟฟ้าก็อยู่ได้ เลยเริ่มต้นขุดสระออมน้ำ




เลี้ยงปลาดุก




ปลูกพืชสามจำพวก
ตั้งเป้าปลูกวันละสองอย่าง ทำงานตอนเช้ากับตอนเย็น วันหนึ่งจะปลูกได้สองอย่าง เดือนหนึ่งได้หกสิบอย่าง
นึกถึงคำโบราณที่ว่า ทำน้อย ๆค่อยมี ทำเยอะ ๆ ทุกข์ซ้ำ


จำพวกที่หนึ่ง เริ่มต้นปลูกพืชที่กินได้(ปลอดสารพิษ) ...กินทุกอย่างที่เราปลูก ปลูกทุกอย่างที่เรากิน... เพื่ออุดรอยรั่วค่าใช้จ่าย สองเดือนก็ได้เก็บกิน เหลือกินก็แจก เหลือแจกก็แลก เหลือแลกก็ขาย ของ 60 อย่างเอาไปขายเช้าละ 30 อย่าง อย่างละ 10 บาทไปขายไหนก็หมด ได้แล้วเช้าละ 300 บาท ครอบครัวมีเจ็ดคน ใช้สักสองร้อยเหลือหนึ่งร้อย นึกถึงคำโบราณว่า หาเงินเหลือดีกว่าหาเงินหลาย เหลือวันละบาทดีกว่าขาดวันละร้อย เหลือวันละ 100 เอามาคูณกับ 360 วัน ปีนึงเหลือ 36000 เลยเอาวางแผนใช้หนี้ ตั้งเป้า 20 ปี แต่ตั้งแต่ 2533-2544 ใช้หนี้หมดพอดีแค่ 10 ปีหมดหนี้ ตอนนี้หมดหนี้เอาเงินฝากธนาคารธนาคารเป็นหนี้เรา เก็บเงินซื้อที่ดินเพิ่ม ตอนนี้หนึ่งไร่/หนึ่งแสนต่อไป สิบไร่สิบแสน










จำพวกที่สอง ไม้ใช้สอยไม้ยืนต้น สร้างบ้านสร้างเรือน ทำฟืน หมดไปแล้วก็หามาปลูก



จำพวกที่สาม สมุนไพร เอามากินรักษาป่วยเบื้องต้นก่อนส่งโรงพยาบาล


พอแก้ปัญหาตัวเองเสร็จแล้วสบายแล้ว พระเจ้าอยู่หัวทรงบอกก็สร้างเครือข่ายขยายผล จาก 15 ครอบครัวตอนนี้เป็นพันแล้ว ตั้งเป้าให้ได้หนึ่งล้านครอบครัว ต้นไม้ใหญ่จะปลูกให้ๆได้ 9,999,999ต้น ถวายในหลวงในปี 2560

ศูนย์ชุมชนบ้านดงบัง เรียนรู้อบรมกินฟรีอยู่ฟรี 5 วันจบหลักสูตรไม่มีจน หลัก วปอ คือ วิทยากร กระบวนการ เรียนรู้กระบวนการไปสู่การเปลี่ยนแปลงพึ่งพาตนเองภาคประชาชน เพราะคนส่วนมากพึ่งพาแต่คนอื่น ก่อนอื่นเรียนรู้ตัวเองก่อนว่าชอบอะไรไม่ใช่ทำตามคนอื่นไปเรื่อย ให้คิดเป็น ตั้งเป้าประชากรไม่จน อยากให้มีทรัพยากรที่เป็นป่าไม้เยอะ ๆ เพราะถ้ามีป่าไม้ทรัพยากรจะตามมาเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นเห็ด สัตว์ ดินไม่ดีก็ให้ดีได้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ ถ้าสร้างระบบนิเวศน์แบบพระเจ้าอยู่หัวมีแต่ได้กับได้ แต่กับพากันสร้างแต่วัตถุ ควรทำวัตถุควบคู่กับนิเวศน์ด้วย
มหาลัยเอาที่วัดอุณหภูมิระหว่างกับที่ไม่ได้ทำต่างกันตั้ง 3-4 องศามันช่วยลดโลกร้อน เราช่วยธรรมชาติธรรมชาติก็ช่วยเรา








ต้นยางนาอายุ 20 ปี ขึ้นไปก็จะเจาะได้ เจาะให้ได้ประมาณ 10 ซม. ก่อนจะน้ำมันจะออกก็ต้องจุดไฟกระตุ้นมันก่อน จะออกมาเป็นน้ำมันโซล่าสีเหลือง จะได้ประมาณหนึ่งลิตร เอาไปทำกรองในผ้าขาว แล้วเอาไปใส่เครื่องคูโบต้าไถนาได้เลยได้ประมาณหนึ่งไร่






แถม คำคมจากปราชณ์ชาวบ้านคนอื่นในรายการ



ประยงค์ รณรงค์





Create Date : 17 สิงหาคม 2555
Last Update : 10 สิงหาคม 2559 9:50:16 น. 0 comments
Counter : 4062 Pageviews.

ใจรัก Jairuk Channel
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?]








ติดตามดูต่อที่YouTube

ใจรักJairukChannel



ติดตามดูต่อที่Facebook

ใจรักJairukChannel



แนะนำให้ชม

บัวหิมะ
บัวหิมะ
วิธีเลี้ยงบัวหิมะ
เกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
ติดอันดับTOP Page Views
อาหารและการดูแลสุขภาพ ผู้ป่วยมะเร็งและคนทั่วไป
เที่ยวขอนแก่น
Michael Jackson
คอนเสิร์ตบอย Peacemaker
คลิปเจ้าขุน
การกลับมาของX Japan

ท่องเที่ยว

UFOที่เคยเห็น
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
หาดใหญ่และปัตตานี
ไข่มุกอันดามัน
อะ พีพี
เกนติ้ง
กัวลาลัมเปอร์
หาลิงเข้าถ้ำทะเลภูเขาเลยจ้า นอนดูหมอกที่ปราจีนบุรี
เที่ยวปราจีนบุรีต่อ
เลยจะถึงไหมละนี่
พักค้างแรมที่เลย
เลยจนเกือบถึงลาว
ขุดกรุเขื่อนป่าสัก
บึงแก่นนคร ขอนแก่น
พระธาตุขามแก่น
เดินทางไปลพบุรี
กินข้าวอิงภูชัยภูมิ
ลาว เวียงจันทร์
ลาว2
ปิดทริปเที่ยวลาว
ล่องเรือเจ้าพระยา
รถไฟลอยฟ้า ฟ้า ไทย
รถไฟใต้ดินไทย
ทะเลน้ำจืดหาดวังโกขอนแก่น บ้านปราสาทโคราช
วังน้ำเขียวโคราช
ชอปปิ้งหนองคาย
ตัวเมืองขอนแก่น
น้ำผุดทับลาว ชัยภูมิ
สนามหลวง2
ไปดูงานศิลป
สายน้ำกับปลาที่ไปปล่อย
งานExpro
เขื่อนอุบลรัตน์
เที่ยวป่าวัดพรไพรวัลย์
ล่องแพอ่างเก็บน้ำห้วยไร่
ทะเลหมอกภูพานน้อย
วัดเจดีย์ชัยมงคล
ครั้งหนึ่งที่เคยโบกรถ
น้ำหนาว,เพชรบูรณ์
พระพุทธชินราช,พระธาตุลำปางหลวง
น้ำพุร้อน,วัดร่องขุ่น
มหาลัยแม่ฟ้าหลวง,น้ำตกก้างปลา
เวียงแก่น,ภูชี้ฟ้า
ดอยแม่สลอง
อุทยานฯขุนแจ
สวนโลกราชพฤกษ์
วัดเจดีย์7ยอด,วัดเจดีย์หลวง
ดอยสุเทพ,ทุ่งสแลงหลวง
โครงการครูบ้านนอก
วัดหลวงพ่อโตใหญ่ที่สุดในโลก
ที่พักปากช่อง
เลย-ลาว-ท่าลี่
ถึงระยองแล้วจ้า
ทะเลตอนเช้า
งานเที่ยวภาคใต้






Friends' blogs
[Add ใจรัก Jairuk Channel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.