|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องที่สอนใจเราทุกคนให้มีความรักยั่งยืน
คนบางคนจมอยู่แต่กับความอิจฉาริษยา เครียดแค้นชิงชัง รอแต่วันที่จะแก้แค้น หรือซ้ำเติม
แต่หารู้ไม่ว่าความคิดที่เขาจมปลัก อยู่กับปลักเลนที่เขาอยู่หาได้พบความสุขของจิตใจที่ร้อนรุ่มตลอดเวลาไม่
ชีวิตที่ไม่คิดที่จะเลือกมองท้องฟ้าช่างน่าสงสารยิ่งนัก
กับอีกคนที่เลือกความเมตตา เข้าใจ และให้อภัย ปล่อยวาง ช่างสุขสงบสบายใจ ดั่งอยู่บนสวรรค์...ที่อยู่ในใจ
ชีวิตที่เลือกมองท้องฟ้า
สำหรับฉันเลือกมองท้องฟ้า แล้วคุณละเมื่อไหร่จะเลิกก้มมองแต่ปลักโคลน |
ผลพลอยได้จากความรู้สึกที่ได้จากการอ่านFw.นี้ ภาพบางภาพได้คัดออกไป แต่เป็นภาพที่เคยจำได้ว่ารันทดค้างคาใจเมื่อตอนเด็กที่เห็นจากหนังสือบางเล่ม ไม่คิดว่าจะได้รับรู้ถึงเรื่องราวของคนในภาพที่เคยฝังใจจากFW.นี้
Subject: FW: เรื่องของคิม ฟุค : เรื่องที่สอนใจเราทุกคนให้มีความรักยั่งยืน ต่อกัน อย่างแท้จริง
ไม่ใช่คิดแต่เรื่อง รักๆใคร่ๆ แล้วเกิดปัญหาให้ ทุกข์ใจในภายหลัง เรื่องของคิม ฟุค อ่านแล้วดีจริงๆๆๆๆ
คิม ฟุค คือเด็กหญิงชาวเวียดนามใต้คนนั้น ซึ่งช่างภาพอเมริกันได้ถ่ายไว้ขณะที่เธอและเพื่อนบ้านกำลังแตกตื่นหนีภัย แม้เธอจะรอดตายจากระเบิดนาปาล์มที่ทิ้งลงหมู่บ้านของเธอ แต่ไฟก็ได้เผาลวกผิวหนังของเธอถึง 65 เปอร์เซ็นต์ เธอต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลถึง 14 เดือน และผ่านการผ่าตัดถึง 17 ครั้งกว่าจะหายเป็นปรกติ
เธอยังโชคดีเมื่อเทียบกับลูกพี่ลูกน้องอีก 2 คน ซึ่งตายเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว นั่นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2515 เมื่อเวียดนามกลายเป็นคอมมิวนิสต์ 3 ปี ต่อมา ก็ไม่มีข่าวคราวของเธอปรากฏสู่โลกภายนอกอีกเลย
แต่แล้ววันหนึ่งในปี 2539 คิม ฟุค ก็ได้มาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าชาวอเมริกันซึ่งเคยผ่านสมรภูมิเวียดนาม เธอได้รับเชิญให้มาพูดเนื่องในโอกาสวันทหารผ่านศึก ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
การได้มาเผชิญหน้ากับกลุ่มคนซึ่งครั้งหนึ่งเคยมาทำลายบ้านเกิดเมืองนอนของเธอ ทำให้ญาติพี่น้องของเธอต้องตาย และเกือบฆ่าเธอให้ตายไปด้วยนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ทำใจได้ง่ายนักแต่เธอมาก็เพื่อจะบอกให้พวกเรารู้ว่า
สงครามนั้นได้ก่อความทุกข์ทรมานแก่ผู้คนอย่างไรบ้าง หลังจากที่เล่าถึงประสบการณ์อันเจ็บปวดของเธอแล้ว
เธอก็ได้เผยความในใจว่า มีเรื่องหนึ่งที่เธออยากจะบอกต่อหน้านักบินที่ทิ้งระเบิดใส่หมู่บ้านของเธอ พูดมาถึงตรงนี้ก็มีคนส่งข้อความมาบอกว่า คนที่เธอต้องการพบกำลังนั่งอยู่ในห้องประชุมนี้
เธอจึงเผยความในใจออกมาว่า "ฉันอยากบอกเขาว่า เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ แต่เราควร พยายามทำสิ่งดี ๆ เพื่อส่งเสริมสันติภาพทั้งในปัจจุบันและอนาคต"
เมื่อเธอบรรยายเสร็จ ลงมาจากเวที อดีตนักบินที่เกือบฆ่าเธอก็มายืนอยู่เบื้องหน้าเธอ เขามิใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นศาสนาจารย์ประจำโบสถ์แห่งหนึ่ง
เขาพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวดว่า "ผมขอโทษ ผมขอโทษจริงๆ"
คิมเข้าไปโอบกอดเขาแล้วตอบว่า "ไม่เป็นไร ฉันให้อภัย ฉันให้อภัย"
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะให้อภัย โดยเฉพาะกับคนที่ทำร้ายเราปางตาย
คิม ฟุค เล่าว่าเหตุการณ์ ครั้งนั้นสร้างความทุกข์ทรมานแก่เธอทั้งกายและใจ จนเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร
แต่แล้วเธอก็พบว่าสิ่งที่ทำร้ายเธอจริง ๆ มิใช่ใครที่ไหน หากได้แก่ความเกลียดที่ฝังแน่นในใจเธอนั่นเอง
" ฉันพบว่าการบ่มเพาะความเกลียดเอาไว้สามารถฆ่าฉันได้"
เธอพยายามสวดมนต์และแผ่เมตตาให้ศัตรู และแก่คนที่ก่อความทุกข์ให้เธอ แล้วเธอก็พบว่า " หัวใจฉันมีความอ่อนโยนมากขึ้น เรื่อย ๆ
เดี๋ยวนี้ฉันสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องเกลียด"
เราไม่อาจควบคุมกำกับผู้คนให้ทำดี หรือไม่ทำชั่วกับเราได้ แต่เราสามารถควบคุมกำกับจิตใจของเราได้
เราไม่อาจเลือกได้ว่ารอบตัวเราต้องมีแต่คนน่ารักพูดจาอ่อนหวาน แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะทำใจ อย่างไรเมื่อประสบกับสิ่งไม่พึงปรารถนา
คิม ฟุค ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเองว่า
" ฉันน่าจะโกรธ แต่ฉันเลือกอีกทางหนึ่ง แล้วชีวิตของฉันก็ดีขึ้น"
บทเรียนของ คิม ฟุค คือ ในเมื่อเราเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ เราจึงไม่ควรปักใจอยู่กับอดีต
แต่เราสามารถเรียนรู้จากอดีตเพื่อทำปัจจุบันและอนาคตให้ดีขึ้นได้
บทเรียนจากอดีตอย่างหนึ่งที่เธอได้เรียนรู้มาก็คือ
"การอยู่กับความโกรธ เกลียด และความขมขื่นนั้น ทำให้ฉันเห็นคุณค่าของการให้อภัย"
Create Date : 23 พฤษภาคม 2550 |
|
13 comments |
Last Update : 11 มีนาคม 2551 19:22:43 น. |
Counter : 2536 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หน่อยอิง 23 พฤษภาคม 2550 20:24:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: Goret 24 พฤษภาคม 2550 20:33:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: spymeaw 3 มิถุนายน 2550 8:06:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนเวอร์แลนด์ (เนเวอร์แลนด์ ) 5 มิถุนายน 2550 11:52:37 น. |
|
|
|
|
|
|
|