BlogGang.com : : ilovetotravel : เหมือนดั่งภาพวาดมากมายเมื่อได้มาเยือน กุ้ยหลินเมืองไทย-เขาสก ตอนที่ 1

เหมือนดั่งภาพวาดมากมายเมื่อได้มาเยือน กุ้ยหลินเมืองไทย-เขาสก ตอนที่ 1

กับทริปกระทันหัน จัดภายใน 1 อาทิตย์ เนื่องจากมีลูกค้าเลื่อนทริปออกไปกลางเดือนก.ค. แทน และต้องการเปลี่ยนที่พักด้วย ทำให้ผมเสียดายห้องที่จองไว้ ไม่อยากโดนเก็บเงินค่ามัดจำที่จ่ายไว้ ก้อเลยหาสมาชิกร่วมเดินทางไปแทน เล่นเอาแทบแย่เหมือนกัน ทริปนี้ค่าใช้จ่ายถูกแสนถูกเลย ปกติจะต้องจ่ายค่าทัวร์กันประมาณ 4900-5700 บาท แต่ทริปนี้ทุกคนที่ร่วมเดินทางไปกับผมจ่ายแค่ 3300 บาทเอง

ผมออกเดินทางช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. แต่กว่าจะได้ครบกัน ก้อได้ออกประมาณเกือบสามทุ่ม เนื่องจากวันนี้รถติดมากมาย และยังติดเคอร์ฟิวอีกต่างหาก

สมาชิกร่วมเดินทางทริปนี้ ทั้งหมด 8 ท่านรวมกระผมด้วย เกือบแย่เลย

ระหว่างการเดินทางลงไป สุราษฎร์ พวกเราก้อแวะทานข้าวต้มรอบดึกที่ ปราณบุรี ร้านเกี้ยข้าวต้ม เลยสามแยกไฟแดง ปราณ ให้ชิดซ้ายไว้ ร้านสะอาด รสชาติไม่เลว รองรับได้เยอะ ไม่มีรูปภาพให้ดูนะครับ

หลังจากกินอิ่มกันแล้ว ก้อมุ่งหน้าเดินทางต่อไป คืนนี้ฝนตกตลอดทาง ทำให้รถตู้ของทีมงานของผม ไม่สามารถวิ่งได้เร็วมากนัก เพื่อความปลอดภัยของลุกค้าเป็นที่ตั้ง

หลังจากเราเลี่ยวขวา ลอดใต้สะพานเข้าถนนเส้น 401 ผมแวะล้างหน้าล้างตากันที่ ปั๊ม ปตท. แต่คราวหน้า ผมจะไม่แวะแล้ว เนื่องจากห้องน้ำไม่สะอาด ให้แวะช่วงระหว่าง ไชยา พูนพิน เลย เมื่อพวกเรามาถึงที่บ้านตาขุน ก้อเวลาประมาณเกือบ 8 โมงเช้า ท้องไส้ก้อหิวกันมากมาย ผมก้อเลยพาไปทานโจ๊ก ป้าแป๋ว ตามแผนที่จะอยู่ร้านอาหารเช้า โจ๊กที่ 2 เลยเซเว่นลงมา ร้านนี้่มีที่นั่ง ร้านค่อนข้างสะอาดกว่าร้านอื่นนะ แต่ถ้าถามว่ารสชาติอร่อยมากมายมั้ย ก้ออย่าได้คาดหวังเลยนะครับ เอ้าเป็นว่าพอทานได้นะครับ

แต่ที่อยากจะคอมเม้นท์ คือให้ซื้อไก่ทอด ที่อยู่ช่วงทางเดินมาร้านโจ๊กนะครับ ร้านนี้ขอบอกว่าขายดีมาก เพราะผมเปรียบเทียบกับร้านอื่น ที่แถบจะไม่มีคนเลยก้อว่าได้ ร้านนี้จะมีคุณป้ากับลูกสาว ร้านขายไก่ทอดมีประมาณ 3 ร้านนะครับ ผมซื้อไปทั้งหมด 300 บาท พร้อมข้าวเหนียว เอาไว้เป็นเสบียง ช่วงเดินทางไปเขือนเชี่ยวหลาน ตอนเดินเหนื่อย

อีกอย่างที่แนะนำ คือให้ซื้อปาท่องโก อยู่ตรงข้ามกับร้านขายไก่ทอด ร้านนี้ก้ออร่อยใช่ย่อยเหมือนกัน

ส่วนใครที่ไปเที่ยวกันเอง ผมแนะนำให้ ซื้อขนม น้ำแข็ง น้ำ เหล้า เนื่องจากตามแพต่างๆ อาจจะไม่มีหรือมีราคาแพง ให้หาซื้อจากตลาดบ้านตาขุน หน้าปากทางเข้าเขื่อนเลย อย่าหวังเอาดาบหน้านะครับ

ภาพประกอบเครดิต //www.chiewlarn.com

เช้านี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วย เมฆฝนมากมาย ทำให้การถ่ายรุปของผมเป็นอุปสรรคอย่างแรง เนื่องจากกลัวน้ำจะเปียกกล้อง ทำให้รูปภาพประกอบค่อนข้างน้อยนะครับ

จากปากทางเข้าเขื่อนรัชชประภา ก้อประมาณ 12 กม. ส่วนใครไปพักแพไหนๆ ก้อต้องมาลงเรือที่ ท่าเรือของเทศบาลกันนะครับ

ผมแนบแผนที่เขื่อนเชี่ยวหลานมาให้ เครดิตจาก //www.chiewlarn.com

เมื่อเข้ามาถตัวเขื่อน ผมตัดสินใจว่าจะยังไม่เที่ยวชมเขื่อนและถ่ายรูปกัน เพราะจะทำให้เสียเวลา ผมก้อเลยพาสมาชิก ไปลงเรือเลย ตอนนี้เรือที่ผมเตรียมไว้ก้อได้มารับและ นายท้ายเรือของผมชื่อ นายภักดี ผู้ชายคนนี้เคยออก ทีวีช่อง ทีวีไทยมาแล้ว

ระหว่างทางฝนตกพร่ำตลอด พวกเราใช้เวลากันประมาณเกือบ 40 นาที มาที่แพภูตะวัน แพภูตะวันจะไม่ไกลมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับแพที่อื่น เดียวผมจะพาไปดูบรรยากาศหน้าแพกันนะครับ ว่าน่ามาพักขนาดไหน

มีเรือแคนู ไว้ให้พายเล่น ซึ่งจะจอดตามหน้าแพ ไม่มีค่าใช้จ่ายนะครับ

ภายในห้องพัก ก้อเป็นที่นอน สามารถนอนได้ประมาณ 3 คน ต่อหลัง แต่ของผมนอนกันแค่ 2 คน ก้อพอแล้ว ห้องไม่มีพัดลมนะครับ แต่อีกไม่นาน แพภูตะวันจะปรับปรุงใหม่ คาดว่าจะติดพัดลมแล้ว

หลังจากนั้น พวกเราก้อตกลงกันว่าจะยังไม่ทานข้าวเที่ยงกัน เนื่องจากเพิ่งจะทานกันมา และยังอิ่มอยู่มาก ผมก้อเลยนัดเรือเพื่อออกไป เที่ยวทะเลใน 500 ไร่ และถ้ำปะการังกัน

เมื่อเรือมาถึง ตรงบริเวณที่ลงเดิน

สำหรับการไปเที่ยวทะเลในนั้น จะต้องเดินข้ามเขา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ไปกลับก้อ ชั่วโมงพอดีนะครับ ช่วงหน้าฝน ผมแนะนำให้ใครที่จะไป รบกวนใส่รองเท้าหุ้มส้น ที่พื้นไม่ลื่น หรือรองเท้าผ้าใบ ที่ตอนเปื้อนแล้ว ไม่รู้สึกเสียดายนะครับ บางช่วงอาจจะเจอทากนะครับ ถ้าฝนตกมากมาก

ผมเห็นบางคนใส่รองเท้าแตะ รองเท้าแฟชั่น ไปเที่ยวแล้ว ลื่นล้มมากมาย ผมก้ออดแปลกใจว่า มาเที่ยวแบบนี้ ทำไมไม่เตรียมตัวให้พร้อม

หลังจาก ที่เดินทางข้ามเขามาแล้ว ก้อมาถึง หน่วยย่อยของอุทยานแห่งชาติเขาสก เพื่อต่อแพไปยัง ถ้ำปะการัง หรือถ้าใครที่มาพัก แพ 500 ไร่ ก้่อต้องเดินทางมาที่จุดนี้เหมือนกัน

สมาชิกของผมพร้อมอยู่บนแพแล้ว

ระยะทางจากจุดลงแพ ไปยังถ้ำไม่ไกลมากนัก ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เท่านั่นเอง ระหว่างทาง จะเห็นแพทะเลใน 500 ไร่ ซึ่งตอนนี้ที่ผมเขียนบลอคอยู่ ยังไม่เปิดให้บริการ เนื่องจากติดคดีความอยู่

เมื่อแพมาถึง หน้าปากถ้ำปะการังแล้ว การเดินต้องเดินเข้าไปในปากถ้ำ ทางก้อไม่ลำบากนัก แต่ช่วงขึ้นก้อจะลื่นหน่อย

การเข้าชมถ้ำนั้น ต้องมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานนำเข้า เพราะภายในถ้ำไม่มีไฟ ภายในถ้ำนั้นต้องบอกว่า สวยทีเดียวเลย ไม่แพ้ถ้ำที่อื่น

หลังจากเสร็จจากการดูถ้ำแล้ว พวกเราก้อให้ นายภักดี นายท้ายเรือของเราพาไปยัง แพนางไพร กัน

มาแพนางไำพร อย่าให้อาหารปลานะครับ ปลามากมายเลย

หลังจากได้เวลา ก้อออกเดินทาง ไปชม กุ้ยหลินเมืองไทย ไม่น่าเชื่อเลยครับ มันเหมือนภาพวาดมากมาย ภูเขาหินสูงชัน สลับซับซ้อน วางซ้อนกัน ดูแล้วไม่น่าเบื่อ

แต่ที่ขาดไม่ได้แน่นอนคือ เขาสามเกลอครับ ไม่ใช่ สามเกลอ นปช นะครับ

เขาสามเกลอ คือ มีเขาหินเรียงกันอยู่สามลูกนั่นเอง คนขับดับเครื่องเรือให้ได้ชมความอัศจรรย์อย่างเต็มอิ่ม บรรยากาศยามนั้นเงียบสงบ สัมผัสเสียงนกร้องมาจากไกลๆ เสียงน้ำกระทบท้องเรือ พวกเรามองมันอย่างจดจำ และต่างพูดกันว่า ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเมืองไทยจะมีแบบนี้

หลังจากนั้น พวกเราก้อ กลับมายัง ที่พักที่แพภูตะวัน เพื่อจะได้เล่นน้ำ พายเรือแคนูซะที

หน้าแพพัก สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย แต่มีข้อบังคับ สำหรับใครที่ว่ายน้ำไม่เป็นก้อ ก้อต้องใส่เสื้อชูชีพ ซึ่งจะให้ตอนนั่งเรือมา

ที่แพ จะมีห้องน้ำให้อาบและทำธุรกิจส่วนตัว ที่นี่สะอาดครับ

หลังจากนั้น พวกเราก้อมาทานอาหารเย็นกันที่ีนี่ พร้อมหน้าพร้อมตากันเลย อาหารที่นี่อร่อยครับ

หลังจากนั้น ผมก้อพาลูกทริปออกไป ดู Night safari กัน แต่ก้อหายไม่น้อยเลย เนื่องจากสัตว์ ก้อจะเป็นพวก สัตว์เล็ก

เสร็จแล้ว ก้อกลับมาเข้านอน

เช้าวันนี้ ตื่นกันตามสบาย ตามแบบทริปของผม ไม่เร่งรีบ ผมจะพาไปดูบรรยากาศยามเช้านะครับ

เจ้าตะโก หมีน้อยของพี่ที่ไปด้วย

รูปนี้ บรรดาคนเรือ มานั่งคุยกันยามเช้า

หลังจากที่ ทานกา่แฟ อาบน้ำ กันแล้ว พวกเราก้อออกเดินทางกลับเข้าฝั่ง ก่อนกลับขอถ่ายรูป กันซะหน่อย

เช้าวันนี้ ท้องฟ้าค่อนข้างแจ่ม ระหว่างทางผมก้อถ่ายรูป

หลังจากที่เดินทางกลับมาถึงที่ท่าเรือ ก้อไปที่ศาลาชมวิวต่อ

ประวัติเขื่อนคราวๆ ก้อดังนี้

เขื่อนรัชชประภา มีชื่อเรียกดั้งเดิมว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของภาคใต้ อยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อก่อนสร้างแล้วเสร็จได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร”

เขื่อนรัชชประภา สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานีโดยพื้นทีส่นใหญ่ติดอุทยานแห่งชาติเขาสกเกือบทั้งหมด เป็น เขื่อนหินถมแกนดินเหนียว สูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761 เมตร และมีเขื่อนปิดกั้นช่องเขาขาดอีก 5 แห่ง มีความจุ 5,638.8 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 185 ตารางกิโลเมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 3,057 ล้านลูกบาศก์เมตร ติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้า เครื่องละ 80,000 กิโลวัตต์ จำนวน 3 เครื่อง รวมกำลัง การผลิต 240,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละประมาณ 554 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง

เขื่อนรัชชประภา เริ่มดำเนินการก่อสร้าง เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2525 แล้วเสร็จในเดือนกันยายน2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดเขื่อนรัชชประภา และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน 2530 แต่เดิมนั้นสามารถเดินทางได้โดยจาก อำเภอพนม แต่เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวมีความสลับซับซ้อนประกอบด้วยเหวจำนวนมากเส้นทาง ดังกล่าวจึงต้องปิดตัวลงโดยปัจจุบันสามรถเดินทางโดยผ่านอำเภอบ้านตาขุน

เขื่อนรัชชประภา เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งในภาคใต้ ที่สร้างความมั่นคงให้แก่ระบบไฟฟ้า และความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศชาติ นอกจากนี้ยังเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ในปี พ.ศ. 2530 และพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก ในปี พ.ศ. 2531
กับป้าย เขื่อนรัชชประภา

กับแนวสันเขื่อน

บอกแล้วรุปทริปนี้ รูปวิวน้อยมาก มีแต่รูปลุกค้าทั้งนั้นเลย

ใครที่มาเที่ยวกับผม ไม่ต้องเอากล้องมายังได้เลย เพราะผมถ่ายให้ตลอดทริป ยกเว้นไม่ได้ไปกับผมนะครับ

หลังจากที่ ถ่ายรูปกันเต็มอิ่ม ผมก้อพามาทานอาหารกลางวันที่ ร้านอาหารครัวคุณเล็ก อยู่ในตัวเขื่อน ทางเข้าตรงข้ามกับอุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งเป็นหน่วยย่อยนะครับ อยู่ซ้ายมือ

ไปเรียกน้ำลายกันดีกว่า

หลนไตปลา รสชาติจัดจ้าน