ผมพึ่งถอยน้องหมูขาว New Mazda CX-3 มาได้สามเดือนละครับ
เป็น Sport Compact SUV สุดร้อนแรงจากค่ายมาสด้า ...
ตอนนี้รักลูกคันนี้มาก ....
จากนี้ก็คงได้เห็นผมรีวิวเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์มากขึ้นครับ ฮ่าๆๆ
สำหรับตัวรถ CX-3 นั้นก็จะรีวิวจากการใช้งานจริงในเร็วๆนี้ ..
สำหรับท่านที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อดีมั้ย ...
ผมบอกเลยว่านี่คือมาสเตอร์พีซเป็นรถที่มาสด้าออกแบบได้สวยงามหมดจดจริงๆครับ
สวยจนค่ายอื่นมองค้อน ... ขับสนุกทั้งในเมืองและนอกเมือง ..
เดี่ยวรอชมรีวิวกันเร็วๆนี้ครับ
แน่นอนครับพอเป็นรถที่เราซื้อเองแบบ 100%
มาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายจาการทำงาน ...
เราก็จะรักรถของเราเป็นพิเศษ ผมก็เช่นกันครับ
ปกติขับรถที่บ้านก็ไม่ค่อยได้ดูแลเท่าไหร่ ใช้งานจบไปวันๆ
พอถอยน้องหมูขาวมานี่ เดินดู แล้วดูอีก จอดรถเสร็จก็เช็คดูนู้นนี่นั่น ... 555+
ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ก่อนขับไปครบ 4000 กิโลครับ
เลยแวะไปตรวจรถฟรีที่ B-Quik มาครับ
เป็น B-Quik สาขาใหม่ซึ่งเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศครับ
ตั้งอยู่บนถนนนราธิวาส สะดวกทั้งมาจากสาทร สีลม พระราม 3 ครับ ..
อยู่ติดถนนเห็นเด่นเป็นสง่า
เราๆท่านๆ ก็ชอบของฟรีกันอยู่แล้ว
ตอนนี้ บีควิกเค้า รับตรวจรถฟรี 30 รายการครับ
เข้าทางเราเลย ว่าแล้วก็ขับน้องหมูขาว เข้าไปเลยครับ
สารภาพว่าเป็นครั้งแรกที่ผมมาใช้บริการบีควิกเลยครับ
ปกติเวลามีอะไรก็เข้าศูนย์ตลอด
มาดูกันว่า บีควิก สาขาใหม่นี้มีอะไรน่าสนใจ
จนผมต้องมาแนะนำเพื่อนๆกันในรีวิวนี้ครับ
อย่างแรกเลย ด้วยความที่เป็นสาขาใหม่สุด อุปกรณ์ต่างๆจะทันสมัยและใหม่หมดครับ
ทุกอย่างไฮเทคมากๆ ช่วยทำให้การบำรุงรักษาแม่นยำและเร็วมากขึ้น
นอกจากพื้นที่กว้างขวาง สามารถรับบริการรถได้ถึงสิบแปดคันพร้อมๆกันแล้ว
B-Quik นี่เปิดบริการ 0800-2100 น่ะครับ ถือว่าปิดดึกหมือนกันหมดทุกสาขาทั่วไทย
ดังนั้นจะดีมากๆสำหรับคนทำงาน ที่หลังเลิกงานก็สามารถมาใช้บริการได้ครับ
มุมนั่งพักของลูกค้าก็กว้างขวางและชิลมากครับ
มีมุมบริการเครื่องดื่มฟรีระหว่างมารับบริการด้วย
อารมณ์แบบเป็นเลาจน์ดีๆเลยครับ ..
คือ ถ้าไม่ติดอะไรผมว่า ยอมขับรถไกลหน่อย มาใช้บริการบีควิกสาขานี้
คุณจะรู้สึกเป็น VIP และพรีเมียมมากๆครับ ในราคาเหมือนสาขาอื่นๆ
มีปลั้กให้ชาร์จแบทมือถือพร้อม คิดมาดีแล้ว
ลูกค้าใหม่แบบผมก็ต้องลงทะเบียนกันก่อนครับ
หลังจากลงทะเบียนเป็นลูกค้าครั้งแรกเสร็จก็เริ่มตรวจกันครับ ..
การลงทะเบียนนั้นดีอย่างตรงที่ ฐานข้อมูลของลูกค้าบีควิก
จะออนไลน์ 124 สาขา ทั่วทุกสาขาทั่วประเทศครับ
ดังนั้นไม่ว่าท่านจะใช้บริการที่สาขาไหนก็จะมีประวัติการเข้ารับบริการแบบรวดเร็วเลยครับ
เอาจริงๆ ตรวจ 30 รายการนั้นผมก็จำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้างแบบเป๊ะๆ ฮ่าๆๆ ...
แต่จะครอบคลุมจุดหลักๆ ที่เราควรต้อง สังเกตและใส่ใจในการขับรถครับ
จะมีเรื่อง ระบบเบรค ยาง ระบบไฟ แอร์ แบตเตอรี่ ซึ่งเป็นหัวใจของรถ ประมาณนี้
สิ่งที่ผมรู้สึกว่าดี ...
และดีมากของการมาตรวจสภาพรถที่ B-Quik คือ เราได้ความรู้กับรถเรามากขึ้นครับ
ปกติเวลาเราไปเข้าศูนย์ ส่งรถให้ช่างเสร็จเราก็ไปนั่งเล่นรอในห้องพัก
แต่การมาตรวจ B-Quik เราสามารถเดินมาดูรถเราได้อย่างใกล้ชิด ...
ดูตั้งแต่การถอดล้อ การยกรถขึ้น การตรวจเช็คต่างๆ ซึ่งเราจะใกล้ชิดกับช่างได้เลย
และแน่นอนว่า สามารถพูดคุยกับช่างเพื่อเพิ่มความรู้ได้ ...
ผมเชื่อว่าคนขับรถส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยรู้เรื่องเชิงเทคนิคอะไรเยอะ
โดยเฉพาะสาวๆ อาจจะมีความรู้เป็นศูนย์เลยครับ
.
ตรงนี้ผมว่าการได้พูดคุยกับช่างได้ยืนดูรถอย่างใกล้ชิดทำให้เราได้อะไรมากขึ้น
เราถามช่างได้ว่า เค้ากำลังตรวจอะไร ...
แล้วการตรวจทำยังไง การดูระดับน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค ระดับน้ำยา ดูยังไง
ร้อยวันพันปีเราอาจจะไม่เคยเปิดฝาประโปรงหน้าดู เราจะได้ดูมันบ้างครับ
เผื่อเหตุฉุกเฉินจะได้ตรวจเช็คอะไรเบื้องต้นเป็น ..
ซึ่งตรงนี้ช่างของบีควิกซึ่งเกือบทั้งหมดจะจบสายเครื่องยนตร์มาโดยตรง
ก็จะมีความรู้ ในหลักการที่ถูกต้อง ให้ความรู้เราได้
อย่างวันที่ผมเช็คนี้ เค้าก็ยินดีตอบคำถามตลอดเลยครับ ...
ระดับผ้าเบรคต้องเหลือเท่าไหร่ถึงจะโอเค ระดับการสึกหรอของยางหน้าหลัง
ได้เวลาสลับยางหน้าหลังหรือยัง ..
ตรงนี้ผมแฮบปี้มากครับเพราะได้รู้เรื่องอะไรเยอะขึ้น .. ในราคาค่าบริการศูนย์บาท
เริ่มกันที่ แบตเตอรี่ครับ ..เป็นหัวใจหลักของการจ่ายไฟเลย
เค้าจะใช้เครื่องตรวจสุดไฮเทค วัดออกมาเป็นตัวเลขเลยว่าระดับไฟ
การจ่ายไฟเป็นยังไงบ้างแล้ว .. พวกที่ใช้แบทไปนานๆ แล้วไม่ได้มาตรวจจะเจอบ่อยครับ
ขับๆอยู่ดีๆ ตื่นเช้ามาแบทหมด
ค่าแบท ออกมา ช่างก็จะบอกเราครับว่า
ตอนนี้แบทโอเคมั้ย ของผมรถยังใหม่กิ้ก แบทสมบูรณ์มากๆครับ ..
ในส่วนของตัวเครื่องด้านหน้า ช่างก็จะเช็คพวกระดับน้ำมันเครื่อง น้ำปัดกระจก
พวกไส้กรองแอร์ต่างๆเพิ่มเติม เราก็สามารถเดินดูไปพร้อมๆช่างได้ครับ
หลังจากนั้นช่างอีกคนจะเริ่มถอดล้อออกมาเช็คยางและระบบเบรค ...
วันนี้ผมเปลี่ยนลมยางเป็นลมไนโตรเจนด้วยครับ
ข้อดีที่เค้าว่าๆกันของการเติมยางไนโตรเจนก็เช่น
1.ไนโตรเจนสามารถรักษาสภาวะอุณหภูมิของตัวเองได้ค่อนข้างดี
ทำให้ยามที่ต้องใช้รถระยะทางไกลค่อนข้างมีความมั่นใจในระดับหนึ่ง
ว่ายางจะไม่ระเบิดเพราะแรงดันและความร้อนที่มากจนเกินรับไหว
2. ไนโตรเจนจะซึมออกมาจากยางจึงค่อนข้างยากกว่า
ทำให้ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบลมยางบ่อยๆ จากอาทิตย์ละครั้ง
อาจกลายเป็นเดือนละครั้ง มันจึงเหมาะสมกับสาวๆ ที่ขับรถมากเลย
และพอลมยางไม่อ่อนง่ายก็ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกนิดนึงครับ
3. ยืดอายุการใช้งานของยางได้มากขึ้น เนื่องจากไนโตรเจนไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยา
ทางเคมีกับเนื้อยาง ซึ่งเป็นสาเหตุของการผุกร่อนและเสื่อมสภาพ
อาจจะดูเป็นเทคนิคที่ไกลตัวแต่เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ
ที่ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ใช้แล้วไม่เสียหายอะไรครับ
ตอนนี้บีควิกมีโปรเพียง 100 บาท/ 6 เดือน
เติมลมไนโตรเจนฟรีทุกสาขาครับ ทั่วไทยเลย
เค้าจะเอาลมยางปกติออกก่อนหมดครับ จากนั้นค่อยใส่ลมไนโตรเจนไปทีละล้อ
เราสามารถเปลี่ยนจุกลมยางเป็นสีเหลืองได้ครับ
เวลาเข้าไปใช้บริการที่บีควิก
เค้าจะรู้เลยว่าเราเติมลมไนโตรเจน จะได้เติมไม่ผิดครับผม
ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ
อันนี้พึ่งเคยมาตั้งเองครั้งแรก ก็ตื่นตาตื่นใจดีครับ
ที่สาขานราธิวาสนี้ถือว่าเป็นสาขาที่ไฮเทคที่สุดในไทยครับ
จะตั้งศูนย์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใหม่ล่าสุด เที่ยงตรงที่สุดครับ
เพียงแค่เอารถเข้าไปจอดจากนั้นเลเซอร์จะวิเคราะห์ให้เองและปรับให้เองครับ
สุดยอดมากกกกกกกก
การถ่วงล้อนี่ผมก็พึ่งรู้ว่าเค้าทำกันยังไง .. เครื่องที่ใช้นี่ก็สุดยอดครับ
ใหม่ล่าสุด ช่างเพียงจับล้อเข้าเครื่องแล้วเครื่องจะหมนล้อ
วัดระยะ น้ำหนักการการหมุนและวิเคราะห์ออกมาเลยว่า ต้องถ่วงเพิ่มกี่กรัมครับ
ทั้งหมดนี้ ทำให้การขับขี่สมบูรณ์มากขึ้นครับ
ใครที่ชอบขับในย่านความเร็วสูงๆ 120 ขึ้นไป
ควรจะใส่ใจในเรื่องพวกนี้เยอะครับๆ .. การขับรถเร็วๆ
ทั้งเครื่องยนตร์ระบบเบรคและช่วงล่างต้องสมบูรณ์ที่สุดครับ
จะได้ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุขึ้น
ถอดล้อออกมา ไม่ต้องกลัวล้อหลุดหลังจากขับออกไปน่ะครับ 555+
เค้ามี มาตรฐานหลักเลยคือตอนใส่ล้อกลับจะต้องใช้ ช่างสองคนต้องมาไขล้อกลับ
เดินเช็คสองรอบ ไล่ไปทีละล้อครับเป็นการเช็กว่าการใส่ล้อคืนนั้นทำได้สมบูรณ์ไม่พลาดครับ
ครบการเช็คทุกอย่าง ช่างจะสรุปมาให้ครับว่า ตอนนี้สภาพรถของเราเป็นยังไง
จะเปลี่ยนอะไรก็จะได้ถูกจุดครับ ...
วันนี้เป็นอีกวันที่สนุกมากๆครับ
ปกติจะใช้เวลาในการตรวจฟรี 30 รายการประมาณ 45-60 นาทีครับ
แต่ผมชวนช่างคุยซะเยอะ เลยได้มาเที่ยวเล่นในบีควิกเกือบสองชั่วโมง
ขับหมูขาวออกจากบีควิก พร้อมขับลุยต่างจังหวัดแบบมั่นใจสุดๆ ครับ
ลองดูครับ ใครไม่เคยตรวจรถ ต้องรอให้เสียก่อนค่อยเข้าศูนย์
เคยเจอมั้ยเพื่อนใกล้ตัวที่อยู่ๆแบทหมดตอนเช้าในวันสำคัญต้องไประชุม
หรือรถไปเสียกลางทางตอนไปเที่ยว
พวกนี้เกิดจากการไม่เคยใส่ใจรถตัวเองทั้งสิ้น
ลองเปลี่ยนความคิดกันใหม่ครับ .. ขนาดสุขภาพเรายังตรวจกันทุกปี
รถยนต์ที่เราขับกันทุกวันก็ต้องได้รับการบำรุงรักษาเช่นกัน
ไปศูนย์เสียเวลา ไกลบ้าน มาเช็คที่บีควิก ฟรีด้วย เร็วด้วย มาตรฐานเป๊ะ
ใส่ใจกับรถมากขึ้น ก็ปลอดภัยกับตัวเราและคนที่เรารักมากขึ้นครับ