:: บ้านบางปะกง รีสอร์ท :: ....ธรรมชาติอยู่ใกล้ชิด มีชีวิตเคียงติดสายน้ำ.....
ไม่ได้มาอัพบล็อคตัวเองสะนาน จนหยากไย่ติดเต็มไปหมด แอบเขินเล็กๆ ... หวังว่ายังคงจำกันได้นะครับ ...
จริงๆ รูปมีเยอะกว่านี้น่ะ ร่วมๆ 100 รูปได้เลยละ ก็ว่าจะรีวิวในบอร์ด Blueplanet แต่พลังงานชีวิตช่วงนี้ไม่พอจะรีวิวนานๆจริงๆ เลยขอยกยอดไว้หลังสงกรานต์ละกัน
ขอตัดมาบางส่วนอัพในบล็อคแก็งก่อน..
เช่นเคย สามารถคลิ้กที่รูปเพื่อชมรูปขนาดใหญ่ได้
บ้านบางปะกงรีสอร์ท
....ธรรมชาติอยู่ใกล้ชิด มีชีวิตเคียงติดสายน้ำ.....
สุดสัปดาห์ก่อนได้มีโอกาส ไปนอนเล่น พักผ่อนที่ จ.ฉะเชิงเทรามาครับ ได้ใช้ชีวิตชิลล์ๆ ริมน้ำบางปะกง ณ รีสอร์ทเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมเล็กๆ ห่างไกลชุมชน ....
บรรยากาศดีสะจนอยากอยู่ต่อสักอาทิตย์ ... ผมเคยบ่นกับตัวเองไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนว่า อยากมีบ้านอยู่ริมน้ำ อยากตั้ง Daybed นิ่มๆ นอนเล่นกินลมชมวิว
ให้ตายสิ พระเจ้าประทานโอกาสมาให้ทันใจดีจริงๆ ...
บ้านบางปะกงรีสอร์ท
เป็นรีสอร์ทขนาดเล็กที่ไปสร้างอยู่ท่ามกลางป่าโกงกาง หรือจะเรียกว่าป่าชายเลนดีละ ก็พอได้อยู่ ...ริมแม่น้ำบางปะกง ในจ.ฉะเชิงเทรา
ที่บอกว่าขนาดเล็กเนื่องจากมีจำนวนห้องพักทั้งสิ้น 5 ห้อง แต่ทุกห้องผมว่าเป็นระดับวิลล่า มากกว่าจะใช้คำว่า"รูม" น่ะ
เนื่องจากทุกหลังแม้จะเป็นบ้านที่เหมาะสำหรับสองคนเข้าพัก (อาจจะเสริมได้ถึง4) แต่ขนาดของพื้นที่ใช้สอยจัดได้ว่ากว้างขวาง มีทั้งส่วนของห้องนั่งเล่น ห้องนอน ระเบียงชมวิว ห้องอาบน้ำซึ่งบ้างหลังเป็นแบบ Open Air แยกไว้ด้วย
สอบถามจากพนักงาน ได้ความว่า ปณิธานแรกของเจ้าของต้องการสร้างบ้านพักต่างอากาศในพื้นที่ของตัวเองเอาไว้มานอนเล่นพักผ่อนยามเหนื่อยจากการทำงาน
แต่คงเห็นศักยภาพที่พอไหวไปไกลกว่านั้น เลยสร้างเพิ่มต่อเติมเรื่อยมา จนถึงปัจจุบันที่เปิดมาได้ร่วม 1 ปี เต็ม รีสอร์ทก็เสร็จไปเกือบหมด
ห้องพักสามารถรองรับนักเดินทางผู้กระหายความสงบ และชอบเสพชีวิตริมสายน้ำได้อย่างสมบูรณ์ทั้ง 5 วิลล่า ...
แน่นอนว่าเป็นวิลล่าท่ามกลางธรรมชาติ....
การตั้งชื่อห้องเป็นชื่อต้นไม้ก็เป็นอะไรที่ดูจะเข้ากันอย่างที่สุด บ้านบางปะกงรีสอร์ทก็เลือกที่จะทำเช่นนั้นเช่นกัน คือ วิลล่าทั้งหมดมีชื่อเสียงเรียงนามประกอบด้วย
บ้านไม้ชายเลน บ้านลำพู บ้านพังกาหัวสุ่ม บ้านโกงกาง และบ้านแสม รวมทั้งสิ้น 5 หลัง ไม่ขาดไม่เกิน
สำหรับวิลล่าที่ผมไปพักคือ "บ้านพังกา หัวสุ่ม" ครับ.... เป็นวิลล่าที่ตกแต่งข้างในสไตล์ตะวันตก แนววินเทจนิดๆ เน้นโทนสว่างมาช่วยผ่อนคลายอารมณ์ของผู้เข้าพัก
เป็นหลังเดียวที่ตกแต่งโทนสีขาวแบบนี้นะครับ .... คือจริงๆ เค้าก็ตกแต่ง แตกต่างกันหมดแหละ ตามไสตล์รีสอร์ทขนาดเล็ก แต่ก็มีธีมของงานประดับพวก พร็อบเป็นของเก่า ของสะสมของเจ้าของเหมือนกันหมด
ตอนแรกที่พนักงานบอกชื่อบ้านก็งงๆ ชื่ออะไรหว่าแปลกจัง ....
มาทราบที่หลังคือชื่อต้นไม้ที่โตอยู่ข้างๆ บ้านพักนั่นเอง ยอมรับว่าเมื่อตอนแรกที่เห็นรูปบ้านพักจากในเว็บไซท์
เห็นรูปลักษณ์ภายนอกไม่ดึงดูดใจเท่าไหร่ ดูธรรมดามากๆ สวนทางกับราคาที่แสดงบนหน้าเว็บไซท์เหลือเกิน
แต่ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในบ้าน แทบจะโยนความคิดนั้นลงแม่น้ำบางปะกงไปเลยครับ...
ห้องสวยมากกก แถววิวนอกหน้าต่างมันสามารถละลายความตึงเครียดจากการทำงานได้จริงๆ
เป็นอีกหนึ่ง the Hideaway Resort จริงๆ ...
วิวตอนน้ำขึ้นสวยงามไม่น้อย...
จะเห็นได้ว่ารีสอรืทสร้างอยู่บนป่าโกงกาง ในยามที่น้ำลดระดับ ก็จะเห็นรากไม้ของต้นโกงกาง ดูยังไม่ค่อยสวยงามมากนัก โดยช่วงที่ผมไปมาเมื่อาทิตย์ก่อน
กระแสน้ำที่นี่จะเริ่มขึ้นสูงตั้งแต่ราวๆ ตี 2 จนถึงสัก 9-10 โมงเช้าครับ ดังนั้นถ้าอยากเห็นความสวยงามสุดๆ ของรอบรีสอร์ทก็ควรจะตื่นมาตอนเช้าๆ จะสวยกว่าช่วงอื่นๆ
รูปแบบของการพึ่งพาน้ำขึ้น น้ำลงนี้ ทำให้ผมนึดถึงรีสอร์ทนึง (ไม่อยากเอ่ยชื่อ แต่ชื่อไทยคือ ท้องฟ้าสีฟ้า 555+) ที่เกาะพยาม จ.ระนอง ในยามที่น้ำลดจะดูธรรมดา แต่ทันทีที่น้ำขึ้น มันจะช่วยขับความสวยงามของตัวรีสอร์ทให้เปล่งประกายขึ้นมากเป็นพิเศษ
หยิบรูปบ้านลำพูในยามเช้าที่น้ำขึ้นมาให้ดู ความสวยงามมันอยู่ที่การที่ผืนน้ำราบเรียบสะท้อนภาพแบบกระจกนี่แหละครับ
อีกหนึ่งอย่างที่ผมประทับใจเป็นพิเศษของบ้านบางปะกง รีสอร์ท คือรสชาติอาหารครับ อาหารอร่อยใช้ได้เลยครับ
ด้วยรีสอร์ทอยู่ไกลจากชุมชน ดังนั้น ผมว่าแขกหลายท่านก็ต้องฝากความหวังเรื่องปากท้องไว้กับ ห้องาหารของรีสอร์ท นี้แหละครับ
และก็พบว่า หลายรีสอร์ทมักจจะตกม้าตายตรงนี้ ... ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่เกิดกับบ้านบางปะกงครับ แม่ครัวฝีมือดีใช้ได้เลย แถมน่ารักมากๆ ด้วย ทำเอง ยกมาเสิร์ฟเอง ดูแลเองประดุจมาเที่ยวบ้านญาติกันเลยทีเดียว
ไฮไลท์หลักๆของที่นี่ มีสองช่วงครับ คือยามเช้า และยามเย็น
ในยามเช้า......เราจะเห็นเรือพายของชาวบ้านริมน้ำบางปะกง จะค่อยๆพาย และจับกุ้งฝอย เป็นวิถีชีวิตของคนแถวนั้น ที่หาเลี้ยงชีพ และมีลมหายใจ ด้วยสายน้ำที่หล่อเลี้ยงเค้าอยู่
สายคือ คือชีวิต คงจะเรียกไม่ผิด ...
ยามอาทิตย์ค่อยๆ ตื่นมาทักทายเรา ทอแสงอ่อนๆ ตัดกับลำน้ำที่เรียบสนิท มีเรือลำน้อยพายไปอย่างช้าๆ ... ภาพนี้แหละครับ อยากให้ตื่นมาดู ให้มาลองทักทาย ลองคุย ลองสัมผัสวิถีชุมชนดู หาดูในเมืองไม่ได้หรอกนะ
ในยามเย็น.... น้ำอาจจะลดระดับลงไป ทำให้รอบๆรีสอร์ทอาจจะไม่สวยมากนักแต่บรรยากาศริมน้ำ คือ กำไรของชีวิตอย่างแท้จริง
ลมเย็นๆที่พัดอย่างเอื่อยๆ ทำหน้าที่ผ่อนคลายความตึงเครียดของผู้มาพัก เคล้าไปด้วยเสียงใบไม้ ที่พริ้วไหวเบาๆไปตามลม ประหนึ่งเป็นวงดนตรีธรรมชาติ คอยสร้างความเพลิดเพลิน ให้กับเรา ...
ดังนั้นแล้ว ยามเย็น ริมน้ำบางปะกง การได้เครื่องดื่มเย็นๆ และนอนทอดอารมณ์ริมน้ำเช่นนี้ คืออีกไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้จริงๆ
รูปด้านบนคือห้องน้ำของวิลล่าที่ผมพักครับ ไม่ได้กว้างขวางมากแต่มีการจัดสรรพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกได้ดีมากครับ ลงตัวใช้งานได้อย่างดี
ภาพถ่ายยามอาทิตย์ขึ้นตอนรุ่งเช้า ...
โดยรวมผมประทับใจกับที่นี่ไม่น้อย ห้องสวย วิวดี อาหารอร่อย ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
จุดเด่นคือ ความสงบ บรรยากาศแบบธรรมชาติ แต่ก็ไม่ทิ้งความสะดวกสบายให้คนกรุงอย่างเราได้ลำบากมากนัก..... ไปแล้วจะไม่อยากกลับจริงๆ
วันใดที่รู้สึกตัวเองถวิลหาความเงียบสงบ และอยากหยุดเวลาเอาไว้ริมสายน้ำ บ้านบางปะกงรีสอร์ท เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณน่าจะประทับใจได้ไม่ยาก....
บรรยากาศริมน้ำที่คุ้นตา ความลงตัวของวิถีชุมชนกับธรรมชาติ ที่ต่างก็เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ... ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสงบ
มาถึงฉะเชิงเทราทั้งที ...เลยมีโอกาสได้แวะไปเที่ยว ตลาดชื่อดังของที่นี่ นั่นคือ ตลาดบ้านใหม่ครับ ...
เดี๋ยวนี้ตามเมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงมักจะนิยม รวมตัวกันทำตลาดขึ้นมา เพือ่ดึงดูดนักท่องเที่ยวกัน หลายที่ก็ดังจนคนแห่กันไปเยอะ เช่น ตลาดสามชุก ตลาดน้ำอัมพวา ... ของที่ขายก็จะคล้ายๆ กันหมด เช่นเดียวกับที่ตลาดบ้านใหม่ ...
ของกิน ที่เดินไป แวะไป กว่าจะออกมาจากตลาด ก็อ้วนกันไปข้าง
พวกของเล่นเก่าๆ ขนมเก่าๆ ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในตลาดพวกนี้ เหมือนเป็นแพทเทิร์นเดียวกัน ... ที่พูดแบบนี้ไม่ได้ว่าอะไรหรอก ผมเจอร้านพวกนี้ทีไรก็ชอบ ซื้อไฟเย็น มาเก็บไว้เล่นเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดทุกที
มื้อเที่ยงที่ตลาดบ้านใหม่ เราฝากท้องกันที่ร้านอาหารริมน้ำ ชื่อดังในตลาดครับ นั่นคือ ร้านป้าหนู ... ถามใครใครก็รู้จัก ไม่ต้องกลัวหลง พาตัวเองเข้าไปถึงตลาดบ้านใหม่ให้ได้ละกันครับ รับรองได้ไปกินแน่ๆ
ร้านอยู่ริมน้ำ ถ้าเลือกได้นั่งริมน้ำก็ดีนะ ไม่อึดอัด กินลมชมวิวได้บรรยากาศดี ...รสชาติอาหารอร่อยประมาณนึง แล้วแต่จานเหมือนกัน ไม่อยากแนะนำอะไรเด็ดเพราะลิ้นคนเราไม่เหมือนกัน แต่ฝากท้องไว้ได้แน่นอนครับ ไม่ผิดหวัง ลองแวะไปกินกันดูได้
หลังจากเดินเล่นที่ตลาบ้านใหม่สักพักใหญ่ๆ ก็ขับรถเลยไปยังวัดโสธรเพื่อสักการะหลวงพ่อโสธรเพื่อความเป็นสิริมงคล
เป็นการเดินทางพักผ่อนแบบสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ที่อยากแนะนำเพื่อนๆร่วมบล็อคครับ ...ใช้เวลาขับรถไม่นานราวๆ ชั่วโมงเศษๆจากกรุงเทพ ก็ได้มาเปิดสมอง พักผ่อน ได้หาอะไรกินอะไรอร่อยๆ ...
เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้จริงๆครับ...
ขอบคุณล่วงหน้าทุกท่านที่แวะมารับชมแวะมาทักทายกันครับ
Create Date : 07 เมษายน 2553 |
|
33 comments |
Last Update : 8 เมษายน 2553 22:50:03 น. |
Counter : 30181 Pageviews. |
|
|
|