"อาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม"
ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน มีหลักฐาน ร่องร่อยของบรรพบุรุษสืบทอดมาหลายยุคหลายสมัย เรามีโบราณสถาน โบราณวัตถุ และแหล่งโบราณคดีจำนวนมากมายทั่วประเทศ มีวัดวาอารามเก่าแก่ บางวัดร้างไปแล้ว บางวัดยังมีพระสงฆ์จำพรรษาให้เราได้ทำบุญกุศลกันอยู่ ตามสถิติในปัจจุบันประเทศไทยมีโบราณสถานที่ทำการสำรวจขึ้นทะเบียนแล้วประมาณ ๑,๕๑๓ แห่ง ที่พบใหม่อีกกว่า ๓,๕๐๐ แห่ง แต่โบราณสถานและแหล่งโบราณคดีส่วนมากกำลังประสบปัญหาถูกทอดทิ้ง เสื่อมโทรม ปรักหักพังไปตามกาลเวลา โบราณสถานที่เป็นเจดีย์ พระธาตุ ธาตุ กู่ร้าง ตามนอกเมืองหรือหมู่บ้านห่างไกลถูกขุดเจาะทำลายเพื่อหาพระพิมพ์หรือของมีค่า มีราคา โบราณสถานส่วนใหญ่ถูกบุกรุก เบียดบัง หรือไม่ก็ถูกไถทิ้งไปเพื่อเอาที่ดินสร้างบ้าน ตึกแถว หรือไม่ก็สร้างโรงเรียน เมืองโบราณ และแหล่งโบราณคดีจำนวนมาก ตามป่าเขา ถูกน้ำท่วมเพราะการสร้างเขื่อน แต่ภัยที่ร้ายแรงที่สุดซึ่งทำให้โบราณสถานถูกทำลายอย่างย่อยยับภายในเวลาไม่นาน คือ การลักลอบขุดโดยฝีมือมนุษย์ปัจจุบันเพื่อหาของมีค่าไปขาย ทำให้เกิดความเสียหายต่อโบราณสถานและแหล่งโบราณคดีอย่างมากมายเกินกำลังความสามารถของเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรที่จะเข้าไปดูแลอย่างทั่วถึง
ในอดีตที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าบรรดาโบราณสถาน โบราณวัตถุ ทั้งหลายนั้นเป็นของกรมศิลปากร หากโบราณสถานหรือโบราณวัตถุแห่งใดชิ้นไหนชำรุดทรุดโทรมหรือพังทลาย กรมศิลปากรมีหน้าที่ที่จะต้องเข้าไปดูแลรับผิดชอบ ซ่อมแซมบูรณะโดยที่ประชาชนไม่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งความเข้าใจดังกล่าวเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เป็นความเข้าใจผิด เพราะในความเป็นจริงแล้วโบราณวัตถุ โบราณสถานทั้งหลายล้วนเป็นสมบัติของประชาชนทุกคนในชาติร่วมกัน ผู้หนึ่งผู้ใดถือเอามาครอบครองเป็นสมบัติเฉพาะตัวไม่ได้และกรมศิลปากรเองก็เป็นเพียงหน่วงยงานของทางราชการที่คอยสอดส่องดูแลรักษาสมบัติของปวงชนและของชาติ โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายคือ พระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๔ เป็นแนวทางปฏิบัติเท่านั้น และไม่ได้หมายความว่า ประชาชนทั่วไปจะไม่มีสิทธิหรือโอกาสในการดูแลโบราณสถาน โบราณวัตถุ อันเป็นมรดกตกทอดมาในหมู่บ้านหรือตำบลของท่านแต่อย่างใด กรมศิลปากรและรัฐบาลตระหนักดีว่า โบราณสถาน โบราณวัตถุ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาและมีความสำคัญยิ่งต่อหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ หรือจังหวัดต่าง ๆ นั้น ประชาชนในท้องถิ่นย่อมอยากแสดงความเป็นเจ้าของด้วยการช่วยกันดูแลรักษาป้องกันการขุดทำลายหรือต้องการจะใช้ประโยชน์จากโบราณสถานโบราณวัตถุนั้นอยู่แล้ว เพียงแต่ยังเกรงอยู่ว่าจะเป็นการล่วงละเมิดต่อกฎหมาย หรือเกรงว่าจะมีความผิดถูกจับติดคุกติดตะราง หรือไม่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยดูแลอย่างไรจึงจะถูกต้อง ไม่เกิดความเสียหายต่อโบราณสถานโบราณวัตถุนั้น ๆ
รัฐบาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ลำพังกรมศิลปากรซึ่งมีเจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คน(จำกัดจริงๆ สำนักงานหนึ่งๆ มี นักโบราณคดี อยู่ 2 - 3 คน พนักงานดูแลรักษาโบราณสถาน 1-2 คน ดูแลพื้นที่ 4 - 5 จังหวัด) ไม่สามารถแก้ปัญหาการเสื่อมโทรมและการถูกบุกรุกทำลายของโบราณสถาน และโบราณวัตถุได้ทั่วถึงและทันต่อเหตุการณ์ และได้พบว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวก็น่าจะประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็วก็คือ การเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของร่วมในโบราณสถาน โบราณวัตถุได้เข้ามามีส่วนร่วมให้ความช่วยเหลือ เป็นหูเป็นตาสอดส่องป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับโบราณสถาน โบราณวัตถุ ที่อยู่ในหมู่บ้านของเขา โดยรัฐบาลจะได้จัดอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนแนวปฏิบัติงานในรูปของ อาสาสมัคร เรียกว่า อาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม ทั้งนี้ ได้กำหนดจุดประสงค์กว้าง ๆ ให้อาสาสมัคร ฯ ดังกล่าวได้ทำหน้าที่ช่วยดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุในพื้นที่หมู่บ้านไม่ให้ชำรุดหักพังหรือสูญหายและสามารถปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากรได้ในกิจกรรมการสำรวจทางวิชาการหรือการบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน โบราณวัตถุ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุได้ทั่วประเทศ และจะแก้ปัญหาความเสื่อมโทรมของโบราณสถาน โบราณวัตถุได้อย่างเป็นผลดีอีกด้วย
อส.มศ.ได้ทำความเข้าใจเรื่องมรดกทางศิลปวัฒนธรรม โบราณสถาน โบราณวัตถุ และหลักเกณฑ์การอนุรักษ์โบราณสถาน โบราณวัตถุ ซึ่งจะเห็นว่าโบราณสถานและโบราณวัตถุนั้นมีคุณค่า ความสำคัญ และประโยชน์ต่อหมู่บ้านต่อท้องถิ่น ต่อประเทศชาติ ส่วนรวมมากมาย แต่โบราณสถาน โบราณวัตถุ ตลอดจนแหล่งโบราณคดีต่าง ๆ ของชาติกำลังถูกบุกรุกทำลายสูญหายและเสื่อมค่าไปมากมาย และการทำลายเป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการดูแลมีน้อย การอนุรักษ์ทำยากและทำได้ช้ากว่าการทำลาย อย่างไรก็ตามเราก็เชื่อว่ายังมีประชาชนจำนวนมากที่เห็นคุณค่าและประโยชน์ของโบราณสถาน โบราณวัตถุ และยินดีที่ให้ความร่วมมือในการดูแลรักษาและช่วยเหลือรัฐบาลในการอนุรักษ์ เพราะประชาชนทุกคนรู้ดีว่าโบราณสถานโบราณวัตถุที่มีอยู่นั้น เป็นสมบัติและมรดกของเขาด้วย
ปัจจุบันนับเป็นนิมิตหมายอันดียิ่งที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงใส่พระทัยและเสด็จพระราชดำเนินไปยังทุกตำบลหมู่บ้านที่มีโบราณสถาน โบราณวัตถุ ไม่ว่าโบราณสถาน โบราณวัตถุนั้นจะอยู่ห่างไกลแค่ไหนเพียงไร และพระองค์ท่านทรงรับเป็น อัคราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย เป็นองค์อุปถัมภ์ค้ำชูกิจการอนุรักษ์โบราณสถาน โบราณวัตถุของชาติ ดังนั้นหากประชาชนทุกคนจะปฏิบัติตามพระองค์ท่าน โบราณสถานและโบราณวัตถุของชาติก็จะปลอดภัยยิ่งขึ้น อส.มศ. จึงเป็นตัวแทนของหมู่บ้านที่กรมศิลปากรได้ตระหนักถึงความสำคัญ และหวังจะได้รับความร่วมมือและความช่วยเหลือในการดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุที่อยู่ในหมู่บ้าน เพราะหาก อส.มศ.สามารถดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุ ได้ดีเพียงใดก็เท่ากับว่า ได้ช่วยกันรักษาเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี เผยแพร่ชื่อเสียงของหมู่บ้านได้มากขึ้นเพียงเท่านั้น และยังเป็นการชี้ให้เห็นว่าหมู่บ้านของท่านได้รับการพัฒนาไปพร้อม ๆ กันแล้ว
ในการตรวจโบราณสถานของ อส.มศ. หากพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือกระทำใด ๆ ตามลักษณะที่กล่าวมาแล้วข้างต้น อันอาจจะก่อให้เกิดผลเสียหายต่อโบราณสถานให้ อส.มศ.ปฏิบัติดังนี้
ระยะเวลาในการตรวจตราโบราณสถาน
เมื่อ อส.มศ. ทำการตรวจตราโบราณสถานพบว่า มีวัชพืช หรือสิ่งกีดขวางปรากฏบนตัวโบราณสถานหรือบริเวณโบราณสถานที่รับผิดชอบ อส.มศ. จะต้องดำเนินการอย่างไรอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นการกำจัดสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ให้หมดไป โดยใช้หลักปฏิบัติดังต่อไปนี้
ระยะเวลาในการดำเนินการ
อส.มศ. จะทำอย่างไรเมื่อพบเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับโบราณสถาน โบราณวัตถุ
๑.ทำไม อส.มศ. จึงต้องติดตามข่าวโบราณสถาน โบราณวัตถุ
ในฐานะที่ อส.มศ. เป็นบุคคลที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับโบราณสถาน โบราณวัตถุ ซึ่งเป็นทรัพยากรและมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติและท้องถิ่นโดยตรง และแม้ว่า อส.มศ. จะได้ผ่านการอบรมตามกหลักสูตรอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมมาแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นการเพียงพอ อส.มศ. ควรจะต้องศึกษาและให้ความสนใจเรื่องราวของโบราณวัตถุ โบราณสถานอื่น ๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อจะเป็นการเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจเรื่องดังกล่าวมากขึ้น อส.มศ. จะได้รู้ว่าจังหวัดอื่น ๆ มีโบราณสถาน โบราณวัตถุสำคัญ ๆ อะไรบ้าง แต่ละแห่งมีการดูแลรักษากันอย่างไร และมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับโบราณวัตถุ โบราณสถานของชาติบ้าง ซึ่งเมื่อ อส.มศ. รู้และเข้าใจแล้วก็สามารถนำความรู้ความเข้าใจนั้น ไปบอกกล่าวให้ญาติสนิทมิตรสหายเข้าใจด้วย และยังสามารถนำความรู้ความเข้าใจมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุ ที่ อส.มศ. รับผิดชอบอยู่ได้ด้วย เป็นการก่อให้เกิดประโยชน์กับทั้งตัว อส.มศ. คือทำให้มีหูตากว้างไกล และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมด้วย
๒. อส.มศ.ติดตามและรวมรวมข่าวสารได้อย่างไร
แหล่งข่าวสารหรือข้อมูลเกี่ยวกับโบราณสถาน โบราณวัตถุที่ อส.มศ.สามารถติดตามและรวบรวมได้ ได้แก่
๒.๑ โทรทัศน์ เป็นสื่อข่าวสารที่รวดเร็วและอยู่ใกล้ตัว อส.มศ. มากที่สุด อส.มศ. สามารถเห็นทั้งภาพและเสียง ปัจจุบันในรายการโทรทัศน์มีเรื่องเกี่ยวกับโบราณสถาน โบราณวัตถุมากมาย ส่วนมากเป็นรายการสารคดีเกี่ยวกับแหล่งโบราณคดี โบราณสถาน รายการพิเศษเกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินทรงทัศนศึกษาหรือทรงเปิดอุทยานประวัติศาสตร์ หรือพิพิธภัณฑสถานต่าง ๆ ซึ่งเป็นรายการยาว ๆ อส.มศ. สามารถติดตามดูได้ นอกจากนี้ยังมีรายการข่าวภาคค่ำที่เสนอเรื่องราวการค้นพบโบราณสถาน โบราณวัตถุใหม่ ๆ อยู่เสมอ รวมทั้งข่าวการพังทลายของโบราณสถาน การโจรกรรมโบราณวัตถุต่าง ๆ ทั้งข่าวดี ๆ และข่าวร้าย
เมื่อ อส.มศ. ผู้ใดได้ดูรายการหรือดูข่าวแล้วควรจะบันทึกไว้ว่าเป็นข่าวเรื่องอะไร เกิดขึ้นที่ไหน มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง แล้วนำไปเล่าให้เพื่อน อส.มศ. และเพื่อนบ้านฟัง หรือเป็นไปได้ก็ให้นำสรุปบันทึกส่งให้ประธานกลุ่ม อส.มศ. เพื่อรวบรวมไว้เป็นข้อมูลของกลุ่ม
๒.๒ วิทยุ เป็นสื่อที่ให้ข้อมูลข่าวโบราณวัตถุ โบราณสถานทางเสียง ในปัจจุบันส่วนมากเนื้อหาเกี่ยวกับโบราณวัตถุ โบราณสถาน มักจะนำมาจากหนังสือพิมพ์ซึ่งในบางหมู่บ้าน อส.มศ. ไม่สามารถหาหนังสือพิมพ์อ่านได้ก็จะได้รับรู้ข่าวสารจากวิทยุ
เมื่อ อส.มศ. ได้ฟังข่าวเกี่ยวกับโบราณวัตถุ โบราณสถาน จากวิทยุเมื่อใด ก็ควรบันทึกรายละเอียดไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วส่งสรุปข่าวให้ประธานเก็บเป็นข้อมูลของกลุ่ม
๒.๓ หนังสือพิมพ์ เป็นสื่อและแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับโบราณวัตถุ โบราณสถาน ที่แพร่หลายมากที่สุดในปัจจุบัน นอกจากหนังสือพิมพ์รายวันแล้ว ยังมีหนังสือรายสัปดาห์ รายเดือนจำนวนมากที่ลงตีพิมพ์ เรื่องโบราณวัตถุ โบราณสถาน เป็นประจำ
เมื่อ อส.มศ.อ่านพบข่าวเกี่ยวกับโบราณวัตถุ โบราณสถาน ในหนังสือพิมพ์ฉบับใดก็ควรตัดข่าวนั้นนำไปติดที่ป้ายประกาศของหมู่บ้าน เป็นการประชาสัมพันธ์อีกทางหนึ่ง และเมื่อติดประกาศไว้ระยะหนึ่งแล้วก็ให้เก็บข่าวนั้นไว้เป็นข้อมูล
๒.๔ เอกสารจากหน่วยงานราชการและเอกชนอื่น ๆ นอกจากแหล่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโบราณสถาน โบราณวัตถุ ที่สามารถหาได้ในหนังสือพิมพ์รายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนแล้ว ในบ้านเรายังมีเอกสารที่ตีพิมพ์เรื่องราวของโบราณวัตถุ โบราณสถาน อีกจำนวนมากโดยหน่วยงานราชการ เช่น นิตยสารกรมศิลปากร เอกสารเผยแพร่ของกรมศิลปากร เอกสารเผยแพร่ของสำนักงานคณะกรรมการเอกลักษณ์ไทย สำนักนายกรัฐมนตรี ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งในส่วนของเอกสารที่จัดพิมพ์โดยกรมศิลปากรนั้น กรมจะจัดส่งให้ อส.มศ. ส่วนเอกสารของหน่วยงานอื่น ๆ อส.มศ. อาจจะขอจากหน่วยงานนั้น ๆ โดยตรง หรือขอให้กรมศิลปากรเป็นผู้จัดขอให้ก็ได้
๒.๕ การแลกเปลี่ยนข่าวสารกับ อส.มศ.กลุ่มอื่น ๆ อส.มศ. อาจจะมีการแลกเปลี่ยนข่าวสารกับ อส.มศ.กลุ่มอื่นๆ ในจังหวัดเดียวกันหรือจังหวัดข้างเคียงเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์โดย อส.มศ.อาจจะจัดส่งข่าวกันเอง หรือส่งผ่านกรมศิลปากรและดำเนินงานในรูปเอกสาร ที่เรียกว่า อส.มศ.สัมพันธ์ ก็ได้
การประชาสัมพันธ์
๑. ความหมาย
การประชาสัมพันธ์ คือ การสร้างความเข้าใจ การกระจายข่าวโดยอาศัยวิธีการ และอื่น ๆ เช่น ปิด
ประกาศ หอกระจายข่าว วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ การบรรยาย การบอกข่าว พูดคุย โดยเป็นการส่งหรือถ่ายทอดข่าวจากคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งไปสู่คนอื่น ๆ เพื่อให้มีความรู้และมีความเข้าใจในแนวทางเดียวกัน
๒. ทำไมต้องประชาสัมพันธ์
การประชาสัมพันธ์เป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญมากในการอนุรักษ์โบราณสถานโบราณวัตถุของชาติ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับคุณค่าและความสำคัญของโบราณสถานไม่ดีพอ จึงทำให้เกิดการทำลายและบุกรุกพื้นที่โบราณสถานและการโจรกรรมโบราณวัตถุบ่อย ๆ ดังนั้นในฐานะที่ อส.มศ. เป็นผู้ที่ได้รับการอบรมและมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องคุณค่า ความสำคัญ ตลอดจนหลักเกณฑ์วิธีการที่ถูกต้องในการอนุรักษ์โบราณสถาน โบราณวัตถุ อส.มศ. จึงเป็นหน่วยประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุดในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่คนในครอบครัว คนในหมู่บ้าน ในตำบล และแผ่ขยายไปในอำเภอ จังหวัด ซึ่งจะทำให้คนส่วนใหญ่เกิดความเข้าใจอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
๓. อส.มศ. จะทำประชาสัมพันธ์ได้อย่างไร
วิธีประชาสัมพันธ์ที่ อส.มศ. สามารถดำเนินการได้ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ได้แก่
๓.๑เมื่อเสร็จสิ้นการอบรม อส.มศ. ต้องนำเอาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญ คุณค่าหลักเกณฑ์การอนุรักษ์โบราณสถาน โบราณวัตถุไปเล่าและอธิบายให้คนในครอบครัวและเครือญาติ พี่ ป้า น้า อา เข้าใจ เพื่อจะให้มีแนวร่วมในการปฏิบัติงานมากขึ้น
๓.๒ ในโอกาสสำคัญ ๆ ที่มีชาวบ้านมาชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก เช่น การประชุมหมู่บ้าน การทำบุญตามประเพณี การจัดเทศกาลรื่นเริงต่างๆ อส.มศ. ควรขอเวลาเล่าเรื่องและอธิบายถึงความสำคัญประโยชน์ของการอนุรักษ์โบราณสถานในหมู่บ้าน
๓.๓ อส.มศ. ควรจัดนิทรรศการแสดงประวัติภาพถ่ายเกี่ยวกับโบราณสถาน โบราณวัตถุต่าง ๆ โดยเฉพาะที่ อส.มศ. ดูแลอยู่ไว้ที่สถานที่กลางหมู่บ้าน เช่น ศาลาประชาคม ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หรือที่โบราณสถานเพื่อที่ชาวบ้านทุกคนหรือผู้ที่ผ่านไปมาจะได้เข้ามาอ่าน
๓.๔ มีการจัดนิทรรศการ การบรรยายพิเศษในโอกาสหรือเทศกาลสำคัญต่าง ๆ เช่น วันอนุรักษ์มรดกไทย (๒ เมษายน ของทุกปี) โดยขอความสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศิลปากร สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นต้น
๓.๕จัดกิจกรรมให้เด็กนักเรียนในหมู่บ้านได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่เรื่องราวของโบราณสถาน โบราณวัตถุ และมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาตามโอกาสสำคัญ ๆ เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันอนุรักษ์มรดกไทย วันเข้าพรรษา วันลอยกระทง เป็นต้น
๓.๖ อส.มศ. อาจจัดตั้งศูนย์เอกสาร ข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับโบราณสถาน โบราณวัตถุในภูมิภาคของตัวเองและของประเทศ โดยรวบรวมข่าวจากหนังสือพิมพ์และเอกสารจากทางราชการที่จัดส่งมาให้และมีการเผยแพร่ข่าวโดยหอกระจายข่าวของหมู่บ้าน
๓.๗ อส.มศ. อาจจะจัดส่งข่าวสารความเคลื่อนไหวในการปฏิบัติงานของกลุ่มไปยังสื่อมวลชนในท้องถิ่นให้ออกข่าวได้