เรื่อง โกรธคือโง่ (กิเลน ประลองเชิง)
เรื่อง โกรธคือโง่ (กิเลน ประลองเชิง) หนังสือ ชักธงธรรม หน้า ๔๑
"ผลของ...ทุกข์ แสดงออกด้วยอาการ ที่ภาษาชาวพุทธว่า ความโศกเศร้ารำพัน..ความทุกข์กายทุกข์ใจ และความคับแค้นใจ" มาจาก..เหตุ ได้ของรักแล้วรักษาไว้ไม่ได้ อยากได้แล้วไม่ได้ และได้ในสิ่งที่ไม่อยากได้ รู้จักผล รู้จักเหตุของความทุกข์แล้ว ก็ยังรู้สึกว่าเวลาทุกข์จะมา ก็จะมายังกะพายุใหญ่ มาแล้วก็กดขี่บีฑาจิตใจให้บอบช้ำ ทนไม่ได้ ถึงตายไปก็มาก
พุทธศาสนา เรียกอาการนี้ว่า นิวรณ์ สิ่งที่กีดขวาง การทำงานของจิตแบ่งออกเป็น ๕ ข้อ ๑.กามฉันท์ พอใจในกามคุณ ๒.พยาบาทคิดร้ายผู้อื่น ๓.ถีนมิทธะ ความหดหู่ซึมเซา ๔.อุทธัจจกุกกุจจะ ความฟุ้งซ่านและรำคาญ ๕.วิจิกิจฉาความลังเลสงสัย
ทุกข้อ เป็นเหตุเป็นผล..ของกันและกัน เมื่อเริ่มต้นด้วยความรัก ความพอใจ สิ่งหนึ่งสิ่งใดแล้ว เมื่อสิ่งหนึ่งสิ่งนั้น ไม่เป็นตามที่คิด ความผิดหวังก็จะนำไปสู่ ความคิดร้าย จิตเริ่มคิดแต่เรื่องร้ายๆ..จิตเดียวกันก็มักเปลี่ยนอาการ เป็นหดหู่เหงาเศร้า
ทุกข์ อาการสุดท้าย คือ ลังเลสงสัย เลือกทางไปไม่ถูก รู้จักเหตุ รู้จักผลของทุกข์แล้ว ก็ต้องรู้จักการแก้ทุกข์ วิธีของพระพุทธเจ้า สอนให้แก้ที่เหตุ เมื่อรู้ว่าเหตุมากจากความรัก ไม่ว่าจะรักตัว รักชาติ รักพวก รักมาก ก็โกรธมาก ทุกข์มาก ก็ต้องพยายามลดความรักให้น้อยลง ถ้าเป็นความรักเจือราคะ ท่านสอนให้พิจารณาศพ หรืออสุภะ แต่กระนั้น ความสูญเสียยิ่งใหญ่ก็ทำให้โกรธอาฆาตพยาบาทต้องล้างแค้นเข่นฆ่าราวีกันต่อไป
ขั้นนี้ท่านสอนให้แผ่เมตตา น้อมจิต..ไปให้เกิดความรัก ความปรารถนาให้เขามีความสุขแผ่ไมตรีจิตคิดจะให้สัตว์ทั้งปวงเป็นสุขทั่วหน้า..ไม่นานไม่ช้า..ก็ละลายสลายความโกรธได้บ้าง แต่ขนาดของความโกรธใหญ่โต จริตบางท่าน ใช้หลักธรรมนี้แก้ไม่ได้ พุทธศาสนาก็มีกุศโลบาย..สอนให้คิดเสียว่าเป็นกรรมเก่า
เรื่องหนึ่ง..จากตำนานสมเด็จพุฒาจารย์โต วัดระฆัง พระลูกวัดฟ้อง ถูกพระอีกรูปตีหัว สมเด็จฯ ท่านก็ตัดสิน รูปที่มาฟ้องนั่นแหละตีหัวเขาก่อน สมเด็จฯ กลายเป็นจำเลย โทษฐานเป็นสมภารตัดสินไม่เป็นธรรม เรื่องไปถึงเจ้าคณะหนใหญ่ ต่อหน้าทายกทายิกา สมเด็จฯ ท่านก็ได้โอกาสวิสัชนา กฎแห่งกรรม รูปที่ถูกตีหัวในชาตินี้ ไปตีหัวเขาเมื่อชาติที่แล้ว ที่ฆ่ากันวันนี้ ก็เป็นผลมาจากการฆ่ากันเมื่อก่อน หนทางเดียวที่จะตัดเวร ไม่ให้ก่อกรรมกันต่อไป ท่านก็ให้พระทั้งสองรูปอโหสิให้กันและกัน
ถ้าเป็นในยุคสมัยนี้ ก็เห็นจะต้องใช้สำนวนพระพยอม วัดสวนแก้ว..โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ความโง่ความบ้าไม่ช่วยแก้ปัญหา ไม่แน่ด้วยว่า อาจจะเพิ่มปัญหาให้มากขึ้น
|
---|
Create Date : 01 ธันวาคม 2550 |
Last Update : 17 พฤษภาคม 2551 22:47:56 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1086 Pageviews. |
|
|
โดย: ไพร IP: 202.149.24.145 วันที่: 2 ธันวาคม 2550 เวลา:2:03:37 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เหอๆๆๆ
ยิ้มไว้สิความโกรธจะได้หายไป...