Your time is limited, so don't waste it living someone else's life
 
ตุลาคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
16 ตุลาคม 2550
 
 

SinGaPorE 2007

ในที่สุด ทริปที่รอคอบก็มาถึง หลังจากจองโปร 0 บาทของ Air Asia มา 6 เดือน (นานเกิ๊นนน)

ทริปนี้เที่ยวเองเลยค่ะ เพราะประเทศนี้ใช้ภาษาอังกฤษทั้งเมืองอยู่แล้ว อีกอย่าง โน้ตกะคุณแม่ไม่ชอบไปพวกพิพิธภัณฑ์อะไรด้วย (พวกทัวร์ชอบพาไป) จริงๆ การวางแผนเที่ยวเองเนี่ย สนุกดีนะ ฝึกสมองประลองปัญญา (อันน้อยนิด) ด้วย

งานนี้ไปกับคุณแม่ สองต่อสองค่ะ คล้ายๆว่าจะฉลองวันเกิดให้ หม่ามี้ เพราะคุณแม่เกิดวันที่ 30 สิงหา แต่เราไป 31 สิงหาอะ ไป 4 วัน 3 คืน โดยการวางแผนเที่ยวในครั้งนี้ เราพึ่งหนังสือ ตีตั๋วตะลุยสิงคโปร์ ไม่ง้อทัวร์ อะไรสักอย่าง เล่มชมพูๆอะค่ะ เนื้อหาละเอียดดี ขออภัยอย่างแรงที่จำชื่อคนเขียนไม่ได้ เพราะหนังสืออยู่บ้าน แต่เราทำ blog อยู่ที่ออฟฟิศค่ะ (อู้งาน ว่างั้นเหอะ)

ขึ้นเครื่องแล้ว รู้สึกจะมาถึงแถวๆสุราษฎร์แล้วค่า (เร็วจัด)



ถ่ายรูปเป็นที่ระทึก อิอิ (เบาะคล้ายๆรถทัวร์ยังไงไม่ทราบ แต่เอาน่า 0 บาทนะ)



Land ตรงเวลาเลยค่ะ โอเค First Impression ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ

สิงคโปร์เป็นเมืองที่ระบบคมนาคมดีมากอยู่แล้ว เพราะงั้น ไม่ต้องห่วง เรื่องการเดินทางเลยค่ะ งานนี้ แท็กซี่ไม่ได้แอ้มเงินแม่ลูก อิอิ

แต่พอไปถึงโรงแรมสิคะ แอบไกลจาก mrt ที่คิดไว้ประมาณนึงเลย แต่ก็หยวนๆ เพราะนั่งรถเมล์จากหน้า รร. ไป mrt ก้อได้ (ขี้เกียจสุดฤทธิ์)

วันแรกไปถึงก็ผิดแผนเลยค่ะ ตั้งใจจะไป Night Safari แต่ไม่ไหวจริงๆ เหนื่อยยยยอะ แถม ไปถึงโรงแรมก็ 5 โมงเย็นแล้ว เราเลยเปลี่ยนจุดหมาย ไปเดินเล่น ริมแม่น้ำแทนค่ะ ไปกันเลยยย













ต่อๆ ค่ะ ไม่บรรยายมากนะคะ ขี้เกียจ เหะๆๆ





วันแรกหมดไป กลับถึงโรงแรมแทบสลบ เพราะเวลาเที่ยวก็มีแต่เดินๆๆ อากาศก็เหมือนเมืองไทยค่ะ แต่ไม่มีมลภาวะทางอากาศ และเสียง เลยทำให้เดินได้นานหน่อย

วันรุ่งขึ้น เรามุ่งหน้าไปใช้สิทธิบัตรฟรีที่ได้มาจากการท่องเที่ยวสิงคโปร์ ที่ตึก United Centre สีลมกันค่ะ บัตรนี้ ให้เราได้เล่น Duck Tour, Hippo Tours & Balloon ค่ะ

ก่อนอื่นต้องเอาบัตรไปลงทะเบียน เพื่อรับตั๋วจริงก่อนค่ะ วันที่เราไปเป็นวันเสาร์พอดี คนก็เยอะไปตามระเบียบค่ะ ทั้ง ไทย จีน ฝรั่ง มาเลฯ ... อ้อ ที่ลงทะเบียนคือ Suntec City ค่ะ ถ้าใครอยากถ่ายรูปกับ Fountain of Wealth ก็ถ่ายตอนนี้ได้เลยค่ะ

รอคิวอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง เป็ดก็มาค่ะ แคว๊ก แคว๊ก



หลายคนสงสัยว่า Duck Tour นี่มันคืออะไรกัน จริงๆก็คือพาหนะสะเทินน้ำสะเทินบก ที่เลียนแบบมาจากพาหนะที่สิงคโปร์ใช้ในสมัยสงคราม (สงครามไหน จำไม่ได้ค่ะ) ปัจจุบัน เค้าได้ดัดแปลงมาเป็นพาหนะ พานักท่องเที่ยว ชมเมืองสิงคโปร์ แล่นได้ทั้งบนบก และในน้ำ เจ๋งไม๊ล่ะคะ โดยเฉพาะตอนที่มันกะลังจะแล่นลงน้ำเนี่ย ตื่นเต้นจริงๆ

ขี่เป็ดเที่ยวเสร็จแล้ว ก็ไปนั่ง Hippo Tours กันต่อ อันนี้เป็นรสบัส 2 ชั้น แต่ชั้น 2 ไม่มีหลังคาค่ะ แต่เราไม่ได้ขึ้นไปอะ ร้อน

Hippo มีหลายสีค่ะ แต่ละสีก็จะไปกันคนละเส้นทาง แต่ก็จะมีทับกันบ้าง (ก็เมืองมันมีอยู่แค่นั้นอะ) ตอนแรกเราตั้งใจจะนั่ง Hippo เพื่อไปขึ้นบอลลูนค่ะ แต่พอไปถึง เจ้าหน้าที่บอกว่า วันนี้ลมแรงเกิน ไว้ให้มาวันหลัง ... ไม่มีอีกแล้วค่ะ ก็อีก 2 วันที่เหลือ โปรแกรมมันเต็มแล้วง่ะ ฮือๆ ไม่ขึ้นก็ได้ฟระ

ไปดูหน้าตาเจ้า Hippo กันดีก่า



ระหว่างทาง นั่ง Hippo เที่ยวค่ะ


นี่แหละ Fountain of Wealth


อันนี้ขอเรียกว่า Chopsticks Monument


อันนี้ถ่ายตอนขี่เป็ดลงน้ำค่ะ


Merlion ตัวลูก


ตึกนี้ดูบางมากๆ ... แต่จริงๆแล้ว ลองเดินไปดูอีกมุมนึง ก็ไม่ได้บางอะไรหรอกค่ะ แต่ถ่ายมุมนี้แล้ว สวย เก๋ดีเนอะ


ให้ดูกันพอหอมปากหอมคอค่ะ ไปที่อื่นต่อดีก่า

อาหารกลางวันเราทานที่ Food Republic ลองกินข้าวมันไก่สิงคโปร์ซะหน่อย .. รสชาดก็ โอเคนะ แต่แบบ ขอกลับมากินที่เมืองไทยดีกว่าอะ น้ำจิ้มมันมีแต่ ซีอิ๊วดำ กับพริกน้ำส้มอะค่ะ

หนังท้องตึงแล้วก็กลับโรงแรม ไปพัก พอเย็นๆ ก็ออกเดินทางไป Night Safari ค่ะ

ที่นี่ไม่มีรูปสัตว์นะคะ เพราะถ่ายเป็นวิดิโอมาอะ ถ่ายรูปไปก้อมองไม่เห็น เค้าห้ามใช้แฟลช แถมนั่ง Tram มันเคลื่อนที่ตลอดเวลา แสงก็น้อย รูปที่ถ่ายเลยเบลอหมดเยย

อันนี้เป็นการแสดงเปิด Safari ค่ะ เราไปตอนเค้าเปิดพอดี (6 โมง หรือ 6.30 เนี่ยแหละ)


หลังจากเสียตังค์ซื้อตั๋วไป 32 เหรียญ ก็ต้องมายืนต่อแถวอีก ประมาณ 1 ชั่วโมง (หรือมากกว่านั้น) เพื่อจะขึ้น Tram ค่ะ ใครจะเดินก็ได้นะคะ ประหยัดไป 6 หรือ 8 เหรียญเนี่ยแหละ แต่ก็จะไม่มีไกด์คอยบรรยายนะ

Tram มาแล้ววว


หลังจากนั่ง Tram เสร็จแล้ว เราก็มาต่อแถว (อีกแล้ว) รอดูโชว์ของที่นี่กัน ขอบอกว่า ใครมาที่นี่ ต้องดูโชว์เลยนะคะ เพราะเค้าทำได้ดีมากกก พิธิกรดี ตลก สัตว์ที่เค้านำมาโชว์ก็น่ารัก ถือว่า วันนี้รวมเวลาที่ยืนต่อคิวรอเป็นชั่วโมงๆแล้ว ไม่ทำให้ผิดหวังเลยค่ะ (อันนี้ก็อัดวิดิโอมาเช่นกันค่ะ เหะๆ บ่มีรูปกะเจ้า)

วันรุ่งขึ้นเราไป สวนนกจูร่งค่ะ ค่าเข้าประมาณ 10 กว่าเหรียญ (จำไม่ได้แล้วอะ)
ไปดูรูปกันเลย

ส้มพอมะคะ


ตัวนี้นิ่งมาก แถมกลมมากด้วยอะ


การบินไทย ก็มาด้วยแฮะ


รูปนี้เสียดายอะ ปีกแหว่งไปหน่อย


ดูนกจนหนำใจ เราก็เตรียมไป Sentosa กันค่ะ ตอนรอรถเมล์หน้า Jurong เราได้เพื่อนชาวมาเลฯ มา 2 คนล่ะ เค้ามาเที่ยวสวนนก แล้วก็กำลังจะไป Sentosa เหมือนกัน พอดี อายุเท่าๆ เราด้วย ก็เลย แลก msn กันเรียบโร้ยยย

ไปถึง Harbourfront ก็เดินไปขึ้น Cable car เลยค่ะ ไม่ไกลๆ บนเกาะนี้ ระบบขนส่งดีมาก Tram กับ Bus ฟรีทั้งเกาะเลยค่ะ

เราไป 2 หาด อันแรกคือ Palawan Beach ที่มาที่นี่เพราะเป็นจุดที่มีสะพานเชือก พาด ไปยังเกาะเล็กๆ (ที่เค้าสร้างขึ้นเอง จริงๆ ก็สร้างเองทั้ง Sentosa อะ) สวยดีค่ะ

เราค่อนข้างโชคดีนะ ตอนเราไป ที่หาดนั้นกำลังมีการแสดงดนตรีสด มีนักร้องผู้หญิงเสียงดี มาร้องเพลงฝรั่ง พวก If I Ain't Got You ฯลฯ ให้ฟัง แล้วเสียงเพลงมันก็ได้ยินไปทั่วทั้งหาดเลย ขนาดข้ามสะพานไปแล้ว ก็ยังได้ยิน เย็นวันนั้นเลยรูปสึกชิลมากๆๆ เลยค่ะ

ไปดูรูปดีกว่าเนอะ











หลังจากเปรมปรี กับชายหาด (ปลอม) แล้ว ก็ว่าจะไปดู Songs of the Sea เป็นการแสดงขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ เรานึกว่า โชว์นี้ดูฟรีอะ พอไปถึงคิวยาวเป็นหางพญารนาคเลย หางแถวเนี่ย ปัดแล้วปัดอีก เรากับแม่ ก็ยืนๆไปประมาณครึ่งชั่วโมง เค้าก้อเปิดให้เข้า พาเดินไปถึงทางเข้า เค้าบอกต้องซื้อตั๋ว 6 เหรียญอะ แล้วแบบ ตั๋วรอบนี้เต็มหมดแล้ว รอบหน้าก้อ 2 ทุ่มกว่า เลย ไม่ไหวล่ะค่ะ ไปดีก่า

กลับถึงโรงแรม หมดแรงค่ะ ไม่ต้องพูดถึง ... ไม่ยอมมากะทัวร์ก็เงี้ยะ แต่ยังไงก็สนุกนะ สนุกกว่าทัวร์แน่นอน

วันรุ่งขึ้น เราตั้งใจจะไปช้อปปิ้งของฝากกันค่ะ ว่าจะไป China Town + Orachard Road ตื่นเช้ามาก็ไป Orchard ก่อนเลย แต่พอไปถึงเท่านั้นล่ะ ฝนตกโครมๆ โชคดีนะ แม่เอาร่มมาด้วย แต่ยังหาห้างที่จะไปไม่เจอเลยเนี่ยดิ เลยตัดสินใจ ไปลง mrt ไป China town เลยดีกว่า ไม่ไหวละ เพราะมันตกหนักมากๆๆๆ

โผล่มาที่สถานี China town ก้อเจอศิลปะบนฝาผนังแบบนี้ค่ะ สวยดีอะ


เราเข้าห้องน้ำที่สถานี China Town ... โอ้โห ... สมกะเป็น China Town มาก เป็นห้องน้ำแบบนั่งยองๆ แถมเลอะเทอะไปหมดเลย (ส่วนนึงคงเพราะฝนตก) ไม่อยากจะเชื่อ

ถึงละๆ


มาถึงก็ไม่ได้ซื้อไรมากค่ะ มีพวกขนมไหว้พระจันทร์ พวงกุญแจ ฯลฯ ของเล็กๆน้อยๆ เสร็จแล้วก้กลับโรงแรมดีกว่า ไปไหนไม่ได้ละ เฉอะแฉะไปหมด

เราจะกลับไฟลท์ประมาณ 2 ทุ่ม แต่ด้วยความที่ว่าไม่รู้จะไปไหน ก็เลยมาถึงสนามบินตั้งแต่ 5 โมงครึ่ง พอมาถึง มองจอหาเที่ยวบินตัวเอง ......................

Flight Cancelled

โอ้ว ม่ะก้อชชช ไรวะเนี่ยยย

ไปถามที่เคาท์เตอร์ เค้าบอกให้เราไปไฟลท์ถัดไป ซึ่งคือเที่ยว 10pm เฮ้อออ แล้วนี่มันเพิ่ง 6 โมง ชั้นจะทำอะไรดีฟะ ... ในเมื่อไม่มีทางออก สองแม่ลูกก็ไปหาไรกระแทกปากแก้เซ็งดีกว่า

พอ 2 ทุ่ม เราก็ไป Check-in ที่เคาท์เตอร์บอกว่า ไฟลท์ดีเลย์ ไปอีก ครึ่งชั่วโมง ... โอเค ซึ้ง แคนเซิลยังไม่พอ ยังดีเลย์อีก ขอบคุณพระเจ้า

ไม่เป็นไร เราเข้าไปช้อปใน Duty Free ก็ด๊ายยยย คราวนี้ล่ะ เสียตังค์สมใจ

หลังจากเดินซื้อของจนเงินสิงคโปร์หมดกระเป๋า เราก็เดินหาหนมไปกิน ตอนนั่งรอหน้า Gate ที่ได้มาก็คือช็อคโกแลต อิอิอิ ตอนเซ็งๆเนี่ย มันช่วยเราได้จริงๆนะจะบอกให้

ขากลับเนี่ย ฝนตกตลอดทางจริงๆ จนถึง กทม. ประมาณเที่ยงคืน ก็ยังตกเลยอะ

ส่งท้ายด้วยรูปถนนที่เมืองเค้า ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวๆตลอดทาง กทม น่าจะ
เอาอย่างบ้างนะคะ


บรรยากาศที่ Changi Airport ดูสิ ใน Airport ยังมีต้นไม้ให้เห็นชุ่มชื่นหัวใจ ไม่ใช่มีแต่ปูนเปลือยๆ เหมือนที่ไหนก็ไม่รุ


สรุป ทริปนี้ ไปแล้วรู้สึกดีกับประเทศนี้นะคะ ด้วยความที่เค้าทำการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างจริงจังในระยะหลัง ทำให้นักท่องเที่ยวสะดวกสะบาย และยังได้รับการช่วยเหลืออย่างดีจากเจ้าหน้าที่ ในสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงคนสิงคโปร์ ที่มีน้ำใจกับนักท่องเที่ยวมากเกินคาด อย่างเรากับแม่ ยืนถ่ายรูปคู่ (ถ่ายตัวเอง) ก็ยังมีผู้ชายคนนึงมาอาสาช่วยถ่ายให้ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วยนะคะ ทำให้เรารู้สึกประทับใจคนที่นี่ในระดับนึงเลยล่ะ

มีอยู่ 2 อย่าง ที่ทำให้รู้สึกอยากกลับไทย ก็คือ อาหารค่ะ เรียกได้ว่า ไม่มีอะไรอร่อยเอาซะเลย ไม่ว่าจะอาหารจีน ไทย แขก ฝรั่ง .... น่าสงสารคนสิงคโปร์จัง วันๆ ได้กินแต่อาหารรสชาดแบบนั้น อ่อ แล้วอีกอย่าง ก็คือ บ้านเราของถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัดค่ะ ไม้จิ้มฟันกระปุกนึง 6 เหรียญอะ บ้าไปแล้ววว (เหรียญละ 23 บาท)

... ยังไงก็ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าบ้านเราอีกแล้วค่ะ ....

บอกลาสิงคโปร์ด้วยรูปแม่ลูกแอ๊บแบ๊วละกันค่ะ


เจอกันทริปหน้าค่ะ บ๊ะบายย




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2550
7 comments
Last Update : 17 ตุลาคม 2550 10:49:44 น.
Counter : 1088 Pageviews.

 

ขอตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ ฮี่ๆๆ

 

โดย: Complicatedgirl 17 ตุลาคม 2550 0:36:55 น.  

 

พักไหนกัน....

 

โดย: teenbag IP: 58.9.30.34 17 ตุลาคม 2550 11:23:57 น.  

 

Summerview Hotel ค่ะ คุณ teenbag แต่ไม่แนะนำค่ะ เพราะเดินไกลจาก mrt พอสมควร อาหารเช้าไม่อร่อย แถมพนักงาน ... เราไม่ปลื้มค่ะ

แต่พอดีตอนนั้ ที่อื่นเต็มหมดแล้วค่ะ เหลือแต่ที่นี่อะ เลยต้องพัก

 

โดย: Onengaishimasu IP: 203.107.219.234 18 ตุลาคม 2550 11:46:14 น.  

 

เพิ่งกลับมา หนุกดี อิอิ

 

โดย: byte IP: 61.91.116.253 5 พฤศจิกายน 2550 21:09:17 น.  

 

อ่าคู่แม่ลูกน่ารักจัง

 

โดย: ohho IP: 124.120.199.253 23 พฤศจิกายน 2550 0:22:14 น.  

 

น่ารักอ่ะ

 

โดย: คนมาเตรียมไปมั่ง IP: 61.19.152.98 26 มีนาคม 2551 18:28:28 น.  

 

ครอบครัวสุขสันต์ครับ

 

โดย: >> (oattao ) 24 สิงหาคม 2552 15:02:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

NobodyGotNoWhere2Go
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




For Me ... Life is a Wonderful Journey.
[Add NobodyGotNoWhere2Go's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com