เมื่อสัจธรรม คือ สิ่งที่ต้องยอมรับ
เมื่อสัจธรรม คือ สิ่งที่ต้องยอมรับ

เพื่อนของข้าพเจ้าคนหนึ่ง โทรศัพท์มาหาเมื่อตอนกลางวันที่ผ่านมาเพื่อร้องขอให้เขียนบทวิจารณ์วรรณกรรมเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาระดับปริญญาโทของเธอ ข้าพเจ้าเต็มใจที่จะทำ ทว่าเราทั้งสองคนมัวแต่ถกเถียงถึงคำว่า ‘วรรณกรรม’ ว่า แท้จริงหมายถึงหนังสือประเภทไหน เพื่อที่จะได้ดึง ‘วรรณกรรม’ เหล่านั้นมาวิจารณ์สักเรื่องหนึ่ง บังเอิญเหลือเกินที่เธอดันยกเอาหนังสือเรื่องหนึ่งขึ้นมาพูดถึง อาจเป็นเพราะระลึกขึ้นมาได้ หรือจำฝังใจมาก ด้วยว่าสมัยที่เรียนหนังสือด้วยกันนั้น เราทั้งสองมักไปห้องสมุดด้วยกันบ่อย ๆ และหนังสือเล่มนี้เป็นที่โปรดปรานของข้าพเจ้ายิ่งนัก ดังนั้น เมื่อเจ้าหล่อนถามว่า หนังสือเล่มนี้ ถือเป็นวรรณกรรมได้หรือไม่ คำตอบอยู่ตรงที่.. สุดท้ายแล้ว ข้าพเจ้าก็ต้องมานั่งวิจารณ์วรรณกรรมฉบับนี้ ‘เจ้าจันท์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน’
มาลา คำจันทร์ ผู้แต่งวรรณกรรมเรื่องนี้ เคยเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตอนที่ข้าพเจ้ารู้จักหนังสือเล่มนี้ และได้ยินประวัติของนักเขียนท่านนี้ ก็สัญญากับตัวเองว่า สักวันหนึ่งต้องหาโอกาสไปทำความรู้จักกับท่านให้จงได้ แม้ว่าจนกระทั่งปัจจุบัน ข้าพเจ้าไม่เคยพบตัวจริงของท่านเลยสักครั้งเดียว อย่างไรก็ดี บทประพันธ์ของท่านหลายเล่มล้วนผ่านสายตาของข้าพเจ้าแทบทั้งสิ้น อาทิเช่น เมืองลับแล วิถีคนกล้า เขี้ยวเสือไฟ นางถ้ำ หุบเขากินคน และสิงหะนาคะ เป็นต้น โดยเฉพาะ เขี้ยวเสือไฟ นั้น ถือเป็นเรื่องสั้นเล่มแรกในชีวิตของข้าพเจ้าที่ซื้ออ่านเอง และต้องไปอภิปรายหน้าชั้นเรียนสมัยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ส่วน หุบเขากินคน นั้น ข้าพเจ้ายืมจากห้องสมุดมาลามาศของโรงเรียนบ่อยที่สุด และลงทุนซื้อเองเมื่อตอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ เพื่อทำรายงานวิจารณ์เรื่องสั้นส่งครูภาษาไทย เมื่อเปรียบเทียบบรรดาผลงานของท่านทั้งหมดแล้ว ถือว่าเป็นสุดยอดนั้น ต้องยกให้กับ เจ้าจันท์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน นี่แหละ.. ที่งดงามที่สุด และแฝงด้วยปรัชญาหรือคติธรรมความคิดต่าง ๆ มากมาย จนได้รับรางวัลวรรณกรรมยอดเยี่ยมแห่งอาเซียนประจำปี ๒๕๓๔
จะว่าไปแล้ว โครงเรื่องของเจ้าจันท์ผมหอมนั้น ไม่ต่างอะไรกับนวนิยายไทยและเทศทั่วไป ประเภทดอกฟ้ากับหมาวัด จนนำไปสู่ความรักที่ไม่อาจสมหวังในบั้นปลาย ตัวอย่างสากลที่รู้จักกันดี ได้แก่ โรมิโอกับจูเลียต ของ วิลเลี่ยม เชคสเปียร์ กวีนิพนธ์ชาวอังกฤษ โครงเรื่องที่ไม่สลับซับซ้อน เริ่มต้นด้วยครอบครัวผู้ดีมีตระกูลทั้งสองฝ่ายไม่ถูกกัน แต่หนุ่มสาวเกิดรักใคร่ชอบพอกัน จึงกลายเป็นโศกนาฏกรรมอันละมุนด้วยบทรักหวานซึ้ง ยิ่งมีมือที่สาม กล่าวคือ ชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ยื่นหน้าเข้ามากีดกันเพื่อหวังชิงตัวหญิงสาวด้วยแล้ว ยิ่งสนุกลุ้นระทึกพิลึกพิสดารไปกันใหญ่ ช่างไม่ต่างอะไรกับ บ้านทรายทอง สักเท่าใดนัก (เพียงแต่เรื่องแรกนั้น เกิดที่เมืองอิตาลี ไม่ใช่เมืองไทย และนางเอกไม่ได้ถักเปียเช่น พจมาน สว่างวงศ์) เจ้าจันท์ผมหอมก็เช่นกัน โครงเรื่องที่ผูกง่าย ๆ ว่า เจ้าหญิงสูงศักดิ์และเจ้าชายชั้นปลายแถวเกิดรักใคร่ชอบพอกัน แต่ถูกกีดกันด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ เจ้าพ่อเจ้าแม่ และมือที่สามอย่างพ่อเลี้ยงชาวปะหล่องต่องสู่ เนื้อหาจึงเกือบหมิ่นเหม่เฉียดกรายตกราวสะพานข้ามน้ำครำอยู่รำไร ทว่า ผู้เขียนกลับเลือกใช้กลวิธีในการเล่าเรื่องแบบย้อนเวลาไปสู่เรื่องราวในอดีตเป็นจังหวะ ขณะที่เวลาปัจจุบันดำเนินไปจนเสร็จสิ้นภายใน ๑ วัน ทั้งนี้ เพื่อสร้างปูมหลังของตัวละครให้มีน้ำหนัก ไม่เลื่อนลอยหรือไร้ซึ่งที่มา ดังนั้น จุดเด่นของเรื่อง คงหนีไม่พ้น ภาษาถิ่นอันงดงาม มีกลิ่นอายขนบธรรมเนียมชาวเหนือลื่นไหลกลมกลืนไปกับบทกลอน ค่าว โคลง ต่าง ๆ ทั้งที่ยกมาประกอบหรือแต่งขึ้นมาใหม่ก็ดี ตัวอย่างเช่น
หอมเอยหอม พะยอมกลิ่นรส
หมดปลอดเกลี้ยง แก้วกลิ่นคันธา
หอมแต่เช้า มาลาบุปผา
ดวงดอกนานา ก็มาเผยเกลี้ยง
หรือที่คัดลอกมาจากวรรณกรรมสมัยเก่า เช่น นิราศหริภุญไชย ก็มี เป็นต้นว่า
อันร้อยรักฟากฟ้า ภูวดล
คืออยู่กลางทรวงหน แห่งข้า
บ่รักเฉกฉันขน ในแหว้น วักษณ์เอ่
ฤาห่อนยลแย้มหน้า นาฏเฮ้ยวัลภี
การแทรกเกร็ดประวัติศาสตร์มณฑลพายัพเข้าไปช่วยสร้างบรรยากาศให้ผู้อ่านคล้อยตามราวกับเรื่องราวที่แต่งขึ้นเป็นเรื่องจริง อาทิเช่น เกร็ดพระราชประวัติและเหตุการณ์ของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงประทับอยู่ที่พระตำหนักฝรั่งกังไส กรุงเทพมหานคร หรือพระประวัติพระนางจิระประภามหาเทวี อดีตเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้นิยายเรื่องนี้กลายเป็นผลงานที่สมควรแก่การยกย่องแห่งยุคสมัยได้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้ เทคนิคหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือ การสัมผัสของประโยคร้อยแก้ว ที่ผู้แต่งจงใจให้เป็นอย่างนั้น ภาษาที่ใช้จึงสละสลวย ระรื่น ไม่ติดขัด เช่น ..เจ้านางร่างน้อยปรากฏแล้ว ระเหิดระหงองค์แก้วดั่งนางหงส์จับคบพญาไม้ ยามยกย่างย้ายก็เสมอยูงทองย่างฟ้อนนั้นแล้ว…
เรื่องราวเริ่มต้นที่ เจ้าจันท์ ผู้เป็นราชบุตรีแห่งเจ้าพ่อผู้เป็นนัดดาแห่งอุปราชธรรมปัญโญ เมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ซึ่งตอนนั้นกลายเป็นประเทศราชของสยาม ชาวไทยใต้ (คำเรียกชาวกรุงเทพ ฯ ของชาวเหนือในสมัยนั้น) เข้ามาจัดกิจการบ้านเมืองเสียใหม่ เจ้าพ่อของเจ้าจันท์จึงถูกทอนอำนาจลง ต้องอยู่อย่างไร้เกียรติและเริ่มไร้ซึ่งทรัพย์ศฤงคาร เพราะการเก็บภาษีอากรและการคุมเศรษฐกิจท้องถิ่นนั้นล้วนแต่ตกอยู่ใต้อำนาจชาวไทยใต้ทั้งสิ้น ย้อนหลังไปในสมัยที่เจ้าจันท์ยังรุ่นอยู่นั้น ได้ไปเที่ยววัดร่ำเปิงกับบรรดาพี่ ๆ พอกลับมาถึงคุ้มก็ล้มป่วยจับไข้นอนซมไปหลายเพลา แม้จะจ้างหมอเก่ง ๆ มาช่วยรักษาอาการ ก็กลับไม่ทุเลาลง จนเริ่มที่จะหมดหวัง กระทั่งคืนหนึ่ง เจ้าแม่ของเจ้าจันท์นิมิตเห็นเทวีผู้ครองนครเชียงใหม่ในอดีต มาบอกให้เอาผมหอมไปบูชาพระธาตุอินทร์แขวน โหรทำนายฝันว่า นิมิตนั้นเป็นลางดี ด้วยประเพณีของชาวเหนือแต่โบราณกาลนั้น มักนิยมบูชาพระธาตุประจำปีเกิด (ปีนักษัตร) ของตน พระธาตุประจำปีเกิดของเจ้าจันท์ คือ พระธาตุมหาจุฬามณี บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งถือเป็นพระธาตุประจำปีจอ การจะกราบไหว้บูชานั้นลำบากนัก คนทั่วไปจึงนิยมกำหนดเอาพระธาตุอินทร์แขวนเป็นดังตัวแทนพระธาตุมหาจุฬามณี เนื่องจากมีความเชื่อว่า พระอินทร์เป็นผู้สร้างพระธาตุอินทร์แขวนนี้ขึ้น ลักษณะของพระธาตุมีสัณฐานสูงราวสองวา ประดิษฐานอยู่บนหินลูกกลมขนาดใหญ่ ซึ่งหินนี้เองก็ตั้งอยู่บนปลายหน้าผาสูงชันอีกทีหนึ่ง เมื่อแลดูแต่ไกลแล้วจะเห็นคล้ายว่าพระธาตุนั้นมีสีทองอร่ามลอยอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ เมื่อเจ้าจันท์ตั้งจิตอธิษฐานจะเลี้ยงผมหอมบูชาพระธาตุเจ้า ก็กกลับหายจากโรคที่เป็นอยู่อย่างปลิดทิ้ง
เจ้าจันท์เองนั้นรักกันอยู่กับเจ้าหล้าอินทะ ซึ่งเป็นเจ้านายที่จัดอยู่ในชั้นปลายแถว เจ้าหล้าอินทะทำงานให้กับบริษัทไม้ของฝรั่ง ทำให้เจ้าพ่อของเจ้าจันท์กริ้วและไม่โปรดที่เจ้าชายไปสนับสนุนพวกตะวันตกและชาวไทยใต้ เป็นการลดทอนศักดิ์ศรีของตัวเองในฐานะเจ้านายฝ่ายเหนือลง ในช่วงเวลานั้นเองที่พ่อเลี้ยงชาวปะหล่องต่องสู่ผู้หนึ่งได้เข้ามาค้าขายในจังหวัดเชียงใหม่และเริ่มสนิทสนมกับเจ้าพ่อของเจ้าจันท์ พ่อเลี้ยงพึงใจในความงามของเจ้าจันท์ยิ่งนัก ถึงกับเอ่ยปากสู่ขอ ซึ่งเจ้าพ่อเองก็ยกให้โดยดี เพราะเห็นว่าพ่อเลี้ยงมีทรัพย์สินมั่งคั่ง จะสามารถเลี้ยงดูเจ้าจันท์ให้อยู่อย่างสุขสบายได้ไปตลอด เจ้าจันท์เองก็กลับบ่ายเบี่ยงว่า เธอตั้งจิตอธิษฐานว่าจะบูชาผมหอมถวายแด่พระธาตุอินทร์แขวน และตั้งจิตเสี่ยงทายเอาผมหอมปูลอดพระธาตุ ถ้าลอดได้ เธฮจะได้สุขสมหวังกับเจ้าหล้าอินทะ ถ้าลอดไม่ได้ เธอจะแต่งงานกับพ่อเลี้ยง เมื่อถึงกำหนดเวลาเดินทาง พ่อเลี้ยงจึงอาสาพาเจ้าจันท์ออกเดินทางจาริกไปยังพระธาตุอินทร์แขวน
มาลา คำจันทร์ ได้แต่งบทประพันธ์เล่าเรื่องราวเฉพาะช่วงวันสุดท้ายก่อนที่เจ้าจันท์เดินทางไปถึงพระธาตุอินทร์แขวน แต่ตัดสลับไปมาถึงความเป็นมาในอดีตได้อย่างกลมกลืน นับเป็นกลวิธีในการดำเนินเนื้อเรื่องอย่างหนึ่ง เหตุการณ์ช่วงวันสุดท้ายที่เจ้าจันท์เดินทางนั้น พ่อเลี้ยงต้องต่อสู้กับพวกข่าว้าซึ่งเป็นโจรดักปล้นสดมภ์ตามรายทางจนตัวเองบาดเจ็บ จนกระทั่งเมื่อเดินทางมาถึงยังพระธาตุ ตัวเจ้าจันท์กลับต้องพบกับความผิดหวัง เพราะพระธาตุที่เห็นแต่ไกลว่า เป็นสีทองอร่ามอลังการอยู่กลางฟ้านั้น แท้จริงกลับหม่นหมองคร่ำครึ จวนเจียนจะพังมิพังแหล่ ครั้นเจ้าจันท์ปูผมหอมลอดใต้หินประดิษฐานพระธาตุองค์นั้นไม่สำเร็จ ยิ่งกลับทำให้เธอสิ้นสมประดีไป จนสุดท้าย เจ้าจันท์ต้องทนกล้ำกลืนรับสัจจาธิษฐานที่เธอตั้งจิตน้อมไว้แต่แรกว่า หากปูลอดผมหอมไม่สำเร็จ เธอต้องแต่งงานกับพ่อเลี้ยง
ประเด็นเกี่ยวกับการปูผมหอมลอดนี้ เป็นเรื่องคาใจของข้าพเจ้ามาตั้งแต่ต้น ความรู้สึกแรกเมื่ออ่านจบคือ เมื่อพิจารณาจากความเป็นจริงแล้ว กลับมีคำถามเกิดขึ้นว่า.. เราจะปูผมหอมลอดผ่านช่องว่างระหว่างหน้าผากับหินก้อนหนักกว่าสิบตันได้อย่างไร เจ้าจันท์เองย่อมรู้เรื่องนี้ดี แต่ผู้แต่งยังเขียนให้ตัวเอกตั้งจิตอธิษฐานอย่างแน่วแน่ที่จะเสี่ยงทายชนิดที่ว่าเอาเดิมพันเรื่องคู่ครองของชีวิตเข้าแลก แรงบันดาลใจอย่างเดียวของเจ้าจันท์ คือ ศรัทธา หรือตรงกับภาษาอังกฤษที่ว่า Believe สิ่งที่เจ้าจันท์ปักใจเชื่อมาตลอด ได้แก่ พระธาตุอินทร์แขวนซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของเธอเอง เธอยอมเอาชีวิตเป็นเดิมพันเพียงเพราะความศรัทธาอย่างล้นหลามเต็มเปี่ยม จากมูลเหตุที่ไม่ว่าจะด้วยอิทธิฤทธิ์ของพระธาตุหรือหยูกยาใด ๆ ก็แล้วแต่ ช่วยเยียวยาอาการเจ็บป่วยปางตายของเจ้าจันท์ให้คืนชีวิตสดใสกลับมาครั้งหนึ่งได้ ดังนั้น อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ย่อมต้องเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งเป็นแน่ เช่นเดียวกับในนวนิยายเรื่อง รหัสลับดาวินชี (The Da Vinci Code) ตอนที่บาทหลวงอริงกา โรซ่านอนพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล ภายหลังโดนสิลาสยิงจนได้รับบาดเจ็บ ร้อยเอกเบซู ฟาสต์มาหาคุณพ่อ ประโยคหนึ่งที่คุณพ่อเทศนาแก่กัปตัน คือ ขอจงมีศรัทธา พลังศรัทธาเท่านั้นจะสามารถทำอะไรได้ตั้งมากมาย
เจ้าจันท์ผู้อ่อนต่อโลก เธอไม่เคยเดินทางไปไหนไกล ๆ การจาริกไปบูชาพระธาตุครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอ เจ้าจันท์รับรู้เรื่องราวของโลกภายนอกผ่านทางคำบอกเล่าของเจ้าพ่อเจ้าแม่ พี่ชาย นางพี่เลี้ยง หนังสือตำรา หรือค่าวร่ำโคลงกลอนของกวีต่าง ๆ ดังนั้นโลกของเจ้าจันท์จึงเป็นโลกในอุดมคติ พลังศรัทธาที่เธอมี จึงเป็นแรงผลักดันที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานอุดมคติเหล่านั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากสิ่งที่แท้จริง สัมผัสได้ และมีตัวตน เจ้าจันท์รู้จักพระธาตุอินทร์แขวนจากสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่เคยมีใครบอกเธอมาก่อนว่า พระธาตุจริง ๆ เป็นเช่นไร แม้กระทั่งในวันสุดท้ายที่เดินทาง เจ้าจันท์ก็ยังมีมโนภาพว่าพระธาตุมีสีทองอร่ามไปทั้งองค์ลอยเด่นอยู่บนฟ้า งามสมคำเล่าลือของประชาชนทั่วไปที่เคยได้พบเห็น มาลา คำจันทร์ จึงหักมุมให้ตัวเอกของเรื่องผู้มีศรัทธาอันแรงกล้าต้องพบกับอุปสรรคครั้งใหญ่ในชีวิต นั่นคือ สัจธรรม
สัจธรรม หมายถึง ความจริงทั้งหลายทั้งปวงในโลกนี้ ล้วนเป็นคู่ขนานที่สำคัญของพลังศรัทธา เราเลือกที่จะเชื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วเราต้องยอมรับในสิ่งที่ไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นคือ ความจริง.. เพราะฉะนั้นพลังศรัทธาจึงเป็นสิ่งที่ต้องใช้อย่างพิจารณา พินิจพิเคราะห์ถึงเหตุและผล ศรัทธาที่ถูกต้องและส่งเสริมไปในทางที่ถูกที่ควร ย่อมต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความจริง ผลที่ได้รับ ก็จะสมเหตุสมผลและประสบความสำเร็จตามอัตภาพ เจ้าจันท์เป็นตัวแทนการเผชิญหน้ากันระหว่างศรัทธากับความจริง ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคมของเรา การยึดติดกับอุดมคติ เพ้อฝัน แต่ทึกทักเอาว่าเป็นเรื่องของศรัทธา นั่นไม่ใช่ศรัทธาที่แท้จริง ทว่า.. คือความงมงายต่างหาก เจ้าจันท์เลือกที่จะเสี่ยงทายปูผมหอมลอดพระธาตุ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า มันไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เธอรู้ดีว่า ความเป็นไปไม่ได้นั้นย่อมหมายถึงการแต่งงานกับพ่อเลี้ยง เพียงแต่เธอเลือกเอาศรัทธาเป็นที่ตั้ง และพยายามประวิงเวลาออกไป ผลสุดท้าย คนเราก็หนีซึ่งสัจธรรมไม่พ้นอยู่ดี
สงครามที่เกิดขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากศรัทธาและสัจธรรม ยังมีอยู่ให้เห็นจนทุกวันนี้ เนื่องจากมนุษย์เรายังหลงใหลในสิ่งที่มองไม่เห็น หนึ่งในนั้น คือ อำนาจ ซึ่งเป็นสิ่งที่รบเร้าอยู่ในจิตใจของผู้ทะเยอทะยานตลอดเวลา ข้าพเจ้าตั้งความหวังไว้ว่า หากมนุษย์เราใฝ่หาสัจธรรมและอยู่กับมัน ตั้งมั่นศรัทธาถึงโลกอันสงบสุขและเปี่ยมด้วยสันติภาพ แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้น มนุษย์เราคงต้องยอมรับความจริงที่ว่า สิ่งที่ข้าพเจ้าตั้งความหวังไว้ คงยากที่จะเกิดขึ้น

ภ. ม. ภาคิโน
บ้านศรีบุญยืน
๘ ส.ค. ๔๙



Create Date : 03 กันยายน 2551
Last Update : 3 กันยายน 2551 19:17:59 น.
Counter : 2621 Pageviews.

2 comments
  
งง
โดย: ซาโระ IP: 117.47.184.205 วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:22:28:14 น.
  
ขอบคุณเน้อ ที่มาแบ่งปันความคิดเห็นดีๆ
โดย: - - IP: 222.123.124.249 วันที่: 15 สิงหาคม 2553 เวลา:12:59:21 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

PeeEm
Location :
ลำพูน  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สวัสดีครับ ผมชื่อ ภาคิน มณีกุล ครับ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ บริษัท ลานนาโปรดักส์ จำกัด เป็นบริษัทผลิตวาซาบิรายใหญ่ของประเทศ งานอดิเรกของผม นอกจากส่วนใหญ่จะเล่นกีฬา คือ ปั่นจักรยานและเล่นแบดมินตัน อ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์และชอบเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อถ่ายรูปหรือพักผ่อนแล้ว ผมยังชอบเขียนบทความ เรื่องสั้น และนวนิยายอีกด้วยครับ

เพื่อน ๆ คนไหนเข้ามาอ่านก็สามารถติชมได้นะครับ ขอบคุณครับ
New Comments
กันยายน 2551

 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30