Group Blog
มิถุนายน 2552

 
5
9
11
12
13
22
27
29
30
 
 
All Blog
“โอ วรุฒ” รับแล้ว เมียท้องแก่คลอดเดือนหน้า ได้ลูกชาย เผย ไม่แต่งแต่จะจดทะเบียน
โอ” เผย มีภรรยาแล้ว ท้องแก่คลอดเดือนหน้า บอก อัลตร้าซาวน์ดูได้ลูกชาย ตั้งชื่อ “แอร์บัส” ที่ผ่านมาไม่ได้ตั้งใจปกปิด แต่ภรรยาเป็นคนไม่ชอบออกสังคม ลั่น แม้อายุห่างกันถึง 17 ปี แต่ไม่เป็นอุปสรรค เจ้าตัวเผย ตั้งใจจะจดทะเบียนสมรสหลังลูกคลอด แต่คงไม่จัดงานแต่งงาน เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ส่วนภรรยาก็เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี

หลังมีข่าวลือสะพัด ว่า พิธีกรและอดีตพระเอกชื่อดัง “โอ วรุฒ วรธรรม” ควงสาวไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ล่าสุดหนุ่มโอ ก็ได้ออกมายอมรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่า สาวนิรนามคนนั้นเป็นภรรยาของตน ที่อยู่กินกันมา 2 ปีกว่า และกำลังตั้งครรภ์ ซึ่งมีกำหนดคลอดภายในเดือน ก.ค.ที่จะถึงนี้ แจง ที่ผ่านมาไม่ได้ตั้งใจปกปิด เพียงแต่ภรรยาเป็นคนเงียบๆ ไม่ชอบออกสังคม บอก ที่ไม่ได้จัดพิธีแต่งงานเพราะพิษเศรษฐกิจ แต่ตั้งใจจะจดทะเบียนสมรสหลังภรรยาคลอด

“เขาเป็นภรรยาผมเอง จริงๆ ก็คือชื่อ น้องเก๋ น.ส.เจษฏาวัล จันทร์แตง แล้วก็ไม่ใช่คนเชียงใหม่ เป็นคนเพชรบูรณ์ แล้วก็จะคลอดเดือนหน้านี้แล้ว ที่โรงพยาบาลสินแพทย์ กำหนดคลอดคือวันที่ 7-17 ก.ค. แต่ยังไม่รู้แน่ชัดแน่นอนว่าวันไหน ต้องรออัลตร้าซาวน์อีกครั้งวันที่ 3 ทารกแก่แล้ว อาจจะผ่าได้วันที่ 10 หรือ 11 ก.ค. แต่ถ้ารกยังไม่แก่ ก็คงต้องเลยออกไปอีกนิดนึง ไปอัลตร้าซาวน์มาแล้ว ได้ลูกชายตั้งชื่อไว้เรียบร้อยแล้วด้วย ก็คือชื่อน้องแอร์บัส เพราะส่วนตัวพ่อมันบ้าเครื่องบิน ลูกก็เลยเป็นเครื่องบินหมด”

“จริงๆ แล้วก็คือคบกันมาตั้งนานแล้ว แต่ว่าไม่ได้แต่ง แล้วเราก็อยู่ด้วยกันมานานแล้ว ตัวเขาเองก็ไม่ค่อยได้ชอบที่จะออกไปไหน ก็จะไม่ค่อยมีใครรู้ แล้วที่ไม่อยากจะแต่งเพราะว่าสังคมปัจจุบันนี้เศรษฐกิจมันอย่างนี้ เราก็ไม่อยากเอาเงิน 3-4 ล้าน มาตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ถ้าพูดตรงๆ นะ เสีย 3 ล้านทุกวันนี้ถ้าแต่งไม่คุ้ม แขกมางาน ทุกวันนี้ใส่คนละร้อยสองร้อย เสีย 3 ล้าน ตายเลย ไหนจะต้องมาเลี้ยงนักข่าวอีก ทางบ้านเราทั้งสองฝ่ายก็ทราบกันดีครับ ตอนนี้แม่เขาก็อยู่ที่บ้านผม เราก็อยู่ด้วยกัน ด้านเขาเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเรื่องตรงนี้”

“กับคนนี้ประมาณ 2 ปีกว่าๆ แฟนผมที่ผ่านมาก็เป็นนักศึกษาด้วยกันทั้งนั้น แต่คนนี้ตอนที่รู้จักกันเขาไม่ได้เป็นนักศึกษาแล้ว เขาเพิ่งจบ แล้วก็เพิ่งมาทำงานที่รพ.เวชธานี แล้วเราตอนนั้นก็เข้าโรงพยาบาลบ่อย ก็เลยได้เจอกัน อายุก็ห่างกันประมาณ 17 ปี ปีนี้ผม 39 ปี แฟนผม 23 ปี แต่จริงๆ เดือนหน้าผมก็จะ 40 แล้วนะ”

“ในความคิดผม ไม่ว่าจะใครก็แล้ว แต่เรื่องของอายุไม่เป็นปัญหาหรอก เพียงแต่ว่าบุคลิกของใครเป็นยังไง คือบุคลิกเราเป็นคนเที่ยวคนสนุกคนร่าเริง แต่ภรรยาผมจะเป็นคนที่ชอบอยู่นิ่งๆ เขาเหมือนกระปุกออมสินเอาไปวางไว้ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น รักสวยรักงาม ไม่ค่อยคุยไม่ค่อยเที่ยว ไม่เคี่ยว ก็เลยชอบเขาเพราะเราไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่ง เขาก็ไม่ยุ่ง”

“ที่เลือกเขามาเป็นภรรยา หนึ่งก็คือเราชอบเขา หนแรกที่เราเจอ คือเขาสวยมาก่อนเลย แต่เสียดายที่เตี้ย แล้วบุคลิกเขาดูนิ่งๆ ดูเหมือนจะดุแล้วเหมือนจะคุมเราได้ แต่พอสุดท้ายแล้วก็คุมไม่ได้หรอก แต่ว่าเขาไม่ยุ่ง คือถ้าผู้หญิงนิ่งผู้ชายก็จะเกรงใจ อย่างที่โบราณว่าความนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว พอเขานิ่งมันจะทำให้เราเกรงไปเอง เขาก็ไม่ต้องพูดอะไรหรอก เราจะไปไหนก็ไป กลับกี่โมงเขาก็บอกว่ากลับแล้วเหรอ จะไปแล้วเหรอ”

เผย ไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นที่จะมีกำลังลูกคนแรกเท่าไหร่ เพราะเคยผ่านการเลี้ยงลูกของเพื่อนมาแล้ว แต่กับครอบครัวจะตื่นเต้นกันเป็นพิเศษ เพราะเป็นหลายชายคนแรกของตระกูล
“ไม่ค่อยตื่นเต้นหรอกนะ แต่ของซื้อครบหมดแล้ว(หัวเราะ) โชคดีว่าข้างบ้านที่อยู่ติดกับเรา เขามีลูกแฝดชื่อน่านฟ้ากับน่านน้ำ แล้วเราก็เลี้ยงเขามาตั้งแต่แบเบาะเหมือนกัน ก็เหมือนกับว่าเราได้มีแบบฝึกหัดมาแล้ว เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่ค่อยจะรู้สึกตื่นเต้นกับตรงนี้สักเท่าไหร่ เพราะเราเลี้ยงน่านฟ้ากับน่านน้ำมาตลอดเวลา ก็เลยจะได้ฝึกการอุ้มการเปลี่ยนผ้าอ้อม เราเคยทำมาแล้วตลอด”

“ครอบครัวผมเขาค่อนข้างที่จะตื่นเต้นกัน เพราะเป็นหลานคนแรกของตระกูลวรธรรมเลย ทางบ้านเขาก็เลยค่อนข้างที่จะเห่อ ทางเหนือตอนนี้ตั้งขบวนรอแล้ว เพราะจะคลอดเดือนหน้า”

“ก็คิดว่าออกมาแล้ว คงน่ารักมากเลยเพราะว่าคุณหมอเองก็บอกเลย ว่าไม่เคยเห็นทารกคนไหนจมูกโด่งขนาดนี้มาก่อน จมูกโด่งมาก แล้วที่เราดูในที่อัลตร้าซาวน์เขาก็จมูกโด่งจริงๆ น่าจะถอดพิมพ์ผมมาเลย ขอให้ได้สูงจากผมเพราะว่าแฟนผมเตี้ย คุณแม่เขาเองจริงๆ ก็สวยอยู่นะ ขอให้ได้ผิวกับหน้าคุณแม่ของเขา คิดว่าถ้าได้เห็นเป็นตัวเป็นๆ จริงๆ คงจะเห่อมากกว่านี้”

บอก เมื่อคลอดลูกแล้วจะเตรียมจดทะเบียนสมรสทันที แต่คงยังไม่มีการจัดงานพิธีต่างๆ หากเศรษฐกิจยังเป็นแบบนี้
“คงยังไม่มีพิธีอะไร รอให้เศรษฐกิจมันดีๆ กว่านี้ สมมุติวันนึงถ้าเรามีงานมงคลแล้วอยากให้ทุกคนมาด้วยความเป็นมงคล มาด้วยความแจ่มใสร่าเริง มาด้วยความที่ไม่ต้องคิดว่าฉันต้องไปงานนี้นะ เพื่อว่าในอนาคตฉันแต่งคนนี้ต้องมางานฉัน ไม่อยากให้คนคิดแบบนั้น แต่เดี๋ยวถ้าลูกคลอดคิดว่าจะจดทะเบียนนะ”

รับ แม้จะมีลูกแล้วแต่ก็จะไม่ทิ้งลายเสือ ยืนยันแฟนสาวเข้าใจ
“คงไม่หมดลายหรอก เสืออย่าไปหมดลาย ถ้าเสือมันหมดลายมันก็จะกลายเป็นแมวถูกรถทับ เสือมันก็ต้องมีลายไว้บ้าง เพราะว่าเราเคยมีลาย เคยมีเล็บ แล้วอยู่ดีๆ ไม่มีลายไม่มีเล็บ ผมว่าชีวิตมันก็จะเปลี่ยนไปนะ สมมุติว่าไม่มีลายไม่มีเล็บ ทำงานเสร็จกลับบ้าน กลับมาอยู่กับลูกกับเมีย ชีวิตผมว่ารสชาติมันหาย รสชาติมันหมด ผมมองว่ามันต้องมีบ้าง ไม่งั้นตอนที่เราคบกันใหม่ๆ เราก็มีอย่างนี้ เราก็เป็นแบบนี้ แล้วอยู่ดีๆ พอมีลูกมีอะไรกันแล้ว กลับมาเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด ผมว่ามันก็จะเปลี่ยนไป ชีวิตมันก็จะเปลี่ยนไป”

“แต่ก็ไม่แน่ พอได้เห็นหน้าลูกจริงๆ แล้วก็อาจจะเปลี่ยนไป แต่ยังไงก็คงต้องกลับไปหาลูก เพราะว่าอย่างพ่อของน่านฟ้าน่าน้ำก็คือเพื่อนสนิทผมจริงๆ แล้วก็เที่ยวกันมา แล้วคนนี้ไม่ใช่เสือธรรมดาด้วย เสือเบนกอ เสือชีต้าอย่างนี้เลย พอเขามีลูกปุ๊บเขาก็ออกไปทำงาน 8 โมง บ่ายโมงมันกลับบ้านแล้ว เราก็แปลกใจว่ามันกลับมาทำไม เพราะปกตินู่นกลับ 4-5 ทุ่ม นี่เปลี่ยนไปบ่ายโมงกลับบ้านแล้วกลับมาหาลูก พอ 4-5 โมงเย็นกลับออกไปใหม่ไปหาลูกค้า แต่ก็ไม่รู้ว่ามันไปหาลูกค้าจริงรึเปล่า”

“ภรรยาผมรับได้กับตรงนี้นะ แต่ก็ค่อนข้างที่จะอ่อนไหวบ้างนิดหน่อย คือไม่ได้อ่อนไหวกับพฤติกรรมของเรา แต่เขาอ่อนไหวเรื่องจู้จี้จุกจิก บางครั้งเราว่าอะไรแรงๆ นิดๆ หน่อยๆ ก็จะมีอารมณ์งอน น้อยใจ เพราะผมเป็นผู้ชายที่ขี้บ่น คืออยู่บ้านใครจะมาวางอะไรเกะกะไม่ได้ เราก็จะบ่น บางทีเขากินข้าว แล้วไม่เก็บเก้าอี้เข้าไปไว้ที่ก็จะบ่น อยู่ตรงไหนของบ้านก็แล้วแต่ ผมก็จะต้องไปเรียกเขามาเก็บเก้าอี้เข้าไป คือดูเหมือนผมเป็นคนไม่เนี๊ยบนะ แต่ถ้าที่บ้านไม่ได้เลย รีโมตต่างๆ ต้องเรียงเป็นแถว อย่าได้หยิบออกไปจากแถวของมัน โดยเด็ดขาด”


ที่มา //www.manager.co.th



Create Date : 18 มิถุนายน 2552
Last Update : 18 มิถุนายน 2552 20:31:51 น.
Counter : 940 Pageviews.

0 comments

Mimi-jaiko
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]