Group Blog
มิถุนายน 2552

 
5
9
11
12
13
22
27
29
30
 
 
All Blog
7 วันหลังถูกด่าลวงโลก ! “อุ้ม คานส์” เครียดหนักเมาปลิ้น เปิดใจถึงความผิดพลาดหมดเปลือก #1
woman


“อุ้ม” ยังเครียดโดนตั้งกระทู้ด่า เผยเคยด่าคนอื่นไว้เข้าใจแล้วรู้สึกอย่างไร ชีวิตเปลี่ยนไปไหนมีแต่คนมอง บอกเข้ามาว่าเลยดีกว่าจะได้อธิบายให้ฟัง กลุ้มใจนอนไม่หลับต้องออกไปกินเหล้า เผยสุดอึดอัด “วิศาล” ยกเป็นสปีลเบิร์กเมืองไทย ขอโทษทำหลายฝ่ายเสียหาย เปิดปูมทำไมภาษาไทยไม่แข็งแรง

หลังจาก "อุ้ม พรภัชญา สุพรรณรัตน์" นักเรียนสาวไทยในอเมริกา และว่าที่ผู้กำกับค่ายสหมงคลฟิล์ม ตัดสินใจออกมาแถลงข่าวชี้แจงกรณีแหกตาสื่อคว้า 2 รางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์ "คานส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล 2009" ที่ประเทศฝรั่งเศสว่า เป็นความผิดพลาดทางการสื่อสาร แต่ก็ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะยังไม่จบแค่นั้น กระแสสังคมยังไม่ยุติเรื่องนี้ง่ายๆ ล่าสุดเจ้าตัวออกไปไหนมาไหนก็เจอกับสายตาและเสียงซุบซิบนินทา จนทำให้เครียดจัดนอนไม่หลับ ต้องหันไปพึ่งเหล้าเพื่อให้นอนหลับ โดยในวันนี้อุ้มขอเปิดใจอย่างหมดเปลือก ถึงเรื่องราวความผิดพลาดทั้งหมด รวมไปถึงที่มาที่ไปของภาษาไทยไม่แข็งแรง ที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วบ้านทั่วเมือง

“ตอนนี้ก็ยังเครียดอยู่ แต่ก็ผ่อนคลายลงไปบ้างตรงที่มีโอกาสได้ทำความเข้าใจและมีโอกาสได้ขอโทษอย่างที่อยากขอโทษ แต่ส่วนตัวยังเครียดอยู่เพราะวันก่อนก็ตามข่าวตัวเองเปิดออนไลน์ อ่านแล้วร้องไห้เลยอุ้มเสียใจมาก ตัวอุ้มเองไม่ได้มีความคิดหรือพยายามจะสร้างอะไรขึ้นมาเลย โดยส่วนตัวแล้วอุ้มกลัวของพวกนี้ด้วย เพราะก็เคยโพสต์ว่าคนอื่นเหมือนกัน แต่วันนี้เข้าใจแล้วว่าเขารู้สึกยังไง และคิดอยู่ว่าจะทำยังไงให้เขาเข้าใจเรามากขึ้น”

“พอแถลงข่าวไปแล้วก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาจะเข้าใจหรือเปล่า เพราะว่าอันนี้ต้องแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนว่าเขาจะมองยังไง ก็เป็นไปได้ว่าการออกมาให้สัมภาษณ์อาจจะเหมือนออกมาแก้ตัวเพิ่มก็ได้ ซึ่งอุ้มไม่มีอะไรจะแก้ตัวและพูดจากใจจริงว่าอุ้มเสียใจมาก เป็นความผิดพลาดของอุ้มเอง ไม่ใช่จากสื่อ ไม่ใช่จากใคร เป็นอุ้มเองคนเดียวทำให้สื่อออกมาผิด”

“ทุกวันนี้ไปไหนก็มีฟีดแบคกลับมาบ้าง ไปตามที่สาธารณะไม่ค่อยจะสะดวก บางคนก็เข้ามาถาม บางคนก็มอง แต่ถ้าใครเข้ามาคุยอุ้มก็อธิบายหมดเลยพยายามชี้แจงว่า โอเคสื่อออกมาแบบนี้นะเพราะความผิดอุ้มนะไม่ใช่เพราะสื่อ เพราะอุ้มสื่อสารไม่ระวังก็เลยออกมาเป็นแบบนี้”

“ตอนนี้ก็คงต้องทำใจเพราะภาพติดลบไปแล้ว โดยประสบการณ์แล้วอุ้มคิดว่าเรื่องลบมันติดนานกว่าเรื่องบวก ก็คงจะทำอะไรไม่ได้ ถามว่าเสียใจไหมก็เสียใจ แต่ถ้ามีโอกาสทางการทำงานก็จะทำให้ดีที่สุด ก็ต้องรอดูค่ะ”

“ความจริงแล้วสื่อแรกที่มาสัมภาษณ์อุ้ม ก่อนหน้านี้เขาเคยมาสัมภาษณ์อุ้มแล้วแต่เป็นเรื่องเยาวชน พอเขามาสัมภาษณ์อีกอุ้มก็ยิ่งไม่ระวังใหญ่เลย บวกกับความตื่นเต้นก็ยิ่งทำให้ไม่ระวัง ตอนแรกนึกว่าเขาจะลงเป็นคอลัมน์เล็กๆ เหมือนติดตามผลงานว่าอุ้มถ่ายอะไรไปบ้างแล้ว เราก็เลยไม่ค่อยระวัง พอมันมีอะไรที่ดีใจก็เลยพูดออกมาหมด ทำให้เกิดความผิดพลาดทางการสื่อสาร”

“หลังจากวันแรกที่ออกมาให้สัมภาษณ์ คุณปรัชญา(ปรัชญา ปิ่นแก้ว) ได้มาท้วงว่าระวังคนจะเข้าใจผิดนะ อุ้มก็ยังงงๆ อยู่ หลังจากนั้นเขาก็ให้อุ้มไปเชคดูว่ามันเป็นรางวัลหรือเปล่า ซึ่งมันก็ไม่มีรางวัล(เราเข้าใจผิดว่าเป็นรางวัล) คือตัวอุ้มเองเดี๋ยวนี้เวลาใครส่งอีเมลล์มา CONGRATULATION คือเวลาที่อุ้มได้ CERTIFICATE มา CERTIFICATE จะมาหลังจากที่ได้ CONGRATULATION ทางอีเมลล์”

หลังจากนั่งฟัง “อุ้ม” พูดมานาน พอถึงตรงนี้ “ปรัชญา” ก็ขอพูดเสริมเพื่อให้เกิดความเข้าใจแจ่มชัดขึ้น
“คือต้องอธิบายขั้นต้นนิดหนึ่งว่า ก่อนหน้าที่จะไปคานส์ ตั้งแต่หนังสั้นเรื่องแรกอุ้มส่งไปหลายเทศกาลมากๆ ทั้งใหญ่ทั้งเล็กไปเยอะมากส่งเสียตังค์ด้วย จนหมดเงินไป 7 – 8 หมื่นบาท ซึ่งเขาไม่ไหวแล้วเงินจะหมด สุดท้ายก็มาส่งทีคานส์ แต่คราวนี้ทุกเทศกาลมันก็จะมีอะไรที่คล้ายๆ กัน คือหนังฉายโชว์ซึ่งต้องคัดเลือก กับหนังประกวดซึ่งต้องมีการแข่งขัน แต่ในขั้นต้นไม่ว่าจะฉายโชว์หรือเข้าประกวด มันต้องการส่งไปให้คัดเลือก”

“ซึ่งหนังที่อุ้มส่งไปเทศกาลต่างๆ ก่อนทื่จะถึงคานส์ แต่ละเทศกาลก็มีการตอบอีเมลล์กลับมาโดยเจ้าหน้าที่ของเทศกาล พอดูเสร็จก็มี CONGRATULATION มีคำชมเข้ามา สุดท้ายก็บอกว่าเราเลือกยูนะ เขาก็ได้ๆ ตรงนี้มาตลอดจนเขาเริ่มชินกับตรงนี้ และบางเทศกาลก็จะมีใบประกาศให้ เขาจะถามว่าจะไปรับไหมหรือไม่รับ เขาจะส่งกลับมาให้ก็ได้ แต่อุ้มก็ไปรับที่ลาสเวกัส ส่วนที่แคนาดาตอนแรกว่าจะไปแต่ก็ผิดพลาดไปไม่ได้ สุดท้ายก็เลยโทรไปขอร้องให้เขาส่งมาให้ เขาก็เลยส่งมาให้”

“คราวนี้กลับมาถึงคานส์ คาแร็กเตอร์ของคานส์เป็นเทศกาลที่ใหญ่มากๆ และมีเซคชั่น เยอะมากๆ ผมเชื่อว่าเวลาที่อุ้มเชคดูให้เน็ต เขาก็คงเชคว่า เซคชั่นไหนที่พอจะไปได้ ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่เขาไป SHOPPING CORNER ได้ ซึ่งผมเชื่อว่าเขาไม่รู้หรอกว่าใน SHOPPING CORNER รายละเอียดมันต่างกันยังไง เขาคงไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นโต๊ะที่ต้องนั่งดู เพราะว่าไอ้หนังสั้นแต่ละเทศกาลมันต้องฉายในโรงหนัง ฉายจอเล็กๆ หรืออย่างน้อยก็โปรเจกเตอร์ แต่บังเอิญที่คานส์มันมีส่วนย่อยๆ เยอะ และใน SHOPPING CORNER มันอยู่ในส่วนของตลาดก็เปิดโอกาสให้คนดูเข้ามาวิจารณ์”

“คราวนี้พอเมลล์มาจากคานส์ที่ส่งมาโดย SHOPPING CORNER มันไปละหม้ายคล้ายคลึงกับเมลล์ที่อุ้มเคยได้จากเทศกาลอื่นๆ ซึ่งคอมเม้นท์จาก SHOPPING CORNER ที่เปิดให้คนทั่วไปดูและคอมเม้นท์ออกมาแต่รวบรวมโดยเจ้าหน้าที่ และเขาจะตัดดีเทลออกว่าใครเป็นคนคอมเม้นท์ และสุดท้ายก็ลงท้ายด้วย CONGRATULATION ซึ่งเป็นไปได้ที่น้องจะเข้าใจผิด”

ด้าน “อุ้ม” ก็สารภาพว่ามีความรู้เกี่ยวกับเทศกาลหนังค่อนข้างน้อย
“มันมีอีกเรื่องหนึ่ง คือมีคนสงสัยว่า ทำไมความรู้น้อยจังส่งหนังไปตามเทศกาลทำไมไม่รู้ว่าแต่ละเทศกาลเขาทำยังไงบ้าง ซึ่งตัวอุ้มเองก็ยอมรับว่าไม่เคยติดตามว่าแต่ละเทศกาลเขาทำอะไรบ้าง อุ้มสนใจแค่ว่าหนังสั้นเราไปที่ไหนได้บ้าง และตามที่อุ้มเคยส่งไปทั้งหมด หนังสั้นที่อุ้มเคยส่งไปจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสมัครเข้าไป และมีคำถามมาว่า ดูไม่ออกเลยเหรอว่าที่คานส์จ่ายตังค์เข้าไปหนังก็โชว์ได้ อุ้มไม่ได้คิดตรงนั้นเลย เพราะเวลาส่งก็จะต้องจ่ายตังค์ค่าสมัครตลอด”

ถึงแม้ว่า “อุ้ม” จะแถลงข่าวเคลียร์ตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องเหล่านี้ก็ยังจะติดตัวต่อไปอีกนาน พร้อมกับสายคนทั่วไปที่อาจจะมองด้วยความสงสัยว่า “ลวงโลก” หรือเปล่า
“อุ้มทำใจว่าคงจะโดนเรื่องแบบนี้เร็วๆ นี้ เพราะตอนนี้ก็มีการเขียนข่าวออกมาแบบนี้เยอะแล้ว อุ้มก็คงโดนด่าเยอะ ก็เห็นมีการโพสต์รูปอุ้มไปหลายที่แล้ว คิดว่าคงจะจำหน้ากันได้แล้ว สภาพจิตใจของอุ้มตอนนี้ไม่ค่อยดี อุ้มไม่ค่อยได้นอน แล้วก็ไม่ค่อยมีความสุข ใช้การกินเหล้าช่วย ออกไปไหนคนก็จำได้แล้ว”

“อุ้มเครียดมาก เครียดตรงที่เหมือนกับอยากจะให้บอกว่า อุ้มเป็นคนโกหก ตรงนี้เครียดมากเครียดจนร้องไห้ อุ้มไม่กล้าโกหกกับของแบบนี้หรอก คานส์เป็นเทศกาลที่ใหญ่มาก ไม่มีใครจะมาโกหกเรื่องนี้แล้วจะหลุด ข่าวสารทุกวันนี้มันเชคได้ทุกอย่าง อุ้มรู้สึกอึดอัดและก็รู้สึกผิดตรงที่ว่า คนเขาค่อนข้างผิดหวังเพราะตอนแรกเห็นข่าวเขาก็ดีใจกัน แต่สุดท้ายกลายเป็นเรื่องโกหกเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน”

“อุ้มไม่ได้คิดว่าอุ้มชนะอะไรเลย อุ้มคิดแค่ว่าเรากำลังจะได้ใบประกาศเพิ่มอีกหนึ่งใบ(แต่เวลาพูดเหมือนได้รับรางวัล) คงเป็นความตื่นเต้น สำหรับอุ้มมันเป็นรางวัลที่ใหญ่มาก อันนี้แหละที่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น ถึงแม้ว่าอุ้มไม่ได้ใบประกาศมาเลย สมมติอุ้มเอาหนังไปฉายให้คนดู 10 คนแล้วทุกคนชอบหมดเลย อันนี้อุ้มก็คิดว่าเป็นรางวัลแล้ว เป็นรางวัลสำหรับการที่เราพยายามทำงาน และมีคนชอบ มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่”

“มันเป็นหนังเรื่องแรกของอุ้ม อุ้มค่อนข้างเห่อ ถ้าได้ดูใน 18 เทศกาลที่อุ้มได้ไปก็จะเห็นว่ามันมีเป็นเทศกาลที่ไม่ใช่เทศกาลใหญ่ๆ เป็นเทศกาลเล็กๆ ไม่ได้โชว์หนังเป็นเรื่องราวอุ้มก็เอาหมด เทศกาลเก็บเกี่ยวมันฝรั่ง หรือเป็นภูเขาเล่นสโนว์บอร์ดทำเป็นกองไฟใครเอาอะไรมาฉาย อุ้มก็จะเก็บหมด อันไหนที่อุ้มยื่นได้ก็ยื่นหมดและก็บวกเข้ามานับเป็นเทศกาลด้วย”

ย้อนดูเทปวันที่ “อุ้ม” ไปให้สัมภาษณ์รายการ เที่ยงวันทันข่าว ช่อง 3 “วิศาล ดิลกวณิช” ผู้ดำเนินรายการ ก็มีการซักถามและพูดถึงคำว่า “รางวัล” ชัดเจน ซึ่ง
“อืม....ตรงนั้นมันมีหลายๆ ตอนที่......(เงียบไปชั่วครู่) พูดแล้วเดี๋ยวจะฟังดูไม่ดี คือเหมือนกับว่า ส่วนตัวอุ้มเอง อุ้มไปใส่ใจกับคำว่า BEST STUDENT FILM อุ้มกำลังพยายามงจะแปลว่า BEST STUDENT FILM นะ แปลว่าหนังเรื่องนี้ดีเด่นนะ ดีที่สุดนะ คือกำลังจะแปลต่อว่ามันเป็นอีเมลล์หรือมันเป็นอะไร แต่โอกาสมันมาไม่ทัน แต่ตอนหลังอุ้มก็พยายามบอกว่า อ๋ออุ้มได้รับอีเมลล์มา CONGRATULATION”

“อุ้มพยายามบอกว่านี่คือรางวัลสำหรับอุ้ม มันไม่แปลกเลยถ้าคนอื่นจะเข้าใจผิด เพราะคุณวิศาลเขาคงกำลังดีใจกับอุ้ม ส่วนตัวอุ้มก็ยังอยู่ในช่วงความหมายไม่ตรงกันอยู่ แต่อุ้มก็ยังคิดว่ามันเป็นรางวัลอยู่ เพียงแต่ว่าอุ้มไม่ได้ไปชนะอะไรมา แต่ว่าคำที่ใช้ในหนังสือพิมพ์หรือในรายการโทรทัศน์มันเหมือนกับว่า อุ้มไปชนะรางวัลที่หนึ่งอะไรมา แต่อุ้มยังไม่ได้เคยพูดว่าอุ้มไปชนะอะไรมาเลย”

ตื่นเต้นจนไม่ได้ฟังว่า “วิศาล” ใช้คำว่า “รางวัล” หรือเปล่า ?
“อุ้มพยายามจะบอกว่ารางวัลของอุ้มคืออะไรนั่นคือเมนหลัก เหตุการณ์ในวันนั้นเหมือนอุ้มจะนั่งยิ้ม เหมือนกับโอเค แต่ความจริงอุ้มพยายามข่มความตื่นอยู่ ยิ่งคุณวิศาลบอกว่าเป็นสปีลเบิร์ก โอ้โห....อุ้มอึดอัดมาก ไม่รู้จะพูดยังไง วันนั้นพอไปถึงไม่มีการเตรียมอะไรกันเลย ไปถึงก็สดเลย ไม่ทราบเลยว่าจะมีคำถามอะไรเกิดขึ้นกับตัวอุ้มบ้าง พอเขาพูดแบบนั้นออกมา เห็นนั่นยิ้มแต่ยิ้มแหย๋นะมันไปไม่ถูก ตายแล้ว....ไม่อยากให้คนชมขนาดนั้น”


อ่านต่อ #2


ที่มา //www.manager.co.th



Create Date : 10 มิถุนายน 2552
Last Update : 10 มิถุนายน 2552 9:57:22 น.
Counter : 915 Pageviews.

0 comments

Mimi-jaiko
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]