Group Blog
มีนาคม 2552

1
2
3
4
5
6
7
10
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31
 
 
All Blog
สารพัดวิธีจัดการกับอารมณ์ด้านลบ
ในช่วงที่บรรยากาศบ้านเมืองอึมครึม เศรษฐกิจถดถอยและสภาพสังคมชวนให้หดหู่อย่างทุกวันนี้แทบไม่ต้องมีโพลล์สำนักไหนมาบอก คุณก็คงรู้สึกได้ว่า ผู้คนมีความสุขน้อยลง มองโลกในแง่ร้ายมากขึ้น ความรู้สึกเอาชนะคะคานมีให้เห็นทั่วไป ขณะที่การประนีประนอมกลับหายากเต็มที

อารมณ์ด้านลบที่เกิดกับคนส่วนใหญ่นั้น มีทั้งความโกรธ เกลียด เคียดแค้น ขุ่นเคือง รู้สึกเป็นศัตรู และรู้สึกผิด ซึ่งล้วนเป็นอารมณ์ที่ไม่เพียงทำให้สุขภาพจิตย่ำแย่เท่านั้น แต่ยังทำให้สุขภาพร่างกายพลอยแย่ไปด้วย โดยมีงานวิจัยหลายชิ้นที่บ่งชี้ว่าคนที่มักมีอารมณ์ด้านลบจะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนอารมณ์ดีถึงสามเท่า แถมยังมีความเสี่ยงต่อโรคอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น โรคความดันสูง และระดับคอเลสเตอรอลสูง เป็นต้น

อันที่จริงแล้ว เป็นเรื่องปกติอย่างยิ่งที่คนเราจะมีอารมณ์ด้านลบ โดยเฉพาะอารมณ์โกรธหรือหงุดหงิดเมื่อไม่ได้ดั่งใจ เพราะคงไม่มีใครที่มีอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา แต่ปัญหาก็คือ คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักวิธีจัดการกับอารมณ์ด้านลบที่เหมาะสมกับตัวเอง และมักแสดงออกอย่างผิด ๆ เช่น ถ้าไม่ก้าวร้าวไปเลยก็เก็บกดเอาไว้ ซึ่งไม่ได้อะไรขึ้นมานอกจากความสะใจและความเครียด

การแสดงออกถึงความขุ่นเคืองใจในรูปแบบที่ดีต่อสุขภาพนั้น มีหลักอยู่ที่การควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้เสียก่อน เพราะเราไม่สามารถจะไปควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงใครได้ เมื่อควบคุมอารมณ์ได้แล้วความรู้สึกด้านลบก็จะค่อย ๆ ลดลง การแสดงออกที่ตามมาก็ลดความรุนแรงไปด้วย

แต่เพราะการควบคุมอารมณ์ไม่ใช่เรื่องง่าย วิธีต่อไปนี้จึงอาจช่วยได้บางในบางสถานการณ์

ปลดปล่อยความรู้สึก เศร้าก็ร้องไห้ โมโหก็ปิดห้องร้องกรี๊ด ถนัดเขียนก็กระหน่ำเขียน ถนัดเล่าก็เลือกคนฟังให้ถูก แต่ถ้าคุณเป็นคนประเภท "ยิ่งพูด ยิ่งโกรธ" การพูดย้ำอยู่บ่อย ๆ อาจไม่เหมาะ และถ้าไม่มีใครฟังจริง ๆ ก็ให้โทรไปที่สายด่วน สุขภาพจิต 1667

หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้โกรธ เช่น เลี่ยงช่วงเวลารถติด ที่ทำให้หงุดหงิด เลี่ยงการพูดเรื่องที่ทำให้โกรธ เลี่ยงเวลาที่ไม่เหมาะสมในการพูดบางเรื่องกับบางคน

เปิดช่องทางการสื่อสาร บางครั้งการเจรจาอาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหา แต่อย่าพูดตอนโกรธและอย่าพูดก่อนคิด จากนั้นก็ต้องเปิดใจรับฟัง เป็นการฟังอย่างตั้งใจ หยุดคิดและโต้ตอบอย่างมีสติ ถ้าเป็นคำตำหนิก็ต้องฟังที่อีกฝ่ายพูดว่าจริงหรือไม่

รู้วิธีที่จะสงบใจตัวเอง ถ้าอารมณ์ด้านลบเกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน หลายคนเลือกที่จะเดินหนีจากสถานการณ์นั้น แต่ถ้าเป็นอารมณ์เครียดที่สะสมมานาน ก็อาจะทำใจด้วยการฟังเพลง ทำสมาธิ หรือเล่นโยคะ
พระท่านว่า ความโกรธเกลียดเหมือนพิษร้าย ยิ่งโกรธมาก พิษก็กำเริบมาก กัดกร่อนจิตใจตัวเองอยู่อย่างนั้น ฉะนั้นควรระงับความโกรธด้วยเมตตา นึกถึงความดีของคนที่ทำให้เราโกรธ (ถ้าจะมีอยู่บ้าง) หรือไม่ก็นึกถึงภาพหน้าตาของเขาตอนที่อายุสัก 1-2 ขวบ ดูว่าน่าจะน่ารัก น่าเอ็นดู ขนาดไหน (อันนี้อาจทำใจยาก โดยเฉพาะกับนักการเมืองบางคน)

ถ้ายังไม่หายโกรธ แนะนำว่าให้ลองใช้วิธีสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วค่อย ๆ ผ่อนออก ทำติดต่อกันสัก 10 ครั้ง แล้วคิดเสียว่าอีกไม่นานก็แก่ ๆ ตายกันไปหมดแล้ว จะโกรธเคืองกันไปทำไม แผ่เมตตาให้กันตั้งแต่วันนี้เสียเลยดีกว่า ...

...ถ้าทำได้อย่างนี้ รับรอง อารมณ์แจ่มใสโรคภัยไม่มาเยือนแน่ค่ะ ..


ข้อมูลจาก //www.tumthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=515093&Ntype=3



Create Date : 17 มีนาคม 2552
Last Update : 17 มีนาคม 2552 0:35:53 น.
Counter : 1036 Pageviews.

0 comments

Mimi-jaiko
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]