Group Blog
มีนาคม 2552

1
2
3
4
5
6
7
10
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31
 
 
All Blog
อยากมีเสน่ห์ต้องทำอย่างไร
คุณเคยสงสัยบ้างไหมว่า ทำไมบางคนจึงดูมีเสน่ห์ ใคร ๆ ก็พากันรัก พากันชื่นชม จะทำอะไรก็ดูดีไปหมด เขามีเสน่ห์ติดตัวมาตั้งแต่เกิดหรืออย่างไรกัน แล้วเราจะมีเสน่ห์อย่างเขาบ้างได้ไหม

เสน่ห์เป็นสิ่งที่ทำขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีทางไสยศาสตร์ที่ต้องอาศัยพ่อมดหมอผีเข้าช่วย ตัวคุณเองสามารถสร้างเสริมเสน่ห์ให้กับตัวเองได้อย่างง่าย ๆ

ลองนำวิธีต่อไปนี้ไปทำดูบ้าง จะทำให้คุณเป็นคนมีเสน่ห์ขึ้น

ประการแรก คุณจะต้องมีความใส่ใจกับผู้คนรอบ ๆ ข้าง เจอใครก็ต้องทักทาย ไต่ถามทุกข์สุขของเขา เมื่อถามแล้วก็ต้องจดจำด้วยว่าคุยกันด้วยเรื่องอะไรบ้าง เพื่อที่ว่าเมื่อเจอกันอีกครั้ง คุณจะได้คุยต่อได้ถูก อย่าทำตัวเป็นคนชอบปล่อยไก่มากนัก เช่น ไปถามถึงสามีของเขาทั้งที่เขายังไม่ได้แต่งงาน หรือไปถามถึงลูกเพื่อนว่ารับปริญญาหรือยัง ทั้งที่เมื่ออาทิตย์ก่อนเพื่อนเพิ่งเล่าให้ฟังว่าลูกเข้ารับพระราชทานปริญญาเป็นคนแรก ๆ เพราะได้เกียรตินิยมเหรียญทอง เป็นต้น ถ้าคุณไม่หัดใส่ใจคนอื่นบ้าง คุณก็ย่อมหน้าแตกได้บ่อย ๆ แล้วจะหาเสน่ห์ได้ที่ไหน

ประการที่สอง คุณจะต้องไม่ทำตัวเด่นกว่าคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว หรือการพูดคุย เพราะถ้าเด่นเกินไป คนก็จะหมั่นไส้เอาได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะเวลาพูดคุยกัน อย่าผูกขาดการคุยเสียคนเดียว คุณอาจมีอารมณ์ขันและเล่าเรื่องขำขันได้ดี แต่ก็ควรเล่าสักเรื่องหรือสองเรื่องก็พอ เปิดโอกาสให้คนอื่นเขาได้เล่าเรื่องของเขาบ้าง คือ ต้องเป็นทั้งผู้พูดและผู้ฟังที่ดีไปพร้อมๆกัน

ประการที่สาม คุณจะต้องหว่านเสน่ห์ของคุณให้กับคนทุกคนอย่างเสมอภาคกัน ไม่ใช่ส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มรูปหล่อเท่านั้น ส่วนกับเพื่อนหญิงคุณกลับทำหน้าบอกบุญไม่รับ อย่างนั้นไม่ได้ คุณจะต้องยิ้มแย้ม แสดงอัธยาศัยไมตรีอันดีกับคนทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นเจ้านาย เป็นลูกน้อง เป็นชาย เป็นหญิง เป็นเด็ก เป็นคนแก่ เป็นคนที่คุณรู้จักสนิทสนมหรือเป็นคนที่เพิ่งรู้จักกันก็ตาม คุณต้องทำตัวให้เสมอต้นเสมอปลาย เพราะมีบางคนที่เวลาไปงานเลี้ยงจะยิ้มแย้มแจ่มใสได้ตลอดงาน แต่พอกลับบ้าน ลูกๆและคนใช้ต่างพากันหลบหน้า เพราะคุณเธอพร้อมที่จะอาละวาดได้ทุกเรื่อง

ประการที่สี่ คุณจะต้องหัดชื่นชมคนอื่นบ้าง มองหาข้อดีของเขาให้พบ และกล่าวยกย่องเขาบ้าง เพราะคนเราย่อมอยากได้ยินคำชมด้วยกันทั้งนั้น เช่น เพื่อนอาจจะบ่นว่าแม่โทรมาหาอีกแล้ว ฝากซื้อโน่นฝากซื้อนี่ แทนที่คุณจะผสมโรงว่า คุณก็ควรพูดว่า เพราะเพื่อนคุณเป็นลูกรัก ลูกกตัญญูนะสิ แม่ถึงได้เรียกใช้อยู่เสมอ เท่านี้เพื่อนคุณก็สุดปลื้มแล้ว หรือเวลาเพื่อนมาบ่นว่า โอ๊ย วันๆหนึ่งยุ่งเสียเหลือเกิน ทั้งงานบ้าน งานที่ทำงาน งานเลี้ยงลูก วุ่นวายไปหมด หาเวลาว่างไม่ได้เลย แทนที่คุณจะไปสมน้ำหน้าเขา คุณก็ควรจะพูดชมเชยว่าเพื่อนคุณช่างเก่งจริงๆ นะที่ทนงานหนักแบบนั้นได้ เป็นคุณ คุณคงทำไมได้แน่ เพื่อนคุณก็คงเลิกบ่น เพราะมองเห็นว่าตัวเองนั้นเก่งขึ้นมาจริงๆด้วย

ประการที่ห้า คุณจะต้องไม่ทำตัวเป็นคนสมบูรณ์แบบ อะไรๆจะต้องดูเนี้ยบไปหมด เพราะคนเราทุกคนล้วนมีข้อบกพร่องด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่เราไม่เอาข้อบกพร่องนั้นมาเป็นปมด้อยที่ทำให้อับอาย เข้าหน้าคนอื่นไม่ได้ เรามองข้อบกพร่องว่าเป็นของธรรมดาเกิดขึ้นได้กับทุกคน คุณเคยทำอะไรพลาดก็เอามาเล่าให้คนอื่นฟังบ้าง เขาจะได้ไม่มองคุณว่าเป็นเทวดาที่ไม่เคยทำอะไรผิดเลย แต่คุณเป็นมนุษย์แบบเดียวกับเขาที่พอจะคบกันได้ เช่น ประธานบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งก็เคยเล่าว่า เมื่อท่านขึ้นไปบนเวที และหยิบสุนทรพจน์ออกจากอกเสื้อ ท่านก็ต้องตกใจมากเพราะมันเป็นกระดาษรายงานวิชาภาษาไทยของลูก ไม่ใช่สุนทรพจน์ตัวจริง ท่านมักเล่าเรื่องนี้อย่างขบขันอยู่เสมอ ๆ

ประการสุดท้าย ถ้าคุณอยากมีเสน่ห์ คุณจะต้องกระฉับกระเฉง ทำตัวให้มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ เพราะใครพบเห็นก็จะสบายหูสบายตา อยากเข้าใกล้ คนที่ท่าทางอมโรค เซื่อง ๆ ซึม ๆ ราวกับรอคอยวันตาย คงจะไม่มีวันมีเสน่ห์ไปได้

สรุปแล้ว ถ้าคุณอยากมีเสน่ห์ ก็ควรเร่งปรับปรุงตัวเองเสียแต่เดี๋ยวนี้ แต่ไม่ใช่ปรับเพื่อให้เด่นเกินหน้าคนอื่น แต่เป็นการปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นได้ต่างหาก เมื่อคุณสามารถทำตัวผสมกลมกลืนไปได้กับคนอื่น ๆ ได้ละก็ คุณก็จะมีเสน่ห์ได้เอง

//www.worklifeintelligence.com/5_2.php



Create Date : 17 มีนาคม 2552
Last Update : 17 มีนาคม 2552 11:09:50 น.
Counter : 2259 Pageviews.

0 comments

Mimi-jaiko
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]