วันก่อนมีข่าวนักวิชาการเสนอว่าควรเก็บภาษีคนโสด เพราะคนเหล่านี้สร้างปัญหาต่อประเทศชาติ ถ้ามีการจัดเก็บภาษีคนจะได้เลิกโสดกัน

ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนว่าความโสดของผมจะทำให้เกิดเป็นปัญหาระดับประเทศ นักวิชาการบอกว่าการที่คนเป็นโสดเยอะทำให้ขาดแคลนวัยแรงงาน ประเทศมีประชากรสูงอายุเยอะ ทำให้ประเทศไม่พัฒนา (ดูเหมือนว่าความแก่ของผมก็เป็นปัญหาระดับประเทศอีกปัญหาหนึ่ง)

พิจารณาดูแล้วปัญหาที่แท้จริงไม่น่าจะเกี่ยวกับโสดหรือไม่โสด แต่เกี่ยวกับการไม่มีบุตรมากกว่า ถ้าแต่งงานแล้วไม่มีบุตรก็ยังทำให้เกิดปัญหาอยู่ หากจะเก็บภาษีคนโสดจริงๆ ควรเก็บจากพวกนี้ เพราะถือว่ามีโอกาสที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ไม่ยอมช่วย ส่วนคนโสดจัดเป็นพวกด้อยโอกาส รัฐควรจัดสวัสดิการช่วยเหลือ เช่น โครงการคู่ครองคนแรก สำหรับผู้ชายที่แต่งงานครั้งแรกรัฐช่วยค่าสินสอด และค่าจัดงาน (แต่ไม่ควรมีนโยบายงดเว้นค่าสินสอด เพราะอาจสร้างความไม่พอใจให้แก่ญาติฝ่ายหญิงได้ ส่วนผู้หญิงที่แต่งงานครั้งรัฐบาลต้องช่วยค่าจัดงาน

ทั้งนี้สำหรับผู้ด้อยโอกาสในการหาแฟน รัฐต้องเป็นสื่อกลางในการหาแฟนให้พวกเขา เช่นการจัดทำเว็บไซต์หาคู่ที่สนับสนุนโดยรัฐบาล จัดมีทติ้งคนโสดทุกเดือน ฯลฯ ซึ่งผมก็จะไปใช้บริการเหมือนกัน 555+

ที่จริงประเทศไทยไม่น่าจะประสบปัญหาขาดแคลนประชากรวัยแรงงาน เพราะวัยรุ่นจำนวนมากพยายามแก้ไขปัญหานี้อยู่ แต่ผู้ใหญ่กลับมองว่าการพยายามแก้ไขปัญหาระดับประเทศของวัยรุ่นเหล่านี้เป็นปัญหาซะเอง โดยการกล่าวหาว่าเป็นการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ถ้าผมเป็นวัยรุ่นที่พยายามแก้ปัญหาการขาดแคลนประชากรวัยแรงงานแต่กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวสร้างปัญหาแบบนี้ ผมก็คงจะท้อใจไม่ใช่น้อย รับบาลควรจัดสวัสดิการให้วัยรุ่นเหล่านี้ ให้ได้เลี้ยงดูบุตรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่นจัดศูนย์รับเลี้ยงเด็กไว้ในโรงเรียน สำหรับคุณแม่นักเรียนได้นำบุตรมาโรงเรียนด้วยได้สะดวก และสามารถแวะมาดูแลลูกได้ในช่วงพักหรือชั่วโมงว่าง นอกจากนี้ควรจัดเงินช่วยเหลือเพื่อและสวัสดิการในการเลี้ยงดูบุตรในด้านอื่นๆอีกด้วย เพื่อให้เด้กเหล่านี้เป็นเด็กที่เติบโตได้อย่างมีคุณภาพ มีสติปัญญา เพราะไม่แน่ว่าต่อไปเด็กเหล่านี้อาจเติบโตขึ้นเป็นนักวิชาการ หรือเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้ใครจะไปรู้

เขียนมาถึงตรงนี้ ขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่นักวิชาการนะครับ แค่เสนอแนวคิดแบบนักวิชาการเท่านั้นเอง

อะไรนะครับ นักวิชาการเขาไม่คิดแบบนี้กันเหรอ ผมก็นึกว่าถ้าคิดอะไรต๊องๆแล้วจะเหมือนนักวิชาการ แหะๆ งั้นที่ผมคิดจะเสนอว่าถ้ารัฐบาลกำลังถังแตกควรจัดเก็บภาษีคนตกงาน ภาษีม็อบ เพื่อจะได้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ผมขอไม่บอกใครก็แล้วกัน

ไปดีกว่า ลาล่ะครับ