งานสัปดาห์หนังสือ...ที่ผมไปไม่ถึง

นับตั้งแต่เริ่มไปงานหนังสือครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน นับจากนั้นมามีน้อยครั้งมากที่ผมจะพลาดงานหนังสือ แม้ผมจะจำชื่องานเต็ม ๆ ไม่ได้ก็ตามเถอะ

มีครั้งนี้แหละที่ผมตั้งใจว่าจะไม่ไป เพราะสุขภาพร่างกายไม่ดีร่วมกับสุขภาพทางการเงินก็ไม่เหมือนกัน (ข้อหลังนี่เหมือนกันทุกปีเลย)

อีกทั้งผมยังจ้อง ๆ จะซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ เฝ้าเล็ง ๆ อยู่เป็นเดือน ๆ ยังไม่ได้เหนี่ยวไกสักที

ในที่สุดก็ได้ฤกษ์งามยามดี ในวันเสาร์อันเป็นฤกษ์ดีตรงกับวันหยุดราชการ แม้จะนอนตื่นสายก็ยังไปซื้อทัน

ซื้อคอมพ์เสร็จ เย็นวันเสาร์ เพื่อนซี้--กระจิบหญ้าสีเรียบบ่นกับผมว่าอยากไปงานหนังสือ ผมจึงรับปากว่าจะไปด้วย กระจิบฯบอกว่าอยากไปถ่ายรูปลีลาวดีที่งานพฤกษาสยามด้วย ที่สำคัญทั้งสองงานจะถึงวันสุดท้ายของงานในวันอาทิตย์

จึงวางแผนกันเป็นอย่างดีว่าจะรีบมาถ่ายรูปลีลาวดีในทันทีที่ห้างเปิด ประมาณ 10 นาฬิกา

คืนวันเสาร์ ผมฉลองคอมพ์ใหม่ถึงตี 3 แต่ด้วยความมุ่งมั่น ผมจึงตื่นมาก่อน 7 โมงเช้า

พอตื่นมาปั๊บ ผมก็ง่วงเลย เห็นว่าเวลายังเหลือเฟือจึงมานั่งเล่นเน็ตฉลองคอมพ์ใหม่อีกครั้ง

นั่งเล่นได้สักพักก็รู้สึกได้ว่าประตูหลังกำลังถูกข้าศึกบุกประชิด ใกล้จะถูกตีแตกอยู่ร่อมร่อ จำต้องลากจากอินเตอร์เน็ตไปเข้าห้องน้ำเสียหนึ่งรอบ

ใกล้เวลาห้างเปิดแล้ว โทรถามกระจิบฯ ปรากฎว่ายังไม่ออกจากบ้าน ไม่เป็นไรให้ห้างเปิดรอไปก่อน

เมื่อผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ก็รู้สึกถึงอาการผิดปกติ มือไม้สั่น หวิว ๆ คล้ายจะเป็นลม ไม่รู้เป็นเพราะนอนว่าดึกหรือว่าหิวกันแน่ หรืออาจจะเป็นเพราะทั้ง 2 อย่างร่วมมือกัน

ผมฝืนจัดการส้มไป 3 ลูก กับน้ำเต้าหู้ทรงเครื่องอีก 1 ถุง พอกินปั๊บ ข้าศึกก็เริ่มเข้ามาประชิดประตูหลังอีกครั้ง สงสัยเป็นอาการท้องเสียที่เกิดจากโรคกระเพาะกำเริบ เพราะระยะหลังผมทานอาหารไม่เป็นเวลาเอาซะเลย

หลังจากที่ข้าศึกผ่านด่านได้เป็นครั้งที่ 2 ผมมานอนแผ่ 2 สลึงอยู่พักใหญ่แล้วจึงฝืนลงจากคอนโดที่อาศัยอยู่ได้

แวะกินโจ๊กใส่ไข่แถว ๆ คอนโด 1 ชาม เดินออกมาหามอเตอร์ไซค์วิน ไม่เห็นมีสักคัน ระหว่างนั้นข้าศึกก็เข้าโจมตีอีกแล้ว

กำลังตัดสินใจว่าจะกลับไปเข้าห้องน้ำดีหรือเปล่า ก็พอดีมีมอเตอร์ไซค์มาพอดี จึงตัดสินใจนั่งมอเตอร์ไซค์มากปากซอย ยืนบนรถเมล์อีกระยะสั้น ๆ ก็ถึงเดอะมอลล์ บางแค ระหว่างนั้นข้าศึกเปิดแกโจมตีอย่างต่อเนื่อง

มาถึงเดอะมอลล์ ผมไม่รอช้ารีบเข้าห้องน้ำที่ไกล้ที่สุดทันที แวะกดกระดาษชำระหน้าห้องน้ำมา 1 กล่อง พอดีมีแม่ลูกคู่หนึ่งกำลังจะกดกระดาษชำระแต่ไม่มีเหรียญบาท ผมจึงให้ไป 2 เหรียญ ในฐานะที่เป็นเพื่อนทุกข์ อิอิ ผมมีเหรียญเยอะ เนื่องจากกำลังจน ไม่ค่อยีแบ็งค์ติดตัว ต้องงัดเหรียญมาใช้

ห้องน้ำตรงนั้นมีอยู่แค่ 3 ห้อง ทุกห้องถูกยึดครองหมดแล้ว ซวยจริง ๆ

แต่ไม่ถึงกับแย่มากนัก ไม่นานก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องริมสุด ผมรีบแทรกตัวเข้าไปทันที

บริเวณที่รองนั่งของชักโครกมีน้ำกระจายเป็นหย่อม ๆ น้ำอะไรกันนะ

แต่เนื่องจากไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดถึงที่มาของน้ำนั้น ผมบรรจงใช้กระดาษชำระที่กดมาเช็ดจนแห้งสนิท แล้วจัดการปลดปล่อยข้าศึกให้เป็นอิสระอยู่ตามความปรารถนาของมัน

แวะซื้อสปอนเซอร์ 1 ชวด บริเวณหน้างานพฤกษาสยาม เขาจัดรายการให้จับฉลากได้ 1 ครั้ง ช่างโชคดีจริง ๆ ผมจับฉลากได้กระติกน้ำ 1 ใบ

นี่จะเป็นครั้งแรกที่ผมหิ้วกระติกน้ำไปเดินที่งานหนังสือ

กระจิบฯ ถามผมว่าจะไปงานหนังสือไหวมั้ย ผมตอบว่ารอดูอาการก่อน แต่พอเดินถ่ายรูปไปสักพักผมก็รู้สึกว่าอาการดีขึ้นมากทีเดียว คิดว่าไปเดินที่งานหนังสือไหว ถ้าไม่โดนใครกระแทกแรง ๆ คงไม่เป็นไร

แต่จนถึงบ่าย 2 กระจิบฯ ก็ยังคงหลงระเริงอยู่กับการถ่ายภาพดอกไม้ พ้นจากการถ่ายภาพดอกไม้ก็ยังมาเก็บภาพกิ้งกืออีก





ช่วงนี้ข้าศึกเริ่มรวบรวมพลบุกทลายปราการหลังของผมอีกแล้ว

ผมจึงขอตัวเข้าห้องน้ำอีกรอบ กลับออกมาก็หมดแรงใจที่จะไปต่อซะแล้ว จึงขอบอกผ่านงานหนังสือ เอาไว้ค่อยไปตอนเดือนตุลาก็ไม่นานเกินรอ

ที่จริง ๆ ผมเป็นคนที่อ่านหนังสือเยอะนะครับ แต่เฉพาะหนังสือที่มีอยู่อ่านไปอีก 2 ปี ก็คงจะยังไม่หมด อีกทั้งยังเข้าไปใช้บริการห้องสมุดประชาชนอยู่ทุกสัปดาห์ ระยะนี้จึงยังไม่ขาดแคลนหนังสืออ่านแน่ ๆ

ร้านหนังสือที่ผมใช้บริการอยู่ก็ลด 20% ทุกเล่มเหมือนกันนะครับ เวลาไปงานหนังสือผมจึงมักไปเก็บหนังสือเก่า ๆ ลดราคาเยอะ ๆ หรือไม่ก็หนังสือใหม่ที่ได้ลายเซ็นนักเขียนที่ชื่นชอบ

---

ปล.

1. วันนี้ผมกลับมาถึงบ้านก็นอนหลับไปถึง 2 ทุ่ม ส่วนกระจิบฯ หลังจากที่แยกจากผม ก็ได้ข่าวว่าไปเดินที่งานหนังสือจนได้

2. แล้วจะเอารูปลีลาวดีที่ถ่ายมาอวดแน่นอนครับ

Create Date : 10 เมษายน 2550 Last Update : 10 เมษายน 2550 0:40:14 น. Counter : 1651 Pageviews.		30 comments
Share Tweet