มูฟวิ่งเอ

สวัสดีปีใหม่ครับ
คิดว่าคงไม่ช้าเกินไปที่จะพูดสวัสดีปีใหม่กันตอนนี้
ถ้าใครคิดว่าช้า ผมขอแจ้งให้ทราบว่าผมสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าสำหรับปีหน้าโน้นนะครับ
แม้จะไวเกินไป แต่ก็ขอแก้ตัวให้พ้นข้อครหาไปก่อน อิอิ

ที่จริงผมตั้งใจว่าจะอัพบล็อกตั้งแต่ปลายปีที่แล้วโน่น
แต่ทำไปทำมาก็ไม่ได้อัพ
เหมือนกับที่คิดว่าจะรวยตั้งแต่ปีที่แล้ว
แต่ทำไปทำมาก็ยังไม่ได้รวย

ย้อนกลับไปดูบล็อกล่าสุดที่ผมอัพเอาไว้ พบว่ามันตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปีมะแมโน่น
นับเวลาดูก็ประมาณครึ่งปี
ยังดีนะที่เป็นบล็อก ถ้าเป็นผู้หญิงเธอคงมีแฟนและตั้งท้องลูกแฝดไปแล้ว

ปีที่แล้วเป็นปีที่ผมคิดว่าชีวิตผมล้มเหลวมาก
เช่นเดียวกับปีก่อน ๆ นั่นแหละ
ปีนี้ผมจึงคิดว่าจะปรับตัวใหม่
สิ่งที่ตั้งใจไว้ก็คือจะขยันให้มากขึ้น

ตอนนี้ผ่านไปครึ่งเดือนผมยังไม่ขยัน
แต่มันยังมีเวลาอีก 11 เดือนครึ่ง ถือว่ายังมีเวลาอีกเหลือเฟือ เนอะ
เนอะ
เนอะ

ปีที่ผ่านมาผมมัวแต่ป่วยอยู่ในห้อง จนอดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นอาการฮิคิโคโมริหรือเปล่า แต่คิดไปคิดมา ผมเรียกชื่อมันยังไม่ค่อยจะถูก แล้วจะเป็นได้ยังไง
แต่อย่างไรก็ตาม ปีนี้ผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะต้องหาทางออกจากห้องให้ได้
ผมตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าปีนี้จะต้องเดินทางให้มากขึ้น ถึงกับประกาศทางเฟสบุ๊กว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการเดินทางเลยทีเดียว
นอกจากเดินทางแล้ว ผมคิดว่าผมจะต้องพบปะผู้คนให้มากขึ้น
เขาบอกว่าการได้พบผู้คนถือเป็นเรื่องโชคดี
จริง ๆ แล้ว มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องโชคอะไรหรอก แต่เขาหมายถึงการได้พบผู้คนก็จะได้มีโอกาสพบช่องทาง เป็นการสร้างคอนเน็คชั่นนั่นเอง

ผ่านมาครึ่งเดือนผมยังไม่ได้เดินทางไปไหนเลย
แต่ก็ยังเหลือเวลาอีกตั้ง 11 เดือนครึ่ง เนอะ

ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ผมได้อ่านหนังสือ 'แจ็ค หม่า พญามังกรแห่งอาณาจักร Alibaba (Jack Ma: Founder and CEO of the Alibaba)' มีอยู่ตอนหนึ่งเขาเขียนถึงรายการทีวีของจีน ชื่อรายการ Moving China

อ่านเจอชื่อรายการนี้แล้วผมชอบมาก พลันฉุกคิดได้ว่าชีวิตที่มีเป้าหมายมันก็ดีอยู่ แต่การจะเดินไปสู่เป้าหมายนั้นมันต้องมีกรอบ หรือ คอนเซปต์ ซึ่งเราอาจเรียกว่าสโลแกน หรือ วิสัยทัศน์ (อันเดียวกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็ช่างมันเหอะ)
ผมก็เลยฉวยชื่อรายการทีวีของจีนมาเป็นสโลแกนส่วนตัวว่า 'มูฟวิ่งเอ'

เอชื่อเล่นของผมเอง (บอกไว้เผื่อใครเพื่งพลาดท่าเข้ามาอ่านเป็นครั้งแรก หรือเข้ามาอ่านหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่รู้ชื่อเจ้าของบล็อก)

'มูฟวิ่งเอ' ในความหมายของผมก็คือการมีชีวิตที่ก้าวไปข้างหน้า ส่วนอีกความหมายคือการมีชีวิตที่ได้เดินทาง การไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่

มันหมายความอย่างนี้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมอ่อนภาษาอังกฤษมาก

ขนาดอยากเขียน 'มูฟวิ่งเอ' เป็นภาษาอังกฤษ ผมยังไม่กล้าเขียนเลย เพราะไม่รู้ว่าชื่อตัวเองเขียนยังไง

เมื่อก่อนผมเคยคิดว่า 'เอ' ก็เขียนว่า 'A' ถือว่ารู้เรื่อง
แต่ความคิดนั้นเปลี่ยนเป็นความไม่มั่นใจ เมื่อผมเจอฝรั่งคนหนึ่งในงานหนังสือแห่งชาติเมื่อหลายปีก่อน

ฝรั่งคนนั้นเขียนหนังสือสอนภาษาอังกฤษ ผมอยากเก่งภาษาอังกฤษก็เลยซื้อหนังสือของเขามาอ่าน
พอดีวันนั้นผู้เขียนมานั่งแจกลายเซ็น ผมก็เลยให้เขาเซ็นให้ เพื่อเป็นศิริมงคล
การให้ผู้เขียนเซ็นก็เหมือนการเจิมนั่นแหละ เชื่อผมเหอะ

ฝรั่งคนนั้นถามผมว่าชื่ออะไร
ผมฟังรู้เรื่องด้วยนะ เพราะเขาพูดภาษาไทย
ผมตอบไปว่าชื่อเอ
การที่ผมชื่อเอนี้ทำให้ฝรั่งงงมาก
คงเป็นเพราะฝรั่งไม่มีใครชื่อเอ

ฝรั่งที่เขียนหนังสือเล่มนั้นเขียนชื่อเอลงในหนังสือไม่ถูก ก็เลยถามผมว่าชื่อเอเขียนอย่างไร
ด้วยความที่เคยเรียนภาษาอังกฤษมาบ้าง ผมจึงตอบไปว่า "เขียนแบบ A B C D E F G" นั่นแหละครับ
คราวนี้ฝรั่งทำหน้างงหนักกว่าเก่า สงสัยไม่รู้ว่า A B C D E F G คืออะไร
โชคดีที่ผมพอจะมีสติปัญญาอยู่บ้าง ก็เลยหยิบกระดาษมาเขียนชื่อจริงให้เขาดู

คุยกับฝรั่งนี่มันน่าปวดหัวจริง ๆ ว่ามั้ย

หลายปีหลังจากนั้น ผมดูหนังฝรั่งหลายเรื่อง พบว่าคนฝรั่งชื่อ เจมส์ บอนด์ หรือ ลุค สกายวอล์คเกอร์ พอมีบ้าง แต่ชื่อเอผมยังไม่เคยเจอเลย

ผมคิดว่าชื่อเอ ก็น่าจะเขียนเหมือนชื่อเอ๋ เพราะภาษาอังกฤษไม่มีวรรณยุกต์ โชคดีที่ผมมีเพื่อนชื่อเอ๋ในเฟสบุ๊กตั้ง 3 คน และทั้ง 3 คนเขียนชื่อตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ

แต่โชคร้ายที่ทั้ง 3 คน เขียนชื่อเอ๋เป็นภาษาอังกฤษไม่เหมือนกันเลยสักคนเดียว ผมจึงไม่รู้ว่าจะลอกใครดี

ส่วนชื่อเอของผมนี่เป็นภาษาไทยนะครับ แปลว่า หนึ่ง, เปลี่ยว, เดี่ยว ด้วยเหตุนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้ที่ทำให้ชีวิตของผมไม่มีใคร (การมีข้ออ้างนี่มันทำให้สบายใจได้จริง ๆ )


ปีใหม่นี้ ผมถือโอกาสเปลี่ยนโฉมบล็อกของตัวเองซะใหม่ เพราะของเดิมมันไม่เจริญหูเจริญตาสักเท่าไหร่ ตั้งใจว่าจะแต่งบล็อกแบบมินิมอลให้ดูโปร่งโล่ง แต่ใช้โทนสีน้ำตาลเพื่อให้ดูเคร่งขรึมสมวัย แต่ปรับไปปรับมา มันดูหวาน ๆ ยังไงก็ไม่รู้

หรือจะเป็นเพราะใช้สีน้ำตาล?

Create Date : 17 มกราคม 2559 Last Update : 18 มกราคม 2559 21:28:43 น. Counter : 1393 Pageviews.		7 comments
Share Tweet