ก่อนอื่น ต้องท้าวความก่อนว่า ทำไมแม่ถึงให้หนูเข้าเรียนเร็วจังทำไมไม่รอให้หนูครบ 2.5 ก่อน และทำไมต้องเป็น โรงเรียนนี้ 

>> เหตุผลข้อแรก ที่แม่ต้องให้หนูเข้า รร.เร็วขึ้น เพราะ
1. คนเลี้ยง นั่นก็คืออากุง กับอาโผ่ว ของหนู เริ่มบ่นว่าเหนื่อย (เพราะต้องเลี้ยงหลาน 2 คน หนูกับน้องเค้ก) ประกอบกับ ช่วงนี้ อากุงของหนูไม่ค่อยสบาย ต้องแอดมิดหลายวัน ปะป๊ากับแม่ก็ต้องผลัดกันลางานเพื่อที่ต้องอยู่บ้านเลี้ยงหนู 

2. ป๊ากับแม่ลองพาหนูไปที่ รร. แล้วหนูชอบ ดูหนูสนุก และมีความสุขกับการมา รร.

3. อยากให้หนูได้เล่นกับเด็กคนอื่นๆ บ้าง ได้รู้จักเข้้าสังคมบ้าง เพราะปกติ หนูเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงอยู่แต่ในบ้าน เวลาเจอคนแปลกหน้า หนูจะไม่กล้าคุย กล้าเล่น และเล่นกับคนอื่นๆไม่เป็น

4. อยากให้หนูไปหัดเลิกเพิส และ ขวดนม  เพราะถ้าอยู่ที่บ้าน อากุง กับอาโผ่ว ไม่เห็นด้วย & ไม่ให้ความร่วมมือในการเลิก 

5. แม่อยากให้หนูได้ต่อความ ความคิด ความสามารถของหนู อย่างที่แม่เคยบอกว่า หนูค่อนข้างจะเป็นเด็กที่ความจำดี และเรียนรู้ได้เร็ว และถ้าหนูอยู่ที่บ้าน การเล่นแบบเดิมๆ ของเล่นเดิมๆ ไม่มีการเสริม หรือ แทรกความรู้ใหม่ๆ มาให้ มันก็เหมือนจะอยู่ที่เดิม (ซึ่งตรงนี้หลายๆคน อาจจะมองว่า จะเอาอะไรกับเด็กตัวแค่นี้ จะใส่อะไรให้เค้ามากมาย ไม่กลัวลูกเครียดเกินไปเหรอ หลายๆอย่าง) แต่ หลังจากแม่ได้เข้าไปดู รร.แล้ว ส่วนใหญ่การเรียน ของเด็กเตรียมอนุบาล จะเป็นการเรียนผ่านเล่นอยู่แล้ว ความรู้ต่างๆ จะถูกสอดแทรกเข้าไปเอง โดยที่เด็กไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ดังนั้น แม่ประเมินดูแล้ว ลูกแม่ไม่มีเครียดแน่นอน ^_^

>> เหตุผล ข้อที่สอง ว่าทำไมต้องเป็น รร.นี้

1. ใกล้บ้าน สะดวกรับส่ง

2. สถานที่สะอาด ปลอดโปร่ง มีลานของเล่น ลานกิจกรรมทีค่อนข้างใหญ่ ของเล่นทุกอย่างเป็นของใหม่ 

3. เด็กนักเรียนไม่เยอะ เนื่องจาก เป็น รร.เปิดใหม่ถอดด้าม น้องเท็นเป็นรุ่นบุกเบิกของที่นี่เลยนะครับ (แต่ก็แอบกังวลด้วยความที่เค้าใหม่ด้านประสบการณ์การเลี้ยงเด็ก ซึ่งเป็นข้อเดียวที่ติดอยู่ในใจแม่ แต่ปะป๊าหนูบอกว่าให้มองอีกมุมนึงคือ การที่ รร.ใหม่ ถ้าเค้าอยากสร้างชื่อให้ รร.เค้าเป็นที่รู้จัก เค้าก็ต้องดูแล ใส่ใจ และเต็มร้อยกับรุ่นบุกเบิกมากขึ้นกว่าเดิม เพราะตัวเด็กนักเรียน ซึ่งเปรียบเสมือนผลผลิตรุ่นแรก จะเป็นตัววัดค่าให้กับทาง รร.เค้าเป็นอย่างดี)

4. หลักสูตรของ รร. หลังจากแม่ได้ลองเข้าไปคุยกับทาง รร. และได้เห็นหลักสูตรการเรียนการสอน แล้วแม่ค่อนข้างโอเค เพราะส่วนใหญ่จะเน้นทางด้านเชาว์ และพวกแบบฝึกหัด ต่างๆ ทางรร.บอกว่า บางส่วนจะจำลองให้เหมือนกับ รร.เครือสาธิต ทั้งหลาย ดังนั้น แม่แอบคิดเอาเองว่า การที่หนูได้เรียนที่นี่ มันก็จะเหมือนการติวเข้าสาธิตกลายๆ เพราะแม่ตั้งใจว่า ถ้าหนูถึงเกณฑ์สอบ แม่จะลองพาไปลองสนามสอบสาธิต ซักครั้ง
5. รร.จัดโปรโมชั่น ฟรีค่าแรกเข้า สำหรับ 100 คนแรก ซึ่งแม่ลองคำนวณแล้ว ถ้าจ่ายราคาเต็มที่ไม่ได้โปรฯ ถือว่าราคาแรงมาก เกือบเทียบเท่า รร.ดังๆ แถวบ้านเรา ที่เค้าการันตีว่า ดีที่สุดในย่านนี้ ได้เลยครับ พอดีมีโปรนี้ เท่ากับว่าเราประหยัดไปได้ 24,000++ ก็ถือว่า ราคาโอเค อยู่ในระดับที่รับได้

คราวนี้เรามาดูกันบ้างดีกว่านะครับ ว่าการไป รร. ครึ่งวันแรก ของน้องเท็นจะเป็นไรอย่างไรบ้าง 

---สรุปวันนี้ไปเรียนครึ่งวัน ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดีครับ ไม่ร้องไห้ อยู่กันคุณครูได้เป็นเวลานาน แต่ติดเล่น คุณครูบอกขอเข้าห้องบอลตลอดๆ (ในคลาสเรียน จะมีประตูเชื่อมไปห้องบอล) ไม่ค่อยเข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อนเท่าไร 555 แถมวันนี้ยังสร้างภาพ นั่งกินข้าวเองอย่างเรียบร้อย (ได้ข่าวว่าที่บ้านต้องตามป้อน) คุณครูชมว่า เก่งมาก ยกให้เป็นอันดับ 1 เลยสำหรับวันนี้ ส่วนวันต่อไปๆ ไม่รู้จะดีแตกวันไหนครับ รอดูกันต่อปายยย :) ---

มาดูบรรยากาศ วันแรกของการไป รร. ของน้องเท็นกันหน่อย ส่วนใหญ่จะเล่นนะเรา ฮ่าๆ

มาถึง รร. ก็ขอเล่นของเล่นชิ้นโปรดก่อนเลย สไลเดอร์คร๊าบบ 

คุณครูพาไปล้างมือ จากนั้นมาต่อแถวเข้าชั้นเรียนกันครับ

นั่งกินข้าวเองได้ด้วย ปกติอยู่ที่บ้านต้องมีคนตามป้อนตลอด ^_^

สรุปวันนี้ ลูกชายแม่เก่งที่สุด ถึงครูจะบอกว่าหนูเป็น number one เลยวันนี้ แต่สำหรับแม่หนูคือ number one ในทุกวันๆอยู่แล้วครับ รักลูกนะครับ น้องเท็น