Bloggang.com : NCinLove - Journey to Disney World Orlando I : Animal Kingdom

Group Blog

มิถุนายน 2552

12 มิถุนายน 2552

Journey to Disney World Orlando I : Animal Kingdom

All Blog

Journey to Disney World Orlando I : Animal Kingdom

ทริปนี้คิดไว้นานแล้ว ครั้งหนึ่งในชีวิตอยากไปเหยียบ Disney World ที่ Orlando, Florida ก่อนไปก็หาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต พร้อมกับซื้อตั๋ว Disney World ไปด้วยเลย ซื้อแบบ 4 theme parks + 1 water park ว่าแล้วก็ออกเดินทางกันเลยค่า

ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันที่เจอเครื่องบินดีเลย์มากกกก (เคยเจอดีเลย์น้อย แต่คราวนี้มากกกกก) ดีเลย์ที่ Seattle, WA 5 ชั่วโมง แล้วจะต้องไปต่อเครื่องที่ Salt Lake City, UT ทำให้ไปต่อไม่ทันในวันนั้น คือแผนการเดินทางจะออกเดินทางเที่ยงวันศุกร์และไปถึง Orlando ประมาณเที่ยงคืนเวลา Orlando พอเครื่องบินดีเลย์ก็ผิดแผนไปหมด ทำให้ตกเครื่องที่ Salt Lake และต้องนอนค้างที่ Salt Lake หนึ่งคืน สายการบินออกค่าโรงแรมพร้อมข้าวกลางวัน ข้าวเย็น และข้าวเช้าวันถัดไป แต่ที่ Salt Lake ไม่ได้กระเป๋าเดินทางของเรา สายการบินแจกกระเป๋ากู้ชีพให้หนึ่งใบ ข้างในมีแปรงสีฟัน ยาสีฟัน โรออน มีดโกนหนวด เสื้อยืด (ก็ยังดีใช่ไหมคะ) วันรุ่งขึ้นใส่ชุดเดิม หน้าตาเยินมาก ไปถึง Orlando วันเสาร์ 6 โมงเย็น เวลาช้านหายไปหนึ่งวัน ถึงกับวัยรุ่นเซ็งกันเลย

อันนี้เป็นภาพ Mt. Rainier ณ รัฐ Washington ถ่ายทางอากาศ เป็นภูเขาที่ใหญ่มาก ขนาดบ้านอยู่ห่างเป็น 100 ไมล์ยังมองเห็นเลยค่ะ ตอนเครื่องบินบินผ่าน Mt.Rainier ก็เฮ้ย ใหญ่มากๆๆๆๆ ถ้าใครมา Washington แล้วไม่มา Mt. Rainier แปลว่ามาไม่ถึง อิอิ

พอไปถึง Orlando ก็ไปยืนรอกระเป๋า ปรากฎว่าไม่มีกระเป๋าของตัวเองออกมาตรงสายพานรับกระเป๋า ตอนนั้นอยากจะไปพังซุ้มสายการบินอย่างมาก นอกจากทำให้มาช้าไปหนึ่งวันแล้วยังทำกระเป๋าฉันหายอีก ไปยืนสงบจิตตรง baggage claim ของสายการบินซักครู่ ก่อนเข้าไปพูดกับพนักงาน พนักงานพูดจาดีมาก แล้วตรวจสอบให้ พบว่ากระเป๋าอยู่ที่ Orlando แล้ว แต่ไม่ได้ออกมาทางสายพาน แล้วเค้าก็ไปเข็นมาให้จากหลัง Office เลยถามเค้าว่าทำไมมันไม่ออกมาพร้อมกระเป๋าคนอื่น เค้าบอกว่า กระเป๋าเราหนักเกินไป (งง นี่มุขรึเปล่า แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ไหนๆ ก็ได้กระเป๋า 55)

เสร็จแล้วออกไปรับรถเช่า ได้สัมผัสอากาศ Orlando .....ร้อนแบบกทม เลยค่ะ เพราะว่าเรามาจาก Seattle ไม่เคยเจอร้อนแบบนี้มาก่อน ตื่นเต้น ฮ่าๆ

วันแรกไป Animal Kingdom ค่ะ คนเยอะมากกกก สิ่งที่ขาดไม่ได้คือครีมกันแดด ถ้าไม่ทารับรองโดนแดดเผาเป็นไก่ย่างแน่ๆ ทุกคนใส่กางเกงขาสั้นโดยไม่ได้นัดหมายค่ะ เป็นที่น่าสังเกตว่า คนอังกฤษมาเที่ยว Disney World เยอะมากค่ะ เดินไปทางไหนได้ยินแต่สำเนียงอังกฤษ เมื่อสองปีที่แล้วเราเคยไป Disney Land, CA อันนั้นหนักไปทางคนเอเชียเยอะ ประมาณกรุ๊ปทัวร์จากญี่ปุ่น จากจีน มากันเพียบ ก็เลยเดาว่า California มันใกล้ทวีปเอเชียมากกว่า ส่วน Florida มันใกล้ยุโรปมากกว่า

Animal Kingdom จะมีต้นไม้ต้นใหญ่ๆ ต้นนี้ค่ะ แกะสลักรูปสัตว์ประเภทต่างๆ ทุกคนที่ไป Animal Kingdom ต้องถ่ายรูปกับต้นไม้ต้นนี้นะคะ ไม่งั้นเรียกว่า ไปไม่ถึง Animal Kingdom ค่ะ มาค่ะ มาดูกันว่ามีตัวอะไรบ้าง

ก่อนไป Animal Kingdom ก็ได้อ่านรีวิวเครื่องเล่นมาบ้าง เค้าบอกว่าเจ๋งสุดต้องไปดู Lion King show กับ Finding Nemo และก็ต้องไปเล่น Expedition Everest ซึ่งมี Fastpass ให้กด และก็ต้องไปนั่งรถที่เข้าไปในสวนสัตว์ ส่วนตัวแล้วชอบ Finding Nemo ค่ะ แล้วก็ 3d ของ Bugs life เจ๋งสุดๆ ส่วน Expedition Everest กด fastpass ได้ตอน 6pm แต่เกิดเหตุไม่คาดฝันค่ะ เดี๋ยวเล่าต่อ ไปดูรูปกันค่ะ

เหตุไม่คาดฝันคือ.... ฝนตกค่ะ เริ่มตกตอนห้าโมงเย็น เค้ามีประกาศว่าฝนจะตก แล้วเมฆก็มาค่ะ ทุกคนรีบวิ่งไปที่ทางออก ไอ้เราก็งง วิ่งไปไหนกัน ก็เลยเดินไปถามพนักงานในร้านขายของ เค้าบอกว่าทุกคนวิ่งกลับบ้านกันค่ะ เพราะฝนจะตกใหญ่ แบบว่าใหญ่มาก ไม่ทันขาดคำ ฝนตกใหญ่มากกกกกก เรียกว่าน้ำท่วมขังกันเลย และที่น่ารักคือ ทุกคนมีเสื้อกันฝนเหมือนกันเป็นแบบ poncho ที่ขำกว่า คือ เราเอาตัวที่ซื้อจาก Disney Land, Hong Kong ไปด้วยค่ะ เก๋ไก๋กว่าใคร เพราะลายข้างหลังไม่เหมือนคนอื่น (ที่ไม่เหมือนคือของเราเป็นแบบเก่าน่ะค่ะ ฮ่าๆๆ ) ที่เราเอาเสื้อกันฝนไปด้วย เพราะเพื่อนที่ทำงานเคยบอกไว้ว่า ฝนจะตกที่ Disney ทุกวันและทุกคนใส่เสื้อกันฝนหน้าตาเหมือนกันหมด ก็เลยถามเพื่อนว่าหน้าตาเสื้อกันฝนเป็นยังงัย เพื่อนก็อธิบายมา เราก็เอ่อ มันคือแบบที่เราซื้อจาก Disney Hong Kong นี่เอง ก็เลยเอาไปด้วยค่ะ ได้ไม่ต้องซื้ออีก ต่อๆค่ะ พอฝนตกเค้าก็เลยงดให้บริการExpedition Everest ชั่วคราวค่ะ เราก็เลยอดเล่น เพราะเค้างดให้บริการจน park ปิดเลยค่ะ

เป็นอันจบวันแรกค่ะ เดี๋ยวไว้มาเล่าต่อวันที่ 2

Create Date : 12 มิถุนายน 2552
Last Update : 12 มิถุนายน 2552 12:39:23 น.
Counter : 2163 Pageviews.

11 comments

wow ! บรรยากาศดีมากๆเลยค่ะ
ต้นไม้อันนี้ เคยเห็นใน Frd mail แต่เพิ่งรู้ว่ามันอยู่ที่นี่นั่นเอง
ขอบคุนที่แวะไปชมบล็อคนะคะ

โดย: kay_p

วันที่: 14 มิถุนายน 2552 เวลา:13:41:25 น.

ดีใจที่คุณชอบอิตาลี่ที่ลงค่ะ

เห็นต้นไม้แล้วต้องตื่นตะลึงค่ะ
มีหนังสือต้นไม้น่าทึ่งทั่วโลก ไหงเจ้าเล่มที่มีพลาดต้นนี้ไหได้
ขอบคุณนะคะที่เอามาฝากกัน

โดย: Sweety-around-the-world

วันที่: 14 มิถุนายน 2552 เวลา:19:42:43 น.

ว๊าาา...น่าเสียดายแทนนะคะ อุตส่าห์ได้ไปถึงที่แล้วฝนดันตกซะนี่ หวังว่่าคงไม่ได้ตกทุกวันนะคะ...เคยไปมาแล้วเหมือนกันค่ะที่ Orlando แต่แวะที่ Magic Kingdom ที่เดียว Amazing ค่ะ เหนื่้อย ร้อนแสบดีจริง ๆ 555

โดย: yingkorat

วันที่: 2 สิงหาคม 2552 เวลา:22:45:28 น.

แวะมาบอกว่า เพิ่งดูจบเมื่อคืน..Harper s Island เราน่ะดูไปกลางๆเรื่อง ชักนึกเอะใจแล้วว่าต้องเป็นคนนี้ เพราะมีพิรุธตั้งแต่ ตอน JD ตายแล้ว..

สนุกดีเนอะ..

โดย: BLACK BERRIES

วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:0:17:29 น.

อยากไปด้วยยยยจังคะ

ขอบคุณที่แวะไปอวยพรวันเกิดนะค๊ะ

โดย: YraY_Tong

วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:6:20:49 น.

เข้าบล็อกนี้ คนแก่โดนทำร้ายร่างกายอย่างแรง สีสันเจิดซะ ทำเอาตาพร่าไปชั่วขณะค่ะ

เครื่องดีเลย์เป็นอะไรที่เซ็งมากนะคะ โชคดีที่ป้าเดซี่ยังไม่เคยเจอประสบการณ์ดีเลย์ลูกโซ่ เล่นเอาวันเที่ยวหายไปวันนึงแบบนี้

แถมยังมาเจอฝนตกอีก คนสวยเซ็งเลยสิ