งดน้ำงดอาหาร หลัง 2 ทุ่ม....เข้าใจตรงกัน....รึเปล่านะ

จะเริ่มต้นไงดี.....

พอดีเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีคนไข้เบาหวาน ที่คุณนัดตรวจไขมันเพิ่มด้วย (ตรวจ Cholesterol , Triglyceride , LDL- Direct)

ปกติคนไข้เบาหวานที่จะมาตรวจตามนัดก็ต้องอดอาหารมาอยู่แล้ว ตรวจไขมันเพิ่มด้วยก็ไม่น่าจะมีปัญหา และ LAB ก็ไม่ได้มีเวลามากขนาดที่จะถามย้ำกับคนไข้ได้ทุกคน

มีคนไข้คนหนึ่งผล Triglyceride = 1200 mg/dl ซึ่งมันสูงมากๆ แต่เราก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอก ก็ serum คนไข้น่ะ ยังกะน้ำนม ขุ่นมาก

ซึ่งเราก็ได้เอาไปให้พี่ๆ เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์ (มีเทคนิคการแพทย์คนเดียว )ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่าเรา ช่วยดู เพื่อกันไว้เป็นพยานยืนยัน ว่า serum คนไข้ ขุ่นขนาดนี้ Triglyceride=1200 นี่ ไปด้วยกันได้นะ (และจากการดูประวัติเก่าๆ ที่คนไข้เคยตรวจ คนไข้จะ Triglyceride สูงในระดับ 800-1300 mg/dl อยู่ตลอด)

เวลาผ่านไป พอมาวันนี้พี่ที่เขาเปิด LAB เอกชน เอา serum คนไข้ที่ เราตรวจ Triglyceride = 1200 ไปมาให้เราตรวจซ้ำ เพราะคนไข้มาเจาะที่ LAB พี่เขาวันนี้ พี่เขาตรวจได้ 300 กว่าๆ เลยอยากรู้ว่าเราตรวจผิดรึว่าคนไข้โกหก ผลในวันเดียวกันนี้ ที่เราตรวจได้ 330 mg/dl ซึ่งไม่ต่างจากที่ LAB เอกชนตรวจ

แล้วเมื่อวันที่ Triglyceride =1200 mg/dl มันเกิดอะไรขึ้น

ซึ่งจากการวิเคราะห์ของเราและคุณหมอที่จ่ายเพิ่มให้คนไข้ไปวันนั้น (ก็ Triglyceride สูงปรี๊ดขนาดนั้น คุณหมอก็ต้องจ่ายยาเพิ่มให้อยู่แล้ว ก็เล่นไม่ลงเลย)

1.คนไข้ไม่ได้อดอาหารมา และแบบว่าไม่บอกกลัวเสียเวลา กลัวต้องมาวันอื่น ไม่คิดว่าจะมีผลอะไรกับตัวเองมากมาย

2.คนไข้อดอาหารหลัง 2 ทุ่มจริง แต่แหม ก่อน 2 ทุ่ม นี่คนไข้กินอะไรไปบ้าง ข้าวขาหมูหรือเปล่า เอ๊ะ หรือไปดื่มเบียร์ฉลองอะไรมาหรือไม่ คนไข้ก็ไม่ได้บอกเราและพวกเราเองก็ไม่ได้ถามคนไข้

(เคยมี เคสน้องของพี่ผู้ช่วยที่ LAB มาตรวจไขมัน พี่เขาก็ถามน้องว่าอดอาหารมาหรือเปล่า น้องเขาก็บอกว่าอดมาหลัง 3 ทุ่ม แต่ปรากฎว่า serum ขุ่นเชียว ตรวจ Triglyceride ได้ 700 กว่าๆ พอกลับบ้านพี่ผู้ช่วยเขาก็ไปถามน้องเค้าว่า อดอาหารมาจริงหรือเปล่า น้องเค้าก็บอกว่าอดจริง พี่เขาเลยถามต่อว่าแล้วก่อน 3 ทุ่มกินอะไร น้องพี่เขาก็บอกแบบซื่อๆว่า กิน ยำ 3 รส กับเบียร์ เป็นไงละคนไข้เรา)

เราไม่ได้ว่าคนไข้หรอก และไม่โทษใครด้วย นอกจากตัวเราเอง ที่เราไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการบอกให้คนไข้รู้ถึงวิธีการเตรียมตัวก่อนมาเจาะเลือดตรวจไขมัน

.......ซึ่ง แค่การอดอาหาร หลัง 2 ทุ่มนั้น ไม่เพียงพอ

รายละเอียดมันมีอีกว่า 2-3 วันก่อนมาตรวจนั้น ควรจะทานอาหารที่เราทานอยู่เป็นประจำ หรือไม่ก็บอกหมอก็ได้ว่า ทานอะไรอยู่เป็นประจำ หรือก่อนอดอาหารทานอะไรมาบ้าง

****........ไม่ใช่ว่าร้อยวันพันปี ไม่ค่อยทานหรอกข้าวขาหมู แต่แบบว่า ก่อนที่จะมาตรวจ ข้างบ้านซื้อข้าวขาหมูเจ้าอร่อยมาฝากก็เลยทานซะอิ่มไป (แต่ไม่เกิน 2ทุ่มนะ หมอห้ามว่านะ) เพราะหลัง 2 ทุ่มไปแล้วไปได้ทานอะไร ....หมอไม่ว่าหรอกแต่ก็จะได้ยาไปทานโดยไม่จำเป็น


****........หรืออักนัย คนไข้รู้เยอะ แบบกินบ่อยๆชอบมากๆเลยพวกเนื้อติดมัน ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมูมันเยอะๆเนี่ย แต่ก่อนไปตรวจ งดเลยอาหารมันเยอะกลัวไขมันขึ้นแล้วหมอว่า พอมาตรวจก็เป็นไข้เกรดดีสิค่ะ ควบคุมได้ไขมันอาจจะขึ้นแต่ไม่ขึ้นมากขนาดต้องเพิ่มยา .....หมอไม่ว่า ยาไม่เพิ่ม สบายใจ.....
ดีมั้ยนี่

กรณีนี้จะเห็นได้ชัดจากคนไข้เบาหวาน ใกล้ๆจะครบกำหนดตรวจจะงดอาหารต้องห้ามมา แต่พอผ่านไปวัน 2 วัน ปี้...ป่อ...ปี้...ป่อ มาแล้ว ตรวจน้ำตาล ขึ้น 500 กว่า เมื่อ 2 วันก่อน ยัง 90 กว่าๆ อยู่เลยนะป้า.....

เราเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้ น้อยคนที่จะรู้ และเราเองก็กำลังหาวิธีแก้อยู่ แต่ก็ยังลำดับปัญหาไม่ถูก (เราเพิ่งจบมาทำงานได้แค่ปีเดียวเอง)

และที่เราคิดว่ามันเป็นปัญหา เพราะสุดท้ายผลสะท้อน จะกลับมาที่ LAB เราว่าทำงานยังไง ตรวจเลือดคนไข้ยังไง ทำไมวันนี้ตรวจได้เท่านี้ แล้ว อีก 2-3 วัน ถึงตรวจได้อีกแบบ

ถ้าภายในวันเดียวกัน เลือดคนไข้ที่ใช้ตรวจมาจากหลอดเดียวกัน ถ้าผลการตรวจที่เราออกให้ ไม่ตรงกับอีก LAB หนึ่ง หรือว่าค่าที่ได้ บวกลบแล้วเกินที่จะยอมรับได้ เราจะได้หาข้อผิดผลาดของเราว่าเกิดจากอะไร

แต่ว่านี่ ผลการตรวจของเรา กับอีก LAB ที่ใช้สอบเทียบกัน(LAB กทม.) ค่าที่ได้ ก็ใกล้เคียงกัน (ถ้าผลเลือดคนไข้ คนไหน ที่เราติด และสงสัย เราจะส่งตรวจ LAB ที่ กทม ด้วย เพื่อเป็นการเทียบกันว่า LAB เรามีปัญหาหรือเปล่า)


แล้วเราจะแก้ปัญหานี้ โดยเริ่มจากจุดไหนดีล่ะ




Create Date : 25 ตุลาคม 2550
Last Update : 25 ตุลาคม 2550 21:38:25 น. 1 comments
Counter : 14912 Pageviews.

 
ต้องให้มีโต๊ะให้คำแนะนำกับคนไข้ในคลินิกไงคะ

ทั้งการปฎิบัติตัว ก่อนและหลังการตรวจ

การควบคุมโรค การควบคุมอาหาร etc

พูดง่ายแต่ทำยากนะ

เพราะคนไข้ก็ร้อยพ่อพันแม่ การศึกษาก็ไม่เท่ากัน

บางคนพูดไปนิดเดียวก็เข้าใจแล้ว

บางคนอธิบายไปเถอะ พูดเหมือนไม่พูด

ว่าแต่ว่าเจ้าหน้าที่ lab ที่รพ.ข้าพเจ้าไม่เห็นใส่ใจคนไข้ขนาดนี้เลยค่ะ

คราวก่อนส่งคนไข้ไปตรวจ cbc ปรากฎว่า plt. สูงกระฉูด

โทรไปถาม lab บอกไม่รู้ไม่เห็น ทั้งๆที่ถ้ามันผิดปกติขนาดนั้น ก็น่าจะ notify แจ้งให้เราทราบก่อน

ว่าจะต้อง repeat ใหม่หรืออะไรก็ว่าไป นี่เฉยเมย ไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น

กลุ้ม


โดย: @opal@ วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:22:18:11 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

พี่บุญอุ้มน้องบุญโอบ
Location :
สุพรรณบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ... คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
25 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add พี่บุญอุ้มน้องบุญโอบ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.