จดใส่ลิสไว้!!! ไประยองคราวหน้าต้องแวะพัก Brookside Valley รีสอร์ท
มองหาที่พักชายขอบเขา มีภูเขา มีแมกไม้ มีทะเลสาบ มีสะพานสลิงค์ มีแอดเวนเจอร์ มีเทรลป่า มีเรือถีบ สระว่ายน้ำ มีมุมถ่ายภาพล้นเหลือ ที่สำคัญเหมือนอยู่เมืองนอกเมืองนาเมืองยุโรป เหมาะทั้งควงแขนไปเป็นคู่ ไปแบบพ่อแม่ลูก มินิครอบครัว กลุ่มเพื่อนสนิท ประชุมสัมนา วอร์คแรลลี่ ที่นี่ ที่เดียวครบพักที่เดียวไม่ต้องหาที่เที่ยวแวะข้างนอกเลย ไประยองถ้าไม่คิดนอนริมทะเล ต้องนอนที่นี่ จดใส่ลิสไว้เลย บรุคไซด์ วัลเล่ย์ รีสอร์ท
รีสอร์ทสไตล์ตะวันตก กลางขุนเขา แมกไม้ และทะเลสาบ ที่สำคัญกว่าอื่นใด ราคาที่พักที่นี่อยู่ในหลัก 1,xxx - 2,xxx บาทเท่านั้น!!!
บนพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 500 ไร่ ที่โอบกอดทะเลสาบขนาด 30ไร่ไว้
มาดูกัน บรุคไซด์ วัลเล่ย์ รีสอร์ท อยู่ที่ไหนไปยังไง คลิกแผนที่นำทาง
บรุคไซด์ วัลเล่ย์ รีสอร์ท อยู่ในอ.เมืองระยอง จากกรุงเทพ มุ่งหน้าชลฯ เข้าบายพาส แล้วใช้ถนน 36 มุ่งหน้าเมืองระยอง ใช้บายพาสเลี่ยงเมืองระยอง เจอแยกแรกเลี้ยวซ้าย ถนน 3139 ตรงไปตามป้าย 17.5 กิโล ถึงแล้ว Brookside Valley resort รีสอร์ทกลางขุนเขา แมกไม้ รีสอร์ทลาดเชิงเขาด้านเหนือของเขาท่าฉุด ที่มียอดเขาสูงกว่า 620 เมตร ปอดของอำเภอเมือง จังหวัดระยอง
ผมได้มาหนเดียวถึงกับติดใจอยากจะกลับมาใหม่ ตอนมาหนแรกนี้มาหน้าฝน มองปุ๊บรู้ปั๊บถ้ามาหน้าหนาวล่ะก็ เริด หรู บรรยากาศฟินสุดติ่งแทบไม่ต้องจินตนาการ ว่าอันที่จริงแล้วเมืองไทยของเรานั้นขอแค่อากาศไม่ร้อนเท่านั้นแหละ เป็นน่าเที่ยววววไปซะทุกที่ที่สวย ... ว่ามะ
ดูสิ ภาพบนนี้ ร้านขายของที่ระลึก Souvenir ตกแต่งกิ๊บเก๋ยูเรก้า ทาฝาบ้านซะชมพูบานเย็น ไม่แต่เท่านั้น ทั่วอาณาจักรบรุคไซด์แม่เล่นสีซะ โหยเลย สะดุดตาสวยไปซะทุกซอกตึก สวยยันบันได เค้ดดู!!
มุมนี้ทำเป็นบันไดซิกแซก โยกไปย้ายมา สับฟันปลาคล้ายๆ มุมยอดฮิตมุมหนึ่งของเมืองซานฟรานซิสโก
จะแวะเข้ามาหาข้าวทานเฉยๆ ก็ยังฟิน TORR Steak & Coffee ร้านสเต็กสไตล์ฟิวชั่น กินไปชมวิวทะเลสาบเพลิน กับเมนูอาหารมากมายที่ผมงี้กลืนน้ำลายเฮือก โดยเฉพาะขาหมูเยอรมัน พระเจ้าจ๊อด ชอบมว้ากกก อร่อยจนป่านนี้ยังคิดถึงรสชาติ เนื้อที่นุ่ม หนังที่กรอบอร่อย นอกจากนี้ที่ทานไปก็มีสลัดทูน่า สเต็กเนื้อสันนอก สปาเก็ตตี้กุ้ง
ห้องอาหารที่นี่มือเยอะมาก หลากบรรยากาศ หลายทำเล และหลายขนาดพื้นที่
นี่นั่งเล่นชิมเมนูของหวาน มีไมโลภูเขาไฟ โหะโหะ กินไปเลียริมฝีปากไป มีเอแคร์ยักษ์ ป๊าด ไม่รู้เรียกชื่อว่าอะไร หน้าตามันเหมือนเอแคร์แต่ขนาดเท่าลูกซาละเปาลูกใหญ่ๆ พอกัดไปคำนึงงี้ โอย ไส้เป็นไอศครีม ทะลักเลย อร่อยค้อดๆ เรียกว่าอร่อยทุกเมนูว่างั้น
Sundeck Pool เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ อยู่ใกล้ๆ ล็อบบี้รีสอร์ท ออกแบบคล้ยๆ ว่ากำลังเล่นน้ำบนดาดฟ้าเรือโจรสลัด 555
รีสอร์ทแห่งนี้ได้ยินว่าเปิดมานานมากละ หลายปี แต่สิ่งที่มีมาทีหลังคือสิ่งนี้
Strawberry Town ผมงี้รีบถามคนที่รีสอร์ทเลยว่าทำมั้ยทำไมถึงตั้งชื่อว่า สตรอเบอรี่ ทาวน์ ได้รับคำตอบว่าชื่อของ Strawberry Town นั้นถูกตั้งขึ้นมาเพื่อสื่อถึงความหวานและสดใสของเมืองแห่งนี้ ดูไปก็น่าจะตั้งได้อีกหลายชื่อนะครับ ฮอลแลนด์ทาวน์! ยุโรปทาวน์!! ตะวันตกทาวน์!!! อ่ะ สตรอเบอรี่ทาวน์ก็สตรอเบอรี่ทาวน์ เพราะว่าเห็นมีลูกสตรอเบอรี่ยักษ์อยู่กลางเมืองด้วย ที่นี่ถือเป็นเซ็นเตอร์ ศูนย์รวม โซนกลาง ของอาณาจักรรีสอร์ทแห่งนี้เลย ออกแบบก่อสร้างให้มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นสวยสดงดงามสไตล์ตะวันตก มีร้านค้า มินิมาร์ท ร้านอาหารทั้งร้านสเต็กที่นั่งกินตามภาพข้างบน ร้านกาแฟ และสารพัดร้าน ทุกอย่างรวมศูนย์อยู่ในสตรอเบอรี่ทาวน์แห่งนี้ ท่ามกลางตึกสีสันสวยงามฉูดฉาดยังกะเมืองลูกกวาด แต่แม้จะให้สีสด แต่เป็นสีสว่าง มองแล้วก็สบายตาจำเริญใจ สัญลักษณ์กังหันลมโบราณฮอลแลนด์ ที่สร้างได้ละม้ายคล้ายของจริงมากๆ ตั้งเด่นเป็นแลนด์มาร์คใหญ่สุดของสตรอเบอี่ทาวน์ แถมด้วยรองเท้าไม้ อีกหนึ่งเอกลักษณ์ชนฮอลลันดา
โซนตรงกังหันลมนี้ยังมีบ้านตึกทรงฮอลแลนด์เรียงรายยาวตลอด ท่ามกลางส่วนที่จัดตกแต่งอย่างสวยงามเหลือเกิน โซนนี้ทั้งหมดเรียกว่า Holland Village หรือหมู่บ้านฮอลแลนด์นั่นเอง ก็เจ้าหมู่บ้านนี้นี่แหละที่ทำให้ถ่ายยยยรูปซะเมมแทบไม่พอ
ภายในบริเวณนี้ที่บ้านหลังสีชมพูๆหลังนี้ยังมีบริการพิเศษ แต่งตัวเป็นชาวฮอลแลนด์ถ่ายรูปเก๋เก๋ด้วยครับ แหม่
มุมมองโซนฮอลแลนด์วิลเลจในแดนสตรอเบอรี่ทาวน์ มุมแบบพานอรามา ฉากหน้าบานไปด้วยทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์ ฉากหลังเป็นเขาท่าฉุด ปอดสำคัญแหล่งผลิตโอโซนของคนเมืองระยอง
อ่ะ ดูดีดีมีกิจกรรม คล้องกุญแจรักด้วย อินเทรนด์นะเออ กุญแจใครไม่ได้เตรียมมาก็ซื้อหาได้ที่นี่ ในสตรอเบอรี่ทาวน์ยังตกแต่งตั้งแซมไปด้วยประติมากรรมโลหะสำริด (ไม่รู้ว่าใช้เลซิ่นหรือสำริดจริงๆ นะครับ ฮี่ ) เป็นประติมากรรมสไตล์ตะวันตกเค้าล่ะ พร้อมม้านงม้านั่งกระจายไปทั่วสวน ให้เราได้เลือกนั่งพักผ่อนหย่อนก้น หรือใช้เป็นมุมมองถ่ายภาพสวยๆ ถึงบอกไงว่าเมมโมรี่การ์ดที่เตรียมไปนั้นแทบไม่พอ
ตึกทรงฮอลแลนด์ถ่ายใกล้ๆ มีมุมนั่งดื่มนั่งดริ๊งค์ด้วย ถ้ามีดนตรีสด เล่นกลางแจ้ง สีไวโอลีน หรือจังหวะยุโรปๆ พื้นเมืองนะ แจ่มเลยบ่องตง
เห็นลูกสตอรเบอรี่ยักษ์มั้ยครับ! นั่นละๆ สัญลักษณ์ตราที่บ่งบอก ว่าดินแดนบริเวณนี้คือ Strawberry Town
สวยสดชื่นมั้ยครับ ไม่ใช่พื้นราบๆ เพราะภูมิประเทศเค้าเป็นที่ลาดเชิงเขา ยิ่งมาตกแต่งสวนแบบนี้แล้วยิ่ง... นี่ถ้าประเทศเรามีฤดูใบไม้เปลี่ยนสีซีซั่น Fall Autumn ด้วยนะ โหย นึกว่าอยู่เมืองนอกเลยล่ะ
ถึงบอกไงว่าเนี่ย ถ้ามาเที่ยวหน้าหนาวอากาศเย็นๆ นะสุโค่ย หรือไม่ก็มาหน้าฝนนะ ก็ฉุ่มชื่นเย็นตาไปอีกแบบ แต่หน้าร้อนแบบร้อนเหลือเหงื่อไหลเนี่ยก็ต้องแบบกลางวันหมกตัวอยู่แต่ในที่พัก นอนตากแอร์มองวิวข้างนอก 5555
แต่ใครให้เดินตากแดดอย่างเดียวล่ะ ตึกสีสันต่างๆ ที่มองเห็นเนี่ย เดินเลี้ยวเดินแวะได้แทบทั้งนั้น เปิดเป็นร้านอาหารบ้าง ร้านกาแฟ ร้านกิ๊ฟช๊อป สารพัดร้าน ให้เลี้ยวเข้าไปครับ
และใช่แต่จะสวยกลางวันนะ พอโพล้เพล้มางี้ แดดร่มลมตก เอาล่ะสิ ฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีสัน สตรอเบอรี่ทาวน์ก็เริ่มเปิดแสงไฟประดิษฐ์ แข่งกันงาม แสงสองแหล่ง เป็นบรรยากาศทไวไลค์ที่เรียกว่าตื่นตามาก
เห็นอักษร HOLLYWOOD มั้ยครับ ใหญ่ๆ อยู่บนยอดเขา 555 เข้าใจทำมาก หลอกตาได้เนียนโพด เพราะว่าจริงแล้วเป็นแค่อักษรลอยๆ บนยอดเสาไฟเนี่ยแหละ แต่เค้าทำจุดยืนมองยืนถ่ายภาพกันแบบมองไปกลายเป็นป้ายฮอลลีวู้ดใหญ่ยักษ์บนยอดเขาแบบเดียวกับฮอลลีวู้ดฮิลที่แอลเอเลย HOLLYWOOD Hill
ให้ดูป้ายฮอลลีวู้ดจากอีกมุมนึง ชัดเลย ป้ายเล็กๆ บนเสาไฟนั่นเอง เข้าใจทำเน้อะ ข้างล่างก็เป็นโซนมินิมาร์ท ร้านนั่งกินนั่งเล่น ตรงนี้เป็นตรงที่ผมนั่งกินไมโลภูเขาไฟกะเอแคร์ยักษ์แหละ ข้างหลังถัดไปทางขวาของภาพอันนั้นเป็นร้านสเต็กที่ผมนั่งหม่ำขาหมูเยอรมันอย่างตะกละตะกลามมว้าก
ฮอลแลนด์ทาวน์ยาม Twilight
เช้าอันสดใส กับบางเช้าที่คุณอาจจะตื่นมาได้เห็นสายหมอกบางๆ จริงแล้วผมเปิดตามองผ่านผ้าห่มทะลุม่านหน้าต่างมาเห็นหมอกหนามากนะ แต่เตียงดูดวิญญาณทำให้ผมยังคงงัวเงียแกล้งขี้เกลียด กว่าจะแซะตัวเองลุกจากเตียงมาเดินชมวิวเก็บภาพหมอกก็บางละ T T
ที่ Brookside Valley resort นี้จะแบ่งห้องพักเป็นหลายโซน มีทั้งแบบอาคารที่พัก แบบรีสอร์ทบ้านเป็นหลังๆ อ่ะ เรามาไล่ดูกัน แถ่นแท้น ที่เห็นเป็นหลังๆ สีลูกหวาดบริเวณนี้คือ
House of Dawn บ้านแห่งรุ่งอรุณ
มุมนี้ยังถ่ายทัน สายหมอกคลอเคลียภูเขา ถ่ายเสร็จหมอกจางหายแว้บ !!
เข้าไปดูหลังนี้กัน บ้านพักหลังคาหน้าจั่ว สองชั้น เหมาะกับมาพักเป็นครอบครัวมาก สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และได้ความเป็นส่วนตัว ราคาค่าพักทั้งหลังนี่ พันปลายๆ ถึงสองพันต้นๆ
อารมณ์แบบบ้านเดี่ยวส่วนตัวชัดๆ
เดินขึ้นมาด้านบน ห้องนอนจะอยู่ด้านบนทั้งหมด โดยแบ่งเป็น 2 ห้องนอน ภาพนี้เปิดให้ดูห้องเล็ก ส่วนห้องใหญ่อยู่ประตูถัดไป
อันนี้ห้องใหญ่ หน้าต่างรอบทิศทาง แถมระเบียงอีกหนึ่ง เพลินวิวมาก
ต่อมาเรามาชมตึก Lake View A กัน ที่ว่าเป็นตึกทรงยุโรปเมดิเตอร์เรเนียนสีขาวนวล หมู่ต้นฉัตรสีเขียวขึ้นประดับเรียงรายรอบ ตัวตึกสูงสามชั้น มี basement ด้วย LAKE VIEW A
Family room อันนี้เป็นห้อง type แบบ Family ภายในออกแบบเป็นชั้นครึ่ง คุณพ่อคุณแม่นอนชั้นล่าง เด็กๆ ก็ขึ้นมานอนห้องใต้หลังคา โอ้ว สนุกล่ะแบบนี้ อยากกลับเป็นเด็กเล่นจินตนาการในโลกใต้หลังคาอีกครั้ง
ส่วนถัดมาห้องอีก Type นึงใน Lake View A Deluxe room พื้นปาเก้มันวาวชิ้นใหญ่ ตกแต่งภายในสไตล์ยุโรป แถมวิวทะเลสาบเต็มหน้าตา เต็มตาจิมจิม นอนห้องนี้เนี่ยไม่อยากรูดม่านปิดเลย
ลำดับถัดมา ใน Lake view A Suite room เห็นแล้วร้องว้าว นี่สองพันกว่าบาทเหรอ! หรูหราอลังมาก
พื้นที่ใช้สอยใหญ่โตเกิ๊น นี่ห้องชนิดพักสองคนนะครับ ดูเค้าจัดมาให้สิ แบ่งสัดส่วน ห้องนั่งเล่น โต๊ะกินข้าว กับห้องนอนอย่างสวยงาม และเช่นกัน ตึกนี้ทั้งหลังจะได้วิวทะเลสาบ
มาดูห้องสวีทอีกแบบ ในตึกนี้แหละ Suite room ออกแนวยุโรปขรึมๆ ใครโปรดสีแบบนี้ก็ใช่เลย ห้องแบ่งเป็นชั้นครึ่ง แน่นอนครึ่งบนนั้นคือที่นอนใต้หลังคา เหมาะสำหรับเด็กๆ อีกแล้ว
มาดูห้องพักในตึก Lake View B ตึกสีแดงเหลือดหมูที่มองแต่แรกนึกว่าโรงเรียนนานาชาติ 555 ตึกนี้เป็นที่ตั้งของ lobby และสระว่ายน้ำ sundeck pool ด้วย
ห้องในตึกนี้ทั้งหมดน่าจะมี type เดียวนะ เดา Deluxe room
เหมาะกับมาเป็นคู่ ไม่หรูอลังเหมือนฝั่งตึกขาว แต่ราคาก็ย่อมเยาว์มาก และได้วิวทะเลสาบเช่นกัน
นอกจากห้องพักแบบ house of dawn, และห้องพักในตึกสองตึกขาวกะแดงนี้แล้ว ทางบรุคไซด์ยังมีโซนห้องพักอื่นๆ อีก เช่น Hilly park และ Park & Pond
สรุปโซนห้องพักให้อีกที - House of Dawn บ้านพักสีลูกกวาดกลางสวนดอกไม้ ทุ่งหญ้า
- Lake View A ตึกขวาทรงยุโรปผสมเมดิเตอร์เรเนียน
- Lake View B ตึกแดงไสตล์โมเดิลผสมเมดิเตอร์เรเนียน
- Hilly Park ตึกสไตล์โมเดิลลุค ตกแต่งแบบสมัยใหม่
- Park & Pond บ้านพักบนเนินเขา อบอุ่น ร่มรื่น
มาดูอื่นๆ กันบ้าง ว่านอกจากสตรอเบอรี่ทาวน์และโซนบ้านพักต่างๆ แล้ว ในบรุคไซด์วัลเล่ย์นี้ยังมีอะไรน่าสนใจ Mini Sydney Harbour Bridge สะพานซิดนี่ย์ เป็นสะพานเล็กๆ เก๋ๆ ข้างๆ ฝายน้ำล้น ชายขอบทะเลสาบ มาหามุมถ่ายภาพ portrait เล่นกันได้เลย
Valley View Tower หอชมวิว ที่จะให้คนได้เห็นวิววัลเล่ย์กว้างไกล ว่าอยู่กลางแมกไม้ หมู่สน และขุนเขาขนาดไหน
Adventure Land แดนผจญภัย ที่มีเครื่องเล่นผาดโผนนานาชนิด มีโหนสลิงค์ลอยตัวไปกลับข้ามทะเลสาบ มีโรยตัวบนหอสูง มีไต่ผาจำลอง และก็มีเครื่องเล่นแบบใช้ทักษะฝ่าไปตามด่านต่างๆ เหนือภาคพื้นดิน ขอบอกว่าสนุกฝุดๆ สนนราคาค่าเล่นกิจกรรมก็อยู่ที่ประมาณชนิดละ 120บาท
Uncle Sams Farm ฟาร์มแกะ เพลินกับการป้อนอาหารแก่ฝูงแกะน้อยแสนน่ารัก
Amazon Trail เดินป่าเล็กๆ เทรลที่เกาะไปตามลำธารธรรมชาติ
Hydro-Green Garden แปลงปลูกผักไฮโดรกรีน ผักปลอดสาร ไฮโดรกรีน วัตถุดิบป้อนครัวอาหารที่นี่ สู่เมนูอาหารแด่ลูกค้า
อย่างที่บอก ที่นี่เหมาะทั้งจูงมือมากันเป็นคู่ พากันมาแบบครอบครัว สังสรรค์หมู่เพื่อนฝูง และจัดสัมนาหมู่เล็กคณะใหญ่ บรุคไซด์ วัลเล่ย์ รีสอร์ท มีห้องประชุม ลานกิจกรรม มากมาย และขนาดใช้สอย และหลายบรรยากาศ อาทิ
ห้องประชุม HILLTOP HALL อาคารห้องจัดเลี้ยงและประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ ที่รองรับลูกค้าได้ถึง 700 ท่าน แบ่งเป็นสองห้องประชุม และเปิดคอนเน็กซ์ขยายเป็นห้องใหญ่ห้องเดียวได้
Lake Port ห้องประชุมและลานกิจกรรมริมทะเลสาบ รองรับกลุ่มสัมนาได้กว่า 40-80 ท่าน
แผนผังภายในทั้งหมดของบุรคไซด์ วัลเล่ย์ รีสอร์ท
PAGE สตรอเบอรี่ทาวน์ : https://www.facebook.com/StrawberryTownRayong/
web บรุคไซด์วัลเลย์รีสอร์ท : //www.brookside.co.th/
ที่นี่ยังมีบริการเช่าสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งด้วย โดยสนนราคาค่าเช่าสถานที่+ห้องพัก day use อยู่ที่ 3500บาท ถ้าไม่เอาห้องพักก็เหลือ 2500
ก็รีวิวหอมปากหอมคอสำหรับ พิกัดนี้น่าพัก สไตล์รีวิวแบบฉบับนายน้ำฟ้านะครับ บรุคไซด์วัลเลย์รีสอร์ท เนี่ยล่ะใช่เลย พักแล้วอยากกลับไปพักอีก
อ่อ สรุปส่งท้าย
จุดเด่น - วิวสวย ภูมิทัศน์รอบตัวงดงาม มีวิวภูเขา วิวทะเลสาบ
- มี Strawberry town ที่ทำให้มีมุมถ่ายภาพล้นเหลือ
- บ้านพักสวย โดยเฉพาะมีแบบชั้นครึ่งที่มีห้องนอนใต้หลังคา ชอบมาก
- ห้องอาหารเยอะ และเมนูอาหารอร่อย
จุดด้อย - Wifi ไม่แรง และต้องซื้อ ไม่มีแบบฟรี ถ้าแรงและฟรีจะดีมาก
ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์นะค้าบ สุดท้ายฝากเพจด้วย 2 เพจ
Page: รีวิวฉบับน้ำจิ้ม by นายน้ำฟ้า เดี๋ยวจะอัพรูปรวมภาพบรุคไซค์ไว้ที่เพจนี้
Page: น้ำฟ้าป่าเขา ( GoTraveltogether )
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2558 |
|
11 comments |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2558 13:22:00 น. |
Counter : 5088 Pageviews. |
|
|
|