บินสบาย นอนสนิท ปั่นสนุก บุกกระบี่-ลันตา >> สไตล์นายน้ำฟ้า
บินสบาย นอนสนิท ปั่นสนุก บุกกระบี่- ลันตา
หลังจากนายน้ำฟ้ามีโอกาสไปปั่นชิลชิลชมวิวฝั่งโขงที่นครพนมมา ลีลาการปั่นก็เข้าตากรรมการ อย่ากระนั้นเลย ปั่น 5 กิโลที่คอนนมมันง่ายไป นกแอร์จึงสะกิดให้ไปปั่น 10 กิโลที่กระบี่ หา! สิบโล! กลัวที่ไหน ขอเตรียมที่ห้อยลิ้นก่อนนะ แล้วภารกิจเหินฟ้าอีกหนจึงเกิดขึ้น เที่ยวบิน DD7910 มุ่งหน้าทิศใต้สู่ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ กำหนดการจาก take off สู่ landing 1.20 ชั่วโมง แต่เอาเข้าจริงเครื่องเราบินชั่วโมงเดียวครับพี่น้อง! นกแอร์เค้ามีเที่ยวบินตรง ดอนเมือง-กระบี่ บินวันละ 3 เที่ยว ที่พิเศษคือเลือกที่นั่งได้ และถ้านั่งถูกลำล่ะก็มี Free WiFi บนเครื่องอีกต่างหาก (เครื่องนกสนุก) เจ๋งมั้ยล่ะ และเช่นเคย จักรยานสองล้อขึ้นฟรี (เพียงแพ็คตามเงื่อนไข) แหม่ ลองเทียบระยะทางบกลงใต้ดด้วยรถยนต์ดู ตรูต้องนั่งรถคดเคี้ยวล่องใต้ 808 กิโลฝ่าการจราจร เนินหลังเต่า ทางภูเขา นับสิบชั่วโมง เมื่อยขบกว่าจะถึงต้องนอนตื่นใหญ่ๆ ฟื้นร่างกายที่ฟกช้ำ บินดีกว่า ถึงปุ๊บก็ปั่นปั๊บดีกว่ากันเน้าะ ปะ ปะ ไปกัน
เราบิน flight เช้า 10:10 น. ถึงกระบี่ในเวลาเพียงอึดใจไวเหมือนโกหก ก่อนจะเริ่มต้นปั่นสนุก ขอบุกไปหามื้อเที่ยงหม่ำกันก่อน ออกจากสนามบินมุ่งหน้า 4 กิโลลเมตรสู่เพิงอาหารเจ้าดัง โกจ้อย ขนมจีนไก่ทอด กระบี่ ร้านขนมจีนเจ้าเก่าเล่ายี่ห้อย่านตำบลเหนือคลอง อำเภอเหนือคลอง เปิดมาสิบกว่าปีแล้ว จริงแล้วทั้งสนามบินกระบี่ ทั้งโกจ้อยนี่ไม่ได้ตั้งอยู่อำเภอเมืองนะครับ เค้าตั้งกันอยู่ ณ อ.เหนือคลอง พื้นที่ชานเมืองของเมืองกระบี่นี้ล่ะจ้า อ่ะ ได้เวลาหม่ำเมนูอร่อย ซัดขนมจีนน้ำยาหลากหลายเป็นประเดิมตามด้วยไก่ทอดไปอีกหลาย แถมท้ายด้วยห่อหมกปลา โต๊ะอื่นๆ สั่งอะไรกันไม่รู้ เสียเวลาดู ... หิว
ภาพยืนยันฟามอร่อย อร่อยจนเบรคไม่อยู่ ดูดู ถ่ายไม่ทันโดนตักแหว่งไปคำนึงแระ >"<
พิกัดร้านโกจ้อย พร้อมเส้นทางจากสนามบิน 8.071679,98.999727ในภาพ (ทางขวา) โกจ้อยไม่ได้อยู่ตึกนะครับ ร้านเป็นเพิงอยู่ถัดจากตึก
จากนั้นคณะเราก็นำกระเป๋าเข้าที่พัก ibis Styles KRABI Ao Nangพิกัดพร้อมเส้นทาง 8.034154,98.831183
ไอบิสหมอนเขียว ไอบิสสไตล์ เจ้าภาพร่วมทริปบุกกระบี่ในครั้งนี้ โรงแรมอยู่บนเส้นทางมุ่งหน้าผ่าเมืองแล้วเลยไปยังอ่าวนาง ทำเลที่ตั้งถอยหลังออกห่างอ่าวนางมาโลเดียว ระยะทางจากสนามบินถึงโรงแรม ibis Stylees อ่าวนาง ประมาณ 25 กิโลเมตร รถไม่ติด วิ่งฉลุยฉุยใช้เวลาไปเพียงยี่สิบกว่านาทีถึงแล้ว
Relax Time
พาเดินชมบรรยากาศในบริเวณโรงแรมที่พักกัน ตรงนี้เป็นมุมสระน้ำพร้อมเทอเรสนั่งกินที่ขยับขยายออกมาจากห้องรับประทานอาหาร The Cliff ภาพล่างนี่ก็มุมหนึ่งในห้องอาหาร ห้อยระย้าด้วยดวงไฟหลอดไส้ทังสเต็นเล่นเส้นสายจุกขั้วสีสันสูงต่ำแลดูสวยงามดี
family room
ibis Styles กระบี่ อ่าวนาง มีห้อง 3 types นะครับ ก็มี
Standard Room with one double bed Standard Room with 2 single beds และ Family Room
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง และภายในรร. ดูตามไอคอนด้านล่างนี่เลย หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ลิงค์รร. จ้า
เส้นทางปั่นสนุก สุดชิล ด้วยระยะทางทั้งหมดวัดได้ 7.6 กิโลเมตร มีจุดแวะหอบไปตามรายทาง อาทิ พิพิธภัณฑ์ลูกปัดอันดามัน (เปิดใหม่สดๆร้อนๆไม่ถึงเดือนดี) , ริมแม่น้ำกระบี่ ชมวิวเขาขนาบน้ำ ชมรูปปั้นอนุสาวรีย์ปูดำ, กำแพงประวัติศาตร์กระบี่หน้าศาลากลางจังหวัด แล้วยิงยาวไปสิ้นสุดเส้นทาง ณ พิพิธภัณฑ์เรือรบหลวงลันตา
จุดแวะแรก ระยะทางเพียง 1.9 กิโลเมตรจากจุดสตาร์ท พิพิธภัณฑ์ลูกปัดอันดามัน สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ สดๆ ซิงๆ เปิดเป็นทางการรึยังก็ไม่รู้ เพิ่งเสร็จหมาดๆ โดยมีท่านนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ คุณกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวต้อนรับแนะนำและนำเยี่ยมชม ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีจุดประสงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดอันดามันในเชิงประวัติศาสตร์ ให้ผู้สนใจได้เรียนรู้ และรู้จักประวัติความเป็นมา ความสำคัญ และความน่าสนใจของลูกปัด ลูกปัดโบราณ ซึ่งที่กระบี่นี้แหล่งขุดค้นแหล่งใหญ่สุดที่พบลูกปัดโบราณอยู่ที่อำเภอคลองท่อม
ลูกปัดสุริยเทพแห่งคลองท่อม
ภายในห้องแสดงนิทรรศการตกแต่งสวยงามทันสมัยน่าเดิน
หลักฐานร่องรอยการค้นพบลูกปัดในประเทศไทย
ลูกปัดเป็นเครื่องประดับเก่าแก่ของมนุษย์มาตั้งแต่ยุคโบราณกาลนานเน ตั้งแต่ยุคก่อนสมัยประวัติศาสตร์ ต่อมามนุษย์เราเดินทางติดต่อกันค้าขายกัน ทั้งทางบกทางทะเล แลกเปลี่ยนสินค้ากัน ลูกปัดก็เป็นสิ่งใช้ในการแลกเปลี่ยนนั้นด้วย จึงแพร่หลายกระจัดกระจายไปทั่วโลกโดยเฉพาะแถบถิ่นอารยะ ที่ที่การค้าขายระหว่างชาติพันธุ์เข้าถึง สำหรับในประเทศไทยเราพบหลักฐานลูกปัดมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์เช่นกัน พบเกือบทั่วทุกภาคของประเทศ ตามแหล่งขุดค้นแหล่งโบราณคดีต่างๆ เช่นที่ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรีพบอยู่กับร่องรอยโครงกระดูกเพศหญิงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ยุคหินใหม่ อายุราว 4,000ปี ที่ ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค ก็พบ ที่ต.กลางแดด จ.นครสวรรค์ พบลูกปัดทำจากเปลือกหอย ลูกปัดทำด้วยกระดูกสัตว์คล้ายตะกรุด ที่หนองแช่เสา จ.ราชบุรี พบโครงกระดูกมนุษย์ยุคหินใหม่สองโครงประดับประดาด้วยสร้อยลูกปัดจากเปลือกหอย ที่บ้านโคกเจริญ ชัยบาดาล จ.ลพบุรีก็พบ บ้านเชียง จ.อุดรฯ ก็มี ขณะที่แหล่งโบราณคดีอู่ทอง สุพรรณบุรีก็ค้นพบลูกปัดแบบแก้วเขียนลาย ที่เรียกว่า คาร์เนเลียน ทางภาคเหนือก็มีการค้นพบลูกปัดหลากสีที่เวียงยอง จ.ลำพูน
ทางภาคใต้บ้านเราค้นพบทั้งลูกปัดจากวัสดุดินเผา หิน แก้วสี เช่นที่พุนพิน ไชยา ท่าชนะ จ.สุราษฏร์ธานี ที่ท่าศาลาและอ.เมืองนครศรีฯ เขาสามแก้ว จ.ชุมพร แหล่งค้นพบที่สำคัญที่สุดของภาคใต้ก็คือที่แหล่งโบราณคดีภูเขาทอง ต.กำพวน อ.สุขสำราญ จ.ระนอง และที่ควนลูกปัด อ.คลองท่อม จังหวัดกระบี่ที่เรามาเยือนนี่ล่ะ และยังมีที่ตะกั่วป่า จ.พังงาอีก สำหรับเฉพาะฟากฝั่งอันดามันก็มีค้นพบไล่ตั้งแต่ระนอง พังงา (พังงานี่ที่มีชื่อเสียงมากเลยก็คือลูกปัดลูกตาที่ตะกั่วป่า) ภูเก็ต กระบี่ ตรัง โดยแหล่งขุดค้นพบที่ใหญ่ที่สุดทางแถบอันดามันนี้ก็คือที่กระบี่นั่นเอง
ใครสนใจเรื่องราวลูกปัดโบราณแห่งอันดามันคลิกชมที่ลิงค์ youtube นี้ได้ครับ คลิกไปเริ่มนาทีที่ 6.06 แล้วชมต่อเนื่องได้เลย ความยาว 9นาที https://www.youtube.com/watch?v=HwlKB9ucGuY
จวน 6โมงเย็น ได้เวลาปั่นสนุกต่อ
เส้นทางยังอยู่อีกไกล เราต้องไปให้ทันแสงสุดท้ายที่ปลายทางด้วย ขบวนปั่นเลี้ยวซ้ายออกจากพิพิธภัณฑ์ลูกปัดแล้วก็เลี้ยวออกจากถนนมหาราช เข้าสู่ถนนหลวงพ่อ แล้วไปเลียบแม่น้ำกระบี่ที่ถนนอุตรกิจ เจอะ อนุสาวรีย์ปูดำ 8.067284,98.917087 ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่สวนธารณะริมแม่น้ำ มองทอดตายาวๆไปไกลๆ เจอเขาขนาบน้ำเป็นฉากหลัง สัญลักษณ์สำคัญอีกสิ่งของจังหวัดกระบี่
เขาขนาบน้ำ
ขบวนมาเลี้ยวขวาไต่เนินเข้าถนนเจ้าฟ้า นาทีนี้นายน้ำฟ้าเริ่มเหงื่อแตก เปลี่ยนเกียร์ไม่ถูกแล้ว เพราะไม่สัดทัดจักรยานมีเกียร์มาก่อน เจอจานหน้า 3 เกียร์หลัง 8 โอ่ว ปรับไปทางไหนล่ะทีนี้ พอดันทุรรังเปลี่ยนจานหน้ากลางเนินโซ่ก็หลุด เอาล่ะสิ เข็นสิครับพี่น้อง เอ้า เข็นๆๆๆ ไป ไปตะแคงรถใส่โซ่ตอนพ้นเนิน แล้วจึงตามไปสบทบขบวนใหญ่ที่หยุดรอและถ่ายภาพกำแพงประวัติศาสตร์เมืองกระบี่กันอยู่ที่หน้าศาลากลางจังหวัด พอนายน้ำฟ้าปั่นไปทัน ขบวนก็เคลื่อนออกอีก เอ่อ ครือ! ได้มารูปนึงแล้วปั่นต่อ ขาจะตะคริวกินเสียให้ได้ เนื่องจากไม่ได้วอร์มอัพ สงสัยตกกลางคืนต้องหาที่นวดซะล่ะมั้ง อิอิ
f o l l o w - y o u r - h e a r t
และแล้ว การปั่นสนุกช่วงสุดท้าย ซัดยาวจากกำแพงประวัติศาสตร์สู่ปลายทางที่พิพิธภัณฑ์เรือรบหลวงลันตา ระยะทางแม่จ้าว 4 กิโลเมตร ก็เล่นเอาลิ้นห้อยในที่สุด หอบแฮกๆ เพราะแข่งกะตะวันที่โย้ลง คล้อยต่ำลง ตะวันตกหกโมงสามสิบเจ็ด แม้เรามาทัน เตะขาตั้งจักรยานลงแล้วรีบกุลีกุจอวิ่งหามุม แต่ก็ไม่ทันส่องดวงกลมโตของตะวัน เนื่องจากองศาที่ตกนั้นหลบหลังเหลี่ยมเขา อ่ะ ทำใจ ถึงยังไงก็ได้ท้องฟ้าที่กำลังตั้งท่างามอล่างรอเป็นกำนัลแทน
นี่คือสถานที่ท่องเทียวแห่งใหม่อีกแห่งของจังหวัดกระบี่ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เต็มรูปแบบ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างทำการดัดแปลงภายในเรือรบให้เป็นพิพิธภัณฑ์อันสวยงามทันสมัย เรือรบหลวงลันตามีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สร้างเสร็จเมื่อปี 2488 ก็ปฏิบัติภารกิจในกองทัพสหรัฐอเมริกามาตลอด ร่วมในสมรภูมิรบมากมาย ทั้งในสงครามโลกครั้งที่ 2 กระทั่ง 28ปีต่อมาก็ส่งมอบต่อให้กองทัพไทย ใช้ประจำการในกองทัพเรือ จนมาปลดประจำการลงเมื่อกลางปี 2556 และทางจังหวัดกระบี่ได้ขอไว้ เมื่อได้รับอนุญาตก็ทำการลากจากอ่าวไทย อ้อมช่องแคบมะละกาข้ามมาฟากฝั่งอันดามัน เคลียร์ทางจนขึ้นฝั่งที่ปากคลองจิราดบรรจบปากแม่น้ำกระบี่ตรงนี้เอง
ข้อมูลประวัติเรือรบหลวงลันตาเพิ่มเติม
t w i l i g h t
ขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ แล้วปีนบันไดขึ้นหอบังคับการ มาชมวิวสนธยาดวงตาวันอำลาฟ้าบนนี้ กับทัศนียภาพคลองจีราดและแนวเขาหินปูนทอดยาวอันเป็นภูมิประเทศเด่นของจังหวัดกระบี่ ไม่ได้เอาขาตั้งกล้องขึ้นมา ซัดเลนส์กระบอกโต 400 mm. ไป iso100 เค้ดดู สปีด+กันสั่นเอาแทบไม่อยู่
วิวดาดฟ้าเรือรบหลวงลันตามองจากบนหอบังคับการเรือ เอ๊ะ หรือเค้าจะเรียกสะพานเดินเรือ! อ่ะ ดูวิวกัน ด้านหน้าเป็นปากคลองจิราด ด้านขวาเห็นปากแม่น้ำกระบี่ไหลมาบรรจบแล้วออกสู่ทะเลไปพร้อมๆกันตรงโน้น ข้างหน้าด่านล่างตรงหัวเรือริมน้ำเป็นท่าเรือ บนฝั่งทางซ้ายเป็นอนุสาวรีย์เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ วิวบนนี้โอเคเลยนะครับ เหมาะสำหรับเป็นที่ชมวิวพระอาทิตย์ตกมั่กๆ
เรากราบสักการะกรมหลวงชุมพรฯ แล้วก็มุ่งหน้ากลับเมืองกัน หา! เรื่องปั่นจักรยานหน่ะเหรอ เหอะๆ ลืมได้เลย เมื่อยขบไปหมดแล้ว นั่งรถตู้กลับโลด อิอิ แล้วก็ลาค่ำคืนนี้ไปด้วยการหม่ำดินเนอร์กันที่ร้านอาหารสุดยอดบรรยากาศอีกร้านนึง ชื่อร้าน เรือนไม้ ไม่ได้ถ่ายภาพร้าน ภาพอาหารมา แบบว่าแสงมันน้อย ประกอบกับหิวมาก + กับอาหารก็น่ากิน จนอดใจไม่อยู่ซัดก่อนเลย มารู้สึกตัวอีกทีว่าลืมถ่ายอาหารก็เกลี้ยงจานไปซะแล้ว ฮา
Good morning กระบี่ ... อรุณสวัสดิ์ ibis
Good Morning KRABI
มุม internet service ดีไซน์เก๋าๆ มีโมบายคนโรยตัวบนผา ในบริเวณล็อปบี้นี้ยังมีโต๊ะพูลให้หยอดเหรียญเล่นด้วย ใครชอบก็เพลินล่ะ
บุฟเฟ่ต์เสร็จ ก็เคลื่อนพลเลาะลงอ่าวนางเลี้ยวขวาเลียบเรื่อยเลยสู่หาดนพรัตน์ธารา สุดปลายหาดก็ตวัดเข้าหาปากน้ำคลองสน อันเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่ทำการอช.หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี 8.047215,98.800745 คณะเราเลยไปอีกหน่อย สู่ ท่าเรือเอกชน พีพีทัวร์ 8.051246,98.798444
เอาล่ะครับ แบกจักรยานลงเรือกันต่อ สปีดโบ้ทเครื่อง 750แรงม้าพร้อม จุดหมายต่อไป
บุกเกาะลันตา
ระยะทางดิ่งลงเกาะลันตา 54 กิโลเมตรทิศทางห้านาฬิกา จุดหมายขึ้นฝั่งที่ ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวบ้านศาลาด่าน 7.6486,99.040856 เกาะลันตาใหญ่ เรียกว่างานนี้ surprise เพราะตอนแรกนึกว่าจะไปเกาะลันตาด้วยทางรถยนต์กัน ลงเรือมาแบบนี้ได้บรรยากาศสุดขีดหน่ะสิครัช
ยกพลลงเรือ ณ ท่าเรือเอกชนพีพีทัวร์ แรม 7 ค่ำน้ำตาย ก่อนเดินทางมานี่ผมยังคิดว่ากำหนดวันฤกษ์น้ำนิ่งดีแบบนี้สงสัยจะพาไปทะเลแหวก แต่ไม่เป็นไร ถึงเกร็งผิดไปหน่อยแต่โอกาสเดินทางไปเกาะลันตาโดยทางเรือแบบนี้หายาก ระยะทางครึ่งร้อยโลอย่างที่บอกไว้เราใช้เวลาแล่นเรือทั้งสิ้นหนึ่งชั่วโมงพอดีๆ ขบวนเรือก็แล่นเข้าเทียบท่า ณ บ้านศาลาด่าน เหนือเกาะลันตาใหญ่
ปากคลองสน เตรียมแล่นออกสู่ท้องทะเล
250แรงม้า 3 เครื่องยนต์
ณ ท่าเทียบเรือบ้านศาลาด่าน เกาะลันตาใหญ่ จ.กระบี่
เหล่านักปั่นระยะไกลรวมหมู่กันอีกหนึ่งครั้ง ก่อนสปินตัวสู่เส้นทางระยะไกลบนเกาะอีกครานึง ส่วนนายน้ำฟ้าเป็นกลุ่มสื่อครับ รถตู้ล่วงหน้ามาดักรอแล้ว อิอิ
เราออกจากท่ามุ่งหน้าใช้เส้นทางเลียบเกาะฝั่งทิศตะวันออก เส้นทางฝั่งด้านนี้เงียบสงบร่มรื่น ไม่พลุกพล่านเหมือนฝั่งด้านตะวันออกที่เป็นสายท่องเที่ยวอันเต็มไปด้วยหาดทรายและรีสอร์ทมากมาย ไม่นาน ( 16.5 กิโลเมตร เราก็มาถึงจุดหมายหลักของการบุกลันตา นั่นคือชุมชนเก่าแก่โบราณแห่ง บ้านศรีรายา
Koh LANTA Community Museum บ้านศรีรายา เกาะลันตาใหญ่
พิพิธภัณฑ์ชุมชน ชาวเกาะลันตา( ๒๕๕๐ , 2007 )7.530662,99.093638แต่เดิมอาคารหลังนี้คือที่ว่าการอำเภอเกาะลันตาหลังเก่า สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัย ร.๕ ต่อมาได้ย้ายที่ว่าการไปตั้งที่เกาะลันตาน้อย อาคารหลังนี้จึงได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนชาวเกาะลันตา
เกาะลันตามีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นที่รวมของชน 4 ชาติพันธุ์ ชนกลุ่มแรกที่มาตั้งรกรากคือชาวเล หรือ"อูรัก ลาโว้ย" (คนที่อาศัยอยู่กับทะเล) พวกเขาเรียกตัวเองว่า "ลูโม๊ะ ลาโว้ย" (พวกเราชาวทะเล) ชนที่อาศัยเติบโตกินอยู่หลับนอนบนเรือ (ยิปซีทะเล Sea Gypsics) พวกเค้าขึ้นบกตั้งถิ่นฐานกันบนเกาะลันตามากว่า 500ปีมาแล้ว แม้ปัจจุบันชาวเลจะอาศัยอยู่ทั่วไปกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ เช่นเกาะหลีเป๊ะ เกาะอาดังราวี เกาะบุโหลน สตูล เกาะพีพี เกาะจำ กระบี่ เกาะสิเหร่ หาดราไวย์ ภูเก็ต แต่ต้องถือว่าลันตาเป็นเมืองหลวงของชาวเล ชาติพันธุ์ถัดไปที่เข้ามาอาศัยบนเกาะลันตาคือชาวไทยมุสลิม ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวไทยเชื้อสายพุทธ
แอบเห็นหลอดไส้ไฟทังสเตนท์ห้อยระย้าจากเพดาน ให้นึกไปถึงห้องอาหาร the cliff ใน ibis ที่เราพักเลย อิอิ
ขึ้นมาชมพิพิธภัณฑ์กันครับ ภายในอาคารที่ว่าการเก่าที่ดัดแปลงมาเป็นพิพิธภัณฑ์แบ่งโซนต่างๆ เอาไว้อย่างมากมาย ร่วมๆ สิบห้อง มีเวลาค่อยๆ เดินชมได้เลยครับ ซึมซัมอดีต และเรียนรู้วัฒนธรรมพื้นถิ่นของชุมชนที่นี่ ตลอดถึงภูมิปัญญาต่างๆ การอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนของชน 4 ชาติพันธุ์ในถิ่นเดียวกัน
แต่ดั่งเดิมที่การคมนาคมทางเรือสะดวกกว่าทางบก แทบถิ่นต่างๆติดต่อไปมาหาสู่และค้าขายผ่านทางแม่น้ำลำคลองและน่านน้ำในทะเล แม้กระทั่งจากชนต่างชาติแดนไกล ไม่ว่าจะจีน อินโด มาเลย์ สิงคโปร์ กาลเก่าก่อนครั้งนั้นเกาะลันตานับว่าเป็นศูนย์กลางการค้าขายทางทะเลทีเดียว เพราะภูมิประเทศเหมาะกับการพักเรือหลบมรสุม โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกของเกาะลันตาแบบนี้ จนเกาะลันตายกฐานะขึ้นเป็นอำเภอ ก็เพื่อจะให้มีการเก็บภาษาการค้าสะดวกด้วยแหละ
ศาลกรมหลวงชุมพรฯ บริเวณหมู่บ้านศรีรายา
ชุมชนเก่าแก่บ้านศรีรายา
ลงมาจากชมพิพิธภัณฑ์เราก็ได้เวลาพาเพลินอีกครั้ง ปั่นจักรยานทอดน่องบุกชมเสน่ห์ชุมชนเก่าแก่โบราณกาเลแห่งบ้านศรีรายา ที่มีอายุมากกว่าร้อยปี อดีตที่รุ่งเรืองสุดขีดเมื่อครั้นเป็นศูนย์กลางทางน้ำและเป็นที่ตั้งที่ทำการอำเภอ
ณ วันนี้บรรยากาศแม้เงียบสงบลง แต่กลิ่นอายการท่องเที่ยวแทรกซึมมาแทนที่ มองเห็นบ้านเรือนสองข้างทางปรับเปลี่ยนวิถีมาต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่แม้นจะนิยมปักหลักบนถนนสายท่องเที่ยวทางฝั่งตะวันตกของเกาะ แต่ทว่าฟากฝั่งนี้คือการเที่ยวท่องชมวิถีชีวิต ซึ่งฝรั่งต่างชาตินิยมการเที่ยววิถีนี้อยู่ไม่น้อย
เก้าอี้โยกทำมาจากทางมะพร้าว ภูมิปัญญาที่น่านั่ง
ได้เวลาอำลาลันตา เราย้อนกลับออกจากบ้านศรีรายามาบนเส้นทางเดินก่อนจะเลี้ยวซ้ายแยกขึ้นเส้นทางเขาที่พาดข้ามไปฝั่งตะวันตกของเกาะ แยกไต่เขามาหน่อยเดียวก็เจอกับร้านอาหารบรรยากาศสุดติ่งนั่นคือ "ร้านเขาใหญ่ ( Khao-Yai Restaurant)แห่งเกาะลันตา ระยะทางมาจากบ้านศรีรายา 5 กิโลเมตร บนความสูงราวๆ 60 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง นั่งรับประทานอาหารไปชมวิวทะเลฝั่งตะวันออกของเกาะลันตาใหญ่ไป บรรยากศแบบนี้ใช่เลย
วิวเกือบ 180 องศา ของร้านเขาใหญ่
เมนู กุ้ง หอย ปู ปลา ครบเซ็ทครบรสชาติความอร่อย
แผนที่ แสดงเส้นทางเปรียบเทียบไปกลับบนเส้นทางบุกเกาะลันตาใหญ่ของคณะเรา สายปั่นจริงเค้าก็ปั่นขึ้นเขาลงเนินมันส์เค้าล่ะ ส่วนสายสื่อนั้นลิ้นห้อยไปตั้งแต่ปั่นสนุกๆในเมืองกระบี่แล้ว 555 เลยต้องนั่งจมแอร์อยู่ในรถตู้ อิอิ
วิว เกาะแก่งจากโต๊ะกินข้าวของพวกเรา ชมเกาะปอในวิวมองมุมสูงและเกาะเล็กๆ ที่อยู่ตรงหน้า ส่วนฉากหลังนั้นเห็นเลยไกลไปยันแนวฝั่งชายทะเลจังหวัดตรังแถบปากเมง ที่อยู่ห่างไกลไปราว 30 กิโลเมตรแบบขีดเส้นตรงๆ ขึงลงทะเล และสุดสายตาด้วยแนวเทือกเขาในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมท้องที่อำเภอกันตัง
ทริปนี้แม้จะเป็นเพียงทริปสั้นๆ ของนายน้ำฟ้า เนื่องจากมีเหตุต้องจำจากจรไปก่อนในเย็นวันที่สอง ไม่ได้อยู่รวมตลอดรอดทริปอีกครึ่งวันในวันพรุ่ง และทำให้พลาดโปรแกรมเด็ดท่าสองปอมคลองสองน้ำไปอย่างน่าเสียดายที่สุด แต่ก็ถือว่าการได้มาสัมผัสสองแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่อย่าง พิพิธภัณฑ์ลูกปัดอันดามัน และ พิพิธภัณฑ์เรือรบหลวงลันตา ถือว่าคุ้มค่า อันที่จริงทริปนี้นับไปแล้วได้สัมผัสถึง 3 พิพิธภัณฑ์เลยนะ สำหรับใครที่มาท่องเที่ยวเมืองกระบี่และหากในแผนของคุณมีชั่วโมงว่างๆ อย่าลืมบรรจุเหล่าลูกปัดอันดามันลงไปในโปรแกรม และไปชมอาทิตย์อัสดงที่ดาดฟ้าเรือรบหลวงลันตาดู ถือเป็นสัมผัสใหม่ของเมืองกระบี่ที่ไม่ซ้ำซากจำเจดี และหากมีแผนขึ้นเกาะลันอย่าลืมแวะสัมผัสชุมชนโบราณนาม ศรีรายา และพิพิธภัณฑ์ชุมชนเก่าเกาะลันตานะ ลาไปด้วยภาพชาดหาดเหนือบริเวณปากคลองสน เรือของเราแล่นกลับมาถึงฝั่งแล้ว พบกันใหม่บล็อกหน้า
ฝากคอมเมนท์ไว้เป็นกำลังใจ Like & Share หรือทิ้งร่องรอยให้รู้ว่าท่านมาเยี่ยมเยือนเรา นายน้ำฟ้า นะครับ โย่ว
Create Date : 30 มีนาคม 2558 |
|
42 comments |
Last Update : 17 เมษายน 2558 11:21:42 น. |
Counter : 10005 Pageviews. |
|
|
|