Review แป้งผสมรองพื้นราคาประหยัด Part 2
เขียนยาวไป หน้า Blog เลยไม่พอ ต่อตรงนี้นะคะ
ผลการทดสอบ : Mistine BB Crystal clear (สี S1 ขาวสุด) แค่ชอบลองของเลยฝากเพื่อนซื้ออีกแล้ว อันนี้ซื้อมาแพงหน่อย 279 แต่แถมน้ำหอมด้วย
(ขวดเหมือนพระจันทร์ กลิ่นคล้าย DKNY Fresh blossom แต่ติดไม่ทนเท่า) ข้อดี – เนื้อบางเบาแต่ปกปิดได้ดี และทำให้หน้าดู Glow ขึ้นด้วย
ในตลับมีประกายเงินเล็กๆ แต่พอทาออกมาแล้วไม่เห็น และมี SPF 25 ด้วย ข้อเสีย – ปกปิดรูขุมขนยังไม่ดีนัก และมีกลิ่นน้ำหอมแรงกว่า Pur gold อีก คะแนน ความเนียนของแป้ง – 8 เนื้อบางกว่า Pur gold และต้องทาหลายชั้น กลมกลืนกับสีผิว – 8 สีแอบสว่างกว่าสีผิวจริงเล็กน้อย แต่ไม่น่าเกลียด ปกปิดรูขุมขน – 8 ปกปิดดีกว่า Pur gold แต่ยังไม่เท่า 12 Plus ไม่แพ้ง่าย – 6 กลิ่นน้ำหอมแรงมาก คิดว่าคนแพ้ง่ายไม่ควรใช้ ควบคุมความมัน – 7 หน้ามันเร็วกว่า Pur gold นะ แต่ก็ไม่ได้เยิ้มน่าเกลียด สีไม่เปลี่ยนระหว่างวัน – 8 สีดรอปลงนิดหน่อยแต่ไม่มาก
รวม - 45 / 60 ซื้อต่อมั้ย – อาจจะไม่ เพราะชอบ Pur gold มากกว่าตรงที่พอทาเสร็จให้สัมผัสนุ่มลื่นกว่าตัวนี้
และควบคุมความมันดีกว่าด้วย ผลการทดสอบ : Evory E (สี WO01) เห็นแม่ใช้เลยใช้ตามแม่ ตอนแรกใช้ BB แต่รู้สึกว่าตัวนี้เนียนกว่า ติดทนกว่า และหน้ามันน้อยกว่า
เลยใช้ตัวนี้เป็นตลับที่ 2 แล้วจ้า :D (ซื้อช่วงวันเกิด แค่ 100 กว่าบาทเอง) ข้อดี – เนื้อเนียน ปิดได้หมดแม้กระทั่งแพนด้า สีเข้ากับผิวคนไทยเพราะออกโทนเหลือง
ปกปิดรูขุมขนได้ดีและไม่มีกลิ่นน้ำหอม แอบมีวิตามินอีด้วย ตัวนี้ได้ลุค Matte เป็นธรรมชาติดี ข้อเสีย – ถ้าใช้เยอะเกินจะหนาไป ซึ่งใครมีปัญหานี้ลองวิธีเราได้นะ
คือปาดแป้งครึ่งพัฟ ต่อ การเกลี่ยครึ่งหน้า ก็จะช่วยให้ได้แป้งพอดีๆ คะแนน ความเนียนของแป้ง – 9 เนียนสนิทแต่ยังมีความรู้สึกว่าเป็นแป้งนิดๆ กลมกลืนกับสีผิว – 10 สีเข้ากับผิวเป๊ะๆ ไม่ขาวซีดเกินไป ปกปิดรูขุมขน – 9 มองแทบไม่เห็นรูขุมขน แต่ยังไม่เนียนเท่า 12 Plus ไม่แพ้ง่าย – 10 ไม่มีน้ำหอม ตัวนี้เป็นแป้งตัวเดียวที่กล้าใช้ตอนสิวขึ้น
เพราะมั่นใจได้เลยว่าสิวไม่อักเสบขึ้นแน่นอน ควบคุมความมัน – 7 ซับประมาณ 2 – 3 รอบ ดีนะที่ไม่เป็นคราบ สีไม่เปลี่ยนระหว่างวัน – 8 สีดรอปลงนิดหน่อย
รวม - 53 / 60
ซื้อต่อมั้ย – คงซื้อไว้เป็นแป้งสามัญประจำบ้าน :D ราคาถูกและคุณภาพดี
แต่ถ้ามีตัวอื่นออกมาก็คงซื้อไว้สลับกันใช้ ผลการทดสอบ : Evory Snow (สี WO01 ขาวสุด) วิ่งไปซื้อเพราะเห็นโฆษณาวันก่อน (เชื่อโฆษณาง่ายจริงจริ๊งงงง T^T )
เค้าบอกว่าผลิตที่ญี่ปุ่น มี SPF 30 และวิตามิน C ด้วย
ส่วนนึงคิดว่า เอาวะ ซื้อมาคงได้มารีวิวนี่แหละ เดี๋ยวจะมีแต่มิสทีนเยอะเกินไปจนเค้าหาว่าเป็นม้า :P ข้อดี – รู้สึกว่าเนื้อแป้งจะนุ่มขึ้น และบางกว่าตัวอื่นๆ ของคิวท์เพรสที่เคยใช้ (E – BB)
ตัวนี้ก็ทำให้หน้าเนียนและได้ลุค Glow & Dewy
ที่ชอบอีกอย่างคือ SPF เยอะดี และมีสารบำรุง
(แอบคิดไปเองว่ามันคงช่วยบ้างแหละว้า ก็แป้งอยู่บนหน้าเราทั้งวันนี่นา...) ข้อเสีย – ดูเนื้อแป้งในตลับเหมือนดำ แต่พอทาออกมาดันขาวซะงั้น
จนขาวกว่าหน้าเราไปนิดนึงเหมือนกัน สีเลยไม่ค่อยกลืนเท่าไหร่
ตัวนี้ในตลับเหมือนมีประกายวิ้งๆ เยอะมากด้วย แต่ทาออกมาแล้วไม่เห็นเป็นวิ้งนะ
ออกผ่องๆ มากกว่า อธิบายไม่ถูก แนะนำให้ลองที่ร้านก่อนดีกว่าค่ะ คะแนน ความเนียนของแป้ง – 8 เนียนกริ๊บสู้ E ไม่ได้ แต่ตัวนี้จะบางเบากว่า
คนที่ผิวดีอยู่แล้วอาจจะชอบตัวนี้มากกว่า กลมกลืนกับสีผิว – 8 ขาวกว่าผิวเค้าไปนิดนึงนะตัวเอง ปกปิดรูขุมขน – 9 ปกปิดได้ดีพอสมควร แทบไม่เห็นรูขุมขนจ้า ไม่แพ้ง่าย – 10 ไม่มีน้ำหอม และใช้มา 4 – 5 วัน สิวก็ไม่ขึ้นและไม่อักเสบเพิ่ม ถือว่าผ่าน ควบคุมความมัน – 9 คุมมันได้ดีกว่า E นะ แล้วหน้าจะไม่มันแบบเยิ้ม แต่จะดู Glow ขึ้นมากกว่า สีไม่เปลี่ยนระหว่างวัน – 9 ตัวนี้สีแทบไม่เปลี่ยนเลยอะ ขนาดไปขายของที่ JJ ทั้งวัน เติมแป้งเด็ก 2 - 3 ครั้ง ก็ยังโอเคอยู่ อยากให้มันดรอปลงนิดนึงด้วยซ้ำจะได้พอดีกับผิวเรา เหอๆๆ
รวม - 53 / 60 ซื้อต่อมั้ย – อาจจะลองซื้อสีเข้มกว่านี้ 1 เฉด มาลองนะ สรุปทั้งหมดนะจ๊ะ ส่วนตัว ถ้าเป็นของ Mistine ชอบ Pur Gold มากสุดเลย
เพราะให้เนื้อแมต และสีไม่เปลี่ยนระหว่างวัน ไม่ต้องเติมแป้งบ่อยด้วย
ซึ่งในส่วนของรูขุมขนที่ปิดไม่มิดอาจจะต้องหาเบสหรือคอนซีลเลอร์สำหรับลดรูขุมขนโดยเฉพาะมาใช้ ก็น่าจะช่วยได้
ถ้าเป็นของคิวท์เพรส อาจเลือกใช้สองตัวนี้สลับกัน
แล้วแต่ว่าวันไหนอยากได้ลุค Matte หรือ Glow แต่คงไม่ใช้ BB ตลับสีชมพูแล้วล่ะ T^T หน้ามันเร็วเกิ๊น หวังว่ารีวิวนี้จะทำให้คนที่กำลังเลือกซื้อแป้งอยู่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ ขอบคุณค่า
แอบเสริมนิดนึง ช่วงที่รีวิวจี๊ปมีการใช้แป้งเหล่านี้ สลับกับรองพื้น Lunasol – Clinique – Bobbi brown ด้วย
บางวันก็จะแอบถามเพื่อนๆว่า
“แกว่าหน้าชั้นเปลี่ยนไปจากเดิมบ้างปะ?” หรือ “หน้าชั้นต่างจากเมื่อวานปะ?”
เชื่อมั้ยคะว่า 100 ทั้ง 100 แยกไม่ออกเลย ระหว่างแป้งมิสทีน คิวท์เพรส กับรองพื้นแพงๆ
ทุกคนก็ตอบว่า “ก็เหมือนเดิมแหละ” (หรือหน้าเรา... ใช้อะไรก็เหมือนกัน?) ที่เด็ดสุดคือ วันที่ลองเปลี่ยนจาก Lunasol เป็น Cute Press
เจอพี่ที่อยู่คนละแผนกบนรถไฟใต้ดิน เค้าเดินเข้ามาทักว่า “น้องจี๊ป... ใช้รองพื้นอะไรน่ะ หน้าเนียนจัง!!” โอ้โห ตอนนั้นเป็นแบบ รู้งี้ใช้คิวท์เพรสตั้งนานละ ฮ่าๆๆ แต่สุดท้ายจี๊ปก็ยังเก็บ Lunasol ไว้นะ เอาไว้ใช้วันที่ต้องสวยเป็นพิเศษ เช่น ไปงานแต่งงาน
(เป็นความมั่นใจเล็กๆ ส่วนตัว)แต่ก็จะใช้แป้งยี่ห้อที่ไม่แพงในวันธรรมดา ก็ประหยัดไปได้เยอะ
สุดท้ายนี้ก็อยากให้สาวๆ ทุกคนหันมามองแบรนด์ไทยกันบ้างน้า
ถือเป็นการช่วยเศรษฐกิจไทย ไม่ให้เงินรั่วไหลไปนอกประเทศ
เดี๋ยวนี้สินค้าเค้าก็พัฒนาให้ดีขึ้นแล้วจริงๆ ทั้งมิสทีน และคิวท์เพรส
แถมยังสบายกระเป๋า ไม่ต้องกินมาม่าต้อนสิ้นเดือนด้วย ขอบคุณค่า (รีวิวหน้า มหากาพย์โฟมล้างหน้า โปรดติดตามด้วยนะจ๊ะ :D)
Create Date : 21 มีนาคม 2554 |
|
9 comments |
Last Update : 21 มีนาคม 2554 14:32:15 น. |
Counter : 2802 Pageviews. |
|
|
|