ฟังเทคนิค 'เชียร์บอล' ที่บ้านอย่างไร ไม่ทำลายสุขภาพ!
เมื่อมหกรรมศึกลูกหนังระดับโลกอย่าง "เวิล์ดคัพ 2010" ระเบิดขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า บรรดาแฟนบอลทุกบ้าน ต่างลุ้นระทึกจนถึงขั้นอดหลับอดนอนไปตามๆ กัน ซึ่งการอดหลับอดนอนนี้ เป็นที่รู้ๆ กันดีว่า ย่อมส่งผลต่อสุขภาพไม่น้อย โดยเฉพาะระบบของร่างกาย และสมองที่จะขาดสมดุลไปโดยไม่รู้ตัว เป็นอันตรายต่อตัวเอง และผู้อื่น ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่จะปรับ และเปลี่ยนตารางชีวิตให้เหมาะสมรับศึกฟาดแข้งที่กำลังเข้มข้นในช่วงนี้ "นพ.จุลินทร์ โอภานุรักษ์" แพทย์สาขาด้านระบบทางเดินปัสสาวะ ศูนย์ M-Centre โรงพยาบาลบีเอ็นเอช บอกว่า เมื่อเข้าช่วงเทศกาลบอลโลก ทำให้เวลาในเรื่องการนอนของคอบอลในบ้านหลายคนต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป ถ้าอดนอนเป็นเวลานานๆ ย่อมส่งผลต่อร่างกาย และหากอดนอนต่อเนื่องเป็นเวลา 1-2 คืน จะทำให้การทำงานของร่างกาย และสมองเสียสมดุลไป โดยอาการที่ชัดเจนคือ จะมีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ปวด หรือเวียนศีรษะ ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ ท้องผูก และมักจะมีอารมณ์ไม่ดี ฉุนเฉียวง่าย ซึ่งมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการขับรถในตอนเช้า นอกจากนี้ ยังทำให้ประสิทธิภาพการจดจำลดลง เจ็บป่วยได้ง่าย เพราะภูมิต้านทานลดลง มีโอกาสเสียชีวิตจากโรคหัวใจ และหลอดเลือดเป็น 2 เท่าของบุคคลที่นอนเพียงพอ รวมทั้งเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งบางอย่างได้สูง ทั้งนี้ยังทำให้สมองเชื่องช้า และตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ไม่ดี มีผลต่อการตัดสินใจ ย่อมมีความผิดพลาดได้สูงเหมือนคนเมาสุรา เทคนิคดูแลสุขภาพไม่ให้เสีย สมดุลช่วงบอลโลก สำหรับการปฏิบัติตัวในช่วงดูบอลโลก แบบไม่ให้สุขภาพโทรม มี 3 ข้อหลักๆ ทำง่ายดังนี้ 1. ร่างกายของมนุษย์ต้องการพักติดต่อกันอย่างน้อย 4 ชั่วโมง จึงจะทำให้วงจรในการทำงานของระบบในร่างกายเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น ต้องวางแผนการนอนให้ดี ให้มีช่วงหลับติดต่อกันได้นานถึง 4 ชั่วโมง 2. การตื่นเช้าหลังจากอดนอน การทำงานเกี่ยวกับนาฬิกาในร่างกายนั้น แม้นอนดึก เราก็ควรตื่นเช้าเช่นเดิม หลายคนเข้าใจว่านอนดึก ตื่นสายเป็นสิ่งที่ดี เพราะถือเป็นการชดเชยกัน แท้ที่จริงแล้วส่งผลเสียต่อร่างกาย เพราะความสมดุลของนาฬิกาในร่างกายได้เปลี่ยนแปลงไป หากทำเช่นนั้นแล้วอาจก่อให้เกิดภาวะเซื่องซึม สมองล้า ดังนั้น ควรตั้งเวลาตื่นที่แน่นอน แม้จะนอนดึก อดนอน ก็ควรตื่นในเวลาเดิม
|
|
|
3. การกิน คุณหมอแบ่งได้เป็น 2 แบบคือ กินชดเชยฮอร์โมน เพื่อลดความเครียด ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี และซีสูง เพื่อเป็นการชดเชยส่วนที่หายไป อาหารที่แนะนำคือ ข้าวกล้อง ผักหรือผลไม้สด ๆ น้ำส้มคั้นสด ๆ แต่ถ้าหาได้ลำบากเป็นวิตามินสำเร็จรูป เช่น วิตามินบีรวม วันละ 1-2 เม็ด และวิตามินซี วันละ 1,000 มก. โดยพบว่า วิตามินบีและซี มีสารเซโรโทนันสูง ซึ่งทำให้สมองลดความเครียดได้ ขณะที่ การกินมื้อดึก เพราะว่าหิว โดยปกติอาหารที่เรากินจะให้พลังงานประมาณ 6 ชั่วโมง เมื่อหลังเที่ยงคืนไปแล้ว ร่างกายจึงต้องการพลังงานเสริมทัพ แต่ควรเป็นอาหารเบาๆ ที่ย่อยง่าย เช่น น้ำเต้าหู้อุ่นๆ โจ๊ก ไม่ควรเป็นอาหารไขมันสูง เพราะจะย่อยมาก ที่สำคัญคอบอลบ้านไหน อยากชมฟุตบอลโลกอย่างสนุกและสุขภาพดี คุณหมอแนะนำว่า อย่างแรก ขอให้นึกถึงสุขภาพตัวเองเยอะๆ อย่าหักโหมหรือดูบอลโลกจนเสียงาน เสียเงิน เสียแฟน และเสียสุขภาพ โดยอาจจะเลือกดูให้เหมาะสมกับการทำงานของเรา หรือเลือกดูคู่ที่เป็นไฮไลท์เท่านั้น อย่าดูหมดทุกคู่ ทั้งนี้เพื่อสุขภาพของตัวท่านเอง แต่ถ้าอยากดูจริง ๆ อัดเทปไว้ก็ได้ แล้วค่อยมาดูช่วงกลางวันหรือตอนเย็น นอกจากนี้ ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการนอน ซึ่งหลายคนคิดว่า การนอนเยอะๆ มีผลดีต่อสุขภาพ ในเรื่องนี้ นพ.จุลินทร์ บอกว่า ไม่จริง เพราะการนอนมากกว่า 8 ชมต่อวัน ทำให้สุขภาพแย่ได้เช่นกัน ดังนั้น ควรนอนแต่พอดี "ปกติระบบร่างกายคนเราต้องการเวลาพักผ่อน อย่างน้อยวันละ 7-8 ชม.ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด ในช่วงเวลาเช้าถึงกลางวัน เมื่อมีแสงสว่าง ต่อมเหนือสมอง (Pineal gland) จะหลั่งฮอร์โมนซีโรโทนิน (Serotonin hormone) ออกมาเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสามารถดำเนินกิจกรรมได้อย่างมีชีวิตชีวา แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงบ่ายแก่ๆ แดดร่มลมตก ระดับของฮอร์โมนตัวนี้จะลดลง และต่อมเหนือสมองจะหลั่งฮอร์โมนอีกตัวหนึ่งชื่อ เมลาโทนิน (Melatonin hormone) ออกมา และไต่ระดับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับระบบของร่างกายคนเราจะลดระดับการทำงานลง จึงทำให้เกิดอาการง่วงนอน และต้องนอนพักในตอนกลางคืน ช่วงประมาณตี 3 ถึง ตี 4 ระดับของฮอร์โมนเมลาโทนินจะเริ่มลดระดังลง และฮอร์โมนซีโรโทนินถูกหลั่งออกมามากขึ้นเรื่อยๆ จนได้ระดับสูงพอสมควรในตอนเช้า ร่างกายเราก็จะตื่นพอดี เหมือนมีคนมาตั้งนาฬิกาปลุกไว้ในสมอง" .................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... .....................................................................................................................................
Create Date : 24 มิถุนายน 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 24 มิถุนายน 2553 10:11:12 น. |
Counter : 547 Pageviews. |
|
|
|