ที่ใดมีธรรมะ...ที่นั่นจะพบกับทางออกของชีวิต ^_^
Group Blog
 
 
มกราคม 2560
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
30 มกราคม 2560
 
All Blogs
 
5. คำสอนดีๆของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) (1)



 

นามเดิม  ประยุทธ์  อารยางค์กูร  เกิดเมื่อวันที่  12  มกราคม  2481  ตรงกับวันพฤหัสบดี

 

แรม  7  ค่ำ  เดือน  12  ปีขาล  เป็นบุตรคนที่  5  ของนายสำราญ  และนางชุนกี  อารยางค์กูร 
ที่ตลาดใต้
อำเภอศรีประจันต์  จังหวัดสุพรรณบุรี

 

                เริ่มการศึกษาเบื้องต้น  เมื่อ  พ.ศ. 2487  ที่โรงเรียนอนุบาลครูเฉลียว  ตลาดศรีประจันต์

 

จังหวัดสุพรรณบุรี

 

                พ.ศ. 2488-2490  ระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนประชาบาลชัยศรีประชาราษฎร์

 

(วัดยาง)  จังหวัดสุพรรณบุรี

 

                พ.ศ. 2490-2493  ศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่  1-3  ที่โรงเรียนมัธยมวัดปทุมคงคา

 

กรุงเทพมหานคร  ได้รับทุนเรียนดีของกระทรวงศึกษาธิการ

 

                บรรพชาเป็นสามเณร  เมื่อ  10  พฤษภาคม  พ.ศ. 2494  ที่วัดบ้านกร่าง  อำเภอศรีประจันต์  จังหวัดสุพรรณบุรี  เมื่ออายุย่าง  13  ปี  เริ่มเรียนพระปริยัติธรรม    วัดนั้น

 

                พ.ศ. 2495  ย้ายไปอยู่ที่วัดปราสาททอง  อำเภอเมือง  จังหวัดสุพรรณบุรี  เพื่อศึกษาพระ

 

ปริยัติธรรม  และได้เข้าฝึกวิปัสสนา  เมื่อจบการฝึกแล้ว  พระอาจารย์ผู้นำการปฏิบัติได้ชวนไปอยู่ประจำในสำนักวิปัสสนา  แต่โยมบิดาไม่ยอม  เพราะเห็นว่าสามเณรบุตรชายควรได้ศึกษา

 

ปริยัติธรรมขั้นสูงต่อไป

 

                พ.ศ. 2496  ย้ายมาจำพรรษาที่วัดพระพิเรนทร์  กรุงเทพมหานคร  เรียนพระปริยัติธรรม

 

จนสอบได้เปรียญธรรม  9  ประโยค  ขณะยังเป็นสามเณร  นับเป็นสามเณรรูปที่  4  ในสมัย

 

กรุงรัตนโกสินทร์  จึงได้รับพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ให้อุปสมบทในฐานะนาคหลวงเมื่อวันจันทร์ที่  24  กรกฎาคม  พ.ศ. 2505    พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม  ได้นามฉายาว่า  “ปยุตโต”  แปลว่า  “ผู้เพียรประกอบแล้ว”

 

                พ.ศ. 2505  สำเร็จการศึกษาปริญญาพุทธศาสตร์บัณฑิต  (เกียรตินิยมอันดับ  1)  จากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  และสอบได้  วิชาชุดครู  พ.ม.  ในปี  พ.ศ. 2506

 

                หลังจากสำเร็จการศึกษาเป็นอาจารย์ในมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  เป็นผู้ช่วยเลขาธิการและต่อมาเป็นรองเลขาธิการ  จนถึง  พ.ศ. 2517  และได้เป็นเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์  กรุงเทพมหานคร  ตั้งแต่  พ.ศ. 2515  ถึง  พ.ศ. 2519

 

                นอกจากสอนวิชาพระพุทธศาสนาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ  ในประเทศไทยแล้ว  ท่านได้รับนิมนต์ไปบรรยาย    University  Museum  แห่งมหาวิทยาลัย  Pennsylvania  ใน  พ.ศ. 2515  และที่  Swarthmore  College  สหรัฐอเมริกา  ใน  พ.ศ. 2519  ต่อมาได้รับนิมนต์ให้เป็น  Visiting  Scholarและได้รับแต่งตั้งเป็น  Research  Fellow    Divinity  Faculty  แห่งมหาวิทยาลัย  Harvard

 

                ท่านมีธรรมกถาที่เผยแผ่นับพันรายการ  และมีผลงานหนังสือที่ใช้เป็นหลักอ้างอิงหลายร้อยเรื่องเฉพาะอย่างยิ่งพุทธธรรมพจนานุกรมพุทธศาสตร์  ฉบับประมวลธรรม  และพจนานุกรมพุทธศาสน์  ฉบับประมวลศัพท์  สถาบันการศึกษาชั้นสูงเกือบ  20  แห่ง  ทั้งในและต่างประเทศ  ได้ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์  และตำแหน่งเชิดชูเกียรติต่างๆ  อาทิ  ตรีปิฏกาจารย์กิตติมศักดิ์จากนวนาลันทามหาวิหาร  ประเทศอินเดีย  และเมธาจารย์  (Most  Eminent  Scholar)  จากมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก

 

                สำนักของท่านในปัจจุบัน  คือวัดญาณเวศกวัน  ตั้งอยู่ในอำเภอสามพราน  จังหวัดนครปฐม

 

 

พระสงฆ์ต้องรักษาธรรม

 

“ถ้าพระสงฆ์ไม่รักษาธรรม

 

ก็เรียกไม่ได้ว่าเป็นพระสงฆ์”

 

ธรรมดาทหารต้องมีความกล้าหาญ  ถ้าทหารไม่มีความ

 

กล้าหาญก็ไม่ควรเรียกว่าเป็นทหาร  แต่ในทำนองเดียวกัน

 

พระสงฆ์ก็มีหน้าที่ต้องรักษาธรรม  ถ้าพระสงฆ์ไม่รักษาธรรม

 

ก็เรียกไม่ได้ว่าเป็นพระสงฆ์

 

ป.อ.ปยุตโต

 

 

อย่ามัวรอฤกษ์ยาม

 

“พระพุทธเจ้าก็ตรัสบอกว่า

 

คนเขลามัวคำนวณดวงดาวอยู่”

 

พระพุทธเจ้าก็ตรัสบอกว่า  คนเขลามัวคำนวณดวงดาวอยู่

 

ประโยชน์ได้ล่วงเลยเขาไปเสียแล้ว  ประโยชน์เป็นฤกษ์ของ

 

ประโยชน์เอง  ดวงดาวจะทำอะไรได้  มัวรอฤกษ์ยามนี่

 

มันเสียซะเยอะ  พระพุทธศาสนานี่  ท่านไม่มัวรอเรื่องเหล่านี้

 

ป.อ.ปยุตโต

 

 

เอาทุกข์ทับถมตน

 

“คิดเรื่องอะไรต่ออะไรมาทำให้หัวสมองทุกข์

 

ไอ้นี่เขาเรียกว่า  เอาทุกข์ทับถมตน”

 

คนจำนวนมากนี่เอาทุกข์มาทับถมตัวเอง  ไปเที่ยวหาเรื่องมาทุกข์

 

อย่างคนแก่ๆ  ก็นั่งกลุ้มใจเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มา  อยู่ดีๆ  ล่ะไปคิด

 

เรื่องอะไรต่ออะไรมาทำให้หัวสมองทุกข์ไอ้นี่เขาเรียกว่า  ความทุกข์

 

ทับถมตน

 

ป.อ.ปยุตโต

 

 

สุขสบายแล้วอย่าประมาท

 

“ใครทั้งๆ  ที่สุขสบายก็ไม่ประมาทได้

 

ก็คนนั้นแหละเป็นคนที่ปฏิบัติธรรมได้ผล”

 

คนเรานี่เวลามีภัยคุกคาม  มีทุกข์บีบคั้นก็ลุกขึ้นดิ้นรนขวนขวาย

 

พอสุขสบายก็นอนต่อไป  พระพุทธศาสนาก็จึงต้องย้ำด้วยความไม่ประมาท

 

เพราะว่า  เมื่อสบายแล้วคนโน้มเอียงจะประมาท

 

ใครทั้งๆ  ที่สุขสบายก็ไม่ประมาทได้ก็คนนั้นแหละ  เป็นคนที่ปฏิบัติธรรมได้ผล

 

ป.อ.ปยุตโต

 

 

มนุษย์ประเสริฐได้ด้วยการฝึก

 

“มนุษย์ที่ไม่มีการฝึก

 

เป็นสัตว์ที่แย่ที่สุดกว่าสัตว์  ใดๆ  ทั้งสิ้น”

 

มนุษย์เป็นสัตว์ที่ประเสริฐด้วยการฝึก  ถ้าไม่ฝึกหาประเสริฐไม่

 

มนุษย์ที่ไม่มีการฝึกเป็นสัตว์ที่แย่ที่สุดกว่าสัตว์ใดๆ  ทั้งสิ้น

 

อันนี้เป็นหลักพระศาสนา  เพราะฉะนั้นจึงพุทธพจน์ว่า

 

ทันโต  เสฏโฐ  มนุสเสสุ  แปลว่า  ในหมู่มนุษย์ผู้ที่ฝึกแล้วประเสริฐ

 

ป.อ.ปยุตโต

 

 

ความเพียร

 

ชนะโชคชะตา

 

“ความเพียรของมนุษย์

 

เทวดาก็กีดกันไม่ได้”

 

ความเพียรของมนุษย์  เทวดาก็กีดกันไม่ได้  ว่าอย่างนั้นนะ

 

อันนี้ก็หมายความว่า  พุทธศาสนานี่ไม่ยอมแก่เรื่อง

 

โชคชะตา  ให้มีความเพียรพยายามใช้สติปัญญากำลัง

 

ความสามารถแล้วจะสามารถเอาชนะแม้แต่โชคชะตาได้

 

ป.อ.ปยุตโต

 

 

ทำอยู่กับปัจจุบัน

 

“สิ่งใดล่วงแล้วก็ผ่านไป  สิ่งใดยังไม่ถึงสิ่งนั้นก็ทำไม่ได้

 

สิ่งที่ทำได้แน่นอนคือปัจจุบันนี้”

 

ไม่พึงมัวหวนละห้อยความหลัง  ไม่มัวเพ้อหวังอนาคต

 

สิ่งใดล่วงแล้วก็ผ่านไป  สิ่งใดยังไม่ถึงสิ่งนั้นก็ทำไม่ได้

 

สิ่งที่ทำได้แน่นอนคือปัจจุบันนี้  ให้มองเห็นให้พิจารณาให้ชัดเจน

 

แจ่มแจ้ง  เมื่อมองเห็น  เข้าใจชัดเจนแจ่มแจ้งแล้วทำ

 

ป.อ.ปยุตโต

 

 

ปัญญามาปัญหาหมด

 

“ปัญหาก็คู่กับปัญญา

 

ปัญญามาปัญหาก็หมดไป”

 

ถ้าสังคมใดไร้ปัญญา  สังคมนั้นก็เต็มไปด้วยปัญหา  จะแก้ปัญหา

 

ก็ไม่ได้  ปัญหาก็คู่กับปัญญา  ปัญญามาปัญหาก็หมดไป

 

พระพุทธศาสนาสอนก็จึงได้มีธรรมะข้อสูงสุดก็คือปัญญา

 

ป.อ.ปยุตโต

 

 

จากหนังสือร้อยธรรมคำสอน

 

ผู้แต่ง   พุทธทาสภิกขุ, ปัญญานันทภิกขุ, ป.อ.ปยุตโต, พระไพศาล วิสาโล และ ว.วชิรเมธี

 

พิมพ์ครั้งที่ 2 หอจดหมายเหตุพุทธทาส  อินทปัญโญ

 

ดำเนินการโดย บริษัท สนุกคิด มีเดีย จำกัด และธรรมภาคี ผู้มีส่วนร่วมในธรรม ทั้งหลาย

 

 




Create Date : 30 มกราคม 2560
Last Update : 30 มกราคม 2560 16:40:07 น. 0 comments
Counter : 541 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นาคสีส้ม
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




วัตถุประสงค์ของ blog นี้ :

เนื่องจากส่วนตัวเป็นคนชอบได้หนังสือธรรมะมาจาก
ที่ต่างๆ และมักชอบซื้อมาอ่านเป็นประจำเสมอ
เลยทำให้หนังสือกองเต็มบ้านมากมาย
เวลาจะนำไปบริจาค ก็มักจะเสียดาย เพราะ
บางครั้ง บางที ก็หยิบเล่มเก่าๆมาอ่านอีกรอบ
เวลาใครมาขอรับบริจาคอะไรต่างๆ
มักจะหวงไว้ ไม่ค่อยส่งต่อหนังสือให้ใคร

จนมาคิดว่า ไม่ควรจะหวงไว้
เพราะเนื้อหาค่อนข้างมีประโยชน์
นำมาปรับใช้ในชีวิตได้เป็นอย่างดี
เลยอยากจะแบ่งปันความสุขให้คนอื่นๆ

เลยจัดทำ blog นี้ขึ้นมาค่ะ
ไว้เก็บรวบรวมเนื้อหาที่ได้อ่านแล้ว
มาเก็บไว้ที่นี่ ส่วนหนังสือก็จะนำไปบริจาค
ให้คนอื่น ได้ใช้ประโยชน์ต่อไปค่ะ

สำหรับเล่มไหนที่เพื่อนๆคิดว่าสนุก
ก็สามารถแนะนำได้นะคะ ^__^
Friends' blogs
[Add นาคสีส้ม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.