ที่ใดมีธรรมะ...ที่นั่นจะพบกับทางออกของชีวิต ^_^
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
22 กุมภาพันธ์ 2560
 
All Blogs
 

1. ปลดกรรมจะได้ผล ต้องสำนึก



 

ปลดกรรมจะได้ผล  ต้องสำนึก

 

รู้ผิดอย่างจริงใจว่า  เราเองเป็นผู้สร้าง

 

“กรรม”

 

                “ในโลกนี้ไม่มีใครเคยทำแต่กรรมดี  ไม่เคย

 

ทำกรรมชั่ว  ไม่มีใครเคยทำแต่กรรมชั่ว

 

ไม่เคยทำกรรมดี”

 

                ปัญหาเรื่องกรรมไม่ดีที่มาส่งผลหรือ  “วิบาก

 

กรรมไม่ดี”  มาส่งผลทำให้มีปัญหาต่างๆ  มากมาย

 

ในชีวิต  ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับการเกิดมาเป็นคน

 

ในชาตินี้

 

                ในหมู่ผู้เข้าใจในธรรม  ผู้เข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรม

 

จะรู้ดีว่าที่เป็นอย่างนั้นมาจากผลกรรมที่เรา

 

เคยทำมาถึงเวลามาส่งผล  ไม่มีใคร  หรืออำนาจใด

 

มากลั่นแกล้งเราทั้งนั้น

 

                การที่จะให้ชีวิตมีความสุขมากกว่าทุกข์

 

มีชีวิตรุ่งเรืองจนถึงมีเงินทองมากมายนั้น  ต้องมี

 

วิธีการรับมืออย่างชาญฉลาด  ลดความรุนแรงของ

 

ผลกรรมที่ครูบาอาจารย์เรียกว่า  “การลดกรรมหรือ

 

ปลดกรรม”  ตามที่ท่านจะเรียกซึ่งเป็นความหมาย

 

เดียวกันทั้งสิ้น

 

                “การปลดกรรม  ลดกรรม  ไม่ใช่เป็น

 

การแก้กรรม  เพราะกรรมนั้นแก้ไม่ได้”

 

                เปรียบเหมือนดังข้าวสารที่หุงให้เป็นข้าวสุกแล้ว

 

เราไม่สามารถทำให้กลับมาเป็นข้าวดิบได้อีก

 

เราไม่มีฤทธิ์ที่จะสามารถย้อนเวลากลับไปหยุด

 

ไม่ให้เราไม่ทำกรรมนั้นได้

 

                เมื่อเราได้กระทำอะไรลงไป  กรรมนั้นเกิดขึ้นแล้ว

 

ก็ต้องส่งผลจนกว่าจะหมดไปด้วยหลาย

 

เงื่อนไข  ทั้งส่งผลกรรมสำเร็จแล้วตามหน้าที่

 

ตามลำดับ  ตามเวลา  หรืออโหสิกรรมคือกรรมนั้นได้

 

ยุติไปแล้ว

 

                ถ้ามาจาก  “กรรมเก่าที่ติดตัวมาในอดีตชาติ”

 

ก็ต้องหาวิธีปลดกรรมลดกรรมให้เบาบางหรือหมดไป

 

และถ้ามาจาก  “กรรมใหม่ในชาตินี้”  ก็ต้องหยุด

 

การทำชั่วทั้งปวง  สร้างกรรมดีใหม่เพื่อให้ได้ผลดี

 

ต่อชีวิต  เปลี่ยนวิธีคิด  เปลี่ยนการกระทำใหม่

 

เพื่อได้ผลลัพธ์แบบใหม่ที่ดีกว่า

 

                ก่อนอื่นเราต้องรู้ยอมรับว่า  “ตนเองนั่นแหละ

 

เป็นผู้สร้างกรรม”  ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับ

 

ตนเองและผู้อื่น

 

                ที่ในเวลาต่อมาคนที่เดือดร้อนเหล่านั้นก็คือ

 

“เจ้ากรรมนายเวร”  ที่จะยังคอยติดตามทวงหนี้กรรม

 

เราไปทุกภพชาติจนกว่ากรรมนั้นจะหมด

 

สิ้นเชื้อไป  ทั้งที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรที่มาเกิดแล้ว

 

ในชาตินี้ที่เรียกว่า  “เจ้ากรรมนายเวรที่มีชีวิต”

 

ที่กำลังสร้างความเดือดร้อน  อุปสรรคต่างๆ 

 

ให้กับเรา  เป็นเจ้ากรรมนายเวรประเภทที่มีกายเนื้อ

 

สัมผัสได้  ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่  ญาติพี่น้อง  สามี

 

ภรรยา  ลูก  เพื่อนร่วมงาน  เจ้านาย  ลูกน้อง

 

เพื่อนบ้าน  สัตว์เลี้ยง  และที่เรายังไม่เจอในตอนนี้

 

แต่ขอให้รู้ไว้ว่าเขารอทวงหนี้กรรมตามลำดับของเขา

 

อยู่ในอนาคตอันใกล้นี้

 

                และ  “เจ้ากรรมนายเวรที่ไม่มีชีวิตเหลือเพียง

 

ดวงจิตวิญญาณ”  ที่อาศัยอยู่คนละภพภูมิกับเรา

 

อยู่ในรูปแบบต่างๆ  เช่นเป็นสัมภเวสีเร่ร่อน

 

                ซึ่งส่วนมากจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่มีแรง

 

อาฆาตสูง  เหตุที่ยังไม่ไปเกิดหรือไปเกิดไม่ได้

 

เพราะกรรมของเขาเองกับกรรมที่เราทำกับเขา

 

เจ้ากรรมนายเวรประเภทนี้เองที่มักจะดลบันดาล

 

ดลใจ  ปิดทางออกทำให้คิดไม่ได้

 

                เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเรื่องร้ายๆ  โดยไม่

 

คาดคิด  โรคเวรโรคกรรม  (เจ้ากรรมนายเวรอาจเป็น

 

ส่วนหนึ่งเท่านั้น  บางครั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิตของ

 

ตัวเราเองนั่นแหละที่ทำให้เกิดเรื่องร้ายด้วย)

 

โดยเขาจะพอใจยกเลิก  ไม่อาฆาต  เลิกทวงหนี้กรรม

 

ก็ต่อเมื่อเขาพอใจที่เราได้รับกรรมที่ทำกับเขา

 

หรือบางท่านแม้แต่แค่เรารู้สำนึกผิด  ยอมรับว่า

 

เราเคยทำกรรมนั้น  กลับตัวกลับใจ  สร้างบุญกุศล

 

เขาก็ให้อโหสิกรรมแล้ว

 

                “แต่ขอให้รู้ไว้ว่าเจ้ากรรมนายเวรไม่ว่า

 

ประเภทไหนก็ตาม  เขาจะให้อโหสิกรรมกับเรา

 

หรือไม่ก็อยู่ที่เขาทั้งสิ้น  เราบังคับเขาไม่ได้เพราะ

 

เขาเป็นฝ่ายโดนกระทำ”  ถึงแม้เขาจะให้อภัย

 

ยกโทษให้ไม่เอาความ  ไม่ติดใจแล้ว  แต่เราที่

 

เป็นผู้สร้างกรรมย่อมต้องได้รับผลกรรมนั้น

 

หรือที่ครูบาอาจารย์เรียกว่า  “เศษเวรเศษกรรม”  ที่ได้

 

ลดหย่อนลงไป  จากหนักก็จะกลายเป็นเบา

 

                มีคนจำนวนมากไม่เข้าใจที่มาที่ไปเห็นว่า

 

เรื่องกฎแห่งกรรม  เรื่องเจ้ากรรมนายเวรไร้สาระ

 

จึงไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลยแม้แต่จะคิด

 

เพราะผิดทางไปเสียแล้วก็ไม่มีทางที่จะลดกรรมหรือ

 

ปลดกรรมทำให้ชีวิตดีได้  เลยต้องทนทุกข์ทรมาน

 

ไปจนกว่าจะหมดเวลาของกรรมที่มาส่งผลนั้น

 

                เรามาเริ่มต้นกันใหม่ยังไม่สายเกินไป  ตั้งแต่

 

วินาทีนี้เลย  เริ่มจากที่ต้องเข้าใจตระหนักรับรู้

 

อย่างจริงจังเสียก่อนว่า  โชคชะตาชีวิตของคน

 

ทุกคนนั้นเกิดอยู่กับกรรมเป็นผู้กำหนด  กรรมนั้น

 

ลิขิตชีวิตของทุกคน  ไม่ใช่พระเจ้าหรือเทพเจ้า

 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรืออำนาจอื่นใดทั้งสิ้น  คนเรานั้น

 

จะดีหรือเลว  จะรวยหรือจน  จะทุกข์หรือสุขนั้น

 

ขึ้นอยู่กับกรรมที่เราทำเอง  การปลดกรรมและ

 

ลดกรรมในหนังสือเล่มนี้หวังใจให้ท่านทั้งหลาย

 

เข้าใจในเรื่องสำคัญดังนี้

 

                “1.  แนะแนวทางการปลดกรรม  ลดกรรม

 

จากกรรมเก่า”  ซึ่งในเจ้ากรรมนายเวรบางคนนั้น

 

เขามีความต้องการแตกต่างกันตามกรรมที่เราได้

 

ทำกับเขาไว้

 

                ดังที่บอกไปแล้วว่า  บางท่านนั้นแค่เพียงเรา

 

รู้สึกสำนึกผิดอย่างจริงใจ  เพียงถือศีล  ทำทาน

 

หรือทำสมาธิแล้วอุทิศบุญไปให้เขาเพื่อขอขมา

 

ขออโหสิกรรม  เขาก็ยอมยกโทษให้แล้ว

 

                “2.  การสร้างกรรมดีใหม่  เปลี่ยนกรรมใหม่”

 

หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทั้งกาย  วาจา  ใจ  ใหม่

 

แบบเข้าใจ  ยุติกรรมไม่ดี  ลด  ละ  เลิกให้มาก

 

ที่สุด  แล้วมีชีวิตไปในทางของการสร้างคุณงาม

 

ความดี  ออกจากความมืดไปสู่ความสว่างที่เป็น

 

บุญกุศลเพื่อผ่อนคลายจากวิบากกรรมหรือ

 

ผลกรรมที่ได้รับอยู่ให้จากหนักกลายเป็นเบา

 

จากที่เบาให้หายไป  และด้วยอานิสงส์แห่งบุญ

 

หนุนให้พบแต่ความสุข  ความเจริญ  มีเงินมีทอง

 

                “ขอให้อ่านต่อไปอย่างละเอียด

 

ทำความเข้าใจให้ลึกซึ้ง  เพราะจะช่วย

 

ปลดกรรม  ลดกรรมได้จริง”

 

จากหนังสือปาฏิหาริย์..เชื่อมบุญ..ปลดกรรม..ชีวิตดีฉับพลัน

 

โดย  ธ.ธรรมรักษ์

 

พิมพ์ที่  บริษัท  ส.เอเชียเพรส  (1989)  จำกัด

 

จัดทำโดย  สำนักพิมพ์เสบียงบุญ  ในโครงการบุญ  ธ.ธรรมรักษ์

 




 

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2560
0 comments
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2560 17:27:57 น.
Counter : 524 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


นาคสีส้ม
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




วัตถุประสงค์ของ blog นี้ :

เนื่องจากส่วนตัวเป็นคนชอบได้หนังสือธรรมะมาจาก
ที่ต่างๆ และมักชอบซื้อมาอ่านเป็นประจำเสมอ
เลยทำให้หนังสือกองเต็มบ้านมากมาย
เวลาจะนำไปบริจาค ก็มักจะเสียดาย เพราะ
บางครั้ง บางที ก็หยิบเล่มเก่าๆมาอ่านอีกรอบ
เวลาใครมาขอรับบริจาคอะไรต่างๆ
มักจะหวงไว้ ไม่ค่อยส่งต่อหนังสือให้ใคร

จนมาคิดว่า ไม่ควรจะหวงไว้
เพราะเนื้อหาค่อนข้างมีประโยชน์
นำมาปรับใช้ในชีวิตได้เป็นอย่างดี
เลยอยากจะแบ่งปันความสุขให้คนอื่นๆ

เลยจัดทำ blog นี้ขึ้นมาค่ะ
ไว้เก็บรวบรวมเนื้อหาที่ได้อ่านแล้ว
มาเก็บไว้ที่นี่ ส่วนหนังสือก็จะนำไปบริจาค
ให้คนอื่น ได้ใช้ประโยชน์ต่อไปค่ะ

สำหรับเล่มไหนที่เพื่อนๆคิดว่าสนุก
ก็สามารถแนะนำได้นะคะ ^__^
Friends' blogs
[Add นาคสีส้ม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.