สวัสดีค่ะ
พบกันอีกแล้วในตอนที่ 5-6
สำหรับผู้ที่เพิ่งมาก็ขอบอกนิดนึงค่ะว่าในบล๊อกนี้ มีทั้งเรื่องเล่า + วิดีโอนะคะ ท่านที่ไม่สะดวก วิดีโอก็สามารถอ่านได้ค่ะ เนื้อหาเหมือน ๆ กัน (เหมาะแก่การแอบอ่านในเวลางานเป็นอย่างยิ่ง
)
"ฉันมาไว.... มาไวเหลือเกิน..........." (ใครเก็ทเพลงนี้นี่รู้อายุกันเลยทีเดียว
)
แหม มาไวก็ต้องประกาศเป็นธรรมดา (นี่คือไวแล้ว ?)
เดี๋ยวนะ ทำไมต้อง 5-6 เพราะว่าเอวิตัดตามตอนของวิดีโอน่ะค่ะ เอาล่ะ ไปกัน...
เช้าวันนี้อากาศสดใส ยรี้......ฮร่าาาาาาาาาห์.......
วันนี้เป็นวันจันทร์ค่ะ เอวินัดเพื่อนไว้ เพื่อนคนนี้ถ้าใครได้อ่านมาก่อนในตอนต้น ๆ จะทราบว่าเป็นเพื่อนสนิทของเอวิเลยค่ะ มาเรียนโทที่มหาวิทยาลัยโตเกียว ก็จะรับปริญญาค่ะ เลยมางานรับปริญญาเพื่อน แต่ก่อนอื่นเรามาเจอกัน เราต้องกิน ก่อนค่ะ
VIDEO
เอวินัดเพื่อน เอ๊ย เพื่อนนัดเอวิ (ไม่รู้ทางยังจะไปนัดเขาอีก) ที่สถานี อาซากุสะบาชิ (Asakusabashi)
ร้านซาชิมิบุปเฟต์ที่จะไป เดินไปจากสถานีก็ถึงค่ะ
ลืมบอกค่ะ เอวิมาโดยรถไฟ สาย
asakusa line นะคะ ไม่ใช่ JR และใช้ JR PASS ไม่ได้ (แต่ดันไปถ่ายรูปป้ายของ JR มา) ใครที่มี JR PASS สามารถมาลงสถานีนี้ด้วยรถไฟ JR ได้เช่นกัน ทางออกสถานี JR อยู่ติดกันค่ะ
การเดินทาง
จากสถานี Asakusa (A18) มาสถานี Asakusabashi (A16) ค่ะ (ด้วยรถไฟสาย asakusa line)
นี่คือแผนที่ ที่หน้าสถานีรถไฟ
ด้านหน้าสถานี คือถนน Edo dori
ระหว่างรอเพื่อน เอวิหันไปเห็นร้านขายของกุ๊กกิ๊กน่ารัก หุหุ จะพลาดได้ไง (ออกจากสถานีทางออก A3 ออกมาจะเจอถนน edo dori อยู่ข้างหน้า ซ้ายหัน!! นับไปอีก 1-2 คูหา จะมีร้านที่ขายของหลายอย่าง เครื่องสำอางก็มี ขึ้นไปได้ 5 ชั้นเลยค่ะ)
เอาล่ะ ไปช้อปร้านที่บอกกันค่ะ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด............
180 เยน คิดเป็นเงินไทยเวลานั้น (เรท 40) ก็ประมาณ 70กว่าบาท เท่านั้นเอง (ขาบที่ไทย เคยเห็นม้วนเป็นร้อย)
สำหรับใครที่ไม่ทราบว่ามันคืออะไร มันคือ MT TAPE ค่ะ เอาไว้ตกแต่งตามสมุด หรือทำการฝีมือปะ ๆ ได้ค่ะ
ลายตามาก ตอนนี้ลืมเพื่อนไปแล้ว
หลายแบบ ชวนเสียตัง
ดูกันเพลิน ๆ นะคะ ตรายาง กับตัวเจาะรูกระดาษ
ตรายาง ทำแป้นจับเป็นรูปบ้าน แต่ปั๊มออกมาไม่ใช่รูปบ้านนะ เป็นพวกคำพูดต่าง ๆ
เอาล่ะค่ะ เพื่อนมาแล้ว ไปกินบุฟเฟต์กัน
ราคา 1000 เยนค่ะ
ออกจากสถานี (หันหลังให้สถานี) เลี้ยงขวา เดินไปเรื่อย ๆ ทางนี้
เจอแยกนี้ เีลี้ยวขวา ไปทางถนน ยาสุกุนิ โดริ (ป้ายเขียว เลข 302)
ร้านอยู่นี่จ้า
ชื่อร้าน たいこ茶屋
ป้ายหน้าร้าน
ร้านเปิด 11.45 น.-14.00 น. ค่ะ เปิดทุกวัน แต่วันอาทิตย์ไม่มีบุฟเฟต์ ราคาบุฟเฟต์ 1000 เยน
นี่คือตักรอบแรกค่ะ (แหะ ๆ ดูสะอาดเชียว)
เราจะตักกี่รอบก็ได้ค่ะ วาซาบิ ซอสโชยุ น้ำดื่มฟรี ตักเอง
แต่บอกเลย พอร้านเปิดคนมากิน (ขนาดวันจันทร์) โอกาสจะลุกไปน๊อครอบนี่ยากค่ะ คือเขาไม่ห้ามไปนะ แต่หาช่องไปตักยาก แถวยาวเป็นพรวน คนมาใหม่ก็จะมีคิวรอโต๊ะ คนรอบสอง ก็ไปต่อแถวคนที่มีโต๊ะ(ไม่ว่ารอบไหน)จะตัก ถึงหน้าโต๊ะก็รีบตัก ๆ ค่ะ ร้านเล็ก แถมเกรงใจคนที่ต่อหลังด้วย รอบสองเอวิเลยทานซะพูนเลย
เออ มีข้าวด้วยนะ เอวิไม่เน้นข้าว ส่วนเพื่อนเน้นข้าว เพื่อนเลยตักข้าวมาด้วย (ข้าวสวยก็รวมในบุปเฟต์นะคะ)
ของเอวิ
ของเพื่อน
ตรงที่ตักอาหารค่ะ มีคนตักตลอด
อิ่มแล้วเราไปกันต่อค่ะ ที่สถานี ฮาราจูกุค่ะ
VIDEO
เราเดินทางด้วยรถไฟ JR ค่ะทีนี้ ขึ้นที่สถานีเดิม
จากสถานี Asakusabashi -> สถานี yoyogi
"เปลี่ยนเป็นสายสีเขียว Yamanote line"
จากสถานี yoyogi -> สถานี Harajuku
ถ่ายภาพเป็นที่ระทึก
ตัวนี้คืออะไร อยู่บนรถไฟก็มีโฆษณา ป้ายโฆษณาก็มี
หันหลังให้กลับสถานี ด้านหน้าก็เป็น Takeshita street ถนนชื่อดังแห่งฮาราจูกุ เรามาญี่ปุ่นทุกครั้งก็มาทุกครั้งค่ะ ไม่ได้ซื้ออะไรมากมาย เสื้อผ้าก็ไม่มีไซส์ใหญ่อย่างเอวิหรอกค่ะ ก็ได้แต่เดินดูเพลิน ๆ ดี
ไปค่ะ ไปกัน...
สีสันสวยงามทีเดียว
สีสะใจ
ตามมาเรื่อย ๆ นะคะ
ระหว่างทางช้อป ก็มีร้านอาหารแทรก ๆ อยู่นะคะ ถ้าหิว ก็จัดได้เลย
อย่างที่บอกค่ะ วันจันทร์ แต่คนก็ไม่ใช่น้อย
ชั้น 2 ชั้น 3 ก็มีร้านค้าทั้งนั้น
ลงไปใต้ดินก็มีร้าน อย่างร้านนี้ขายของดารา มีรฦูปภาพ เทป ซีดี (ร้านนี้เรารับฝากเพื่อนมาซื้อบ่อย)
ยังไม่สุดซอยนะ
และแล้วก็ถึงร้านสุดโปรดสุดฮิตของเอวิ Matsumoto Kiyoshi หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Matsukiyo
กรี๊ดดดด เครื่องสำอาง
เมคอัพ สกินแคร์ มีหมด
จบจากซอย ทาเคชิตะ เราเดินไปชิบุย่ากันค่ะ เราเดินไปทาง โอโมเตะซังโดะ นะคะ
ระหว่างที่เรากำลังเดินไปชิบุย่าค่ะ มีรายการทีวี มาสัมภาษณ์ เกี่ยวกับอาหารประจำชาติ (เขาเน้นถามชาวต่างชาติโดยเฉพาะ) ก็ให้สัมภาษณ์กันไป ไม่มีโอกาสได้เห็นตัวเองในทีวีหรอกค่ะ
แน่นอนค่ะ ว่าย่านนี้มีร้านหรูเยอะแยะ
เดินมาเจอร้านนี้ เพื่อนสะกิดให้หยุด เพื่อนบอกเคยกินสมัยเรียนอเมริกา อร่อยมาก ซื้อให้เราชิม เราอิ่มท้องแตก ชิมไปคำเดียว ก็โออยู่นะ แต่อิ่มอยู่มากอ่า
ระหว่างเพื่อนรอไอติม (แถวยาวมาก) เอวิก็ถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย
อันนี้ร้านช็อคโกแลต
เดินมาอีกหน่อย ก็ถึง Aoyama theater
และแล้วก็ถึง ชิบุย่าค่ะ จุดนัดพบสุดฮิตคือ น้องหมา ฮาจิโกะนี่เอง (ประมาณว่า ผู้ซึ่งรอคอย ก็เลยมานัด ๆ รอ ๆ กันตรงนี้)
สามารถไปเยี่ยม hachiko ได้ โดยการมายังสถานีชิบุย่า ทางออก Hachiko exit ค่ะ (มาได้โดยรถไฟหลายสายนะคะ)
ชิบุย่าจ้า
ยืนมันตรงกลางเลย
เอาล่ะค่ะ เป้าหมายต่อไป เราก็จะไปกินกันนั่นเอง (อีกแล้วเหรอ)
นั่นคือ ร้านนี้ค่ะ อัลฟ่า คาเมล (หาตัวอัลฟ่าไม่เจอ ว่าแต่ตอนเรียนฉันใช้อะไร....!!!)
อยู่ตึก มาร์คซีตี้ แยกชิบุย่า
มี แนะนำใน Trip advisor
ที่นี่
เมนูจงมา (อันนี้ถ่ายจากฝาหน้าร้าน)
ประมาณว่ากินจุบจิบก็มี
อ่ะสั่งแป๊บเดียวมาแล้ว
เจาะลึก ๆ
อะ อะ อ้ามมมม
มีโกโก้ด้วย (ขอบอก หอมมันอร่อยทีเดียว) อ้อ เครื่องดื่มไม่จำเป็นต้องสั่งก็ได้ เขามีน้ำเปล่าเสริฟด้วย แต่เอวิชอบโกโก้อยู่แล้ว พลาดไม่ได้ค่ะ
ฮร้าาาาา..... อิ่มแล้วววววววว
ออกจากร้านขนม ง่ะ ฝนตก ตกแบบไม่ปรอย ๆ เหมือนตอนไป จิยูกาโอกะ นะคะ
ตกแบบ โครม ๆ ฟ้าร้องดัง เลยง่า
แต่เอวิก็ยังฝ่าฝน ไป Loft เพื่อซื้อของจนได้
ขากลับมาถึงหน้าเกสท์เฮ้าส์ โตเกียวสกายทรี เปิดไฟสีม่วงด้วยล่ะ
ก่อนนอน มาชื่นชมของกัน วันนี้ซื้ออะไรมาบ้างน๊าาา
มาสก์เต้าหู้ยอดฮิต
เครื่องสำอางแคนเมคจ้า (ยาทาเล็บแคนเมค ที่ไทยไม่ค่อยมีนำเข้ามานะคะ เพิ่งจะเห็นที่เซ็นทรัลลาดพร้าว มีบางสีเท่านั้นด้วย)
ถุงเท้า คู่ละ 100 เยน (เอวิชอบมากนะ แบบนี้ใส่ดีมากค่ะ)