ผู้ที่ควรแก่การยกย่องและเคารพ คือผู้ที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรม มิใช่ผู้ที่ทรงอำนาจ แต่ไร้คุณธรรม "ป๋วย อึ้งภากรณ์"
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
6 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
หนังสือต้องห้าม : "ทักษิณ 24 ชั่วโมง หลังรัฐประหาร"



หนังสือ "ทักษิณ 24 ชั่วโมง หลังรัฐประหาร"
(Thaksin 24 Hours After the Coup)

ร่วมกันเขียนโดยนักเขียนชาวจีน 3 คน
และได้จัดพิมพ์ครั้งแรกจำนวน 1 หมื่นเล่ม
มีการเปิดตัวหนังสือเล่มนี้ในงานสัปดาห์หนังสือที่ฮ่องกง
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
จัดพิมพ์โดย the News Corp-owned cable-TV station Phoenix,
หนังสือเล่มนี้ ปัจจุบันได้รับการอ่านอย่างกว้างขวาง
โดยชาวไต้หวันและชาวฮ่องกง
ซึ่งวันนี้ถูกแปลเป็นพากย์ไทยแล้ว รวมจำนวน 10 บท


คำโปรย
"คุณต้องจำไว้ว่า ผมเป็นคนที่แต่งตั้งคุณเป็นผู้บัญชาการทหารบก
ผมสนับสนุนคุณ ก็เพราะหวังให้คุณทุ่มเทกำลังในการแก้ปัญหาภาคใต้
คุณอย่าเข้ามายุ่งเรื่องการเมือง ขอให้สัญญากับผม
ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษของคุณและความเป็นพี่น้องว่า
คุณจะไม่เข้ามายุ่งเรื่องการเมือง หากคุณสัญญา
ผมจะขยายระยะเวลาให้คุณอยู่ในตำแหน่งนานขึ้นอีก 1 ปี"




คำนำ
ในประวัติศาสตร์ไทยแต่ไรมา
ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เช่นทักษิณ
เขาได้รับการวิจารณ์จากนักวิชาการในเมือง
แต่กลับเป็นที่ชื่นชมจากประชาชนในต่างจังหวัด
คนที่คัดค้านทักษิณกล่าวว่า เขาหยิ่งยะโส คอร์รัปชั่น
ทำลายประชาธิปไตย นำพาประเทศไปสู่ระบบพรรคการเมืองเดียว
ส่วนคนที่สนับสนุนเขากล่าวว่า เขาเป็นคนเรียบง่าย
เข้าถึงชาวบ้าน เป็นผู้กล้าหาญ ดูแลเอาใจ่ใส่คนจน
และทำคุณประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างใหญ่หลวง

การตัดสินใจดำเนินนโยบายในแต่ละเรื่องของเขา
ขณะที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น
ดูเหมือนได้รับการโต้แย้งและถกเถียงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แม้กระทั้งรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
ที่ทำให้เขาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ได้ก่อให้เกิดการอภิปรายอย่างคึกคัก
อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเวทีระหว่างประเทศ
ประชาชนพินิจพิเคราะห์ประชาธิปไตย
ผู้คนพูดคุยและถกเถียงเกี่ยวกับการเมืองของเอเชีย
ติดตามสถานการณ์ของประเทศไทย และวิพากษ์วิจารณ์ทักษิณ




ทักษิณ ชินวัตร อายุ 58 ปี เป็นผู้ซึ่งสื่อมวลชนให้สมญานามว่า
เป็น "คนที่มีอำนาจและร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย"
ก่อนที่เขาจะเข้าสู่การเมือง เขาเป็นเศรษฐีร้อยล้านจากธุรกิจโทรคมนาคม
และก่อนที่เขาจะสู่วงการธุรกิจ เขาเป็นนายตำรวจยศพันตำรวจโท
ที่ได้เคยไปเรียนที่สหรัฐอเมริกา
ก่อนที่เขาจะเข้าโรงเรียนตำรวจ เขาเป็นลูกหลานในครอบครัว
นักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเล จากเด็กธรรมดาคนหนึ่ง
ด้วยความมานะและความเฉลียวฉลาดของเขา
ก็ค่อยๆ ก้าวขึ้นสู่ยอดปิรามิดแห่งอำนาจและความร่ำรวย
ในกระบวนดังกล่าวนี้เต็มไปด้วยความผิดหวังและอุปสรรค
แต่เขาเป็นคนที่เก่ง เรียนรู้โดย "นำความผิดหวังเปลี่ยนเป็นโอกาส"
ไม่ยอมล้มเหลว เขามีจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้
ประสบการณ์ในความสำเร็จ และอุปนิสัยที่มีเสน่ห์ของทักษิณก็อยู่ตรงนี้นี่เอง


แม้ว่าจะมีการคัดค้านอย่างหนักหน่วง
แต่เพียงแค่ดูตัวเลขทางเศรษฐกิจและบันทึกทางการเมือง
ในระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมาของประเทศไทย
ก็ต้องยอมรับว่า คนคนนี้เป็นคนที่มีความสามารถอย่างแน่นอน
มีความคิดปราดเปรียวฉับไว กล้าคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่
แม้กระทั่งศัตรูทางการเมืองที่เคยโจมตีเขายังยอมรับในภายหลังว่า
เขาได้นำความแตกต่างมาสู่เวทีการเมืองไทย
พรรคไทยรักไทยที่เขาก่อตั้ง เป็นพรรคการเมือง
ที่มีแนวคิดบริหารประเทศด้วยความชัดเจนมากที่สุด
เขาได้นำวิธีการบริหารบริษัทมาบริหารประเทศ
โดยลดการทุจริตของข้าราชการ


เขาปราบปรามการค้ายาเสพติดและอาชาญากรรม
แบบไม่ยั้งมือ ด้วยเหตุนี้จึงก่อให้เกิดการตำหนิว่า
"เมินเฉยต่อสิทธิมนุษยชน"
เขาได้ดำเนินนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อคนจน
หลายนโยบาย อาจกล่าวได้ว่า เขาเป็นนักการเมืองที่มีจิตใจเมตตา
แม้ว่าเขาจะมีอุดมคติลอยๆ ไปบ้าง
นอกจากนี้ยังมีหลายสิ่งซึ่งเขาไม่มีเหมือนกับนักการเมืองทั่วไปก็คือ
ท่าทีที่เสแสร้งและพูดซ้ำซากแต่เรื่องเดิม
อุปนิสัยของเขาเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามและอ่อนน้อม
เข้ากับคนง่ายเป็นอย่างยิ่ง คุณสมบัติสองประการนี้
ประกอบขึ้นเป็นตัวตนของเขาอย่างน่าอัศจรรย์


วันที่ 19 กันยายน 2549
โชคชะตาของเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงในชั่วข้ามคืน
เขาถูกเนรเทศออกจากแผ่นดินเกิดโดยไร้ความปราณี
จากยอดเขาตกลงสู่ห้วงเหว
นายกรัฐมนตรีของประเทศหนึ่งกลายเป็นผู้ลี้ภัย
ที่ไม่สามารถกลับประเทศตนได้ จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้
เรื่องราวที่พิสดารเหล่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาถูกจดจำไว้ในประวัติศาสตร์




ข้อสรุปที่มีต่อเขาตอนนี้ยังเร็วเกินไป
ประวัติศาสตร์จะถูกเขียนโดยผู้ชนะเสมอ
คุณอาจจะมองเขาเป็นผู้แพ้ และอาจมองเขาเป็นผู้ที่ถูกทำร้าย
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในศตวรรษที่ 21
การเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมืองโดยใช้กำลังทหาร
เป็นการไม่ปฏิบัติตามกฏแห่งประชาธิปไตยและความหมายของเสรีภาพ
แม้ว่าจะการรัฐประหารครั้งนี้จะไม่เสียเลือดเนื้อก็ตาม
แต่ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
เราไม่สามารถที่จะหาคำที่รุ่งโรจน์ และมีมนุษยธรรมอันสูงส่ง
ไปกว่าคำว่า "ประชาธิปไตย" และ "เสรีภาพ" อีกแล้ว
คำแหล่านี้ได้ถูกคิดค้น อธิบาย ในท้ายที่สุดได้นำมาปฏิบัติให้เป็นจริงขึ้น
เพื่อขจัดความรุนแรงและโหดร้ายให้หมดสิ้น
และใช้รูปแบบที่มีเหตุผลและสันติมาแก้ไขความขัดแย้ง
และข้อพิพาทที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น


สิ่งนี้มีส่วนที่เหมือนกับแนวคิดคุณค่าของศาสนาพุทธ
ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติของไทย อย่างไรก็ตาม
นอกจากศาสนาพุทธจะช่วยลดความระดับของ
ความรุนแรงของการรัฐประหารแล้ว ก็ไม่ได้ให้
"ปรัชญาทางการเมือง" ใดๆ ต่อเมืองพุทธที่มีเมตตาธรรมนี้
บางที หากมองจากมุมของศาสนาและการนับถือแล้ว
การเมืองก็เหมือนกับเศรษฐกิจที่ต่างก็จะต้องรับผิดชอบ
ต่อการแย่งชิงและการใช้กำลังของโลกเรา
มนุษยชาติส่งเสริมการแก่งแย่งชิงดี
แสวงหาของนอกกาย และบ่อยครั้งหลงทาง
สูญเสียความรัก มันก็เหมือนกับที่นักการเมืองจำนวนหนึ่ง
ที่ถกถียงกันไม่หยุดหย่อนว่า "ใครผิดใครถูก"
และไม่ยอมปล่อยให้อำนาจในมือหลุดลอย
มีใครบ้างที่จะสนใจความผาสุกของชาวบ้าน
และทุกข์สุขของคนจนอย่างแท้จริง?


หนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนได้เขียนขึ้น
จากการสัมภาษณ์ทักษิณแล้วหลายครั้ง
"คำบอกเล่าของทักษิณ" ได้ย้อนรำลึกถึงชีวิต
ความคิดที่มีต่อรัฐประหาร และความเห็นคัดค้าน
ต่อยุทธวิธีบริหารบ้านเมือง
หนังสือเล่มนี้อาจบอกความจริงส่วนหนึ่ง แต่อาจไม่ใช่ทั้งหมด
ทักษิณก็มีข้อจำกัดของตนเอง และข้อจำกัดของยุคสมัย
บทเรียนจากการรัฐประหารของไทย
มิเพียงเป็นบทเรียนของเขา และของประเทศไทยเท่านั้น
แต่ยังเป็นบทเรียนของโลกและของมนุษยชาติอีกด้วย



ลองมาดูเนื้อหาที่น่าสนใจบางส่วนกันค่ะ
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า
เหตุผลหลักที่ทำให้ทักษิณเลือกพลเอกสนธิ
เนื่องจากต้องการใช้ประโยชน์จากประสบการณ์
การรบในสนามรบที่ช่ำชอง และลัทธิความเชื่อของมุสลิม
เพื่อแก้ปัญหาชาวมุสลิมที่ก่อความไม่สงบในภาคใต้ของไทย
ซึ่งยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน ดูจากภายนอกแล้ว
พลเอกสนธิดูไม่เหมือนผู้ที่จะวางแผนทรยศ
โดยลุกขึ้นมาก่อการรัฐประหาร ทั้งภาพลักษณ์และการพูดจา
ของนายทหารระดับมืออาชีพท่านนี้ ล้วนแต่แสดงออกถึง
บุคลิกที่สุภาพอ่อนโยน แม้ตอนถอดชุดทหารแล้ว
ก็กลับดูเหมือนศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย


"คุณคิดจะก่อรัฐประหารโค่นล้มผมหรือเปล่า"
ทักษิณถามอย่างตรงไปตรงมา

"จะเป็นไปได้อย่างไร ผมไม่มีทางทำอย่างนั้นหรอก"
พลเอกสนธิตอบด้วยเสียงเบาๆ ตามปกติ

ระหว่างที่เขาพูดนั้น สายตาเขามักจะมองก้มลงโดยไม่รู้ตัว
และกวาดตามองเป็นครั้งคราว เหมือนกับแมลงปอบินระน้ำ
น้ำเสียงก็ค่อนข้างแผ่วเบา น้ำเสียงอยู่ในโทนเดียวตลอด
คำพูดที่ออกมาจากปากเขาไม่ว่าจะเป็น
คำพูดที่แสดงถึงความสนิทคุ้นเคยหรือคำพูดที่น่ากลัว
ก็ล้วนแต่พูดออกมาอย่างช้าๆ ไม่รีบร้อนนี่ไม่ใช่ผู้ที่กระหายเลือด



เมื่อเขาได้รับภารกิจให้แก้ไขสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ของไทย
เขาได้กล่าวว่า "แม้จะต้องมีการปะทะกันทางวาจาระหว่างการเจรจา
ก็จะไม่ใช้กำลังอาวุธมามาสงบสถานการณ์"
สำหรับข่าวลือเรื่องการก่อรัฐประหารที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วนั้น
เขาได้เปิดเผยท่าทีว่า "ฝ่ายทหารจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว
การก่อรัฐประหารเป็นสิ่งที่ล้าสมัยอย่างมาก"
แต่เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองแย่ลง
เขาก็ได้เคยกล่าวอย่างอ้อมๆ ว่า
"ในฐานะที่เป็นนักรบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พวกเราอยากที่จะช่วยพระองค์ในการขจัดความกังวลและ
ความทุกข์ยากทั้งปวง ฝ่ายทหารจะปฏิบัติตาม
พระราชประสงค์ของพระองค์อย่างเคร่งครัด"


ทักษิณ ถอนหายใจ เขาไม่สามารถจะแน่ใจได้ว่า
คำสัญญาของพลเอกสนธินั้นเชื่อถือได้เพียงใด

ใครคนหนึ่งต้องเป็นคนโกหก
"คุณต้องจำไว้ว่า ผมเป็นคนที่แต่งตั้งคุณ
เป็นผู้บัญชาการทหารบก ผมสนับสนุนคุณ
ก็เพราะหวังให้คุณทุ่มเทกำลังในการแก้ปัญหาภาคใต้
คุณอย่าเข้ามายุ่งเรื่องการเมือง ขอให้สัญญากับผม
ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษของคุณและความเป็นพี่น้องว่า
คุณจะไม่เข้ามายุ่งเรื่องการเมือง หากคุณสัญญา
ผมจะขยายระยะเวลาให้คุณอยู่ในตำแหน่งนานขึ้นอีก 1 ปี"



"ผมสัญญา" คำตอบที่สั้นแต่หนักแน่น
พลเอกสนธิยืนขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่ปราศจากความรู้สึกใดๆ
และจับมือกับทักษิณ โค้งคำนับ 1 ครั้ง และเดินออกไป
การหารืออันเต็มไปเสียงฟ้าอึมครึ้ม
ที่เป็นลางบอกถึงฝนที่กำลังจะตกนั้นก็ได้สิ้นสุดลง

บัดนี้ เรื่องราวได้เป็นที่กระจ่างแล้วว่า
พลเอกสนธิได้หลอกเขา ทรยศเขา
ในสุดท้ายทักษิณก็ได้ประจักษ์ถึงความจริง
ภายใต้ภาพลักษณ์อันสุภาพอ่อนโยนของผู้บัญชาการทหารบกท่านนี้
ได้ซ่อนจิตใจอันเด็ดเดี่ยวที่สุด มีความสามารถแบกรับภารกิจ
อันยากลำบากและกล้าตัดสินใจด้วยความกล้าหาญเป็นที่สุด
รวมทั้งในการกระทำทุกอย่างก็ยอมเสียสละอย่างถึงที่สุดด้วย
นายทหารเก่าที่เคยร่วมรบสงครามเวียดนามท่านนี้
นายพลที่กล่าวไว้หลายครั้งว่าไม่คิดจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองท่านนี้
นายทหารไทยที่เงียบๆ ไม่ค่อยเป็นข่าวท่านนี้ ภายในระยะเวลาเพียงคืนเดียว
เขากลับทำให้คนทั้งโลกจำเขาได้อย่างแม่นยำ


ที่น่าแปลกก็คือ ในการเจรจาที่ไม่มีบุคคลที่สามเข้ามาเป็นพยานนั้น
เรื่องที่ผ่านการถ่ายทอดจากบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกคน
กลับแตกต่างกันราวกับเป็นเรื่องราโชมอนอีกต้นฉบับหนึ่ง
เมื่อพลเอกสนธิให้สัมภาษณ์สื่อหลังจากนั้น
ก็ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ตอนที่หารือกับทักษิณว่า
"ตอนนั้นท่านทักษิณถามผมว่า คุณจะก่อการรัฐประหารหรือไม่
ผมก็ตอบไปอย่างชัดเจนว่า ผมจะทำ ผมไม่เสียใจที่ตอบไปเช่นนั้น
หากย้อนเวลากลับไปได้ ผมก็จะตอบท่านเช่นเดิม"


พลเอกสนธิ ยังกล่าวอีกว่าระหว่างเขากับผู้มีบุญคุณ
ที่แต่งตั้งเขาขึ้นมานั้น แทบจะไม่มี "ความไว้เนื้อเชื่อใจ"
ระหว่างกัน ก่อนเกิดการรัฐประหาร
มีครั้งหนึ่งเขาได้ตามทักษิณไปเยือนประเทศพม่า
มีคนเตือนให้เขาระมัดระวัง
ดังนั้น เขาจึงได้สั่งให้ลูกน้องพกปืนไปด้วย
โดยส่วนตัวเขาเองได้นั่งตรงข้างประตูเครื่องบิน
"เพื่อจะได้จัดการกับเรื่องฉุกเฉินที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที"




สุดท้ายแล้วไม่ทราบว่าใครที่โกหก

สมมุติว่าเป็นจริงดังเช่นที่พลเอกสนธิเล่าว่า
เขาได้พูดต่อหน้าทักษิณว่า "ผมจะโค่นล้มคุณ"
ถ้าเป็นเช่นนั้น ทักษิณก็ต้องรีบจัดการโต้ตอบในทันทีถึงจะถูก
ทักษิณก็ควรรีบจัดการคนที่เป็นอันตราย
ต่ออำนาจทางการเมืองในปัจจุบันของเขา
โดยการปลดออกจากตำแหน่งและลงโทษทางวินัยในทันที
แต่ทว่า ทักษิณกลับไม่รู้สึกอะไร อีกทั้งในช่วงหนึ่งเดือนหลังจากนั้น
กลับแกล้งเป็นหูหนวกตาบอดเหมือนไม่มีอะไร
ไม่ดำเนินการอะไรทั้งสิ้น นั่งรอให้ศัตรูมาทำร้ายตนเอง
จนถึงแก่ความพ่ายแพ้ ปฏิกริยาตอบสนองเช่นนี้
ออกจะแปลกประหลาดเกินไปกระมัง


ติดตามความน่าสนใจเหล่านี้ได้จาก
//www.midnightuniv.org/midnight2544/0009999594.html
แนะนำโดย คุณฟ้าดิน จากห้องราชดำเนิน ค่ะ


Create Date : 06 กันยายน 2550
Last Update : 6 กันยายน 2550 8:18:58 น. 19 comments
Counter : 1386 Pageviews.

 
มาเจิมสั่งลาค่ะ

จะคิดถึงคุณนะค๊า emoemo


โดย: เพียงแค่เหงา วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:7:47:00 น.  

 
มีจำหน่ายในประทศไทยรึบังคะ หาซื้อได้ที่ไหนบ้าง

อยากอ่าน


โดย: เจ้าเตี้ย วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:8:58:12 น.  

 
หนังสือก็คือหนังสือ

ข้อเท็จหรือข้อจริงมีอ่านตีความตามอักษร

อาจดูสมจริงสมจัง

อาจดูสมเหตุสมผล

แต่หาความจริงไม่...

................

อ่านด้วยสมอง

ตรองด้วยปัญญา

เพราะ...

หนังสือ คือ หนังสือ

ความจริง คือ ความจริง

ความหลอกลวง ก็คือ... "ความหลอกลวง" วันยังค่ำ...

......................................................

แหะๆ...ใส่อารมณ์เกินไปป่าวหว่าเรา..

ป.ล.จากบล๊อกปาต้า...

ในรูปรู้สึกว่าจะใหญ่เกินไปนะคะคุณหอมกร รูปนั้นคงประมาณ size d-f แต่ปาต้าแค่ 36b เองค่ะ อิอิ


โดย: pataramin วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:9:28:17 น.  

 
สวัสดีค่ะ

อ่านไว้รู้ไว้ แล็วก็ต้องคิดพิจารณากันเอา
คอยดูกันต่อไป

มีความสุขนะคะคุณหอมกร


โดย: โสนบ้านนา วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:10:24:13 น.  

 

= ประวัติศาสตร์จะถูกเขียนโดยผู้ชนะเสมอ=
.............หึๆๆๆๆ


โดย: space time วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:10:35:13 น.  

 


โดย: bob IP: 203.172.199.254 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:11:12:17 น.  

 
จริงไม่จริง ก็ต้องอ่านและคิดกันเอาเองล่ะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:11:59:00 น.  

 
สวัสดีครับ....

มาอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ นายกรัฐมนตรี...ที่ดีที่สุด ของเมืองไทย...เท่าที่เคยมีมา

และจะไม่มีอีกแล้วในอนาคต....

คิดถึงท่าน....คิดถึง ความเจริญ ความรุ่งเรืองของสยามประทศ ที่ได้แค่เข้าไปใกล้ เท่านั้นเอง


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:12:28:48 น.  

 
....เห็นด้วยกับคุณ เซ๊ยน_กีตาร์ ค่ะ


โดย: เพราะฉันห่างไกล วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:18:08:49 น.  

 
เข้ามาเยือนตามสัญญา


โดย: คนใกล้ๆ IP: 124.121.90.142 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:21:31:12 น.  

 



อรุณสวัสดิ์ครับ...

มีความสุข นะครับ วันนี้วันศุกร์

......



โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:7:30:56 น.  

 

มาอีกที...มาบอกว่า

ตัวจริงปาต้า....ยังมิเคยเห็น...

มิพักต้องพูดถึงสัดส่วนเลยครับ.....

36 บี.... จริงป่าว ไม่รู้อ่ะ...ต้องหาโอกาสไปพิสูจน์ทราบ..


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:8:18:58 น.  

 
จริงๆแล้วนายกทักษิณเป็นคนเก่งและมีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลแต่คนส่วนใหญ่มักมองไม่เห็นในส่วนที่ดีตรงนื้


โดย: ขอแจม IP: 124.121.94.103 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:22:05:20 น.  

 
ขอบคุณที่แวะเข้ามาแจม
จขบ.แวะเข้ามาอ่าน อิอิ

emoemo


โดย: หอมกร วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:6:53:09 น.  

 


โดย: ดก IP: 125.24.61.142 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:55:06 น.  

 
ตอนนี้มันหาความเจริญ ในประเทศไทยไม่ได้แล้วล่ะ

คนโกงย่อมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ซึ่งอำนาจที่ตัวเองต้องการ


โดย: เบื่อ IP: 58.9.237.136 วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:20:05:01 น.  

 
ขอบคุณ คุณดก และคุณเบื่อ ที่แวะมาทิ้งข้อความไว้นะ
เออ ชื่อแปลกดีนะ พ่อสองคนนี้
emoemoemoemo


โดย: หอมกร วันที่: 3 มิถุนายน 2552 เวลา:13:48:41 น.  

 
อ่านไว้ม่ายเสียหาย



โดย: ARTBIG IP: 125.26.248.55 วันที่: 15 ตุลาคม 2552 เวลา:12:03:36 น.  

 
จำได้ว่าบังธิออก tv พูดชัดๆว่าจะไม่ปฏิวัติ
คนนี้ระวังให้ดี...


โดย: คนจำได้ IP: 180.180.6.167 วันที่: 9 มกราคม 2553 เวลา:21:59:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หอมกร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 64 คน [?]




ทำงานราชการมีจิตใจรักชาติไม่น้อยกว่าใคร จากเดิมทำบล็อกหลากหลายที่ตนเองสนใจ ปัจจุบันเน้นแปะเรื่องราวจากภาพยนตร์ไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อการตัดสินใจไปดู
Hello ! Hello ! Hello ! ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมเยียนจ้า
Friends' blogs
[Add หอมกร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.