หลังจากกระทู้ต่าง ๆ ข้างต้นนั้น ....หลาย ๆ ครั้งก็มีคนถามเรื่องน้ำปูนใสอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่า จะเรื่องทำอย่างไร .....หาซื้อที่ไหน... คุณสมบัติเป็นอย่างไรทำให้เจ๊หลีเลยอยากรวมไว้ที่บล็อกให้เป็นเรื่องเป็นราวและสรุปง่าย ๆ ไว้ ที่บล็อกนี้เลย .....หลาย ๆ คนอาจรู้จักและรู้วิธีทำแล้ว แต่หลายคนก็คงอยากทราบเหมือนกัน ตามเจ๊หลีมาเลยค่ะน้ำปูนใสมีคุณสมบัติเป็นด่าง คุณสมบัติที่ว่าเป็นด่างก็คือ ด่างจะลื่น เช่น สบู่ หรือไม่ก็ที่เจ๊หลีเอาน้ำด่างจากขี้เถ้านุ่น แล้วนำมาทำกีจ่างหรือบ๊ะจ่างจิ้มน้ำตาลทรายค่ะ น้ำปูนใสที่เราทำจากปูนแดงนี้เมื่อเรานำส่วนที่เป็นน้ำใส ๆ ไปใช้แล้ว เราสามารถเติมน้ำใช้ลงไปอีกได้เรื่อย ๆ ใช้ได้นานหลายครั้ง จนเราคิดว่าปูนน่าจะจืดแล้วก็เปลี่ยนทิ้งได้ค่ะ ปู น แ ด ง กิ น กั บ ห ม า ก ไ ด้ ม า ไ ด้ อ ย่ า งไ รปูนแดงที่นำมาทำน้ำปูนใสนี้ ว่านำมาจากการเผาเปลือกหอย จนเป็นเถ้าปูนขาว จากนั้นก็จะนำปูนขาวที่ได้มาผสมกับน้ำและขมิ้นชันสีเหลือง ซึ่งทั้งปูนขาวและขมั้นชันจะทำปฏิกิริยากันและจะเปลี่ยนเป็นสีแดงน้ำปูนใส หรือ แคลเซียมไฮดรอกไซด์, Ca(OH)2 ทำมาจากปูนแดงที่กินกับหมาก มาละลายในน้ำแล้วตั้งทิ้งให้ตกตะกอน......... กรองเอาแต่น้ำใสมาใช้...... ปูนขาวก็คือ CaO จะละลายน้ำในปริมาณน้อยมาก กลายเป็นสารละลาย Ca(OH)2 เป็นที่รู้กันในแวดวงวิทยาศาสตร์ (เด็ก ๆ) ว่าน้ำปูนใสเอาไว้ทดสอบก๊าซ CO2 หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้โดยผ่านก๊าซต้องสงสัยลงไปในน้ำปูนใส ถ้าน้ำปูนใสขุ่น ก๊าซนั้นก็คือก๊าซ CO2 เป็นแน่ ดังนั้นถ้าตั้งน้ำปูนใสไว้สัมผัสอากาศ น้ำปูนใสจะขุ่นเพราะในอากาศมี CO2 อยู่ด้วย เมื่อเราเอาน้ำปูนใสมาแช่ผักผลไม้น้ำปูนใสจะทำปฏิกิริยากับก๊าซ CO2 ที่ตกค้างในท่อลำเลียงของผักผลไม้กลายเป็นหินปูนจิ๋ว ๆ ทำให้เวลากินจึงรู้สึกว่ากรอบค่ะ เ ร า ห า ซื้ อ ปู น แ ด ง ไ ด้ จ า ก ที่ ใ ด บ้ า ง เราสามารถหาซื้อปูนแดงที่กินกับหมาก เพื่อที่จะมาทำน้ำปูนใสได้จากตลาดสดที่ขายหมากพลู ค่ะส่วนถ้าอยู่ต่างประเทศ ให้ใช้ปูนขาว จะเป็นผงสีขาว ดูได้จากลิ๊งค์ค่ะที่เรียกว่า lime stone paste (หาซื้อได้ตามร้านจีน - เวียดนามนะคะ ลักษณะจะเป็นแบบอยู่ในกระปุกพลาสติก เล็ก ๆ ค่ะ)
วิ ธี ก า ร ทำ น้ำ ปู น ใ สนำปูนแดงมาใส่โหลแก้ว หรือภาชนะตามชอบ ใส่น้ำสะอาดอุณหภูมิห้อง ห้ามใช้น้ำร้อน เพราะน้ำร้อนจะทำให้ปูนแดงละลายยากค่ะ .....โดยใส่ปูนแดงและน้ำในสัดส่วน 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำ 10 ถ้วยตวง ค่ะ .....หรือเราใช้คาดคะเนเอาตามชอบก็ได้ ไม่มีกฏเกณท์ ตายตัวนัก ..... กวนให้เข้ากันทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงให้ตกตะกอนหรือจะทำทิ้งไว้ก่อนก็ได้ค่ะ..... หลังจากนั้นให้นำน้ำปูนใสส่วนบนที่ ใส ๆ มาใช้......... ส่วนปูนที่ตกตะกอนก็ทิ้งไว้ในภาชนะและเติมน้ำไว้ใช้คราวต่อ ๆ ไปได้อีกค่ะ ไม่ต้องทิ้งขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก กระทู้ของ จากคุณ :เด็กหนุ่มหน้าตาดี
Happy Valentine's Day....
Have a Sweet day ค่ะ
ขอให้เจ๊หลีกับครอบครัวรักกันมาก ๆ นะคะ....
เจ๊หลี "美 麗"กิน ๆ เที่ยว ๆ เหตุที่ใช้ชื่อนี้เพราะเป็นความใฝ่ฝันว่า สักวันจะใช้ชีวิตแบบ กิน ๆ เที่ยว ๆ ไงคะ ^.< แต่คงไม่ถึงกับเดินไม่ไหวแล้วค่อยเที่ยวหรอกนะคะ 555++หลาย ๆ คนถามว่าทำไมเจ๊หลีไม่เขียน Blog บ่อย ๆ เหตุผลคือเจ๊หลีติดงานประจำที่ทำอยู่ค่ะ ทำงานจันทร์-เสาร์ กว่าจะได้บล็อก ๆ หนึ่งเจ๊หลีก็ต้องทำขนมไปด้วย ถ่ายรูปไปด้วย มือก็เปื้อนกลัวกล้องพังก็กลัว กลัวขนมไม่ได้ที่ก็กลัวลำบากมากนะคะ เพื่อน ๆ ลองหลับตานึกภาพดูก็ได้... แต่เจ๊หลีก็เลือกที่จะทำค่ะ เก็บไว้ให้ตัวเองได้ดูว่าผ่านมาเราทำอะไรไว้บ้าง เรื่องการอัพ Blog เจ๊หลีทำเพราะชอบถ่ายรูป โดยเฉพาะชอบลองสูตร ไม่ได้หมายความว่า ทำขนมหรืออาหารเก่งหรอกนะคะเพื่อน ๆ ลองทำลองดู แล้วนำมาแชร์กันใน Blog ถูกผิดยังไงช่วยแนะนำได้ค่ะพักเหนื่อยก็เข้า Blog.... Blog เป็นพื้นที่เล็ก ๆ ที่แสดงความเป็นตัวตนของเจ๊หลี ..ทุกรายละเอียดเจ๊หลีทำด้วยความตั้งใจ และใส่ใจ หาก Blog นี้ทำประโยชน์ให้ใครได้แม้เพียงคนเดียว...เจ๊หลีก็ยินดียิ่งแล้วนะคะ อยากให้ทุกคนทราบว่า เจ๊หลี.ปลื้มมากมาย ^0^ สำหรับทุก comment ที่น่ารักและอีกหลาย ๆ กำลังใจค่ะ
กำลังคิดถึงเรื่องการทำน้ำปูนใสอยู่เลยค่ะ เพราะสรรพคุณของน้ำปูนใสที่ได้อ่านมาดีมาก ๆ คือทำให้อาหารกรอบได้นาน
ถามหน่อยซิค่ะ ทำแบบเจ๊หลีแล้ว น้ำปูนใสสามารถอยู่นานได้เป็นเดือนไหมค่ะ เพราะไม่ค่อยได้นำน้ำปูนใสมาทำอาหารหรือขนมบ่อย แต่อยากทำน้ำปูนใสเก็บไว้ค่ะ
ขอบคุณกำลังใจเรื่องงานน่ะค่ะ
ตอนนี้ดิฉันก็เข้าครัวบ่อยค่ะ ถ้าว่างวันนี้ไปดูแม่ครัวจำเป็นทำขนมปังใส้ต่าง ๆ แล้วช่วยให้คะแนนด้วยน่ะค่ะ
ขอให้เจ็หลีและครอบครัวมีความสุขมาก ๆ ค่ะ